Resolved
0 votes
เรามีแฟนเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เขามาจากโตเกียว ทำงานในไทยมานานพอสมควร(ตามพ่อเขามา) และชอบเมืองไทยมาก เราเริ่มจากการเป็นเพื่อน พี่น้อง แล้วพัฒนาความรู้สึกไปเองจนเริ่มคบกัน

นิสัย

ปกติเขาจะขรึมๆ ไม่พูด คุยเรื่องจริงจังมีสาระ พอเป็นแฟนกัน อยู่กับเราจะเป็นคนบ้า ติ๊งต๊อง อ้อนไร้สาระ กินขนมเหมือนเด็ก เวิ่นเว้อ พูดจาไม่รู้เรื่อง โอตะAKB BNK Nokisaka46 อ่านนิยายรักๆ เ่ล่น Pokemon Go พีคที่สุดพีคในพีคคือ "ตด" ......... เขาบอกว่าไม่เคยทำกับใครแบบนี้แม้แต่กับแม่ เรื่องตด... เราตกใจมาก 55555 นิสัยจะตรงข้ามกับเรา เราจะเหมือนผู้ชายมากกว่า และเขาบอกว่าเราเป็นคนแปลกๆ Mind set นิสัย ท่าทางหลายๆอย่างเหมือนคนญี่ปุ่น (ในด้านที่ดี) ถ้าเปรียบคือเขาก็เหมือนหมา เราน่าจะเป็นแมว ที่อยากอ้อนก็อ้อน ไม่สนใจก็คือไม่

สิ่งที่ประทับใจ
คือเราไม่ได้ไว้ใจเขาหรอก เราระแวงมากว่าเขาจะหลอก เราต้องใช้เวลาอย่างมากในการเช็คแบบเงียบๆ สืบทุกอย่าง จนวันนี้เราโอเคแล้ว
เขาทำทุกอย่างให้เราไว้ใจ รายงานทุกอย่าง โทรหาทุกวัน (โทรจิก) ตอบLINEเก่ง (เราบอกหลายรอบมากว่า เวลางานไม่ต้องตอบ) ตั้งแต่วันแรกที่คบกัน จนถึงวันนี้ ทั้งๆที่เราไม่เคยขอเรื่องพวกนี้เลย ให้ค้นทุกอย่าง รหัสบัตรATMยังบอก (แต่นี่ลืมแล้ว ไม่ได้สนใจ555) พาเราไปพบคนรู้จักหมด ภูมิใจนำเสนอว่านี่แฟนนะ
เราชอบอะไร ทำอะไร กินอะไร เขาจะทำหมด เพราะบอกว่าอยากทำด้วยกัน พยายามเข้าหาผู้ใหญ่บ้านเรา รวมแมวบ้านเรา
เวลาทะเลาะกันจะคุยกันวันนั้นเลย ให้เคลียร์ และส่วนใหญ่เขาจะรีบขอโทษก่อน ทั้งๆที่บางทีเขาก็ไม่ผิด จนเราละอายใจเลย

การพบผู้ใหญ่และเพื่อนๆ

เขาพาเราไปแนะนำให้ทุกคนรู้จัก เพื่อน เจ้านาย ลูกค้า สมาคมกรุ๊ป รวมทั้งพ่อ แม่ ครอบครัวที่ญี่ปุ่น
ที่ญี่ปุ่นเพื่อนๆเขาดูแลเราดีมาก พยายามหาที่ๆเราชอบจะพาไปให้ได้ และถามเยอะมากเหมือนโดนสัมภาษณ์ พยายามชวนคุยนั่นนี่ ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง เน้นขำ
ที่กลัวจริงๆคือเจอแม่และครอบครัวเขา ปกติจะไม่กลัวการเข้าหาผู้ใหญ่เลย แต่นี่แม่ไง5555
เราไปเจอแม่ น้องสาว และคุณตา แม่และน้องสาวคุยบ้างเรื่อยๆ ตามสมองจะรับได้ แต่คุณตาไม่คุยเลย ไม่แน่ใจว่าโอเคกับเรามั้ย กดดันมาก ตอนเดินเที่ยว เราจะถูกทิ้งไว้คนเดียวตลอด ตอนนั้นอยากร้องไห้มาก เราไม่ได้เก่งขนาดจะชวนใครคุยได้ง่ายขนาดนั้น ภาษาก็ไม่ได้เก่ง อายด้วย (จนมารู้ทีหลังว่าแฟนโดนแม่เขาด่าเรื่องที่ให้เราเดินคนเดียว)
เราไปเดินเล่นกินข้าวกับแม่และน้องสาวแฟน ตอนนั้นเรากำลังหาชาไปฝากที่บ้านเรา แม่แฟนก็เดินหา เลือกให้ละซื้อให้เลย บอกว่า ฝากให้แม่ด้วยนะ เราไปต่อกันที่โยโกฮาม่า เดินเล่นเราเจอกระเป๋าตังค์ เลยว่าจะซื้อเพราะอันเก่าเน่าแล้ว แม่แฟนมาเห็นก็จะซื้อให้ บอกว่าไว้เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้านะ เราก็งงเลย ก็ดีใจมาก ตอนนั่งคุยกันแฟนเราก็แนะนำเราจริงๆจังๆ เล่าเรื่องต่างๆให้ฟังว่าเออคบกันเป็นยังไง เราเป็นยังไง ทำอะไรบ้าง เราช่วยงานแฟนหลายๆอย่างไงช่วงนั้น แม่กับน้องสาวขอโทษเราอย่างมาก บอกประมาณว่า น่าสงสารจัง ลำบากแย่เลยนะ 5555 ก่อนแยกกันกลับ แม่แฟนบอกแฟนเราว่า ฝากดูแลเราให้ดีๆด้วยนะ

กับพ่อของแฟน (พ่อแม่แยกทางกัน) พ่อเขามาเมืองไทย แฟนเลยพาไปแนะนำ คุยกันสนุกมาก พ่อเขาบอกให้เราเรียก 父 chichi ได้เลย
กับผู้ใหญ่คนอื่นๆ และเพื่อนๆ เราเข้ากับเขาได้หมด เราจะเป็นตัวของตัวเอง มีความมั่นใจ เวลาคุยสบตาตรงๆ แต่ยังอ่อนน้อมถ่อมตนให้มีความพอดี พยายามพูดภาษาญี่ปุ่น ถูกบ้างผิดบ้าง ฟังไม่ออกไม่ทันก็ยิ้มแห้งๆไป เดี๋ยวแฟนก็ช่วยเอง เน้นยิ้มเน้นหัวเราะ และเราก็สามารถผ่านไปได้หมด :)

ความเปลี่ยนแปลงในชีวิต

ชีวิตเราเปลี่ยนไปมาก เรียนรู้การเข้าสังคม เปิดโลกกว้างขึ้น พัฒนาภาษาญี่ปุ่นไปเยอะมาก และเพิ่งเริ่มเรียนจริงจังไม่นานนี้เอง จะสอบNแล้วค่ะ มองโลกในแง่ดีมากขึ้น อยากเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ กลายเป็นคนที่มีความสุขมาก เมื่อก่อนจะขวางโลก โลกแคบ อยู่แต่ในกะลา และเราเริ่มอยากเปลี่ยนตัวเองจนได้มาเจอเขานี่แหละ

ชีวิตเขาก็เปลี่ยน เมื่อก่อนเขาเที่ยวผับ คลับ กินเหล้า หมูกะทะ บุฟเฟ่ต์ตลอด ไปกับแฟนเก่า แฟนเก่าเขาจะแนวๆแบบนั้น ทำงานอย่างนั้นนิดนึง ซึ่งเขาไม่ไหวในหลายๆเรื่องก็เลิกกันไป เขาก็เริ่มเปลี่ยนชีวิต จนมาเจอเราเขาก็ค่อยๆเปลี่ยน กลายเป็น ตื่นเช้า นอนไว กินอาหารดีๆ กินอาหารเช้า ออกกำลังกาย เที่ยวแบ๊วๆชิวๆ กลายเป็นโอตะน้องๆ BNK48 ไปแล้วด้วย สุขภาพดีขึ้น ตรวจสุขภาพประจำปีที่บริษัทมาล่าสุดคือ ไม่มีปัญหาเลย ครั้งก่อนๆจะมีเรื่องความดันสูง ไขมัน เขาก็ขอบคุณเรามากที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น

สุดท้าย

เรากำลังจะแต่งงานค่ะ เขาขอมานานแล้ว แต่เรายังไม่พร้อม และยังไม่ไว้ใจเต็มที่ แต่ตอนนี้เราโอเคแล้ว และคิดว่าอยากพออยากหยุดกับคนนี้แล้วค่ะ อนาคตจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหมเราไม่รู้ แต่เราจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดพอค่ะ :)
Monday, October 01 2018, 10:00 PM
Share this post:
Responses (0)
  • There are no replies here yet.
Your Reply