ขอบคุณแอดมินค่ะ ตอนนี้อ่านกระทู้ได้แล้วค่ะ

กลับมาปรึกษา พร้อมๆกับระบายให้ทุกคนฟังค่ะ
ว่า
1.เราควรทำยังไงต่อดี
2.เค้าคิด หรือกังวลเรื่องอะไรอยู่
เพราะเราไม่อยากแทงกั๊กแล้วค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่มีบอลญี่ปุ่นแข่ง เราก็ไปกินข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเพื่อเชียร์บอลกันค่ะ
วันนั้นมีเพื่อนร่วมงานบ.เก่าเค้าที่ญี่ปุ่นมาเมืองไทยพอดี ก็เลยไปกัน3คน
เราโอเคนะคะ ไม่ได้คิดอะไร ก็ยินดีค่ะ
เพราะเค้าก็บอกเรา ว่าเรารู้จัก ได้เจอเพื่อนเค้าเยอะที่สุดแล้ว
เราก็กวนแหละค่ะ เยอะกว่าทุกคนในฮาเร็มเธอหนะเหรออะไรประมาณนั้น
ด้วยความที่ 2คนเค้าไม่เจอกันนาน เค้าก็ดื่มๆๆ เมาค่ะ มีเราที่ไม่ดื่ม
พอบอลจบเราก็หาที่ดื่มต่อกัน คงคิดถึงกันมากมั้งคะ
แต่ไม่ดูสังขารตัวเองกันเสียเลย
เพื่อนเค้าก็ถามแหละค่ะ ว่าคบกันอยู่เหรอ
เพราะตอนที่ไปดื่มร้านที่ 2 หลังจากกินข้าวเชียร์บอล เค้าเมามาก ดึงมือเราไปจับตลอดเวลา
ซึ่งปกติเวลาเดินด้วยกัน มือยังไม่กล้าจับเลยค่ะ เค้าจะชอบจับข้อศอกตรงที่มันย่นๆอะค่ะ (แฟนใครเป็นบ้างคะ????)
เราก็ได้แต่เฮ้ยๆๆๆ ปล่อยก่อน ปล่อยก่อน ถ้าเมาเอาน้ำไปกินไป คือเราไม่อยากลำบากดูแล 2 คนค่ะ ไม่ไหว นี่ผญ คนเดียวนะเว้ยยยยยย 555555555

พอเพื่อนเค้าเห็นแบบนั้นก็ต้องถามแหละค่ะ
ว่า2คนคบกันอยู่เหรอ เค้าตอบว่า"ใกล้เคียง" เกือบละ (近い)
แล้วเพื่อนเค้าที่ดูท่าทางเหมือนจะมีสติมากกว่า
ก็พยายามจะถามต่อ ว่าคบมานานแค่ไหนแล้ว
เค้าก็ตอบนะคะ ปีนึงแล้ว
เราก็คิดในใจแหละค่ะ อึม..... ไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้
แล้วก็ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับเราจริงจังซักที
เพื่อนเค้าก็แหย่นั่นแหละ คบกันอยู่ใช่มั้ย คบกันอยู่ใช่มั้ย เค้าบอกว่าเราเป็นคนเข้มงวดค่ะ 厳しい！
จนถึงจุดที่เห็นว่าทั้งคู่ไม่น่าไหวละ เราเลยบอกกลับเหอะ
ก็นั่งแทกซี่ไปส่งเพื่อนเค้าที่โรงแรมก่อน แล้วเราก็กลับค่ะ

แต่ระหว่างทางในแทกซี่นี่สิ เพื่อนเค้าก็ถามค่ะ
ว่าทำไมถึงไม่คิดจะแต่งงานไปเลย ถามเราว่าเราคิดยังไง
เราก็บอกไปว่า เพราะเพื่อนเธอไม่ได้คุยกับเราคนเดียว
เค้าก็รีบแย่งพูดแหละค่ะว่า มันไม่ใช่แบบนั้น
เราคือคนที่เค้าอยากอยู่ด้วยมากที่สุด แต่เดี๋ยวก็อยู่ไม่ได้
เพื่อนเค้าก็บอกค่ะ ทำไมไม่ได้หละ งั้นเค้าก็พาเราไปเที่ยวที่สวยๆสิ ออกทริปกัน ไปเที่ยวภูเก็ต เชียงใหม่
ตัวเค้าเองก็ปฏิเสธค่ะว่า ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น

เราเองที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับ เรารู้ค่ะว่าเค้าหมายถึง Next Destination ของเค้าแน่ๆ เพราะเค้ากำลังแพลน
จะไปทำงานที่อื่นที่ไม่ใช่เมืองไทย
ประกอบกับคำถามที่เค้าเคยถามเราไว้ตั้งแต่ต้นปี
ว่าเราจะทิ้งเมืองไทยได้มั้ย มันวิ่งกลับเข้ามาในหัวเรา

หลังจากส่งเสร็จ อันนี้พีคค่ะ เพราะต้องนั่งแทกซี่กลับกัน2คนแล้ว
ส่วนเค้าเมาหลับไปค่ะ แอบเนียนรึเปล่า เราไม่แน่ใจ
แล้วเค้าก็หลุดปากบอก I love you แล้วก็บ่นๆๆๆภาษาญี่ปุ่น พูดลิ้นรัวๆเพราะเมา เราฟังไม่ได้ศัพท์ จับได้แค่คำว่า
一緒に頑張ろうって จูบเราในแทกซี่ ซึ่งอันนี้เราโกรธ เพราะลำพังแค่เรายัดผู้ชายญี่ปุ่น 2 คนขึ้นรถแทกซี่ไปด้วยกัน เราก็โดนมองว่าแย่อยู่แล้ว

อึม....... เราก็พยายามปลุกเค้าค่ะ ลุกขึ้นมาคุยกันก่อน
นี่เธอรู้ใช่มั้ยว่าคุยกับเราอยู่ เราxxxนะ ไม่ใช่ผู้หญิงคนอื่น

เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็ถามเค้าค่ะ เมื่อคืนจำอะไรได้รึเปล่า
เค้าบอกไม่มีอะไรหลงเหลือในหัวเลย เมื่อคืนเค้ากลับมาได้ยังไง หือออออ ช่างกล้าถาม ชั้นนี่หิ้วพวกเธอซ้ายขวา
เค้าบอกเค้าจำได้แค่ว่าบอลญี่ปุ่นชนะ 5555555

เราบอกให้เค้าโทรไปขอโทษเพื่อนเธอเลยนะ เธอเมามาก
แล้วก็พูดจา ทำในสิ่งที่เธอไม่ควรทำด้วย เธอจูบเราในแทกซี่ เราก็บอกค่ะว่าอันนี้เรารับไม่ได้ แทกซี่คงมองเราเป็นผู้หญิงอย่างว่าไปแระ แต่ช่างเหอะ เจอกันหนเดียว
เราก็ใส่ไฟไปด้วยแหละค่ะ 55555555
เค้าก็สำนึกผิด ขอโทษขอโพยกันไป จะไม่ทำอีก

ผ่านไป2-3วัน เราโทรไปถามเค้าค่ะ เราทนไม่ไหว
555555555
ถามว่านี่เราเป็นแค่เพื่อนกันใช่มั้ย โทรไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยนั่นแหละ ไม่เกริ่นอะไรทั้งนั้น
พอเค้าตอบกลับมาว่า เยส เท่านั้นแหละ
โหหหห ปรี๊ดเลยยยยยย เราเลยวาง

เค้าก็ไลน์กลับมาแบบไม่สะทกสะท้านค่ะ ชวนเราไปกินข้าววันพรุ่งนี้
เราตอบเค้าไปว่า เราไม่รู้จะเจอเค้าอีกได้ยังไง เพราะเราไม่จูบกับเพื่อนตัวเอง
เค้าก็ขอโทษเราค่ะ แล้วก็อึมครึม.......
เราก็ตัดสินใจแหละค่ะ โอเค จบนะ มันคงจบแล้วแหละ
ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์แบบไม่ติดต่อกันเลย แม้แต่ไลน์

มันก็มีเหตุให้เราต้องเจอกัน
กินข้าวกันค่ะ เราก็ตัดสินใจถามเค้า ว่าจำได้มั้ย
ตอนที่เมาพูดอะไรกับเราบ้าง เค้าบอกจำไม่ได้เลยยยย
โอเค เราก็เตือนความจำเค้าไป พร้อมกับถามเค้าไปตรงๆ
ว่าที่พูดมาหนะ พูดส่งส่งไปเพราะเมา หรือพูดเพราะส่วนลึกของตัวเองคิดแบบนั้น

นั่งมองตากันไปค่ะ เราก็เหมือนจะมองออกนะคะ ว่าเค้าคิดยังไง
แล้วเค้าก็ชวนเราคุยโน่น นี่ นั่น ออกทะเล
เราเลยบอกเค้าไปตรงๆค่ะว่า เธอยังไม่ตอบคำถามเรา
และที่เราถามไม่ใช่อะไรหรอกนะ ถ้าเธอบอกว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน เราจะคอนโทรลตัวเอง จะจัดระเบียบ zoning
ถ้าไม่ใช่ เราจะต้องทำยังไง เราจะได้วางตัว วางpositionเราถูก

เค้าตอบคำถามเราด้วยคำถามค่ะว่า
ก่อนที่จะตอบ เค้าขอถามเรา1อย่าง
เราสามารถไปจากเมืองไทยได้มั้ย

เราก็อธิบายกับเค้าไปค่ะว่า มันไม่ใช่เร็วๆนี้หนิ
แล้วเราก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เธอบอกเราเอง
一緒に頑張ろう

เราก็เลยถามเค้ากลับไปว่า เธอจูบเพื่อนตัวเองด้วยเหรอ
"ไม่" คือสิ่งที่เราได้รับกลับมา
แล้วก็กลายเป็นคุยเรื่องอื่น

โอยยยยยย แม่เหนื่อยที่จะทำความเข้าใจแล้วเด้ออออ
บางทีก็อึดอัดใช่มั้ยคะ แทงกั๊กอยู่ได้

หรืออย่างเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนเราถามเค้าระหว่างกินข้าวกันว่า คิดยังไงกับเรา
เค้าก็บอก she's the best.

แล้วก็นั่นแหละค่ะ
จบการสนทนาเรื่องนั้นไว้เท่านี้ กินข้าวต่อ

จริงแล้วมันไม่น่าจะมีอะไรที่เข้าใจเข้ายาก
แต่ด้วยความที่ไม่มีใครชัดเจน หรือพูดมันออกมา
มีใครที่อยู่ในภาวะนี้แล้วรู้สึกอึดอัดแบบเรามั้ยคะ
มันจะคาราคาซังแบบนี้ไปถึงไหน 555555

เราให้ลิมิตกับตัวเองแล้วแหละค่ะ ว่าเราทนได้แค่ไหน
หรือไม่เราก็คงต้องลดความสัมพันธ์เอง
แบบนั้นน่าจะดีกว่ามั้ยคะ??

เค้าคงกังวลเรื่องอนาคตตัวเองอยู่ หรือมีใครอันนี้เราก็ไม่อาจจะรู้ได้
เราก็อยากรู้ว่าเราจะวางตัวเองแบบไหน
ที่ผ่านมาเราคิดว่า โอเค ปล่อยไปตามน้ำ
ให้มันเป็นไป ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่เราคงหลง
หรือชอบเค้าไปแล้วจริงๆ เลยอยากลองคบดู แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะบอกความรู้สึกเราออกไปมั้งคะ
5555555555