ความจริงแล้วคำถามว่า "คุณทำอะไรอยู่" "คุณทำงานเป็นยังไงบ้าง" เป็นคำถามที่เบสิกทั่วไปมากๆค่ะ
เรามีเพื่อนผู้ชายญี่ปุ่น เขาก็ถามเราว่า ทำอะไรอยู่ แล้วก็เล่าว่าตัวเองทำอะไร เราก็ถามประโยคเดียวกันกลับ เขาก็ตอบปกติ
ซึ่งเราก็ไม่ได้ชอบเขาเป็นพิเศษ บางครั้งเวลาเขาถามมา เราก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง เพราะไม่ได้ใส่ใจมากนัก
มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเพราะเขาเป็นเจแปนิส เราจึงไม่ควรถามแบบนี้

พูดแบบตรงๆจากประสบการณ์เลย คือ การที่เขาตอบคุณบ้าง ไม่ตอบคุณบ้าง มันเป็นเพราะเขาไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญมากนัก
เพราะไม่ว่าจะชาติไหนๆ ถ้าเขาสนใจหรือใส่ใจคุณเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะหนุ่มหรือแก่ ไม่ว่าจะเป็นคำถามอะไร เขาก็จะตอบเราค่ะ
เมื่อก่อนเราส่งไลน์หาแฟนก่อนตลอด คำถามก็แบบนี้แหละ ออกแนวเชิงเผือกชีวิตเขาอย่างแรงเลยด้วยซ้ำ เขาก็ตอบตลอดภายในวันนั้น แต่ถ้าเราไม่ส่งเขาก็ไม่ทักมา จนกระทั่งเขาชอบเรา เขาจึงเริ่มส่งหาเราก่อนตลอดทั้งเช้าเย็นสม่ำเสมอ แม้กระทั่งเวลางานถ้าเราส่งไปเขาก็ยังตอบให้ เพราะเขาบอกว่าเราสเปเชียลมากสำหรับเขา
แฟนญี่ปุ่นเราก็ยังบอกเลยว่า ผู้ชายญี่ปุ่นก็คล้ายกับผู้ชายประเทศอื่นๆนั่นแหละ ถ้าเขาไม่ได้สนใจหรือชอบเป็นพิเศษ เขาก็จะตอบบ้าง หรือไม่ตอบบ้าง นานๆตอบที แฟนเราก็เป็นแบบนี้ค่ะ

อย่าไปคิดว่าเพราะเขาเป็นคนญี่ปุ่น เราจึงไม่ควรถามคำถามนี้ ถ้าเขาปิดกั้นการพูดคุยแม้กระทั่งคำถามเบสิกบ้านๆแบบนี้ เราก็ควรพิจารณาแล้วค่ะว่าเรามีความสุขหรือสบายใจจริงไหมที่จะคุยกับคนที่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจเรามากนัก
เราอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเขาก็ส่งไปเถอะ แค่อย่าไปคาดหวังว่าเขาจะต้องตอบกลับ เพราะคุณกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่คุณชอบเขาแค่นั้นเอง

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

เดาว่าเจ้าของกระทู้ชอบเขาอยู่ใช่มั้ยคะ คุยกันนานรึยังคะ สนิทกันระดับไหนแล้ว เราว่า ทำงานเป็นยังไงบ้างคะ,เหนื่อยมั้ย? มันเป็นคำถามทั่วไปนะคะ
ที่เขาไม่ตอบอาจจะยุ่งอะไรอยู่รึป่าว แล้วลืมตอบงี้ เราก็เป็นบ่อยนะคะกับเพื่อน บางทียุ่งๆอ่านแล้วไว้จะมาตอบก้ลืมเหมือนกัน ลองส่งข้อความไปคุยสิคะ
ถ้าเขาถามคำตอบคำอีกก้ชัดเจนแล้วค่ะ

Belle ベオเขียน:

เดาว่าเจ้าของกระทู้ชอบเขาอยู่ใช่มั้ยคะ คุยกันนานรึยังคะ สนิทกันระดับไหนแล้ว เราว่า ทำงานเป็นยังไงบ้างคะ,เหนื่อยมั้ย? มันเป็นคำถามทั่วไปนะคะ
ที่เขาไม่ตอบอาจจะยุ่งอะไรอยู่รึป่าว แล้วลืมตอบงี้ เราก็เป็นบ่อยนะคะกับเพื่อน บางทียุ่งๆอ่านแล้วไว้จะมาตอบก้ลืมเหมือนกัน ลองส่งข้อความไปคุยสิคะ
ถ้าเขาถามคำตอบคำอีกก้ชัดเจนแล้วค่ะ

ก็ไม่ถามคำตอบคำนะคะ ปกติก็จะคุยกัน เขาก็จะถามตอบตลอด
สงสัยยุ่งจริงๆ แหละคะ

แสดงว่าคุณจีบเขาก่อนใช่มั้ยคะ ช่วยเล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ

Nalida Naเขียน:

ความจริงแล้วคำถามว่า "คุณทำอะไรอยู่" "คุณทำงานเป็นยังไงบ้าง" เป็นคำถามที่เบสิกทั่วไปมากๆค่ะ
เรามีเพื่อนผู้ชายญี่ปุ่น เขาก็ถามเราว่า ทำอะไรอยู่ แล้วก็เล่าว่าตัวเองทำอะไร เราก็ถามประโยคเดียวกันกลับ เขาก็ตอบปกติ
ซึ่งเราก็ไม่ได้ชอบเขาเป็นพิเศษ บางครั้งเวลาเขาถามมา เราก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง เพราะไม่ได้ใส่ใจมากนัก
มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเพราะเขาเป็นเจแปนิส เราจึงไม่ควรถามแบบนี้

พูดแบบตรงๆจากประสบการณ์เลย คือ การที่เขาตอบคุณบ้าง ไม่ตอบคุณบ้าง มันเป็นเพราะเขาไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญมากนัก
เพราะไม่ว่าจะชาติไหนๆ ถ้าเขาสนใจหรือใส่ใจคุณเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะหนุ่มหรือแก่ ไม่ว่าจะเป็นคำถามอะไร เขาก็จะตอบเราค่ะ
เมื่อก่อนเราส่งไลน์หาแฟนก่อนตลอด คำถามก็แบบนี้แหละ ออกแนวเชิงเผือกชีวิตเขาอย่างแรงเลยด้วยซ้ำ เขาก็ตอบตลอดภายในวันนั้น แต่ถ้าเราไม่ส่งเขาก็ไม่ทักมา จนกระทั่งเขาชอบเรา เขาจึงเริ่มส่งหาเราก่อนตลอดทั้งเช้าเย็นสม่ำเสมอ แม้กระทั่งเวลางานถ้าเราส่งไปเขาก็ยังตอบให้ เพราะเขาบอกว่าเราสเปเชียลมากสำหรับเขา
แฟนญี่ปุ่นเราก็ยังบอกเลยว่า ผู้ชายญี่ปุ่นก็คล้ายกับผู้ชายประเทศอื่นๆนั่นแหละ ถ้าเขาไม่ได้สนใจหรือชอบเป็นพิเศษ เขาก็จะตอบบ้าง หรือไม่ตอบบ้าง นานๆตอบที แฟนเราก็เป็นแบบนี้ค่ะ

อย่าไปคิดว่าเพราะเขาเป็นคนญี่ปุ่น เราจึงไม่ควรถามคำถามนี้ ถ้าเขาปิดกั้นการพูดคุยแม้กระทั่งคำถามเบสิกบ้านๆแบบนี้ เราก็ควรพิจารณาแล้วค่ะว่าเรามีความสุขหรือสบายใจจริงไหมที่จะคุยกับคนที่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจเรามากนัก
เราอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเขาก็ส่งไปเถอะ แค่อย่าไปคาดหวังว่าเขาจะต้องตอบกลับ เพราะคุณกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่คุณชอบเขาแค่นั้นเอง

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

นลพรรณ นุนพนัสสักเขียน:

แสดงว่าคุณจีบเขาก่อนใช่มั้ยคะ ช่วยเล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ

เรากับแฟนทำงานที่ตึกเดียวกันค่ะ ตอนแรกเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยสักอย่างแม้กระทั่งชื่อ รู้แต่ว่าเขาเท่ดี อยากรู้จักแต่อาย เลยทำได้แต่เดินเชิดๆ แอบนั่งมองห่างๆ แต่ให้เขารู้ตัว ซึ่งเขาก็มีแอบมองมา เลยคิดว่าน่าจะสนใจเราอยู่บ้างแหละ เราเลยทำอ่อยเหยื่อแบบนี้มาเกือบปี

จนกระทั่งเริ่มรุกโดยการฝากเพื่อนเอาขนมแปะการ์ดที่มีไลน์ไอดีของตัวเราเองไปให้เขา เขาก็ดันนึกว่าส่งให้ผิดคนเพราะไม่ระบุชื่อเลยไม่แอดไลน์เรา ปล่อยให้นอนจ้องมือถือทุกวันว่าเมื่อไหร่จะแอดเราเกือบเดือนกว่าๆ เลยเริ่มแผนใหม่โดยการแอบตามดูว่าเขาเดินไปตรงไหนเปลี่ยวๆคนเดียว ก็แอบไปดักรอวาดรูปการ์ตูนน่ารักๆแนะนำตัวเองว่าชื่ออะไร อยากรู้จักคุณ ไปแปะที่ผนัง แล้วแอบดูปฏิกิริยาเขา เราทำแบบนี้เกือบทุกวันใช้เวลาถึงสองสัปดาห์ กว่าเขาจะนึกได้แล้วแอดไลน์เรา

เราคุยไลน์กันทุกวัน คุยภาษาอังกฤษค่ะ ตอนเราจีบเขา เราต้องส่งไลน์ไปก่อนตลอด ก็ส่งไปหาเขาทุกวันโดยถามแบบทั่วๆไปว่า "สวัสดี คุณทำอะไรอยู่ กลับบ้านยัง ทำงานเหนื่อยไหม สู้ๆนะคะ" พร้อมอีโมและสติ๊กเกอร์ฟรุ้งฟริ้ง (ประมาณว่าชั้นไม่แคร์ว่าเธอจะรำคาญไหม ก็ชั้นจะส่งอ่ะ) เขาก็จะตอบกลับเราเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าเขามีใจให้เราไหม คือ เขาส่งไลน์มาว่า "ผมไม่รู้สึกรำคาญคุณเลย ไลน์ของคุณทำให้ผมมีกำลังใจที่จะทำงาน สู้ๆครับ" เราจึงเลือกที่จะเดินหน้าต่อ จากนั้นเขาก็เริ่มสังเกตว่าเราคือใคร พอเขามั่นใจแล้วว่าน่าจะใช่เรา เขาก็เดินเข้ามาหา มาทำความรู้จักแบบตัวต่อตัวกับเราเอง และยังซื้อของฝากจากญี่ปุ่นมาให้ด้วย

จากวันนั้นเราก็ไปเดทกันหลายรอบ เจอกันนั่งคุยกันทุกวันก่อนเข้าทำงาน ศุกร์เย็นและเสาร์อาทิตย์ของเขาก็เป็นเวลาของเราทั้งหมด มีไปเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยกันหลายที่ เขารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง มีความไว้ใจให้เราถือกุญแจห้องกับคีย์การ์ดเขาได้ เขาบอกเองว่าเขาค่อยๆชอบและรักเราทีละนิดแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะเราเป็นคนตลก มีอารมณ์ขัน คิดอะไร พูดอะไร ไม่ชอบอะไรก็แสดงสีหน้าแบบตรงๆชัดเจน มีขี้หึงขี้งอนขี้เหวี่ยงขี้วีนสารพัดขี้บ้างตามประสานิสัยแย่ๆของเรา แรกๆเขาบอกเลิกเรา เราเสียใจแต่ก็ไม่ได้รั้งนะ แล้วเขาก็มานั่งคิดทบทวนสิ่งดีๆที่เราเคยทำร่วมกันเลยเปลี่ยนใจไม่เลิกเพราะเขากลัวตัวเขาเองจะเสียใจ อยากให้เราใจเย็นกันลงกว่านี้แล้วค่อยๆปรับตัว เพื่อรักษาความสัมพันธ์จนถึงทุกวันนี้

ที่เล่ามาน่าจะพอเป็นเทคนิคในการเข้าหาเพื่อทำความรู้จัก หรือ วิธีเช็คเบื้องว่าเขาสนใจเราจริงๆไหมได้บ้างนะคะ อาจต้องใช้ความพยายามบ้าง แต่ถ้าเขาสนใจเราด้วยละก็ เขาจะไม่ปล่อยให้ความพยายามนั้นของเราต้องสูญเปล่าค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

พี่ว่า น้องอย่าเพิ่งรีบเลย เท่าที่อ่าน เพิ่งจะเริ่มคุยกันเอง ในกรณีที่เราจีบก่อน เราย่อมรู้อยู่แล้วว่า เราชอบมากกว่า หรือเค้าอาจจะยังไม่ได้คิดอะไรกับเรา

พี่ว่าค่อยเป็นค่อยไป อย่าเร่ง ให้เค้าอึดอัดเลย

เราพิสูจความดีของเรา ให้เค้าเห็นดีกว่า ทำขนมไปให้ ให้เค้าช่วยสอนภาษา ปรึกษาเรื่องญี่ปุ่นเยอะๆ ซื้อใจเค้าก่อน

ไม่ใช่ ว่างตัวเป็นคนคุยเต็มที่เลย


อันนี้เป็นมุมมมองส่วนตัวพี่นะคะ พี่ใช่วิธีนี้ ตะล่อมซื้อใจนางก่อน ทั้งนี้ทั้งนั่น เราก็มีความจริงใจกับเค้าจิงๆ อยากเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม ของเค้าจิงๆ

บวกกับช่วงนั้น พี่ย้ายไปทำบริษัทญี่ปุ่นชั่วคราว แล้วได้ติดต่องานกับคนญี่ปุ่นเยอะ เลยให้เค้าได้ช่วยสอนนิดหน่อย



ถ้าให้พี่แนะนำ ก็ตามด้านบนเลย

แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคู่ด้วยนะคะ นิสัยแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ไปปรับใช้เอานะคะ

สู้ๆค่ะ

ขอบคุณทุกคำแนะนำนะคะ จะเอาไปลองปรับใช้ดูคะ เมื่อวานล่าสุดลองชวนนางไปทานข้าวกับกลุ่มเพื่อนๆ นางก็ไม่ปฏิเสธอะไรนะคะ แถมเดินมานั่งข้างๆอีก อิอิ