ภาพยนตร์ญี่ปุ่น THE LAST RECIPE

Banner H mobile [01] - iLoveJapanSchool.com

THE LAST RECIPE ภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าด้วยเรื่อง เชฟอัจฉริยะคนหนึ่ง ที่ไม่ว่าเขาจะทานอะไรก็สามารถจดจำรสชาติและนำมาทำขึ้นใหม่ได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน โดยวันหนึ่งเขาได้รับการว่าจ้างให้ทำอาหารในตำนานที่หายไปจากประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เขาจึงได้ออกเดินทางไปในที่ต่างๆ เพื่อสืบหาที่มาและประวัติของเชฟผู้คิดค้นเมนูนี้ขึ้น แต่การเดินทางของเขาได้พบเจอสิ่งที่มากกว่าการทำอาหาร ภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจที่สอดผสานกาลเวลาของสองยุคได้อย่างลงตัว

หลังจากที่เราไปดูมาแล้ว ก็รู้สึกว่า ถ้าเรารู้ข้อมูลบางอย่างก่อนดู จะทำให้ภาพยนตร์มีความสนุกมากขึ้น เราจึงได้รวบรวม 5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปดู THE LAST RECIPE เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม ตามมาอ่านกันเลยค่ะ

1.แมนจูเรีย คืออะไร

ภาพจำลองแมนจูเรียในปี 1930

เรื่อง THE LAST RECIPE เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ ระหว่าง 2 ยุคคือ ยุคปัจจุบันปี 2000 และยุคที่อยู่ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 เรื่อยยาวไปจนถึงจบสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นบุกเข้าโจมตีจีน และยึดครองดินแดนของชาวแมนจู และญี่ปุ่นได้ก่อตั้งเป็นประเทศแมนจูเรียขึ้น โดยมีรัฐบาลแมนจูกัว ซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นเชิด และมีจักรพรรดิปูยี ซึ่งเป็นจักรพรรดิคนสุดท้ายของจีนที่ลี้ภัยมา เป็นประมุขของประเทศ

แผนที่แมนจูเรียในยุค 1930s (c)commons.wikimedia.org/wiki/File:Manchukuo_map_1939.svg

ในเรื่องได้กล่าวถึง ประเทศแมนจูเรีย ว่าเป็นประเทศแห่งสันติภาพ มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาอยู่อาศัย ทั้ง ชาวแมนจู ญี่ปุ่น โซเวียต ผู้คนที่เดินทางมาอาศัยอยู่ที่นี่ต่างก็มีความหวังที่จะได้ใช้ชีวิตที่ดี ตัวละครเอก มีอาชีพเป็นพ่อครัวที่เก่งที่สุดในวัง ได้รับคำสั่งจากกองทัพให้เดินทางมาที่แมนจูเรีย เพื่อคิดสูตรตำรับอาหารขององค์จักรพรรดิญี่ปุ่น

2.ทำไมตำรับอาหารจักรพรรดิจีนถึงมีมากถึง 108 ชนิด

ประเทศจีนในยุคนั้นได้มีการจัดทำตำรับอาหารจักรพรรดิขึ้น เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของประเทศและแสดงถึงอำนาจของจักรพรรดิ ซึ่งมีทั้งหมด 108 ชนิดด้วยกัน เพราะเป็นเลขมงคลตามความเชื่อของชาวจีน นอกจากนี้การที่อาหาร 1 มื้อของฮ่องเต้จีนมีมากถึง 108 ชนิดนั้น ก็เพื่อป้องกันการถูกวางยาพิษในอาหาร

ตำรับอาหารญี่ปุ่นในเรื่อง The Last Recipe

ในเรื่อง The Last Recipe ที่ตัวละครเอกได้รับคำสั่งให้มาคิดสูตรตำรับอาหารขององค์จักรพรรดิญี่ปุ่น ก็เพื่อแสดงถึงพระราชอำนาจและความรุ่งเรืองของประเทศเช่นเดียวกันจีน โดยได้รับคำสั่งให้ทำอาหารมากกว่า 108 ชนิด

3.ลิ้นกิเลน คืออะไร

ในเรื่อง มีพูดถึงว่าตัวละครเอกมีความสามารถที่ถูกเรียกว่า "ลิ้นกิเลน" คือมีความสามารถในการชิมรสชาติอาหารแม้เพียงครั้งเดียวก็จะไม่ลืมรสชาติอาหารนั้น และสามารถทำอาหารตามรสชาตินั้นได้ ซึ่งกิเลน เป็นสัตว์ตามตำนานของของประเทศจีน ที่สื่อถึงความมั่งคั่ง

4.นิโนะมิยะ คาสึนาริ ฝึกทำอาหารเอง

นิโนะมิยะ คาสึนาริ วง Arashi ผู้รับบทเป็นตัวเอกของเรื่อง มีอาชีพเป็นพ่อครัวอัจฉริยะนิโนะจึงได้ฝึกทำอาหารประมาณ 3 เดือน โดยเฉพาะการใช้มีด และอุปกรณ์ครัวต่างๆ เพื่อให้ได้ภาพออกมาสมจริงที่สุด ซึ่งจริงๆ แล้วนิโนะ ถนัดมือซ้าย แต่ต้องมาฝึกทำอาหารโดยใช้มือขวา ไม่เพียงแต่นิโนะเท่านั้น นักแสดงทุกท่านต่างก็ฝึกทำอาหารเช่นกัน เป็นการแสดงถึงความใส่ใจและทุ่มเทของนักแสดงทุกคน

5.ต้องดู End Credit

แนะนำว่าควรให้ดูจนจบ End Credit เพราะมีภาพถ่ายอาหารแปลกตาสวยงามจากในภาพยนตร์มากมายให้ได้รับชมกัน ตั้งใจอ่านชื่อเมนูกันด้วยนะ อยากบอกว่าชื่อแต่เมนูเด็ดมาก!

The Last Recipe เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561