e เรื่องทั่วไป

เมื่อฉันเป็นเด็กหอที่ญี่ปุ่น

เมื่อฉันเป็นเด็กหอที่ญี่ปุ่น

By , Thursday, 02 June 2016


สวัสดีค่ะ หลังจากที่คราวก่อนเล่าชีวิตในวัยเรียนในโรงเรียนไปแล้ว

คราวนี้มาฟังชีวิตเด็กหอในญี่ปุ่นกันค่ะ ชีวิตนักเรียนในญี่ปุ่นของเรานั้น 

เป็นเด็กหอ(หญิง)มาตลอด ตั้งแต่โรงเรียนภาษา และเซมมงอนิเม 

รวมแล้วก็ เป็นเวลาสามปีครึ่งเลยทีเดียว


ภาพหอนักศึกษามหาลัยแห่งหนึ่งในเมือง อิชิคาว่า มีครัวและห้องน้ำในห้องหมด เป็นภาพห้องของน้องที่รู้จักค่ะ ไม่เกี่ยวกับเราแต่อย่างไร(อ้าว)


หอนักเรียนในญี่ปุ่นนั้น แต่ล่ะโรงเรียน แต่ล่ะมหาลัยก็คงมีกฏที่ต่างกันไป 

หอของบ้างมหาลัย จะให้อยู่ได้แค่ปีเดียว พอขึ้นปีสองก็ให้ย้ายออก 

บ้างแห่งก็อยู่ได้จนจบเลย 


บ้างที่ก็จะมีเวลาเปิดปิดประตูหอบ้างที่ก็ไม่มี

บ้างมหาลัย หอสำหรับนักศึกษาปริญญาโทหรือเอก ก็เป็นห้องใหญ่

เข้ามาอยู่ทั้งครอบครัวได้เลยก็มี แถมราคาย่อมเยาว์ด้วยค่ะ


ภาพห้องของเราค่ะ เป็นห้องสองคน ตอนถ่ายภาพเพิ่งจากมาถึงญี่ปุ่นสดๆร้อนๆเลย


ว่าแล้วก็มาเข้าประสบการณ์ชีวิตเด็กหอของเรากันดีกว่า

ย้อนกลับไป เมื่อ 8 ปีที่แล้วเราเริ่มต้นชีวิตในญี่ปุ่นที่หอของ

โรงเรียนภาษาแห่งนึงในโอซาก้า


สำหรับเราที่เลือกอยู่หอก็เพราะว่าเรากลัวไม่มีที่อยู่น่ะค่ะ

ภาษาก็ไม่ได้ ได้ยินว่าบ้างคนมาญี่ปุ่นแล้วพักโรงแรมก่อนถึงค่อยหาที่อยู่ 

แต่เรามั่นใจในศักยภาพของตัวเองม๊ากมาก ค่ะว่า ทำไม่ได้แน่นอน............


จึงเลือกโรงเรียนภาษาที่มีหอพักให้ 

มุ่งเน้นเรื่องที่อยู่ก่อนรายละเอียดของโรงเรียนอีกค่ะ 

ที่สำคัญอยู่หอจะสะดวกสำหรับคนมาใหม่ๆ ไร้สกิลภาษามากๆ

เพราะว่า หอมีเฟอร์นิเจอร์ให้ รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ตแล้ว แถมราคาไม่แพง


ภาพห้องของเราค่ะ อีกมุมนึง


สำหรับหอของโรงเรียนภาษาที่เราอยู่นั้นเป็นหอแบบที่ 

ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ เป็นส่วนกลาง 

ตัวห้องมี แค่เตียงโต๊ะ ตู้ และตู้เย็นค่ะ

เป็นห้องแบบ 4 คน 3 คน และ 2 คน เราพักอยู่ห้องสองคนค่ะ


ภาพห้องของเราค่ะ ใช้ชีวิตใต้เตียงเลยทีเดียว


รูมเมทนั้นเราเลือกเองไม่ได้ ดวงล้วนๆ.......

และแน่นอนว่าหอของโรงเรียนภาษา ก็หมายความว่า 

เด็กในหอทั้งหมดเป็นเด็กต่างชาติค่ะ


รูมเมทคนแรกเรา เป็นคนแคนนาดาเชื้อสายไต้หวัน เธอโตกว่าเรา 3 ปี

เราสนิทกันมาก รักกันสุดๆ เสียดายที่เธอมาแค่ คอสระยะสั้น 3 เดือน 

ระยะเวลาสามเดือนที่เราเพิ่มมาญี่ปุ่นใหม่ๆเราก็ยังไม่ได้ภาษา 


เรากับเธอใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร 

ณ จุดนั้น สกิลภาษา อังกฤษ เรารุ่งโรจน์มาก

เรารู้สึกพูดภาษา อังกฤษ ได้อย่างลื่นไหลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต 

นั่งเม้าท์กับเธอ ยันตีหนึ่งตีสองทุกวัน คุยตั้งแต่เรื่องของตัวเอง เม้าท์เรื่องละคร อนิเมญี่ปุ่น 

ยันหนังไทย (เธอชอบดูหนังไทยน่ะค่ะ ตอนรถไฟฟ้าพี่เคนเข้าเธอก็กริ๊ดพี่เคนมาก ) 

พอไม่มีเรื่องจะเม้าท์ก็เริ่มหันมานินทาชาวบ้าน ..........


สรุป สามเดือนแรกในโรงเรียนภาษาเรา ภาษาญี่ปุ่นแทบไม่ได้เลย ฮาาา 

กับเธอคนนี้ ทุกวันนี้ยังคุยกันอยู่บ้างค่ะ 

แต่ด้วยความที่สกิลภาษาอังกฤษเราได้จากไปเพราะสกิลภาษาญี่ปุ่นเราแซงหน้า 

จึงทำให้เราไม่สามารถเม้าท์กับเธอได้มันส์แบบเดิมอีกต่อไป 


และไม่นานมานี้เพิ่งคุยกับเธอและทราบว่า

ตอนนี้ลูกคนที่สองเธอจะเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว….

แถมเธอยังปลอบใจเราอีกว่า

Do not lose faith , God will send mr. Right to u


ดราม่ามากค่ะ ฮืออออ 


ภาพห้องของเราค่ะ ตู้เสื้อผ้ามีกุญแจให้ด้วย


พอครบสามเดือน เธอก็กลับแคนนาดาไป ห้องเราตอนนั้นยังไม่มีคนย้ายเข้าเราเลย

ได้อยู่คนเดียวสักพัก จากนั้นก็มี คน ฮ่องกง มาอยู่สักพักก็ออก และต่อมาก็คนฟิลิปปินส์ค่ะ

สำหรับเรา การอยู่ร่วมกับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแถมต่างชาติต่างภาษา 

ต้องปรับตัวอะไรมากค่ะ แต่เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ แม้จะมีดราม่ามาบ้างก็ตาม



ภาพจากเว็ปของโรงเรียนค่ะ http://www.neec.ac.jp/facility/dormitory/kamata/jyonan_dormitory/


ต่อมาหลังจากออกจากโรงเรียนภาษา เราก็เข้าโรงเรียนเซมมงที่โตเกียว

และอยู่หอของโรงเรียน


สำหรับรายละเอียดของโรงเรียนเรานั้น 

เราเคยเขียนเอาไว้ในบล็อคก่อนๆ

เพื่อนๆที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องชีวิตในเซมมงของเราสามารถอ่านได้ที่นี่นะคะ ><


ประสบการณ์ในโรงเรียนเซมมง อนิเมชั่น ในญี่ปุ่น ตอนที่ 1

ประสบการณ์ในโรงเรียนเซมมง อนิเมชั่น ในญี่ปุ่น ตอนที่ 2

ประสบการณ์ในโรงเรียนเซมมง อนิเมชั่น ในญี่ปุ่น ตอนที่ 3



ภาพในหอค่ะ เราถ่ายเอง><


หอของเซมมงนั้นแน่นอนว่า เด็กในหอกว่า 80 เปอร์เซ็นเป็นคนญี่ปุ่น

เราจึงได้ประสบการณ์ชีวิตในหอแบบญี่ปุ้นญี่ปุ่นมา


สำหรับห้องในหอมีแค่โต๊ะกับเตียงและเก้าอี้ให้ค่ะ 

ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำเป็นของส่วนกลางหมด 

และหอมีอาหารเช้าและเย็นให้ จึงไม่มีครัวสำหรับทำอาหารให้ 

และห้ามทำอาหารในห้องด้วย 

ประตูหอจะปิดตอน ห้าทุ่ม ใครมาสายเกินกว่านี้ต้องโทรแจ้งค่ะ


ห้องน้ำในหอ มีทุกชั้นค่ะ และสะอาดมาก


ราคาห้องรวมค่าน้ำค่าไป ค่าอาหารเช้าค่ะ แต่ค่าไฟนั้นมีลิมิต ถ้าใช้เกิน

จะโดนปรับ และหน้าร้อนเราโดนตลอดค่ะ TT___TT(ใช้แอร์เยอะ)


ค่าห้องถ้าจำไม่ผิดปีเราจะตกเดือนล่ะ 65000เยนค่ะ แต่ก็มีค่าแรกเข้าแพงมาก

และจ่ายค่าเช่าพร้อมค่าเทอมค่ะ แน่นอนว่าค่าเทอมนั้นทำเรื่องขอผ่อนจ่ายได้

แต่ค่าหอไม่ได้ค่ะต้องจ่ายเต็มเท่านั้น


ภาพห้องค่ะ


เรื่องที่เราช็อคที่สุดในวันแรกที่เราเข้ามาในหอคือ ห้องอาบน้ำเป็นแบบ เซ็นโตะ ค่ะ

กล่าวคือ อาบรวม และมี อ่างน้ำอุ่นใหญ่ๆให้แช่ วันแรกๆก็แอบเขินนะคะ

แต่อยู่นานๆไปก็ชินล่ะ แก้ผ้าได้อย่างองอาจ....... ไม่มีใครสนใจใครน่ะค่ะ


ห้องอาบน้ำก็มีเวลาเปิดปิดค่ะ จะเปิดหลัง หนึ่งทุ่มถึงเที่ยงคืน

แน่นอนว่า ตอนเช้าอาบน้ำไม่ได้  


ภาพห้องค่ะ เพิ่งย้ายเข้ามาสดๆร้อนๆของก็ยังไม่ได้จัดเลยค่ะ


สำหรับหอ จะมีประธานหอ และแต่ละชั้นจะมีหัวหน้าชั้น

มีโหวตเลือกทุกปี แต่เราก็ไม่รู้ว่าทำอะไรบ้างนะคะ


ห้องเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วค่ะ เนื่องจากเราเป็นคน กลัวฝุ่นมาก เลยคลุมทุกอย่างด้วยผ้า ฮาา


ขอเล่าชีวิตดราม่าในหอนิดค่ะ คือหอเรามีกฏว่า ห้ามทำเสียงดังหลังห้าทุ่ม 

ฟังเพลงก็ให้ใส่หูฟัง แต่ข้างห้องเรา นางปาร์ตี้กันยันตีสาม อาทิตย์นึง สามครั้ง

หนวกหูมาก เรานอนไม่ได้เลย 


พอเราทนไม่ไหวไปแจ้งคนดูแลหอ เค้าก็ไม่ทำอะไร เค้าบอกว่าเคยไป 

ตรวจตอนกลางคืนแล้วไม่ได้ยินเสียงอะไร 


แต่ขอบอกว่า ข้างห้องเรา พวกนางเยอะน่ะค่ะ 

เราไม่กล้ามีเรื่องด้วยตรงๆ เพราะเรายังอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในหออยู่ 

ทีนี้ นานๆเข้าเราไม่ไหว เลยไปแจ้ง student support ทางโรงเรียนค่ะ 

ว่าเราไม่ไหวแล้วมันหนวกหูมาก พอกลับมา คนดูแลหอเรียกเราคุยค่ะ 

ว่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไม ทำไมมีอะไรไม่มาบอกเค้าก่อน 

และคนดูแลหอยังบอกอีกว่า คนข้างห้อง เค้าก็เป็นเด็กดี 

ควรจะไปคุยกับเค้าตรงๆ เค้าก็น่าจะเข้าใจ


เรานี่กลับห้องมาร้องไห้เลยค่ะ รู้สึกเหมือนเป็นพจมานที่โดนกลั่นแกล้ง


พวกนางก็ยังปาร์ตี้ต่อไป สุดท้ายเราไม่ไหวจริงๆ ศรีจะไม่ทน!!!!!

วันนั้นเราเลย ทุบกำแพงไปดังๆค่ะ ได้ผลค่ะ เงียบเลย........ 

หลังจากนั้น พอนางเสียงดังอีกเราก็ทุบอีก 


แต่มานึกย้อนดูตอนนี้ การทุบกำแพงถือว่าเสียมารยาทพอสมควรน่ะค่ะ

จริงๆแล้วการไปคุยขอร้องกันดีๆน่าจะเป็นทางออกดีที่สุด

เพราะบางทีเค้าก็อาจจะไม่ได้ตั้งใจจะสร้างความเดือดร้อนให้เรา

เพียงแต่เค้าไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง 

 

อาหารเย็นของหอค่ะ ทุกวันจะมีสามเมนูให้เลือก


และเหมือนสรรรค์มาโปรด พอขึ้นปีสอง นางย้ายออกไปอยู่กับพี่สาวค่ะ

และจากนั้น ชีวิตในหอของเราก็เงียบสงบ จนเรียนจบ


ไม่มีอะไรจะสุขเท่ากับการได้ นอนหลับเต็มอิ่มแล้วค่ะ

ส่วนตัวเรารักห้องเราที่หอมาก เพราะว่าห้องใหญ่มาก 

เฟอร์นิเจอร์อะไรลงตัวไปหมด ผ้าม่านก็สีชมพู พรมก็สีชมพู 

สียอย่างเดียวตรงมีเวลาปิดหอนี่แหละค่ะ วันไหนไปเที่ยวกับเพื่อน

ต้องรีบกลับหอ วิ่งสู้ฟัดกันเลยทีเดียว


ภาพระเบียงห้องค่ะ


ตอนจะขึ้นปีสอง ทางหอเรามีประกาศรับสมัครงานพิเศษคนทำความสะอาดหอ

และต้อนรับนักเรียนใหม่ เราก็สมัครค่ะ ได้ทำความสะอาดห้องต่างๆ

และได้ทำงานร่วมกันเด็กคณะอื่นๆในหอ 


เราทึ่งในความเป๊ะของสาวญี่ปุ่นมาก

นางแต่งหน้ากันทุกคน แม้ชุดจะ ใส่ชุดเก่าๆก็ตาม(เพราะว่าต้องใส่ชุดที่เปื้อนก็ไม่เป็นไร)

ส่วนเรานี่หน้าสดทุกวัน ก็ทำความสะอาดหอตัวเอง ไม่ได้ออกไปไหนสักหน่อยนินา....

เป็นครั้งแรกที่เราเม้าท์เรื่องต่างๆมากมายแบบสาวๆ สนุกดีค่ะ


พื้นหอลงแว็กซ์ใหม่เงางาม


สำหรับเรา ชีวิตในหอจัดว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก

ตอนแรก เราเองก็แอบรับไม่ได้กับ ห้องน้ำกับห้องอาบน้ำส่วนกลาง

ไม่มีในห้องตัวเอง แต่พออยู่ไปอยู่มา มันดีนะคะ


เพราะนั้นหมายความว่า เราไม่ต้องทำความสะอาดห้องน้ำเอง ว่ะ ฮา ฮา ฮา 

และห้องนอนเราก็เป็น ห้องนอนจริงๆ


พอไม่มีครัว ไม่มีท่อน้ำ ก็ปลอดภัยจากแมลงสาป ทั้งหลายทั้งปวง

เราเคยโลกสวยคิดว่าประเทศญี่ปุ่นไม่มีแมลงสาปด้วยค่ะ

มาฝันสลายยามย้ายออกมาอยู่เอง......


แต่ถ้าจะให้เรากลับไปใช้ชีวิตเด็กหออีกไหม ขอบอกว่า

ถ้าห้องเดี่ยวพอได้ แต่ห้องคู่นี่ไม่เอาแล้วค่ะ ฮาาา 


ภาพโต๊ะในห้องเราค่ะ รักมากเลยค่ะ ตอนนี้ย้ายมาอยู่เองก็ยังไม่สามารถทำโต๊ะให้น่าใช้(เหรอ) แบบนี้ได้เลย ฮืออ


พอชีวิตเด็กหอเราจบลง เราก็ย้ายไปอยู่แชร์เฮาส์ค่ะ

หากสนใจไปตามอ่านได้นะคะ

เรื่องเล่าเรื่องบ้านแชร์เฮาส์ในญี่ปุ่น ภาค 1

เรื่องเล่าเรื่องบ้านแชร์เฮาส์ในญี่ปุ่น ภาค 2


เอนทรี่นี้ยาวมาก ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ


สุดท้ายนี้

ภาพในบล็อคนี้ที่ถ้าเราไม่ได้ลงเครดิตไว้ คือเราถ่ายเองทั้งหมดค่ะ

ถ่ายในช่วงปี 2009-2011 ภาพแรกๆ จะไม่ชัดเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ>< 

หากใครจะเอาภาพไปใช้รบกวนช่วยแจ้งด้วยนะคะ

Fan Page Afternoon_silent



ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น

YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/

Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/

Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH

Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/

TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth

ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com