e เรื่องทั่วไป

หนุ่มเกาหลีและหนุ่มญี่ปุ่นต่างกันตรงไหน

หนุ่มเกาหลีและหนุ่มญี่ปุ่นต่างกันตรงไหน

By , Wednesday, 11 January 2017

หลังจากที่บล็อกที่ผ่านมา เราได้พูดถึงความแตกต่างระหว่างสาวเกาหลีและสาวญี่ปุ่นกันไปแล้ว (สามารถอ่านย้อนหลังได้จากที่นี่ http://www.ilovejapan.co.th/essentials/entry/japanese-vs-korean-trends

วันนี้เราก็อยากเอาใจสาวไทยทั้งหลายมาพูดถึงคิวหนุ่มๆ กันบ้างดีกว่า คาดว่ามีสาวๆ ไม่น้อยที่เป็นติ่งไม่ว่าจะมาจากฝั่งแดนปลาดิบหรือแดนกิมจิก็ตาม ว่าแต่หนุ่มๆ ทั้งสองชาตินั้นมีอะไรดีทำให้สาวไทยอย่างเราคลั่งไคล้กันนะ แน่นอนว่าส่วนใหญ่คงตอบว่าความตี๋ ขาว สูง แต่งตัวดี ฯลฯ…ซึ่งมันก็จริง (-,.-) งั้นเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าหนุ่มๆ ทั้งสองสัญชาตินั้นมีอะไรที่คล้ายกันหรือแตกต่างกันบ้าง

ทรงผม

สำหรับวัยรุ่นหนุ่มเกาหลีนั้น ทรงผมที่ค่อนข้างฮิตกันเป็นทรงสไตล์ K-Pop ค่ะ ฮิตขนาดไหนหากไปเกาหลีมักจะเห็นหนุ่มๆ ทรงผมคล้ายกันไปหมดหรือดูได้จากหนุ่มๆ บ้านเราหลายคนก็ตัดตามเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ทรงผมค่อนข้างยาว มีจุดเด่นคือการไว้ผมปิดหน้าผาก (หรืออาจแสกกลางที่เค้ามักเรียกกันว่าทรงโอปป้า) บางทรงอาจมีการไถข้างเล็กน้อยแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ซึ่งหนุ่มเกาหลีมีผิวขาวค่อนข้างมากทำให้การทำสีผมโทนสีอ่อนก็ดูเป็นผู้ชายน่ารักใสๆ ขี้เล่นยิ่งขึ้นอีกด้วย

สำหรับหนุ่มญี่ปุ่นนั้นเรียกว่าทรงผมค่อนข้างหลากหลายมาก ซึ่งบางทรงเห็นแล้วถึงกับต้องร้องแม่เจ้า นี่หลุดออกมาจากโลกการ์ตูนรึเปล่าเนี่ยก็มี เช่น ทรงสไตล์ J-Rock หรือสไตล์หนุ่มโฮสต์คลับซึ่งเป็นทรงตั้งๆ ชี้ๆ แหลมๆ แถมทำสีซะเด่นสไตล์ซูเปอร์ไซย่า และมักจะมีผมกระจุกนึงที่ยาวลงมาปิดหน้าตาปิดตาเล็กน้อย แถมผมที่เซ็ตมานั้นอยู่ทรงทนมากลมพัดยังไม่กระดิก หากคุณผู้อ่านเห็นแล้วอย่าเผลอเอามือไปกระชากเพราะคิดว่าเป็นวิกเด็ดขาดนะคะ ขอบอกว่านั่นผมจริงๆ ค่ะ

คุณผู้อ่านทราบมั้ยคะว่าการเซ็ตผมเป็นเรื่องที่สำคัญของหนุ่มญี่ปุ่นมาก เรามักเห็นตามห้างมักมีอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมของผู้ชายวางขายเต็มไปหมด เพราะอย่างที่บอกว่าคนญี่ปุ่นเองให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกของตนค่อนข้างมาก แถมขอกระซิบว่าหนุ่มๆ บางคนเซ็ตผมเก่งกว่าชะนีไทยอย่างดิฉันซะอีก (T.T)

เสื้อผ้า

สำหรับเรื่องเสื้อผ้า เรียกได้ว่าทั้งทางหนุ่มญี่ปุ่นและหนุ่มเกาหลีนั้นกินกันไม่ลงจริงๆ ค่ะ เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีสภาพอากาศที่หลากหลายและแตกต่างกันอย่างชัดเจนทำให้มักมีเสื้อผ้าตามฤดูกาลต่างๆ หนุ่มๆ จึงมักจัดเต็มและสนุกกับการแต่งตัวไม่ต่างอะไรกับสาวๆ เลย นอกจากนี้ทั้ง 2 ชาติก็มีเซ็นส์แฟชั่นในการ Mix & Match ชุดที่ลงตัวสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเสื้อ กางเกง รองเท้าและโทนสี

ผู้ชายญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมใส่สีสันฉูดฉาน เช่น เขียวเรืองแสง ชมพูแปร๋นอะไรพวกนี้ แต่จะนิยมเป็นสีขาว สีเทา สีดำแทน ยกตัวอย่างเพื่อนคนญี่ปุ่นเรา เคยบอกว่าในฤดูร้อนต้องใส่สีขาวไม่ก็สีโทนอ่อน ส่วนเสื้อผ้าโทนสีเข้มต้องเก็บไว้ ใส่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาวเท่านั้น หมวกไหมพรมไม่ใส่ฤดูร้อนต้องเป็นหมวกแก๊ปเท่านั้น…ดูสิคะ ว่าใส่ใจขนาดไหน (-_-)

เทรนด์ที่เหมือนกันกับบ้านเราคือวัยรุ่นญี่ปุ่นเริ่มหันมาเจาะหูข้างเดียวกันมากขึ้นค่ะ สำหรับกระเป๋า หนุ่มๆ ญี่ปุ่นนิยมใช้กระเป๋าเป้ เนื่องจากบรรจุของได้เยอะ และคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักเดินทางโดยจักรยาน การสะพายเป้จึงค่อนข้างสะดวก (แบรนด์ที่ค่อนข้างนิยมคือ THE NORTH FACE)

มาถึงฝั่งเกาหลี เรียกได้ว่าเจ้าพ่อแฟชั่น ซึ่งความเห็นส่วนตัวเราให้ผู้ชายเกาหลีแต่งตัวดีอันดับ 1 เลยค่ะ แหม…ไม่ค่อยจะลำเอียง (-,.-) ด้วยความที่หนุ่มเกาหลีส่วนใหญ่มีรูปร่างสูงโปร่งหุ่นดีทำให้ค่อนข้างได้เปรียบในการแต่งตัวมาก (ขนาดใส่เสื้อยืดธรรมดายังดูดีเลยแก) และหนุ่มเกาหลีเองแต่งตัวกันเก่งมากๆ เหมือนคุณแม่ให้คุณลูกอ่านนิตยสารแฟชั่นกันตั้งแต่เด็ก บางคนหน้าตาไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่แต่แต่งตัวได้น่ามองสุดๆ แม้จะใส่เสื้อสีชมพูพาสเทลก็ยัง Keep look คูลๆ ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

แฟชั่นเกาหลี ถือเป็นแฟชั่นยอดนิยมระดับโลกทำให้ได้รับความสนใจจากคนไทยทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากสไตล์ที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร แต่ไม่หวือหวาหลุดโลก หรืออาจตรงกันข้ามเรียกได้ว่าเรียบธรรมดาแต่ดูดีจนใครหลายๆ คนแต่งตามกันได้ไม่ยาก

รูปร่างและส่วนสูง

หากเทียบรูปร่างและส่วนสูงตามที่กล่าวมา ขอยกธงให้ผู้ชนะเป็นฝ่ายหนุ่มเกาหลีไปเลยรัวๆ ค่ะ! เนื่องจากค่าเฉลี่ยส่วนสูงหนุ่มเกาหลีสูงกว่าหนุ่มญี่ปุ่นมาก (ส่วนใหญ่หนุ่มเกาหลีสูง 175 เซนติเมตรขึ้นไป) แถมหุ่นค่อนข้างดีกว่า

หากหากไม่ใช่พวกนักกีฬา ผู้ชายญี่ปุ่นยังตัวค่อนข้างเล็กค่ะ สูงไม่ถึง 170 เซนติเมตรก็มีเยอะและส่วนใหญ่จะผอมๆ หุ่นบางๆ…แต่ช้าก่อน! แต่ใครอยู่ฝ่ายหนุ่มญี่ปุ่นก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป ในปัจจุบันเด็กญี่ปุ่นรุ่นใหม่ก็สูงขึ้นกันค่อนข้างเยอะแล้วค่ะ นอกจากนี้ทั้งที่เกาหลีและญี่ปุ่นไม่ค่อยเจอผู้ชายผิวคล้ำหรืออ้วนเท่าไหร่ แถมผิวสวยทั้ง 2 ชาติเลยด้วย

หน้าตา

ถึงจุดนี้ใครดีกว่าใครแล้วแต่ชอบเลยค่ะ ในปัจจุบันที่ประเทศเกาหลีไม่เพียงแต่อัตราผู้หญิงที่ศัลยกรรมเท่านั้น ผู้ชายเองก็ศัลยกรรมกันมากขึ้นเช่นกัน (สังเกตง่ายๆ ได้จากเน็ตไอดอลเกาหลีรุ่นแรกๆ ที่ตอนนี้หน้าเปลี่ยนเกือบทุกคน) สำหรับหนุ่มเกาหลีหากหล่อก็หล่อวัวตายควายล้ม หากไม่หล่อก็คือธรรมดาไปเลย 

การแยกหนุ่มเกาหลีกับหนุ่มญี่ปุ่นอาจจะดูยากกว่าสาวๆ แต่สิ่งหนึ่งที่บ่งบอกความเป็นเกาหลีคืออะไรรู้มั้ยคะ คำตอบคือ "การแต่งตัว" นั่นเอง อย่างที่บอกแม้บางคนหน้าตาอาจไม่ได้ดีมากเท่าไหร่แต่แฟชั่นของเหล่าโอปป้าถือว่าช่วยมากๆ ทำให้ดูหล่อขึ้นมาซะอย่างนั้น หากใครชอบหนุ่มตี๋คงเทใจไปทางหนุ่มเกาหลีกันใช่มั้ยล่ะคะ ก็แหม…ทั้งสูง ขาว ตี๋แถมยังแต่งตัวเก่งแบบนี้ ไม่แปลกที่สาวๆ หลายคนจะเทใจไปทางหนุ่มเกาหลีกัน

มาถึงฝั่งหนุ่มญี่ปุ่นกันบ้าง แม้หนุ่มญี่ปุ่นอาจเสียคะแนนเรื่องส่วนสูง แต่เรื่องหน้าตาหนุ่มๆ ก็ไม่เป็นรองใครเช่นกันค่ะ ด้วยหน้าตาที่หลากหลายที่ส่วนใหญ่ไม่ผ่านมือหมอ จมูกที่โด่งเป็นสันธรรมชาติ และดวงตาคมที่ไม่ตี๋จนเกินไป หรือบางคนก็อาจตาโตสวยไปเลย บางครั้งหน้าตาจืดๆ เห็นแล้วดูญี่ปุ๊นญี่ปุ่นแต่ดูดีๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน เวลาเดินไปไหนมาไหนในญี่ปุ่นทีนี่เหลียวมองคอแทบหัก

แต่ข้อเสียของหนุ่มญี่ปุ่นคืออะไรรู้มั้ยคะ ติ๊กต่อกๆ…หมดเวลาค่ะ คำตอบคือ "ฟัน" นั่นเอง ขอบอกคุณผู้อ่านว่าอย่าโดนใบหน้าของหนุ่มๆ ที่ปกปิดด้วย Mask หลอกเอานะคะ นี่ก็ชอบจมูกโด่งๆ กับตาคมๆ ของหนุ่มๆ หลอกบ่อย อยากรู้หล่อจริงไม่จริงลองไปดึง Mask ออกแล้วจะรู้เลยค่ะ เพราะหนุ่มๆ ญี่ปุ่นเองก็มีฟันเกไม่ก็เหยินเยอะเหมือนกัน

นอกจากนี้ค่านิยมของหนุ่มญี่ปุ่นคือคิ้วพี่ต้องโก่งราวกับบินมาใช้บริการแว็กซ์คิ้วที่ Anastasia กันทั้งประเทศ (ร้านตัดผมชายที่ญี่ปุ่นเมื่อตัดผมเสร็จแล้วส่วนใหญ่จะมีบริการกันคิ้วให้ด้วย) และผู้ชายญี่ปุ่นไม่นิยมไว้ขนกันเท่าไหร่ค่ะ เช่น ขนหน้าแข้ง เพราะเค้าถือว่าใครมีขน ไม่สุภาพ ไม่รักสะอาด ไม่ยอมดูแลตัวเอง

นิสัย

มาถึงเรื่องสุดท้ายที่มั่นใจว่าสาวๆ หลายคนอยากทราบกันแน่ ระหว่างหนุ่มแดนปลาดิบกับหนุ่มแดนกิมจิ นิสัยต่างกันยังไงนะ บทความนี้ไม่ใช่ไกด์ไลน์จีบหนุ่มญี่ปุ่นแต่คิดว่าคงพอเป็นประโยชน์ให้สาวๆ หลายคนได้บ้าง

มาพูดถึงนิสัยของหนุ่มๆ ญี่ปุ่นส่วนใหญ่กันก่อนดีกว่าค่ะ สำหรับหนุ่มญี่ปุ่นส่วนใหญ่นิสัยค่อนข้างขี้อายและขี้เก๊กเป็นที่สุด เนื่องจากมีหนุ่มญี่ปุ่นไม่น้อยที่เชื่อว่าการตัวเอง Keep look ให้ดูนิ่งๆ เย็นชา ขรึมๆ นั้นจะดูเท่ในสายตาสาวๆ (ซึ่งส่วนใหญ่สาวญี่ปุ่นก็ชอบแบบนี้จริงๆ) แถมยังซึนเดเระสุดๆ หรือเรียกว่าปากไม่ตรงกับใจนั่นเอง อยากรู้ว่าเขาคิดอะไรต้องเดาเองค่ะ เรียกได้ว่าเดาใจยากกันสุดๆ เพราะถามอะไรไปก็ไม่ค่อยยอมบอกความรู้สึกตัวเองตรงๆ แต่ข้อดีของหนุ่มญี่ปุ่นคือแม้อายุยังน้อยแต่มีความเป็นผู้ใหญ่ค่อนข้างสูง มีความคิดเป็นของตัวเอง เนื่องจากสไตล์การเลี้ยงดูของคนญี่ปุ่นที่ฝึกให้พึ่งตัวเอง รู้จักหางานทำ เก็บเงินเองกันตั้งแต่วัยเรียนนี่ล่ะค่ะ 

นอกจากนี้ คนญี่ปุ่นเองก็แบ่งลักษณะหนุ่มๆ เป็นหลายประเภท เช่น หนุ่มกินเนื้อคือพวกชอบออกล่าสาวๆ หนุ่มกินพืชคือพวกทำตัวฮิปสเตอร์หน่อยๆ ไม่สนใจเรื่องผู้หญิง เป็นต้น

แล้วเหล่าโอปป้าล่ะนิสัยเป็นยังไง ตรงนี้เราอาจจะตอบได้ไม่เคลียร์เท่าไหร่เนื่องจากเราไม่ค่อยมีโอกาสได้คลุกคลีกับคนเกาหลีเท่าไหร่นัก เพียงแต่หนุ่มเกาหลีนั้นเป็นหนุ่มที่เรียกได้ว่าป๋าสุดๆ ค่ะ เพราะเหมือนเป็นค่านิยมของที่นู่นในการออกเดทว่าผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงเสมอ และการแสดงความรักในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องปกติมาก ซึ่งต่างจากหนุ่มญี่ปุ่นที่ขี้อายสุดๆ เวลาคบกันนี่เรียกได้ว่าหวานปานจะกืนกลินกันเลยทีเดียว

หนุ่มเกาหลีนั้นมีความเป็นผู้นำสูง เป็นตัวของตัวเอง กล้าโวยวายเสียงดัง และมักจะกล้าแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาตรงๆ มากกว่าหนุ่มญี่ปุ่น ข้อดีคือถ้าคบกับหนุ่มเกาหลีแล้วเขาจะเทคแคร์เรามากๆ แถมอาจมีสไตล์ลิสส่วนตัวอีกด้วยนะเพราะอย่างที่บอกว่าหนุ่มเกาหลีส่วนใหญ่เป็นเจ้าพ่อแฟชั่นล่ะ แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมนะคะว่าหนุ่มเกาหลีในชีวิตจริงอาจไม่ตรงกับที่เราเห็นใน Series เท่าไหร่นัก

...เอาล่ะ มาถึงตรงนี้แล้ว ระหว่างหนุ่มเกาหลีกับหนุ่มญี่ปุ่น สาวๆ จะเลือกอยู่ทีมไหนดีคะ (^-^)

ขอขอบคุณรูปภาพจาก :

  • http://global.rakuten.com/en/category/205057/?sm=5 
  • http://www.pinterest.com/pin/407786941231605751/ 
  • http://www.pinterest.com/explore/korean-male-fashion/ 
  • http://www.pinterest.com/hyjin6788/sakaguchi-kentaro/ 
  • http://gocart.jp/cts/wego/monthlyguide/201612/?brandbanner 
  • http://thepinksorasworld.blogspot.com/2014_07_01_archive.html 
  • http://www.insing.com/movies/no-longer-heroine-2016/id-3feb0000/gallery/id-6d833101/photos/photo-5 
  • http://jonellepatrick.me/2015/02/22/dont-miss-your-big-chance-to-experience-a-host-club-without-traveling-to-japan/

ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น

YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/

Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/

Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH

Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/

TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth

ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com