ญี่ปุ่นเปิดรับชาวต่างชาติ เข้าทำงานในญี่ปุ่น

Banner H mobile [01] - iLoveJapanSchool.com

ญี่ปุ่นเตรียมเปิดรับชาวต่างชาติเข้าทำงานในญี่ปุ่นมากขึ้น

นับเป็นข่าวดีล่าสุดสำหรับชาวต่างชาติ เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังมีแนวคิดว่าจะให้ชาวต่างชาติเหล่านี้ได้สถานะผู้พำนักถาวรในประเทศญี่ปุ่น (Permanent Resident) หลังจากทำงานเพียงหนึ่งปี เพื่อสร้างฐานกลุ่มแรงงานรุ่นใหม่เพื่อมาทดแทนแรงงานชาวญี่ปุ่นที่นับวันจะขาดแคลนลงไปทุกที โดยคาดการณ์ว่านโยบายดังกล่าวจะเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2017

เมื่อนโยบายดังกล่าวมีผลแล้ว ชาวต่างชาติที่กำลังทำงานในญี่ปุ่นที่ได้รับการระบุว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญทางสายงานนั้นๆ หรือมีประสบการณ์การทำงานอย่างดีก็จะมีโอกาสมากขึ้นในการได้รับสถานะดังกล่าว โดยปัจจุบันนี้มีชาวต่างชาติที่ได้รับสถานะผู้พำนักถาวรมากที่สุดคือ ชาวจีน ทั้งนี้ในปัจจุบันชาวต่างชาติจะต้องทำงานในประเทศญี่ปุ่นอย่างน้อยห้าปีก่อนที่จะทำการร้องขอสถานะดังกล่าวได้ ทว่าหลังจากที่นโยบายผ่อนปรนมีผลแล้วจะเหลือระยะเวลาสามปี ส่วนผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ในระดับแนวหน้าก็สามารถขอสถานะผู้พำนักถาวรได้เมื่อครบเวลาการทำงานเพียงหนึ่งปีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าการอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นในฐานะชาวต่างชาตินั้นมีความลำบากและซับซ้อนเพียงไร แต่หากชาวต่างชาติที่ได้รับสถานะผู้พำนักถาวรนั้นก็จะมีแนวโน้มที่ได้รับการยอมรับจากสังคมญี่ปุ่นมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้สามารถทำธุรกรรมต่างๆได้อย่างสะดวกมากขึ้น เช่น การซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้นรัฐบาลญี่ปุ่นก็กำลังเล็งหาช่องทางในการเพิ่มสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศหรือผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันชั้นนำของโลกอีกด้วย

การปูทางสู่แรงงานกลุ่มใหม่

สำหรับประเทศอังกฤษนั้น การร้องขอสถานะผู้พำนักถาวรจะต้องให้ชาวต่างชาติคนนั้นอาศัยอยู่ในอังกฤษอย่างน้อยห้าปีจึงจะทำการร้องขอได้ (แม้ว่าในภายหลังจะมีการปรับลดเหลือสามปีสำหรับชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของกิจการตามลักษณะที่กำหนด) ขณะที่เกาหลีใต้ก็ต้องใช้เวลาห้าปีก่อนจะสามารถดำเนินการร้องสถานะฯเช่นกัน ทว่าผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีในระดับสูงจะได้รับสิทธิ์ร้องขอเมื่อครบการทำงานเพียงหนึ่งปีเท่านั้น

แน่นอนว่าประเทศญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและกำลังมองหาลู่ทางในการดึงดูดแรงงานต่างชาติกลุ่มดังกล่าวเข้ามาช่วยขับเคลื่อนประเทศเช่นกัน แต่อุปสรรคที่สำคัญที่สุดของประเทศญี่ปุ่นก็คือ ภาษา และหลายๆเสียงกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการที่ช่วยเหลือระบบการจัดเก็บภาษีให้โรงเรียนที่สอนเด็กๆชาวต่างชาติด้วย นอกจากนี้รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการทำงานของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาติตะวันตกมาก เนื่องจากชาวตะวันตกมีการจัดสมดุลการทำงานและใช้เวลาพักผ่อนอย่างเท่าเทียมกัน รวมไปถึงการเปิดรับเพศหญิงให้มีบทบาทในสังคมที่ทักเทียมเพศชายด้วย เพราะหากรัฐบาลของนายอาเบะไม่สามารถกำหนดทิศทางหรือนโนบายที่ปรับตัวให้เข้ากับลักษณะการใช้ชีวิตได้ แรงงานตะวันตกในกลุ่มดังกล่าวนี้ก็อาจจะเบนเข็มไปทำงานในประเทศอื่นแทนก็มีความเป็นไปได้สูง

นอกจากนี้ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่าโรงพยาบาลและธนาคารในญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีปัญหาหลัก คือ ไม่สามารถติดต่อสื่อสารให้เข้าใจกับชาวต่างชาติได้ ซึ่งรัฐบาลเองก็ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มสถานพยาบาลที่สามารถสื่อสารภาษาต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่งให้ได้ภายในปี 2020