e เรื่องทั่วไป

รู้หรือไม่?!? วาซาบิที่เรากินอยู่ทุกวันนี้เป็นของปลอม!!!

รู้หรือไม่?!? วาซาบิที่เรากินอยู่ทุกวันนี้เป็นของปลอม!!!

By , Sunday, 26 June 2016

​        รู้หรือไม่?!? วาซาบิที่เรากินอยู่ทุกวันนี้เป็นของปลอม!!!

​      เมื่อพูดถึงอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเลจำพวกปลาดิบ สิ่งที่ไม่สามารถขาดได้เลยจริงๆก็คงจะเป็นวาซาบินี่แหละค่ะ  เพราะไม่ว่าด้วยขั้นตอนกระบวนการผลิต หรือว่าจะเป็นวิธีการปรุงรสชาติตามใจผู้กินนั้นก็ล้วนแต่จะต้องมีส่วนประกอบของเจ้าวาซาบินี้ทั้งสิ้น

​   แต่ทราบไหมคะว่า 80-90 เปอร์เซ็นของวาซาบิที่เรากินนั้น เป็นของปลอมทั้งสิ้น!!! เนื่องด้วยเหตุหลายๆอย่างทำให้วาซาบิกลายเป็นสินค้าล้ำค่าของแดนปลาดิบ อย่างประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ว่าเหตุเหล่านั้นจะเป็นอะไร เราจะมาดูด้วยกันค่ะ

​    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเจ้าสิ่งที่มีชื่อว่าวาซาบิกันก่อนดีกว่าค่ะ

​    เมื่อย้อนเวลากลับไปจะพบว่า ต้นวาซาบินั้นเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่สมัยนาราแล้ว (รู้จักในชื่อของ ต้นวะซะ แปลว่า การรักษา) โดยชาวบ้านในสมัยนนั้นจะรู้จักวาซาบิในฐานะของสมุนไพร และเป็นองค์ประกอบสำคัญในการยืดอายุอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการนำมาหนัก หรือดอง ต่อมาในยุคเฮอันเกิดสงครามใหญ่ขึ้น ทำให้ผู้คนมากันหลบซ่อนด้วยความหวาดกลัว บ้างก็เข้าป่า บ้างก็ขึ้นเขา ผู้คนเหล่านี้ได้อาศัยต้นวาซาบิในการดำรงชีพ โดยการนำมาดองกับพืชป่าในวันที่อดยาก ส่วนวันไหนที่พอจะจับปลา หรือล่าสัตว์มาได้(ส่วนมากจะเป็นกวาง) ก็จะนำมาทานคู่กับวาซาบิ 

​     พอถึงสมัยเอโดะ ท่านโชกุนโทะกุงะวะ อิเอะยะสุ โปรดปรานวาซาบิเป็นอย่างมาก จึงสั่งให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบชิซุโอกะทำการเพาะปลูกวาซาบิ เป็นเหตุให้นับแต่นั้นมาวาซาบิก็กลายเป็นที่สินค้าล้ำค่า และนิยมอย่างมากถึงแม้จะมีราคาที่แพงก็ตาม

​        อย่าเพิ่งงงกันนะคะ รูปข้างบนที่เห็นนี้ก็คือวิธีการปลูกต้นวาซาบิค่ะ ต้นวาซาบินั้นสามารถปลูกได้ทั้งบนบกแล้วก็ในน้ำ แต่จำเป็นจะต้องได้รับความชื้นในปริมาณมาก รวมทั้งต้องได้รับแสงแดดที่ไม่มากเกินไป โดยเฉพาะในฤดูร้อนต้องคอยระมัดระวังไม่ให้แสงแดดส่องโดนลำต้นโดยตรง เพราะจะทำให้ได้ผลผลิตที่ไม่ดีค่ะ(เป็นสาเหตุที่ชาวบ้านในสมัยก่อนมักจะพบต้นวาซาบิอยู่บนเขา ใกล้ๆกับธารน้ำ) 

​     การปลูกต้นวาซาบิในน้ำนั้นจะได้ผลดีกว่าการปลูกบนบก เพราะต้นวาซาบิจะได้รับความชื้นจากละอองน้ำอยู่ตลอดเวลา และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นก็ควรจะปลูกให้มีกระแสน้ำไหลผ่านรากของต้นวาซาบิอยู่ตลอดเวลาด้วยละค่ะ แต่ก็ต้องดูดีๆนะคะ ถ้าเจ้าต้นวาซาบิได้รับความชื้นมากเกินไปก็จะส่งผลให้ตายยกไร่ได้เลยละค่ะ ดังนั้นชาวไร่จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ถือเป็นงานที่ปวดหัวมากๆงานนึงเลยล่ะ

​     ความยุ่งยากของการปลูกต้นวาซาบิไม่ได้จบลงแค่นี้นะคะ เพราะถึงแม้ว่าเจ้าวาซาบิจะเป็นพื้นล้มลุกตระกูลเดียวกับบรอกโคลีและกะหล่ำ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ง่ายขึ้นเลยสักนิด ต้นวาซาบิจะต้องใช้เวลายาวถึงประมาณ 1 ปีครึ่ง-3 ปี เลยทีเดียวกว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวเอาผลผลิตมาขายได้ ด้วยขั้นตอนที่ยาก และการลงทุนที่ต้องใช้งบค่อนข้างสูงนี้ทำให้มีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถปลูกได้สำเร็จ นั่นเป็นผลให้มันมีราคามากถึง 160 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,600 บาท) ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่ได้กำไรมากที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ

​       เมื่อปลูกจนสามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว ก็จะนำเอาส่วนของราก ก้าน และใบมาขูดจนละเอียดจึงจะได้เป็นวาซาบิสด แต่ก็ไม่สามารถเก็บได้นานอีก จึงได้มีการนำมาแปรรูปต่างๆนานา เช่น วาซาบิเข้มข้น (paste) วาซาบิผง (powder) และในรูปน้ำวาซาบิเพื่อใช้ในการปรุงแต่งกลิ่น ส่วนของก้านใบและใบจะถูกนำไปดองในเหล้าสาเกหรือในซีอิ้ว เพื่อให้สามารถเก็บได้นานขึ้น

​    สืบเนื่องด้วยขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยาก และราคาที่สูงลิบ ก็เป็นเหตุให้เจ้าผงวาซาบิถือกำเนิดขึ้น!!!

​      หลายๆคนอาจจะเข้าใจว่า ผงวาซาบิก็คือวาซาบิตากแห้ง เอามาทำให้ป่นๆแล้วก็ใส่ซอง แต่ไม่ใช่! จริงๆแล้วเจ้าสิ่งที่เราเรียกกันว่าผงวาซาบินั้น มันไม่ได้มีส่วนประกอบของวาซาบิเลยแม้แต่นิดเดียว! ผงวาซาบินั้นทำมาจากฮอร์สแรดิส (พืชตระกูลเดียวกันกับวาซาบิ) ผสมกับผงมัสตาร์ด(ซึ่งให้ความฉุนแบบเผ็ดร้อนขึ้นจมูกคล้ายวาซาบิ) แป้ง และสีผสมอาหาร โดยไม่มีส่วนผสมของวาซาบิเลย แต่ให้รสชาติที่ใกล้เคียงกัน แต่ว่าความฉุนนั้นจะหายไปรวดเร็วกว่า ทว่าในปัจจุบันผงวาซาบิเป็นที่นิยมมากเพราะนอกจากราคาจะถูกกว่าวาซาบิแท้แล้ว ยังสามารถเก็บได้นานกว่าอีกด้วย

​    วาซาบิแท้หรือเทียมนั้นจะสามารถสังเกตได้ง่ายเลย ตรงที่ว่าถ้าเป็นวาซาบิแท้ที่เป็นพืชนั้นจะมีสีเขียวอ่อนๆ และในส่วนของเส้นใยที่พันติดกันด้วย แต่จะไม่เป็นก้อนจนถึงขนาดปั้นหรือขึ้นรูปได้อย่างชัดเจน ส่วนถ้าเป็นวาซาบิเทียมเนื้อจะเนียนละเอียด สีเข้มกว่า และสามารถนำมาขึ้นรูปได้ เนื่องจากมีส่วนผสมของมัสตาร์ดที่มีลักษณะเป็นเนื้อครีมนั่นเอง (ดูภาพประกอบด้านบนได้เลย)

........................................................................................................

​ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก Blaa, wikipedia, เผือกรอบโลก และ the V school


ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น

YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/

Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/

Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH

Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/

TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth

ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com