จุ๊บุจุ๊บุ_โยดช่า じゅぶじゅぶ~よっしゃ
สวัสดีเจ้าค่ะเพื่อนๆ วันนี้ฟ้าจังมาแนวเสียวสยองขวัญนะคะ ถามว่าทำไมนะเหรอ เรื่องของเรื่องก็คือช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเน็ตไอดอลที่เป็นช่างแต่งหน้าก็จะทำคลิปแต่งหน้าออกมาในแนว ตุ๊กตาผีแอนนาเบลนะสิคะ กระแสตุ๊กตาผีอย่างแอนนาเบลกำลังมาแรงค่ะ แถมยังมีภาพยนตร์อีกต่างหาก เพื่อนๆไปดูกันมาหรือยังค่ะ ฟ้าจังอยากดูมากแต่ไม่มีเวลาไปดูเลยค่ะ เสียดายจัง
ตามเหตุผลที่บอกไปข้างต้น เมื่อพูดถึงหนังผีหลายๆคนคงจะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ ก็มันน่ากลัวนี่นา แล้วตอนเรารู้สึกกลัวเราจะถ่ายทอดความรู้สึกแบบนี้ให้คนญี่ปุ่นได้รับรู้ และเข้าใจอย่างไรบ้าง มีวิธีพูดได้กี่แบบ ต้องใช้ศัพท์คำไหน แล้วไวยากรณ์ล่ะ สำนวนล่ะ เอาล่ะ ไม่ต้องกลัวเจ้าค่ะ ฟ้าจังจะมาไขข้อข้องใจนี้ให้เพื่อนๆได้เข้าใจง่ายๆและฝึกพูดกัน พร้อมไหม ถ้าพร้อมแล้วเริ่มเลยค่ะ ไปค่ะ
คำศัพท์พื้นฐานๆเลยของคำว่ากลัวในภาษาญี่ปุ่นเขาจะพูดกันว่า 怖い [kowai] ที่แปลว่า กลัว นี่แหละ และเป็นคำคุณศัพท์ い อีกด้วย ตัวอย่างประโยค คือ
蛇が怖い。[Hebi ga kowai]
กลัวงู
私は猫が怖い。[Watashi ha neko ga kowai]
ฉันกลัวแมว
外に出ることが怖い。[Soto ni deru koto ga kowa]i
กลัวการออกไปข้างนอก
私は何も怖くない。[Watashi ha nani mo kowakunai]
ฉันไม่กลัวอะไร [รูปปฏิเสธ]
ต่อไปเราจะใช้คำว่า 恐ろしい [osoroshii] ซึ่งจะเป็นคำคุณศัพท์ い อีกคำที่สามารถใช้พูดแสดงความรู้สึกกลัวได้ค่ะ เรามาดูตัวอย่างประโยคกันนะเจ้าคะ
恐ろしい映画。[osoroshii eiga]
ภาพยนต์ที่น่ากลัว
恐ろしい顔。[osoroshii kao]
ใบหน้าที่หน้ากลัว
鬼のように恐ろしい女。[oni no you ni osoroshii on‘na]
ผู้หญิงที่น่ากลัวเหมือนยักษ์
それを想像すると恐ろしい。[sore wo souzou suru to osoroshii]
เมื่อจิตนาการถึงสิ่งนั้นน่ากลัวอ่ะ
考えただけで恐ろしい。[kanngaeta dake de osoroshii]
แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว
ชมคลิปค่ะ
แต่เพื่อนๆทราบไหมคะว่าในบางสถานการณ์คนญี่ปุ่นจะใช้คำว่า ~かもしれない [kamoshirenai] ที่แปลว่าบางที มาใช้แทนในความหมายว่ากลัวค่ะ ตัวอย่างประโยค เช่น
明日雪かもしれない。[ashita yuki kamoshirenai]
กลัวว่า [บางที] พรุ่งนี้หิมะจะตก
雨になるかもしれない。[ame ni naru kamoshirenai]
ฉันกลัวว่าพรุ่งนี้ฝนจะตก
明日は練習に出られないかもね。[ashita wa renshuu ni derarenai kamo ne]
กลัวว่าพรุ่งนี้จะไม่สามารถออกไปซ้อมได้
ค่ะวิธีการพูดแบบนี้ใช้ในสถานการณ์ตอนที่เราคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตนะคะ
แต่เราสามารถใช้ไวยากรณ์ ~のよう [~noyou] ที่แปลว่า เหมือนจะ หรือ ดูเหมือน ก็นำมาใช้พูดแทนตอนเรารู้สึกกลัวได้นะคะ เช่น
痴呆症のようです。[chihousyou no you desu]
ฉันกลัวว่า [เหมือนว่า] ฉันจะเป็นกลัวความจำเสื่อม
あなたはどうも白血病のようです。[anata ha doumo hakketsubyou no you desu]
ผมกลัวว่าคุณจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวนะครับ
หรือเราจะใช้ ~そう [~sou] พูดแทนตอนเรากลัวได้เหมือนกันนะคะ เช่น
道に迷いそうだ。[michi ni mayoi sou da]
ฉันกลัวว่าจะหลงทางนะเธอ
人に突き当たりそうだ。[hito ni tsuki a tari sou da]
กลัวว่าจะเดินชนคน
どうも雨になりそうです。[doumo ame ni narisou desu]
กลัวว่าฝนกำลังจะตก
เราสามารถใช้สำนวน ~だろうと思う [~darou to omou] หรือ ~だろう [~darou] พูดแสดงความรู้สึกเมื่อเรากลัวได้ค่ะ ตัวอย่าง เช่น
彼は来ないだろうと思う。[kare wa konai darou to omou]
กลัวว่าเขาจะไม่มา
今日は波が荒いだろう。[kyou wa nami ga arai darou]
ฉันกลัวว่าวันนี้คลื่นจะแรงนะ
おおかた今月食い込みだろう。[ookata kongetsu kuikomi darou]
เรากลัวว่าเดือนนี้คงจะขาดทุนล่ะนะ
彼は失敗するだろうと思う。[kare wa shippai suru darou to omou]
กลัวว่าเขาจะผิดหวัง
ต่อไปค่ะ คำกริยาในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า กลัว ก็มีนะคะ นั่นคือ 恐れる [osoreru] ไปดูตัวอย่างประโยคกันเลยดีกว่าค่ะ
死を恐れる。[shi wo osoreru]
กลัวความตาย
恐れるな。[osoreru na]
ไม่ต้องกลัว อย่ากลัว
恐れるべきものは何もない。[osoreru beki mono ha nani mo nai]
ฉันไม่มีสิ่งที่ควรจะกลัวเลย
私は火事になるのを恐れる。[watashi wa kaji ni naru no wo osoreru]
ฉันกลัวการการเพลิงไหม้
吠えてる犬を恐れるな。[hoeteru inu wo osoreru na]
อย่ากลัวสุนัขที่กำลังเห่า
雷を恐れる人がある。[kaminari wo osoreru hito ga aru]
มีคนที่กลัวฟ้าร้อง
คำว่า びくびく [bikubiku] ที่แปลว่า กลัว สั่นกลัว หรือกลัวจนตัวสั่น ก็สามารถนำมาใช้แสดงความรู้สึกตอนเรารู้สึกกลัวได้นะคะ พยายามใช้ให้หลากหลายค่ะถ้าใช้เป็น ฟ้าจังรับรองค่ะว่าเพื่อนๆจะรู้สึกสนุกกับการพูดภาษาญี่ปุ่นค่ะ มาดูตัวอย่างประโยคกันดีกว่า
そんなにびくびくするな。[sonnani bikubiku suru na]
ไม่ต้องสั่นกลัวถึงขนาดนั้นก็ได้
怖かってびくびくする。[kowakatte bikubiku suru]
น่ากลัวจนตัวสั่น
そうびくびくすることはない。[sou bikubiku suru koto ha nai]
ไม่จำเป็นต้องกลัวจนตัวสั่นก็ได้
その男はいつもびくびくしている。[sono otoko wa itsumo bikubiku shiteiru]
ผู้ชายคนนั้นกลัวจนตัวสั่นเป็นประจำ
ต่อไปค่ะเรามาใช้ คังโงะ 漢語 หรือคำศัพท์ที่มีแต่ตัวคันจิบ้างดีกว่าเจ้าคะ คังโงะที่แปลว่า น่ากลัว หวาดหลัว นั่นก็คือ 恐怖[kyoufu] ค่ะคำนี้ใช้ยังไงมาดูตัวอย่างประโยคกันดีกว่า
恐怖で青ざめる。[kyoufu de aozameru]
กลัวจนหน้าซีด
まったくの恐怖。[mattaku no kyoufu]
มันน่าหวาดกลัวซะจริงๆเลย
人の恐怖を取り除く。[hito no kyoufu wo torinozoku]
กำจัดความหวาดกลัวของคน
彼は恐怖におびえた。[kare wa kyoufu ni obieta]
เขาตื่นตระหนกกับความหวาดกลัว
どこを見ても恐怖はある。[doko wo mitemo kyoufu ha aru]
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ความหวาดกลัว
ยังไม่หมดนะคะ คำว่ากลัวในภาษาญี่ปุ่นยังมีอีกเจ้าค่ะ คนญี่ปุ่นเขาจะใช้ คาตาคานะโกะ カタカナ語 หรือคำศัพท์ที่เขียนด้วยอักษาคาตาคานะ มาใช้ระบุอารมณ์ตอนกลัวค่ะ คาตาคานะโกะ ในภาษาญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคำทับศัพท์ยืมมาจากภาษาต่างประเทศและ 90 เปอร์เซ็นต์ จะยืมมาจากภาษาอังกฤษเจ้าค่ะ คำๆนั้นนั่นก็คือ ホラー[horaa] ค่ะ คำๆนี้มาจากภาษาอังกฤษตัวนี้ค่ะ horror แปลว่า หวาดกลัว สยองขวัญ ขยะแขยง เรามาดูตัวอย่างประโยคกันดีกว่าจะได้เข้าใจกันมากขึ้นเจ้าค่ะ
ホラー映画に目がない。[hora eiga ni me ga nai]
จุดอ่อนของฉันก็คือหนังสยองขวัญนี่แหละ
このビデオゲームはホラー? [kono video game wa hora]
วิดีโอเกมอันนี้มันน่ากลัวไปไหมตัวเอง
ホラー小説を買いに行きたい。[hora syouzetsu wo kai ni iketai]
อยากจะไปซื้อนวนิยายแนวสยองขวัญ
ต่อไปค่ะ ฟ้าจังคิดว่าสิ่งนี้เพื่อนๆหลายๆคนคงจะสงสัยเหมือนกับที่ฟ้าจังเคยสงสัยแน่ๆเลย นั่นก็คือ 怖い กับ 恐い ควรเขียนด้วยคันจิตัวไหนดี ทั้งๆที่มันก็อ่านว่า [kowai] เหมือนกันแถมความหมายก็เหมือนกัน หรือว่ามันใช้ได้ทั้ง 2 ตัว มันแยกใช้อย่างไร หรือ 使い分け [tsukai wake] มันเป็นแบบไหน มามะ ฟ้าจังจะบอกให้ทราบค่ะ
ฟ้าจังไปหาข้อมูลมาให้แล้วนะคะ สรุปได้ก็คือ มาดูข้อมูลที่เขาสรุปไว้ดังนี้เจ้าค่ะ
โอเคนะคะ ถ้าเราแปลจากข้อมูลที่ฟ้าจังนำมาอ้างอิง จะแปลออกมาได้ว่า "สิ่งที่ใครๆก็รู้สึกกลัวจะใช้ 「恐い」ที่เขียนด้วยคันจิตัวนี้ และ เมื่อตัวเราเองคิดว่ากลัวก็จะใช้ 怖い ที่เขียนด้วยคันจิตัวนี้
ฮู้ย....กระจ่างเลยอะ แหมฟ้าจัง งอ งู 10 ตัวมาเป็นปีๆ ถึงบางอ้อเลยค่ะ เส้นผมบังภูเขาจริงๆเลย
หรือว่าถ้ายัง งง อยู่มาดูข้อมูลอ้างอิงแหล่งที่ 2 เผื่อจะเข้าใจมากขึ้นค่ะ
ค่ะ 怖い ที่เขียนด้วยคันจิตัวนี้มันก็คือความกลัวที่เกิดจากมุมมองของตัวเราเอง แต่ ถ้าเป็น 恐い ที่เขียนด้วยคันจิตัวนี้มันก็คือ สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ น่ากลัวแน่ๆ มีหัวข้อหรือกลุ่มเป้าหมายเกิดขึ้นมาเลยรู้สึกกลัว
อ้าวสุดท้าย คำพังเพยในภาษาญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับความกลัวก็มีนะคะ ของแถมที่ฟ้าจังอยากจะนำมาให้เพื่อนๆได้มีความรู้แน่นๆกันค่ะ นั่นก็คือ
鬼が住むか蛇が住むか。[oni ga sumu ka hebi ga sumu ka]
แปลก่อนนะคะจากบริบทข้างบนมันจะแปลได้ตรงๆว่า มียักษ์อยู่หรือเปล่า มีงูอยู่หรือเปล่า เออ...นั่นน่ะสิไหนเพื่อนๆลองเดาสิคะว่ามันจะเเปลได้ว่าอย่างไร จริงๆแล้วความหมายของคำพังเพยญี่ปุ่นนี้ มันหมายความว่า
บนโลกใบนี้เราไม่รู้เลยว่าจะมีมนุษย์ที่น่ากลัวแบบไหนอาศัยอยู่บ้าง อีกอย่าง เราไม่รู้เลยว่าก้นบึ้งของหัวใจ หรือความรู้สึกลึกๆที่มนุษย์คิดอยู่นั้นจะเป็นเช่นไร มันก็เหมือนกับคำพังเพยที่เขียนไว้นี่แหละค่ะ เวลาเราไปในป่าเราไม่รู้หรอกว่างูมันแอบอยู่ตรงไหน อันตรายรอบด้าน คำพังเพยนี้สอนให้เรารู้จักระวังตัวอยู่ตลอดเวลาค่ะ มีสติในการดำเนินชีวิต ยังไงฟ้าจังก็ฝากไว้ด้วยนะคะ
ค่ะเพื่อนๆหายกลัวกันหรือยังคะ หวังว่าเพื่อนๆคงจะถ่ายทอดและพูด อารมณ์ความรู้สึกกลัวให้ชาวญี่ปุ่นได้เข้าใจกันแล้วนะคะ ฝึกพูดไปเยอะๆค่ะ ฝึกพูดให้หลากหลาย เวลาจะพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ต้องคิดมากค่ะ พูดออกไปเลย ไม่ต้องอาย ไม่ต้องมากังวลเรื่องไวยากรณ์ต้องเป๊ะ ต้องปัง จริงๆแล้วคนญี่ปุ่นนั้น เขาไม่พูดกันเป๊ะขนาดนั้นหรอกค่ะ มันไม่ใช่การเขียนหนังสือที่จะต้องจัดเรียงไวยากรณ์ให้ครบ มั่นใจแล้วพูดออกไป แล้วคุณจะสนุกกับการพูดภาษาญี่ปุ่นค่ะ แค่นี้นะคะ บายค่ะ
แปลและเรียบเรียงใหม่โดย ฟ้าจังกะเทยไทยในญี่ปุ่น
www.youtube.com/c/FahChanChannel
อ่านบทความย้อนหลังผลงานของฟ้าจังทุกบทความได้ที่นี่ค่ะ
ลิงก์ที่มาของรูป
https://goo.gl/images/7qXqFa
https://goo.gl/images/2U5osM
https://goo.gl/images/fqbz3a
https://goo.gl/images/uRp9LG
https://goo.gl/images/HLfqBo
https://goo.gl/images/kYh93d
https://goo.gl/images/zjUUdH
https://goo.gl/images/zSW7n1
https://goo.gl/images/omCB3t
https://goo.gl/images/8ZAoz5
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th