เรื่องความรักบทจะสุขก็สุขจนแทบล้นใจ ถึงคราวจะทุกข์ก็ทุกข์จนแทบกระอัก
แต่ไม่ว่าการที่จะมีรักที่ดีหรือไม่ดี ถ้าเรามองให้เป็นเรื่องธรรมดา
ที่คนทุกคนมีทั้งสุขและทุกข์เข้ามา สมหวัง ผิดหวัง เป็นเรื่องธรรมดา
ที่มนุษย์ทุกคนต้องได้เจอ ถ้าเรามองย้อนประสบการณ์รักที่ผ่านมาของตัวเราเอง
หรือประสบการณ์ของคนอื่น เราจะรู้ว่าจริงๆแล้ว "ความรัก" ได้สอนอะไรเราไว้มากมาย
อยู่ที่ว่าเรา "เรียนรู้" และเอาสิ่งเหล่านั้นกลับมาทบทวน สอนตัวเราเองมากน้อยแค่ไหน
ไม่ว่าเราจะคบคนญี่ปุ่น คนไทย หรือคนชาติไหน ทุกคนล้วนได้ประสบการณ์แตกต่างกันออกไป
แต่ในบล็อกนี้ต้าจะพูดถึงคนญี่ปุ่นว่า "มีแฟนญี่ปุ่นแล้วดียังไง คบแล้วได้อะไรบ้าง"
ทั้งนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวจากตัวต้าเอง ไม่ได้เหมารวมคนญี่ปุ่นทั้งประเทศนะคะ (^____^)
คบแล้วมีแผนสำรองในชีวิต
แฟนญี่ปุ่นต้าขอเรียกว่า "พี่อ้วน" เป็นผู้ชายที่คิดมาก คิดเยอะ แต่ละเรื่องที่คิดมักจะคิดถึง
สิ่งที่แย่ที่สุดก่อน เช่น ถ้าไปเที่ยวประเทศที่ไม่คุ้นเคย จะนึกก่อนว่า ถ้าของหาย
พาสปอร์ตหายหรือโดนขโมย จะทำอย่างอย่างไร ติดต่อสถานทูตได้ที่ไหน สถานทูตตั้งอยู่ที่แถวไหน
โรงแรมที่พัก ใกล้ ไกลมากน้อยแค่ไหน การเดินทางสะดวกไหม ขั้นตอนการขอพาสปอร์ตต้องทำอย่างไร
ตัดภาพมาที่ต้า "ถ้าหายค่อยคิด ยังไม่หายจะคิดเรื่องไม่ดีไว้ก่อนทำไม" (-^.^-) (-^.^-)
บ่งบอกถึงชีวิตที่ไม่ได้มีการวางแผนอะไรไว้เลย ฮ่าๆๆๆๆ (>__< )
ไม่ว่าจะทำอะไรทุกอย่างต้องมีการวางแผน และต้องมีแผนสำรองกรณีฉุกเฉิน
โดยเฉพาะการวางแบบแผนชีวิต การเงิน ครอบครัว โดยที่แต่ก่อนไม่ได้คิดมาก่อน
แค่ใช้ชีวิตให้หมดไปวันๆเท่านั้นเอง "การวางแผนชีวิตคืออะไร ?" หลักๆก็คือ
- เงินสำรองหรือเงินเก็บ (ต้าเขียนไว้ในหัวข้อถัดไป) ที่เก็บไว้ใช้ยามเกษียณหรือกรณีฉุกเฉิน
- ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ยามเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตขึ้นมา คนข้างหลังจะได้รับผลประโยชน์
เท่าที่ต้าทราบมา คนญี่ปุ่นเวลาที่แต่งงานไปแล้ว สามีจะทำประกันไว้เป็นหลักประกันให้กับภรรยาและลูก
เพราะสามีเปรียบเสมือนเสาหลักของบ้าน ถ้าสามีเป็นอะไรไปคนข้างหลังจะได้ไม่ต้องลำบากเรื่องเงินมาก
- การดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราลงไปเรื่อยๆ คนญี่ปุ่นถึงสวัสดิการชีวิตหลังเกษียณทางรัฐจะมีให้ค่อนข้างดี
อยู่ได้ตามอัตภาพ ถ้าไม่ฟุ่มเฟือยแต่จะดีกว่าถ้าลูกๆยื่นมือเข้ามาช่วย โดยเฉพาะเวลาที่เจ็บป่วย ได้รักษาที่โรงพยาบาลที่ดีกว่า
เพราะร่างกายยิ่งแก่ตัวลงไป ภูมิต้านทานก็ลดลง โรครุมเร้า ไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ซึ่งเราไม่สามารถไปฝืนธรรมชาตินี้ได้
- การวางแผนการมีลูก รวมไปถึงค่าใช้จ่ายการเลี้ยงดูลูกและให้การศึกษาบุตร
ส่วนใหญ่ปัญหาเกิดขึ้นแล้ว เราถึงค่อยแก้ไปเป็นจุดๆโดยไม่มีการเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นไว้ก่อน
พอถึงจุดนี้ถึงได้รู้ว่าการที่เราเตรียมความพร้อมตัวรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น
ดีกว่ารอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยหาทางแก้ เพราะเรื่องบางเรื่องอาจสายเกินแก้แล้วก็ได้.......
คบแล้วเงินเก็บเยอะขึ้น
เป็นไหมเวลาที่เงินเดือนออก เราจะใช้กิน ใช้เที่ยว Shopping หมดไปกับเครื่องสำอาง
รองเท้า เสื้อผ้า พอสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ นับถอยหลังรอเวลาเงินเดือนออก ฮุ ฮุ ฮุ (-^.^-) (-^.^-)
ยิ่งตอนที่เรียนจบใหม่ๆ สนุกกับการหาเงินได้เอง ซื้อๆๆอย่างเดียว
ไม่เคยเก็บ มีเท่าไหร่ใช้หมด บางครั้งหาเงินได้ไม่พอกับความต้องการ
"สมัครบัตรเครดิตจ้าาาา…." รูดๆๆๆ อย่างเมามัน
มารู้ตัวอีกทีก็ตอนโดนเรียกเก็บหนี้ เห้ยยย!!! นี่เรารูดไปเยอะขนาดนี้เลยเหรอ??
…ทีอย่างนี้ทำมาตกใจ ตอนรูดเอาๆ ทำไมไม่ตกใจ!!....
"แฮะๆๆๆ ก็มันเพลินอ่ะ รูดง่าย รูดไว รูดปรื๊ดๆๆ" (>////<)
พี่อ้วนต้องจับมานั่งปรับทัศนคติใหม่ โดยการตั้งคำถามและพูดถึงแง่คิดการใช้ชีวิตกับว่า
"ชีวิตที่ไม่มีการวางแผน ก็เหมือนกับเรือที่ปล่อยลอยไปตามคลื่นแต่ไร้ซึ่งเป้าหมาย" บ่ะ! คม!
…เวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ว่าตัวเราเองหรือคนในครอบครัวเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
ที่จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ เวลานั้นเราจะร้องขอให้ใครเขามาช่วย ? ถ้าคนอื่นเขาช่วยไม่ได้
จะไปว่าเขาใจจืด ใจดำไม่ได้นะ เพราะคนทุกคนเขามีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบที่ต้องใช้เงิน
ถึงเขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่นั่นก็คือเงินเขา เขาหามา เขาก็ต้องการใช้ส่วนตัว
ตัวเราเองต่างหากที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง ควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดีและต้องมีเงินเหลือเก็บ
ข้าวของซื้อได้แต่ก็ต้องรู้ลิมิทตัวเอง ยิ่งแก่ตัวไปยิ่งต้องมีเงินเก็บให้เยอะ
จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน……ต้า // อาเมนนนนน _//\\_
จากวันนั้นต้าก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง โดย 20% ของเงินเดือน
จะต้องหักเอาไว้เป็นเงินเก็บเข้าบัญชีทุกๆเดือน ช่วงแรกทำยากมากกก... แต่พอเวลาผ่านไปหลายๆปี
เงินเก็บในบัญชีมีเพิ่มเยอะขึ้น ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ขนาดนี้ จากวันนั้นคิดแค่อยาก
มีเงินเก็บแต่ไม่คิดเก็บอย่างจริงจัง กลับตอนที่เริ่มทำอย่างจริงจังโดยพี่อ้วนจะถามทุกเดือนว่า
"เดือนนี้เอาเงินเข้าบัญชีหรือยัง" ปัจจุบันเลิกถามไปแล้ว เพราะทำจนกลายเป็นนิสัย
"การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ" เวลาที่เรามีเงินเก็บมันรู้สึกอุ่นใจกว่าตอนไม่มีเยอะเลย
เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันจริงๆเกิดขึ้น เราก็ยังมีเงินสำรองในการดำเดินชีวิตต่อไป
"ต้าสนับสนุนให้ทุกคนเก็บออมเงินกันเยอะๆนะคะ" (^___^)
เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกัน
การที่เราจะใช้ชีวิตคู่กับใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็ตาม ต้าว่ามันไม่ง่ายเลยสำหรับต้า
เพราะต้าเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงมากกกก……แต่ไม่ถึงกับปิดตัวเอง
ไปได้กับทุกคน แต่ไม่ค่อยให้ใครเข้ามาในเขตพื้นที่ส่วนตัว ทีนี้พอมาใช้ชีวิตกับแฟนญี่ปุ่น
แรกๆค่อนข้างที่จะอึดอัดและหงุดหงิดง่าย พี่อ้วนเองก็คงรู้ มีหลายอย่างที่ไลฟ์สไตล์
ความคิดและแนวทางการใช้ชีวิต แตกต่างกันสุดขั้ว มีหลายๆอย่างในตัวพี่อ้วน
ที่ต้าไม่ชอบและหลายๆอย่างในตัวต้าเองที่พี่อ้วนไม่ชอบเช่นกัน (>///<) (>///<)
แต่ละคู่มีวิธีการบริหารการเงิน ครอบครัวหรือจัดการชีวิตคู่ไม่เหมือนกัน ต้าเพียงเสนอ
ในมุมมองของตัวต้าเองเท่านั้น ชีวิตคู่ไม่มีสูตรสำเร็จและวิธีตายตัว ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแต่ละคนไป
สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคู่ คือ "การหันหน้าคุยกันตรงๆ" หลายๆอย่างเราและเขาอาจคิดไม่เหมือนกัน
ต้องค่อยๆปรับและเรียนรู้ ทุกอย่างไม่ได้ง่ายและไม่ได้ราบรื่นได้ตลอด
แต่เราสามารถที่จะเรียนรู้ อดทนในเรื่องที่ควรอดทน ให้อภัยในเรื่องที่ควรให้อภัยกันได้
จึงมีคำพูดที่ว่า "ชีวิตคู่คือการอดทน"
แล้วความรักของเพื่อนๆ I Love Japan สุขหรือทุกข์ แวะมาแชร์ แบ่งปันกันได้ที่หน้าเพจนะคะ (^___^)
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th