t ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

ฮาโลวีนนี้ต้องมาปล่อยผีที่ชิบูย่า!

ฮาโลวีนนี้ต้องมาปล่อยผีที่ชิบูย่า!

By , Saturday, 08 October 2016

​ถ้าถามใครต่อใครว่า แหล่งชอปปิ้งที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนได้รับฉายาว่าเป็น Shopping District แห่งโตเกียวคือที่ไหน ที่แห่งนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นหรือชาวต่างชาติก็ต้องรู้จัก เพราะมีทั้งรูปปั้นสุนัขที่โด่งดังเหมือนเป็นสัญลักษณ์หรือจุดนัดพบของที่นี่ ห้าแยกที่ใครต่อใครต่างต้องมาเช็คอินหรือถ่ายรูปเป็นแลนด์มาร์คว่าได้มาถึงแล้ว

...รู้ยังว่าที่ไหน ใบ้มาขนาดนี้เฉลยกันเลยเถอะ (-_-) 

สถานที่นั้นคือ  "ชิบูย่า" (渋谷) ยังไงล่ะ!

แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งกดปิดไป เพราะสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ เรามั่นใจว่ามันไม่ใช่เรื่องที่รีวิวกันเกลื่อนแน่ๆ เพราะเรากำลังจะเล่าประสบการณ์ที่เราได้ไปเที่ยวงาน "Halloween Costume Street Party" ปี 2015 ที่จัดอยู่ที่ชิบูย่านั่นเอง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก jennechrisville.com
'เทศกาลฮาโลวีนปาร์ตี้' แค่ได้ยินก็ตื่นเต้นแล้วสำหรับสาวไทยตาดำๆ อย่างเรา เพราะที่ไทยไม่ได้มีการจัดงานอลังการหรือมีคนแต่งคอสตูมจัดเต็มเหมือนที่ญี่ปุ่น นับว่าเป็นโชคดีที่ปีที่แล้วเรามาอยู่ญี่ปุ่นทันเดือนตุลาคมพอดี

สำหรับงานฮาโลวีนในชิบูย่าจะถูกจัดเป็นประจำวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเทศกาลไหนๆ คนญี่ปุ่นจะค่อนข้างเต็มที่มาก ขนาดช่วงต้นเดือนตุลาคมก็เริ่มมีชุดหรือพร็อพสำหรับฮาโลวีนวางขายแล้ว ยิ่งช่วงก่อนหน้าวันฮาโลวีนไม่กี่วัน จะเห็นว่าที่ดองกี้หรือที่ Loft จะเต็มไปด้วยวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มาเลือกซื้อชุดกันอย่างคับคั่ง

ตอนแรกก็ว่าจะซื้อไปใส่เล่นกับเค้าบ้าง แต่เห็นราคาแล้วขอบายค่ะ ถ้าไม่ได้อยู่ญี่ปุ่นนานๆ ซื้อไปไม่คุ้มอย่างแรง เลยเอามาลองแล้วถ่ายรูปเล่นเฉยๆพอ

แต่อย่าเพิ่งหมดหวังไปค่ะ! เรายังมีที่พึ่งสุดท้ายคือ "ร้านไดโซะ" ทุกอย่าง 108 เยนนั่นเอง ร้านไดโซะเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากลงทุนอะไรมากเพราะทุกอย่างราคาถูกแสนถูก แถมไม่ว่าเทศกาลไหนๆ ก็จะมีพร็อพออกมาขายเสมอ เราเองก็ไปสอยหมวกแม่มดกากๆ แก้ขัดมาใบนึง​

พอถึงวันฮาโลวีน นี่ก็ตื่นเต้นแต่งตัวแต่งหน้าเอง แต่ทำผมไม่เป็น ช่างมัน! เอาหน้าอย่างเดียวพอ ลงทุนเปิดคลิปใน Youtube แล้วแต่งตาม แต่ทำไมมันไม่เหมือนฟะ? คอนเซ็ปต์ที่คิดไว้คือผีปากฉีกค่ะ แต่ที่ได้ออกมาคืออีนี่มันตัวอะร้ายยย (TOT)

อ๊ะ! อย่าลืมว่าเดือนตุลาอากาศค่อนข้างเย็นแล้วค่ะ แนะนำว่าพกเสื้อกันหนาวติดไปด้วยก็ดี แต่ถ้ากลัวผิดคอนเซ็ปต์ก็ให้เพื่อนคนที่ไม่แต่งคอสตูม และเป็นตากล้องจำเป็นไปด้วยนี่ล่ะค่ะถือ 5555 (เลวมาก)

(หน้ากากแฟนซีที่ Loft สาขาชิบูย่า ด้านหลังเต็มไปด้วยชุดแฟนซี)
จากที่จินตนาการไว้ว่าไปถึงสถานีรถไฟต้องเจอคนอื่นแต่งคอสตูมจัดเต็มแบบพวกเราแน่ๆ แต่พอไปถึงสถานีจริงๆ มันกลับตรงข้ามจากที่คิดไว้อย่างสิ้นเชิง เพราะไม่มีใครแต่งชุดแฟนตาซีมาเลย!

นี่ก็เงิบนึกว่าตัวเองจำวันผิด คือทั้งคุณลุงคุณป้าเด็กน้อยต่างมองพวกเราเป็นตัวเดียว เปรียบเสมือนว่าแก๊งผีบ้าพวกนี้หลุดออกมาจากวัดที่ไหน ความรู้สึกตอนนั้นบอกได้คำเดียวว่า อยากเอาหัวมุดรางรถไฟมาก (T_T)

นี่ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเอง ฉันสวยสินะแกเลยมอง *^* (/คนอ่าน : ขอตบยัยคนเขียนแป๊บ)

เรากับเพื่อนใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงนั่งรถไฟมาจนถึงสถานีใกล้ชิบูย่าก็เริ่มเจอวัยรุ่นทั้งชาวญี่ปุ่น และชาวต่างชาติแต่งตัวแฟนตาซีมากขึ้น ตอนนั้นใจเริ่มชื้นเพราะรู้สึกเหมือนเจอเพื่อน แถมทุกคนก็ดูสนุกสนานมาก แม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่ก็ทักทายกันอย่างเป็นมิตร ประมาณว่าแต่งเป็นตัวอะไรมา นายๆ หล่อจังขอไลน์ได้มั้ย แฮ่กๆ..,(อันหลังไม่เกี่ยว)

(ส่วนใหญ่ตามหอพักมหาลัยก็จะมีจัดปาร์ตี้ฮาโลวีนค่ะ เช่น หอพักต่างชาติ)

และแล้วในที่สุด…พวกเราก็มาถึงที่ชิบูย่าจนได้ค่ะ เย้!

แต่เดี๋ยวนะ....#@%$^#$^()* นี่มันคนหรือหนอนฟะเนี่ยยย! คืออะไร วันนี้มนุษย์ชาวญี่ปุ่นทุกคนมาชุมนุมที่ห้าแยกกันโดยมิได้นัดหมายเหรอ (=[]=)

คุณผู้อ่านจินตนาการนะคะ ชิบูย่าที่คนเยอะตลอดเวลาอยู่แล้ว ให้คูณจำนวนคนจากที่เราเห็นกันปกติไป 3 เท่าค่ะ!! จากที่หนาวๆ ก็กลายเป็นร้อนขึ้นมาเพราะแต่ละคนแย่งกันหายใจ ใครสูงก็ได้เปรียบไป ถ้าเปรียบให้เห็นภาพคงเหมือนบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ที่สีลมบ้านเรา พวกเราแทบไม่ต้องก้าวขาเดินเลยเพราะโดนเบียดจนจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์ต้องจับมือกันไว้ตลอด ไม่งั้นหลงทางแน่ๆ

(เดี๋ยวจะหาว่าเวอร์ ต้องถ่ายรูปมาฝากกันหน่อย) 

ขอบอกว่าติดอยู่ตรงห้าแยกขยับไม่ได้เกือบครึ่งชั่วโมง นี่ถ้าเปรียบคนเป็นรถยนต์คงนึกว่ากำลังติดอยู่ห้าแยกลาดพร้าว (-_-)  ถ้าใครอยากเบียดกับคนญี่ปุ่นแนะนำให้มา เนื้อแนบเนื้อของจริง แต่ระวังโดนเหยียบ Teen ด้วยค่ะ เพื่อนเราโดนส้นเข็มไปถึงกับร้องจ๊าก แทบจะไม่ต้องก้าวขาก็ไหลไปตามทางได้

​ถ้าพูดถึงบรรยากาศ ภายในงานก็ครึกครื้นตลอดทั้งคืน นับถือในความลงทุนของหนุ่มสาวญี่ปุ่นจริงๆ เพราะทุกคนต่างแต่งตัวมาแบบไม่มีใครยอมใคร เลือดสาดหัวขาดปากฉีกก็มา แต่ส่วนใหญ่จะออกแนวคอสเพลย์มากกว่า มีทั้งสมจริงเห็นแล้วถึงกับขนลุก แถมบางคนก็มาสไตล์น่ารักใสๆ 

สำหรับหนุ่มๆ นี่ขอเม้าท์ว่าอาหารตาทั้งนั้น พยายามไม่ไปจ้องเค้าเดี๋ยวจะโดนหาว่าสาวไทยโรคจิต ฮี่ๆๆ (-,.-) ส่วนสาวๆ บางคนก็เซ็กซี่กันสุดๆ นึกว่างานพริตตี้มอเตอร์โชว์ บางคนก็มาแนวสายแบ๊วน่ารักมากๆ สำหรับปี 2015 เทรนด์ที่เห็นบ่อยๆ เลยคือ Minions และ Tokyo Ghoul

​นอกจากทุกคนจะได้สนุกสนานกับการถ่ายรูปแล้ว ในค่ำคืนนั้นยังมีโชว์พิเศษให้ได้ชมกันจากผู้มาเที่ยวงาน เช่น คอนเสิร์ต มายากล ร้องเพลง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในวันนั้นจะได้เห็นคนญี่ปุ่นทำอะไรแปลกๆ  มีทั้งผู้ชายแมนๆ แต่งหญิง แต่งตัวล้อเลียนคนดังการเมืองเหมือนบ้านเรา ผีจีนผีอะไรมาหมด แต่เสียดายไม่เจอผีไทย ถ้าแต่งเป็นผีใส่ชุดไทยมา เรารับรองว่าได้เกิด!

บางแก๊งน่ารักมากๆ ค่ะไม่กลัวกล้องเลย แถมหันมาโพสต์ท่าให้อีก
ขอย้ำว่าแก๊งนี้แมน 10000% แต่งหญิงกันได้แซ่บมาก
คนนี้แต่งได้สมจริงมาก (คนญี่ปุ่นนะ) จนต้องขอถ่ายรูปเป็นที่ระทึก เอ้ย! ระลึกซะหน่อย
(เจอแล้วอยากอุ้มหมีกลับบ้านจังเลย (-,.-) ปล.ต้องกราบขออภัยอย่างแรงที่มีแต่รูปหนุ่มๆ ค่ะ แหะๆ)
สภาพทุกคนจะประมาณนี้ค่ะ เหมือนไปผ่านสมรภูมิรบที่ไหนมา

​...เดินเล่นเพลินๆ ดูนาฬิกาอีกทีก็ตีหนึ่งกว่าแล้ว...

...อ้าว? ตีหนึ่งแล้วทำไมล่ะ…

...ก็กลับหอไม่ได้น่ะสิ!! (=O=)...

ข่าวร้ายคือ...พวกเรากลับไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายค่ะ สุดท้ายพวกเราต้องวางแผนหาที่ค้างคืนที่ใหม่ในชิบูย่า โดยมีข้อกำหนดคือต้องราคาถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้ (เนื่องจากงบหมด) ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการนอนในห้องคาราโอเกะครั้งแรกนั่นเอง

ในวันนั้นพวกเราได้จองห้องคาราโอเกะซึ่งเป็นโปรโมชั่นถึงเช้า หารกันราคาคนละประมาณ 3 พันกว่าเยน โชคดีที่ได้ห้องสุดท้ายถึงแม้จะเล็กไปหน่อย ในคืนนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหนคนก็เยอะมากค่ะ ทั้งอิซากะยะ (ร้านเหล้าญี่ปุ่น) แมคโดนัลด์ คาราโอเกะรวมไปถึงผับ  

การอยู่ยันเช้าในญี่ปุ่นไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะ ถ้าใครคิดจะลอง แนะนำว่าควรเตรียมทิชชู่เช็ดเครื่องสำอาง หรือไม่ก็แปรงสีฟัน ยาสีฟันมาด้วยจะดีมากค่ะ ที่สำคัญคือ Power Bank และสายชาร์จจำเป็นสุดๆ

จนกระทั่งถึงเวลาเช้าประมาณตี 5 กว่า เราและเพื่อนแวะกินอาหารเช้าที่แมคโดนัลด์และนอนพักสักครู่ นอกจากพวกเราแล้ว ก็มีวัยรุ่นอีกจำนวนมากที่อยู่ที่ชิบูย่าจนถึงเช้า ทำให้ในวันนั้นไม่ว่าจะเป็นห้องคาราโอเกะหรือร้านอาหารฟาส์ตฟู้ดที่เปิด 24 ชั่วโมง เต็มไปด้วยผู้คนที่แวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย​

ทันทีที่พวกเราออกมาจากแมคโดนัลด์ ภาพที่เราเห็นตรงหน้าทำให้เราต้องรู้สึกทึ่งกับคนญี่ปุ่นอีกครั้ง 

คือกลุ่มอาสาสมัครจำนวนมาก ทั้งเด็กเล็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ต่างร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเก็บขยะที่เกลื่อนกลาดไปทั่วท้องถนน บางกลุ่มก็มากันเป็นครอบครัว บ้างก็เป็นนักศึกษา บ้างก็แต่งเป็นผีเป็นฮีโร่

สภาพถนนในตอนนั้นแตกต่างจากเมื่อคืนเป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างกลับมาสะอาดอีกครั้ง ไม่มีขยะหลงเหลือเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ทั้งๆ ที่ในคืนก่อนบริเวณถนนนั้นเต็มไปด้วยขวดสาเกและกระป๋องเบียร์กระจัด กระจายไปทั่ว 

และที่เราประทับใจที่สุดคือ 'ทุกคนต่างมาด้วยใจและรอยยิ้ม' 

ซึ่งเราคิดว่านี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยปลูกฝังความเป็นระเบียบวินัยตั้งแต่เด็ก ถึงพวกเขาจะเมาสภาพเละเทะกันแค่ไหนแต่ก็ยังมีความรับผิดชอบอยู่ดี หวังว่าสักวันเราคงได้เห็นภาพแบบนี้ในบ้านเราบ้าง เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยส่วนรวมแล้วยังทำให้บ้านเมืองเราดูสะอาดขึ้นอีกด้วยนะ  ^^

ขอบคุณรูปภาพจาก http://mcot-web.mcot.net/lively/content.php?id=563718cf938163da318b461f

เมื่อค่ำคืนฮาโลวีนผ่านพ้นไป ทุกอย่างก็กลับมาสู่สภาวะปกติ ถ้าพูดถึงข้อเสียของงานนี้ ก็แอบอันตรายอยู่เล็กน้อยค่ะ เพราะคนเยอะอาจเกิดการลวนลาม ล้วงกระเป๋าขึ้นได้ (ที่สำคัญระวังพวกลุงขี้หลีด้วยก็ดี) ดังนั้นควรไปกับเพื่อนหลายคนและอย่าประมาทจะดีที่สุด

ถ้าคุณผู้อ่านมีโอกาสก็อยากให้ลองแวะมาดูสักครั้งนะคะ นี่เรากลับไทยมาแล้วยังอยากไปอีกเลย บางทีคุณอาจได้เห็นคนญี่ปุ่นในมุมที่คุณไม่เคยเห็น และมันอาจเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ว่า 

'ครั้งหนึ่ง…ฉันก็เคยมีโอกาสได้มางานฮาโลวีนที่ประเทศญี่ปุ่นนะ'

รูปภาพบางส่วนที่ไม่ได้ให้เครดิตถ่ายเองโดยเกด (ผู้เขียนบล็อกนี้) ห้ามนำออกไปใช้ต่อก่อนได้รับอนุญาตค่ะ

บทความล่าสุด