เอาล่ะครับมาต่อกันครับ คราวที่แล้วผมและท่านผู้ภรรฯ (คุณภรรยา) ได้เดินทางมาถึงจังหวัดนีงาตะ และพักค้างคืนเพื่อรอออกเดินทางสู่เกาะซาโดะในรุ่งเช้า(เช้ามืด ^^") ซึ่งก็ต้องขอบอกกันเลยว่าต้องตื่นกันเช้ามากๆ เช้ามากกว่าตื่นไปทำงานซะอีก ^^" แต่ถ้าหากเพื่อนๆ บางคนที่อยากจะตามรอยทริปซาโดะนี้ และไม่ต้องการตื่นเช้า(แบบแหกขี้ตา)กันมาก ก็สามารถเลือกรอบเรือเฟอรี่อื่นและจัดโปรแกรมเที่ยวให้สอดคล้องกับเวลาเรือ จะจัดเวลาเที่ยวนีงาตะหรือจะพักแรมบนเกาะซาโดะกันก็ได้ตามสไตล์ใครสไตล์มันครับ
ตัวเมืองนีงาตะนั้นเป็นเมืองที่เรียบๆ เงียบสงบอยู่ริมชายฝั่งค่อนไปทางตอนเหนือ ห่างจากโตเกียวประมาณ 300 กว่ากิโลเมตร นีงาตะเป็นเมืองที่ไม่เน้นเรื่องแสงสีมากเท่าไหร่นัก วิถีชีวิตผู้คนที่นี่ค่อนข้างไปทางเรียบง่าย ไม่รีบเร่งเหมือนโตเกียว/โอซาก้า สักเท่าไหร่ ที่นี่มีบริษัทเดินเรือพาณิชย์อยู่หลายบริษัทด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ Sadokisen (ซาโดะคิเซ็น) บริษัทเดินเรือพาณิชย์ขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ซึ่งมีบริการเรือเฟอร์รี่โดยสารไปกลับเกาะซาโดะ ใหญ่ไม่ใหญ่ดูได้จากเส้นทางการเดินเรือในรูปด้านล่างนี้กันครับ คือ...พี่เค้าไม่ได้มีแค่เส้นทางเดินเรือไปแค่เกาะซาโดะและในญี่ปุ่น แต่ไปไกลถึงจีน,เกาหลี,รัสเซีย ฯลฯ
ต่อไปคือ การจองตั๋วโดยสารเรือเฟอร์รี่กับบริษัทเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดในนีงาตะอย่าง Sadokisen นั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากมายครับ แต่มันติดตรงที่ผมไม่สามารถทำการซื้อตั๋วของเค้าผ่านทางหน้าเว็บ sadokisen.co.jp ได้เพราะในตอนนั้น เขากำลังปิดปรับปรุงฟังค์ชั่นการจองตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่นั่นเอง ทำให้ในตอนนั้นผมรู้สึกว่ามันช่าง... "มืดบอด" เอาซะเหลือเกิน ขอสารภาพกันตามตรงเลยครับ แต่ด้วย "แรงบันดาลใจ" ตัวใหญ่เบิ้มอย่างเรือทาไรบุเนะ ที่มันวิ่งเข้ามาชนผมและภรรยาอย่างจังไปแล้วก่อนหน้านี้ ความพยายามไม่ย่นย่อท้อจึงได้บังเกิดขึ้นในใจ ผมคิดอะไรไม่ออกเลย นอกจากการส่งอีเมล์ไปหาเจ้าหน้าที่ของซาโดะคิเซ็นโดยตรง เพื่อแจ้งว่าเราต้องการจะซื้อตั๋วโดยสารเรือเฟอร์รี่ของเขา พร้อมด้วยรายละเอียดการเดินทางว่า ขาไปจะไปกับเรือเที่ยวไหน-กลับเรือเที่ยวไหน, เรือลำไหน, ชั้น(Class)อะไร ก็เรียบเรียงเป็นภาษาอังกฤษอยู่ยาวนานแล้วจึงได้ส่งไป แต่ก็รออยู่แค่เพียง 1 วันเท่านั้น เจ้าหน้าที่ก็ตอบอีเมล์กลับมาพร้อมเปิดใบ Voucher มาให้เสร็จสรรพ ซึ่งถ้าเป็น ณ ตอนปัจจุบันนี้ เพื่อนๆ น่าจะเข้าไปทำการจองตั๋วเรือเฟอร์รี่เองผ่านหน้าเว็บ sadokisen.co.jp กันได้แล้วล่ะครับ
ผมเลือกตั๋วเรือแบบ 2nd Class พร้อมที่นั่งพรม...?? (Car ferry/2nd Class/Cabin with Carpeted floor space) เรือเฟอร์รี่แบบขนรถยนต์ได้/ชั้น2/ที่นั่งพื้นพรม!! มันเป็นยังไงหว่าา? เดี๋ยวไปชมกันครับ ส่วนเส้นทางเดินเรือของที่นี่เค้ามีทั้งหมด 3 เส้นทาง คือ
ก่อนจะไปเตรียมตัวเข้านอน เพื่อตื่นเช้ามืดไปลงเรือเฟอร์รี่ตอนเช้ารุ่งขึ้น... มีเก็บมาฝากกันสักเล็กน้อยครับ เผื่อเพื่อนๆ จะสงสัยว่า เอ๊ะ... ท่าเรือนั้นไกลจากโรงแรม Niigata Daiichi แค่ไหน และถ้านั่งแท็กซี่จะแพงมากมั้ย เพราะว่ามันเกิดคำถามเหล่านี้กับผมนั่นแหละครับ รวมกับว่าเป็นคนชอบวิ่งออกกำลังกาย ก็เลยออกไปวิ่งเพลินๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นลงเรื่อยๆ ถึง 8 องศา เดินไปวิ่งไปตาม Google map เพื่อสำรวจเส้นทางไปด้วย เผื่อว่าตอนเช้าจะมีเวลาและเรี่ยวแรงพอให้ฮึดเดินกันจากโรงแรมไปท่าเรือ (มีความงก..ที่อยากจะประหยัดค่าแท็กซี่ ฮ่าฮ่า) จากแผนที่เดินเท้า 2.3 กิโล ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง สภาพอากาศ และความที่คุณภรรยาเป็นคนชอบการเดินมาาากกก(ประชด) เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะเดินไปท่าเรือตอนเช้ามืดนั้น เป็นอันตกไปครับ ^^"
และแล้ววันแห่งการออกนอกชายฝั่งในต่างแดน เป็นครั้งแรกในชีวิตก็ได้มาถึงในเช้าของวันที่ 11 เม.ย.59 เราตื่นกันแต่เช้ามืด ผมตื่นตี 3 ครึ่ง ส่วนคุณภรรยาของผมนั้นต้องตื่นตี 3 ก็อย่างว่าล่ะครับ ภารกิจคุณผู้หญิง... แต่งหน้า แต่งตัว ฯลฯ เอย ก็เลยต้องเผื่อเวลาเยอะหน่อย ถึงเวลาตี 4 ครึ่ง มีโทรศัพท์จากฟร้อนท์ของโรงแรมมาแจ้งว่ารถแท็กซี่ที่นัดไว้มาถึงแล้ว (อันนี้แจ้งฟรอนท์ของทางโรงแรมไว้ตั้งแต่ตอนเช็คอิน ซึ่งทางโรงแรมบริการให้เราอย่างดีมาก) ก็ลงมาเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม แล้วกระโดดขึ้นแท็กซี่มุ่งหน้าสู่ Niigata port ท่าเรือของ Sadokisen กัน บรรยากาศตอนนั้นฝนตกและอากาศเย็นมากถึง 0 องศา เสื้อผ้าไม่ค่อยพร้อม (แอบทรมาน ใครจะนึกว่ามาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าซากุระจะหนาวได้ขนาดนี้) ที่อากาศเป็นแบบนี้เนื่องจากพายุฝนพัดเข้าชายฝั่งตอนกลางดึก (ผมถามสตีฟ จ๊อบส์ ไว้ตั้งแต่ก่อนเข้านอน และท่านเทวดาจ๊อบส์ ไม่ค่อยจะพลาดซะด้วย ตรงเด๊ะ!!) ตอนนั้นมีความหวาดวิตก กังวล เครียด มโน ฟุ้งไปไกลว่าตารางเดินเรือจะเลื่อน เพราะสภาพอากาศที่แปรปรวนในเช้านี้ > <"
ปล. ที่ผมบอกว่า "ถามสตีฟ จ๊อบส์" นั้นผมหมายถึง ผมเปิดดูพยากรณ์อากาศจาก app.Weather ใครที่จะเดินทางแบบมีสภาพอากาศเป็นตัวแปร ควรเช็คไว้ล่วงหน้าก่อนจะได้เตรียมตัวเผื่อเอาไว้ครับ "เทคโนโลยีมีอยู่ในอุ้งมือ จะถือเล่นเฉยๆ ก็น่าเสียดายครับ ^^"
ประมาณเวลาตีห้าสิบห้านาที ที่ประตูผู้โดยสารเริ่มมีผู้คน ส่วนมากเป็นคนญี่ปุ่นที่ดูเหมือนจะไปทำงาน หรือกลับบ้านบนเกาะมากกว่าไปท่องเที่ยว มาถึงจุดนี้ได้ก็แสดงว่าตารางเดินเรือยังคงเดิมสินะ ไม่โดนเลื่อนเพราะสภาพอากาศ เย้!!
ขอสารภาพเลยครับว่ามีความวิตกกังวลมาก ด้วยความที่ไม่เคยเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่มาก่อน พอเจอสภาพอากาศแปรปรวนแบบวันนี้เข้าไปก็แอบเครียด แอบลุ้นครับ แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดีและยังคงเป็นไปตามแผนการเที่ยวที่วางไว้ได้อยู่ อันนี้บอกไว้เป็นข้อมูลเผื่อเพื่อนๆ เดินทางไปแบบผมแล้วเจอสภาพอากาศแปรปรวนแบบนี้เหมือนกัน จะได้คลายความวิตกกังวลครับ เพราะว่าเรือเฟอร์รี่จะไม่หยุดหรือเลื่อนเวลาเดินเรือเพียงเพราะติดฝนลม(ระดับปกติ) ครับ
ปล. แต่ถ้าเป็นเมื่อคืนสิไม่แน่นะ เพราะฝนลมนี่อู้เลยครับ นอนสะดุ้งกับเสียงลมพัดวูบๆๆ ตลอดเวลา
ที่นั่งพรมนั่นเอง เอง เอง เอง เอง เอง!! (เอ้ยย..echo เยอะไป!!) คืออย่างนี้ครัช... ด้วยความที่ระยะเวลาในการเดินทางนั้นยาวนานถึง 2 ชม.ครึ่ง แถมยังออกเดินทางเช้ามากๆ ทาง Sadokisen คงจะเล็งเห็นว่ามีผู้โดยสารที่ต้องการพักผ่อนนอนหลับจึงได้มีคลาสนี้ให้บริการ ฮ่าฮ่า นอนกันยาวๆ ปายยย :D
บนเรือมีร้านอาหารและเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติให้เลือกซื้อมากมาย รวมถึงห้องเกมและคาราโอเกะด้วย (เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา) หิวๆครับ ก็เลยไปซื้อนมจากเครื่องขายของอัตโนมัติมากิน ดูสิ..ขนาดกล่องนมยังเป็นนกโตกิเลยอ่าา (น่ารักจุง) ^^
เรือเทียบท่าตรงเวลา 8:30 น. แบบญี่ปุ่นๆ (เป๊ะๆ นั่นเอง) ตามที่คาดไว้ อิอิ
เอาล่ะครับ แรงบันดาลใจได้พัดพาผมและคุณภรรยามาไกลจากบ้านถึงสี่พันกว่ากิโลเมตร จากโตเกียวมาไกลถึงนีงาตะอีกสามร้อยกว่ากิโลเมตร แถมยังพัดออกจากชายฝั่งนีงาตะมาอีก 2 ชั่วโมงครึ่ง มาถึงตรงนี้.. ก็ยังไม่จบนะครับ เรายังต้องเดินทางต่อบนเกาะซาโดะเพื่อมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเป้าหมาย Ogi town ที่มีเรือทาไรบุเนะรอเราอยู่
จะไปกันต่อยังไง จะเจออะไรบ้าง และเราทั้งสองคนจะได้ไปลงเรือทาไรบุเนะตามที่ได้วาดหวังตั้งใจกันไว้หรือไม่ ? ? ?
หมายเหตุ : ภาพปก จาก http://www.sadokisen.co.jp/language/en/img/home/img_main.jpg
ผู้อ่านท่านใดสนใจทัวร์ส่วนตัวเที่ยวประเทศญี่ปุ่น สามารถคลิกมาชมได้ที่ www.ilovejapantours.com/th นะครับ มีไกด์คนไทยพร้อมรถตู้ให้บริการครับ!
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th