t ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

แชะ @คันไซ-นาโกยา: โอซาก้า

แชะ @คันไซ-นาโกยา: โอซาก้า

By , Thursday, 25 August 2016

สวัสดีมิตรรักแฟนภาพทุกท่านครับ ผมกลับมาเล่าเรื่องถ่ายภาพต่อหลังจากวันหยุดยาวที่ผ่านมา ^^

คุณผู้อ่านเชื่อไหมครับว่า ม๊าเคยเอาดวงของผมไปให้หมอดู แกบอกว่า ผมมีดวงจะเที่ยวบ่อย

55555555555555555555

ซึ่งก็น่าจะสอดคล้องกับหมอดู (มั้ง) เพราะในชีวิตนี้ ผมเคยเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 5 ครั้ง 5 คราจนถึงปัจจุบัน (นับถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2016 นะครับ) คือ

ครั้งที่ 1 "โซโล่โตเกียว" สงกรานต์ 2012

ครั้งที่ 2 ฮอกไกโด ปีใหม่ 2013

ครั้งที่ 3 "เมดเลย์ฮอกไกโด-โตเกียว" ปีใหม่ 2014

ครั้งที่ 4 คันไซ-นาโกยา ปีใหม่ 2015

และครั้งที่ 5 ฟุกุโอกะ-คันไซ สงกรานต์ 2015

สำหรับบล็อกนี้ผมขออนุญาตท่านผู้อ่านเล่าเรื่องการเดินทางครั้งที่ 4 ก่อน เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางไปญี่ปุ่นในฐานะ "ช่างภาพ" ครับ ^^

ญี่ปุ่นครั้งที่ 4 ของผม นับเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้ไปเยือนคันไซ ( 関西) แต่ก็มีออกนอกเขตไปนาโกยา (名古屋) ด้วย โดยมีเพื่อนอีกคนที่ไปเยือนคันไซบ่อยๆเป็นผู้ร่วมชะตากรรม! 

สำหรับสถานที่ที่เรานัดประชุมทริปนี้และพบปะสังสรรค์กันบ่อยๆ คือร้าน "ชาการิกิ 432" ร้านอาหารญี่ปุ่นจากโอซาก้าที่มาเปิดสาขาในกรุงเทพนั่นเองครับ ^^


ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านจากโอซาก้าก็ต้องมีอาหารขึ้นชื่อคือทาโกะยากิ ขออภัยที่ผมไม่ได้เก็บภาพมา ชมภาพขนมดังโงะ? ไปก่อนนะครับ


ที่โอซาก้า ผมสนใจปราสาท ป้ายกูลิโกะ (เห็นเพื่อนในเฟสบุ๊คชักภาพมา) และ USJ เราเดินทางไปตอนปลายปี 2014 โซนแฮร์รี พอตเตอร์เพิ่งเปิดครับ

และแน่นอนว่าเมื่อเรายกพลขึ้นบกที่สนามบินคันไซแล้ว เพื่อนๆ ก็อยากไปเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในภูมิภาคคันไซ และผมก็เป็นคนรีเควสว่ามีไฟท์บังคับ 3 ที่! 

1. คิโยะมิซึเดะระ (清水寺) หรือ วัดน้ำใส ก่อนหน้านี้ผมรู้จักที่นี่มาจากไหนน้า น่าจะเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คผมโพสท์

2. คินคะคุจิ (金閣寺) หรือ วัดทอง ผมรู้จักที่นี่จากเรื่องอิคคิวซัง ท่านผู้อ่านเชื่อไหมครับ ผมถ่ายรูปเป็นหลักฐานว่าได้ไปเยี่ยมท่านโชกุน ท่านมีอัธยาศัยดีมาก ท่านเอ่ยปากชวนผู้น้อยอย่างผมนั่งจิบชาเขียวด้วย...มโนจริงๆ แก 5555

3. ฟุชิมิอินะริไทชะ (伏見稲荷大社) หรือ "ศาลเจ้าจิ้งจอก" หลายปีก่อน น้องสาวผมดูหนังเรื่อง Memoirs of a Geisha ผมเห็นภาพนางเอกวิ่งลอดเสาโทริอิสีแดงเป็นแถว สวยจัง 

ประกอบกับเพื่อนในเฟสบุ๊คโพสท์ อีกแล้ว ด้วยความอยากรู้ว่านั่นคือที่ไหน ผมจึงถามซัพพลายเออร์ชาวญี่ปุ่นที่ผมรู้จักท่านหนึ่งชื่อ คุณทานากะ (田中) เขาจึงฟันธงมา แหม่ นี่มันแลนด์มาร์คของประเทศฉันนะเฟ้ย! ถ้าตอบไม่ได้ก็แย่แล้ว อิๆ

นี่คือฉากที่ผมพูดถึง ตอนเห็นฉากนี้ ผมอุทานในใจเลยว่า "เฮ้ย สวยจัง ที่ไหนอ่ะ" และดีใจมากๆ ที่ได้ไปชมสถานที่จริง ^^ เครดิต https://tokyofox.wordpress.com/2011/05/19/kansai-trip-2011-pt-ii-memoirs-of-a-geisha-filming-locations/


ส่วนนาโกยา ผมเคยอ่านหนังสือมา เห็นรูปปราสาท ท่าทางแลนด์มาร์คจะเป็นปราสาทอีกตามเคย ญี่ปุ่นนี่เป็นเมืองปราสาทจริงจริง

เริ่มการตะลุยทริปของจริง!

เราเดินทางไปท่าอากาศยานคันไซด้วยสายการบินแห่งชาติญี่ปุ่น อันมีนามว่า Japan Airline นั่นเอง! ท่านผู้อ่านเชื่อไหมครับ ไม่กี่ปีก่อนผมได้คุยกับคุณทานากะ เขาบอกผมว่าสายการบินนี้กำลังประสบกับภาวะล้มละลาย!!!

แต่ที่เรายังเห็นสายการบินนี้ยังมีบริการที่สนามบินแผ่นดินทอง (สุวรรณภูมินั่นแล) เพราะมีวีรบุรุษขี่ม้าขาวมาช่วยกอบกู้สายการบินดังกล่าวได้สำเร็จ แน่นอนว่าไม่ใช่เครดิตของเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ท่านนี้ท่านเดียว แต่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจจากทุกคนในองค์กร ผมนับถือคนญี่ปุ่นจริงๆ (จริงๆ ผมขอแนะนำหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ชื่อ "ถอยก็ตาย วิกฤตยังไงก็ต้องสู้" ไว้มีโอกาสผมจะเล่าจุดที่น่าสนใจในโอกาสต่อไปครับ)

และเนื่องจากว่าผมเป็นคนที่รู้ภาษาญี่ปุ่นมากที่สุดในกลุ่มเพื่อนร่วมชะตากรรม ดังนั้น ผมมักจะอุปโลกน์ตัวเองเสมอว่าเป็น "ไกด์" ส่วนเพื่อนสนิททำหน้าที่เป็น "หัวหน้าทัวร์" ไปยกกระเป๋าซะ 555 ล้อเล่นครับ เราไปเที่ยวกัน ต่างคนต่างจ่าย ช่วยกันบริหารจัดการน้ำหนัก ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน

ท่านผู้อ่านจะเห็นว่าครั้งนี้ผมได้ทำการบ้านมาดีระดับหนึ่ง อ๊ะๆ ผมหมายถึง เรื่องข้อมูลสถานที่เที่ยวนะครัช แหม่

​เช้าวันที่ 30 ธันวาคม เรา 2 คนขึ้นบกที่คันไซ โดยเพื่อนอีก 2 คนจับสายการบินหางแดงไปขึ้นบกที่นาริตะก่อนหน้าไม่กี่วัน แล้วจะนั่งชินรถไฟคันเซ็น (新幹線) มาสมทบที่นัมบะ (難波)

เที่ยวบินของเราถึงประมาณ 7 โมงเช้า เราผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรอย่างด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋า จึงเดินข้ามอาคารสนามบินเพื่อซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมือง


ท่านผู้อ่านที่สนใจจะไปเที่ยวโอซาก้า จากท่าอากาศยานคันไซจะมีบริการรถไฟเข้าเมือง 2 สาย สายที่ 1 คือบริษัทรถไฟ JR ท่านใดที่มี "บัตรเบ่ง" ทั้งเกาะหรือแค่เขตคันไซ จัดไปครับ ส่วนสายที่ 2 คือ บริษัทรถไฟ Nankai (นันไค) ซึ่งจะว่าเป็นคู่แข่งของ JR ในแถบนี้ก็ว่าได้ครับ

แต่ทริปนี้เราจำเป็นต้องใช้บริการสายนันไค เนื่องจากโรงแรมที่เราจองคือ Daiwa Roynet สาขา Sakai-Higashi ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่รถไฟ JR ไม่จอด

ทางเข้าสถานีจะแยกเป็น 2 สี อย่างชัดเจน คุณผู้อ่านไม่ต้องกลัวหลงครับ เครดิต https://en.wikipedia.org/wiki/File:Kansai_Airport_Station02s3.jpg

เมื่อเราเข้าไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมแล้ว จึงนั่งรถไฟฟ้าสายนันไคไปจุดศูนย์กลางของจักรวาล เอ๊ย ของโอซาก้า นั่นคือ ย่านนัมบะ ​หรือที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักว่าที่นี่แหละที่มี 'ป้ายไฟกูลิโกะ"

เอาล่ะ! ต่อไปนี้ก็ขอเชิญท่านผู้อ่านตามผมไปชิม ช้อป แชะ ก่อนที่เพื่อนร่วมคณะของผมอีก 2 ท่านจะเดินทางมาถึงโอซาก้ากันครับ ^^

นัมบะนะครัช เอ๊ย นะคะ เอ๊ยยย นะกะ (中) แปลว่า "กลาง" ครับ
อาหารกลางวันมื้อแรกในคันไซของเราคือ "คัตสึด้ง" หรือ "ข้าวหน้าหมูทอด" ในร้านหนึ่งย่านนัมบะ แน่นอนว่าสนนราคาสูงตามค่าครองชีพ ส่วนเรื่องรสชาติ กรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า อร่อย "โอะอิชี่" (おいしい) ครับ ^^
ตามด้วยของหวานจากร้านหนึ่งแถวสถานีรถไฟใต้ดินนัมบะ
เบิร์นกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ ไม่ใช่! Takashimaya ครับ
ริคุโรโอะจิซันโนะมิเสะ หรือ "ร้านของคุณลุงริคุโร" ก่อนเดินทาง ผมอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ผู้เขียนแนะนำร้านนี้ครับ เพื่อนผมก็ปลื้มอีกตามระเบียบ ^^ หลังสงกรานต์ปีที่แล้ว เพื่อนผมบอกว่าสาขานัมบะได้ย้ายไปแล้วครับ

หลังจากผมสำรวจดูหน้าเว็บนี้แล้ว ทำให้เกิดไอเดียว่า สัปดาห์หน้าผมจะรีวิวร้านซูชิจานเวียนร้านหนึ่งในนัมบะที่ผมคิดว่าเป็น "รักแรกพบ" ของผมเลยทีเดียว โปรดติดตามครับ ^^

ซูชิเนื้อย่างจากร้านที่ผมจะรีวิวในสัปดาห์หน้า ขอยกมาอธิบายเรื่องการถ่ายรูปอาหารก่อนนะครับ

​ขอขอบคุณ

https://tokyofox.wordpress.com/2011/05/19/kansai-trip-2011-pt-ii-memoirs-of-a-geisha-filming-locations/

https://en.wikipedia.org/wiki/File:Kansai_Airport_Station02s3.jpg

บทความล่าสุด