​ถ้าพูดถึงตลาดปลาในญี่ปุ่นก็คงหนีไม่พ้น ตลาดสึคิจิ (Tsukiji Market) (築地市場, Tsukiji Shijo) ตลาดค้าส่งที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น จัดจำหน่ายทั้งปลา ผักและผลไม้ โดยเฉพาะปลาและของทะเลสด ที่จัดว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก woww... และมีข่าวแว่วๆมาว่าตลาดปลาสึคิจิมีแผนจะย้ายไปตั้งที่โทโยสุ (Toyosu) ในเร็วๆนี้ด้วย นอกจากในเรื่องของความเก่าแก่และใหญ่โตของตลาดปลาแห่งนี้แล้ว ที่นี่ยังมีอีกกิจกรรมหนึ่งที่ยังคงดำเนินมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นก็คือ "การประมูลปลา" หรือ fish auction นั่นเองค่ะ โดยปลาที่นำมาประมูลจะมีเฉพาะปลาทูน่าเท่านั้น

สำหรับปลาทูน่าหรือปลามากูโร่ (まぐろ) ของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อยเรียกได้ว่าเป็น The best เลยก็ว่าได้ โดยราคาที่เคยประมูลได้สูงที่สุดในตลาดแห่งนี้อยู่ที่ราคาประมาณ 155.4 ล้านเยน (หรือประมาณ 46.62 ล้านบาท บร้ะเจ้า O..O) ในปี 2013 คิดเป็นกิโลกรัมละ 2 แสนกว่าบาท บอกได้คำเดียวว่า OMG!!! >>ข้อมูลจาก<< ด้วยเอกลักษณ์ในเรื่องของรสสัมผัสที่นุ่มลิ้น รสชาติที่อร่อยทำให้ปลาทูน่ายังคงเป็นที่ต้องการของตลาดจนถึงปัจจุบัน

​เอาละค่ะเรามาพูดกันถึงการเข้ามาชมการประมูลปลากันดีกว่า จากรูปแผนที่ด้านล่างเป็นแผนที่ของตลาดสึคิจิทั้งหมด โดยส่วนที่ต้องลงทะเบียนเพื่อชมการประมูลคือ ตรงจุด Fish Information Center ตามลูกศรในรูปเลยค่ะ ที่ทางเข้า Kachidori Gateโดยจะเปิดให้เข้าลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 02.15 - 03.00 น. ไม่มีการจองล่วงหน้า มาก่อนมีสิทธิ์ก่อนนะคะ แล้วนักท่องเที่ยวทุกคนที่ต้องการเข้าชมการประมูลจะต้องมายืนเข้าแถวรอกันตรงนี้ตามเวลาที่ฟางบอกไป ก่อนจะเข้าไปพักที่ห้องพักค่ะ ฟางแนะนำว่าให้มาถึงก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เราจะได้คิวแรกๆของชุดแรกๆจะได้ไม่ต้องรอนาน

กฏระเบียบของการเข้าดูการประมูลปลาที่ตลาดสึคิจิ

1. ถ่ายรูปห้ามใช้แฟลช 
2. ควรแต่งกายรัดกุม ห้ามใส่รองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าแตะ เนื่องจากภายในตลาดค่อนข้างแฉะ และมีรถวิ่งผ่านตลอดค่ะ 
3. ห้ามนำกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่เข้ามาในตลาด 
4. ห้ามเข้าไปในพื้นที่ที่ห้ามเข้า 
5. ห้ามนำเด็ก หรือสัตว์เลี้ยงเข้ามาในตลาด 
6. ห้ามสูบบุหรี่ 
7. เมื่อเข้าไปในลานประมูลห้ามจับ หรือสัมผัสเนื้อปลา หรือสิ่งของอื่นๆที่อยู่ภายใน ไม่งั้นจะเสียรสชาติเอาได้ เพราะเคยมีกรณีที่ผู้เข้าชมการประมูลไปจับปลาทูน่าที่อยู่ระหว่างรอประมูล เป็นเรื่องใหญ่เลย ยิ่งเป็นประเทศญี่ปุ่นแล้วด้วย เพราะเค้าค่อนข้างเคร่งครัดในเรื่องกฎระเบียบมาก ยังไงก็ระมัดระวังกันด้วยนะคะ เรามาเที่ยวในนามประเทศไทยเนอะ

การเข้าชมประมูลปลา

1. ลานเข้าชมการประมูลสามารถเปิดรับจำนวนผู้เข้าชมได้เพียง 120 คน ต่อวัน มาก่อนได้ก่อน ไม่มีการจอง 
2. เมื่อมาถึงตามเวลาข้างต้นแล้วให้เดินมาลงทะเบียนที่ The Fish Information Center ที่ทางเข้า Kachidori Gate 
3. เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผู้เข้าชมจะต้องมายืนต่อแถวตามลำดับคนมาก่อนมาหลังก่อนค่ะ สักพักเจ้าหน้าที่จะเปิดประตูห้องพัก แล้วเราก็เข้ารับเสื้อ โดยจะมีอยู่สองสี คือ สีเขียวสำหรับกลุ่มแรก และสีน้ำเงินสำหรับกลุ่มที่สอง และรับเอกสารกฎระเบียบของการเข้าชม​ (ตรงมุมของเอกสารจะมีลำดับเลขของเราอยู่นะคะ) พอรับของเสร็จแล้วก็เดินมานั่งรอในห้องพักจนกว่าจะถึงเวลาเข้าชมการประมูล การประมูลจะเริ่มในเวลา 5.25 - 6.20 น. 
4. ผู้เข้าชมการประมูลจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 60 คนของการเข้าชมแต่ละครั้ง:
   1. กลุ่มแรกจะเข้าชมเวลา 5.50 - 6.05 น. 
   2. กลุ่มที่สองจะเข้าชมเวลา 6.05 - 6.20 น.

​
การตรวจสอบคุณภาพของเนื้อปลาก่อนประมูล

1. ​ผู้เข้าประมูลปลาจะใช้ตะขอขุดตรงปริเวณส่วนหางของปลาทูน่า แล้วหยิบเศษชิ้นส่วนของเนื้อปลาขึ้นมา บี้ๆเพื่อดูความสดใหม่ และปริมาณไขมันของเนื้อปลาทูน่า หรือเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบคุณภาพอาจจะใช้ไฟฉายส่องที่เนื้อปลาเลย
2. ผู้เข้าประมูลปลาแต่ละคนจะมีรายการของปลาทูน่าแต่ละตัวที่ต้องการอยู่แล้ว และจะรู้ราคาของปลาเหล่านั้นล่วงหน้าก่อนการประมูลจะเริ่ม
3. เมื่อมีเสียงกระดิ่งดังขึ้น ผู้ประมูลทุกคนจะไปยืนอยู่ตรงจุดที่จะเริ่มประมูลพร้อมกัน
4. ในการประมูลปลาแต่ละตัวจะใช้เวลาไม่เกิน 10 วินาทีเท่านั้น ถือว่าเร็วมากๆ
5. ผู้ประมูลจะใช้เพียงมือข้างเดียวในการบอกราคาที่ประมูล โดยไม่ต้องพูดคำใดๆออกมา ทำยังไงหว่า?? ตามไปดูห้วข้อถัดไปเลยค่า

วิธีการประมูลราคาของปลาของผู้ประมูล

​สำหรับวิธีการประมูลราคาปลาของผู้เข้าประมูลจะเป็นการใช้มือข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น แล้วจะนับตั้งแต่ 1-9 ไม่มีเลข 10 นะคะ เวลาประมูลแต่ละครั้งเร็วมากๆฟางดูแถบไม่ทันเลย ต้องสังเกตดีๆ วิธีการแสดงราคาตามตารางด้านล่างเลยค่า:

เกรดของเนื้อปลาทูน่า

​มาถึงเรื่องของคุณภาพของเนื้อปลาทูน่ากัน คุณภาพของเนื้อปลาทูน่าจะแบ่งตามปริมาณไขมันแทรกอยู่ในเนื้อปลา โดยแบ่งออกเป็น 3 เกรด ได้แก่

1. อะคามิ (AKAMI) เป็นเนื้อปลาที่มีไขมันแทรกค่อนข้างน้อยมาก ทำให้เนื้อปลามีสีแดงสด อยู่ในส่วนของครีบปลา เป็นส่วนที่มีราคาถูกที่สุด
2. ชูโตโระ (CHUTORO) เป็นเนื้อปลาตรงส่วนของกลางท้อง จะมีสีออกชมพู มีไขมันแทรกเล็กน้อย 
3. โอโตโระ (OTORO) เป็นส่วนที่อยู่ด้านล่างของท้องปลา เนื้อบริเวณนี้มีสีชมพูอ่อนๆเนื่องจากมีไขมันแทรกค่อนข้างเยอะ และเป็นส่วนที่แพงที่สุดของเนื้อปลาทูน่า เรียกได้ว่าอร่อยนุ่มลิ้นละลายในปลา 

ฟางแนบคลิปเกี่ยวกับตลาดปลาสึคิจึไว้ด้านบนนะคะ ฟางแนะนำให้ลองเปิดดูก่อนมาเที่ยวที่ตลาดสึคิจิ 

การเดินทางมาตลาดปลาสึคิจิ

1. Tsukiji Shijio Station ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Oedo Subway Line 
2. Tsukiji Station ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Hibiya Subway Line 

​
ข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องรู้ก่อนมา

1. ตลาดปลาสึคิจิจะปิดทุกวันอาทิตย์ วันหยุดราชการ และวันพุธบางวัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องเช็กปฏิทินของตลาดก่อนมานะคะ เพื่อไม่ให้มาเสียเที่ยวเนอะ >>คลิกดูปฏิทิน<< ฟางแนบปฏิทินเดือนกันยายน กับเดือนตุลาคม 2017 มาให้เป็นตัวอย่างด้านล่างค่ะ สีแดงคือวันที่ตลาดปิดทำการนะคะ
   

​2.  ไม่เสียค่าเข้าชมการประมูลปลา งานนี้ฟรี พกตังค์มาไว้ทานซุชิดีกว่า คริคริ

3.  แล้วหลังจากที่เราชมการประมูลปลาเสร็จ เราสามารถเดินซื้อของบริเวณตลาดค้าส่งได้ค่ะ โดยที่ตลาดค้าส่งจะเปิดให้คนภายนอกเข้าได้ตั้งเวลา 10.00  น. เป็นต้นไปค่ะ 

4.  ที่อยู่ตลาด: Tsukiji 5, Chuo-Ku, Tokyo เอาไว้ลองค้นหาก่อนมาเนอะ

5.  เว็บไซต์: http://www.tsukiji-market.or.jp/tukiji_e.htm

เป็นยังไงกันบ้างเอ่ยสำหรับบล็อกนี้ หวังว่าจะได้รับข้อมูลที่เต็มอิ่มกันไปนะคะ ใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวโตเกียวฟางแนะนำให้ลองมาตลาดปลาสึคิจิดูสักครั้งในชีวิตค่ะ เพราะเราจะได้เห็นวัฒนธรรมการประมูลปลาที่มีมาเนิ่นนานมากๆและยังคงอยู่ให้เราได้เห็นจนถึงปัจจุบัน แต่ขอแนะนำว่าให้ก่อนเดินทางมาชมการประมูลปลาควรพักผ่อนให้เต็มที่นะคะ เพราะเราต้องใช้เวลารอเข้าชมอีกเกือบๆห้าชั่วโมงเลยจะได้มีแรงไว้เที่ยวที่อื่นต่อเนอะ 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เจอกันบล็อกหน้าค่า ^^

ติดตามงานเขียนก่อนหน้าของฟางได้ที่เพจนี้ค่ะ: https://www.facebook.com/WaraSann/

หมายเหตุ***รูปที่ถ่ายโดยเจ้าของบล็อกห้ามนำไปใช้โดนไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด