สวัสดีครับ ต้องขออภัยท่านผู้อ่านด้วยที่ผมหายไปตั้งสองอาทิตย์ พอดีช่วงนี้ผมติดภารกิจเรื่องงานหนังสืออย่างหนักหน่วงเหลือเกิน แต่ตอนนี้ผมกลับมาพบกับท่านผู้อ่านอีกครั้งแล้ว สำหรับเรื่องที่จะผม Ken Pichakun เป็นเรื่องของงานอดิเรกของผู้ชอบแนวหุ่นยนต์ไซไฟ และเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองโอไดบะด้วย นั่นก็คือ "กันดั้ม" นั่นเอง และอาทิตย์นี้ผมจะพาท่าผู้อ่านไปทำความรู้จักกับเรื่องราวของซีรีส์หุ่นยนต์ที่อยู่มายาวนานถึง 37 ปีกันครับ
Mobile Suit Gundam เป็นทีวีซีรีส์อนิเมชันญี่ปุ่นที่เริ่มฉายภาคแรกมาตั้งแต่ปี 1979 ออกแบบและกำกับโดย Yoshiyuki Tomino และทีมงานบริษัท Sunrise คอนเซ็ปของซีรีส์นี้จะเกี่ยวข้องกับสงครามในยุคอนาคต มนุษยชาติแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน และสร้างหุ่นยนต์ขนาดยักษ์ที่เรียกว่า โมบิลสูท (Mobile Suit) ออกมาทำสงครามมาเป็นเวลานาน และโมบิลสูทที่มีสมรรถนะการต่อสู้ที่สูงที่สุดก็คือหุ่นที่มีชื่อว่า กันดั้ม (Gundam) ซึ่งแต่ละฝ่ายไม่ว่าจะฝ่ายพระเอกหรือฝ่ายศัตรูต่างก็วิจัยและพัฒนากันดั้มออกมาต่อสู้ห้ำหั่นทำลายล้างกัน จนกลายเป็นเรื่องราวยาวหลายสิบกว่าตอน
ซีรีส์กันดั้มมีหลายภาค แต่ละภาคจะเป็นเนื้อเรื่องคู่ขนานคนละจักรวาล ทั้งตัวเอก กองกำลัง และเทคโนโลยีก็คนละแบบกัน จึงแทบจะไม่เชื่อมโยงกัน (เป็นเหตุผลทางการตลาด เพื่อให้กันดั้มมีความหลากหลาย ผู้เขียนบทและดีไซเนอร์สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้โดยไม่ยึดติดแค่สไตล์เดิม) แต่คอนเซ็ปของพล็อตก็ไม่ค่อยต่างกันมากนัก มักจะเป็นความโหดร้ายของสงคราม การแย่งชิงเอาตัวรอด ความไม่เท่าเทียมของสังคม และการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันระหว่างตัวละครเอกของทั้งสองฝ่าย ด้วยเนื้อเรื่องที่ชวนติดตาม ทิ้งท้ายปริศนาไว้แทบทุกคอน รวมทั้งดีไซน์ตัวโมบิลสูทที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สวยงาม แลดูร่วมสมัย จึงทำให้ซีรีส์ Mobile Suit Gundam เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศญี่ปุ่นและนอกประเทศ
นอกจากนี้กันดั้มยังถูกจัดจำหน่ายในรูปแบบโมเดลโดยบริษัท Bandai ในชื่อว่า Gunpla (กันพลา ย่อมาจาก Gundam Plastic Model) ซึ่งจัดจำหน่ายในช่วงปี 1980 ประมาณ 1 ปีหลังจากภาคแรกฉายไป โดยเมื่อเราซื้อไปแล้วเราก็ต้องมาแกะชิ้นส่วนออกจากแผงและนำมาประกอบเข้าด้วยกัน จึงจะได้โมบิลสูทเป็นรูปเป็นร่างแบบในอนิเมะนั่นเอง
กันพลาในยุคแรก (ขวามือ) จะเหมือนกับพลาสติกโมเดลทั่วไปคือ ยังต้องทากาวและพ่นสี เพื่อจะให้ออกมาเหมือนในอนิเมะ และมีลูกเล่นน้อย ขยับแขนขาได้ไม่กี่จุด จึงเป็นของที่เข้าถึงยากสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีต้นทุนและทักษะทำโมเดลมากมายนัก แต่กาลเวลาผ่านไป เทคโนโลยีการผลิตพลาสติกก็ดีขึ้น ทำให้กันพลาสมัยนี้ (ซ้ายมือ) มีการฉีดสีมาตั้งแต่อยู่ในโรงงานแล้ว แถมเวลาประกอบ ตรงส่วนที่ใช้ต่อก็จะแน่นขึ้น ทำให้ไม่ต้องใช้กาวและไม่ต้องทาสีอีกต่อไป กันพลาจึงเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น และกลายเป็นของสะสมยอดนิยมสำหรับคนชื่นชอบซีรีส์กันดั้มมาจนถึงทุกวันนี้
เสน่ห์ของกันพลาไม่ใช่แค่ต่อตามคู่มือเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถดัดแปลงให้มีรูปลักษณ์ต่างๆ ได้ดั่งใจ ขึ้นอยู่กับฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน มันคืองานอดิเรกที่ต้องใช้เวลาและสมาธิอย่างมาก ยิ่งประกอบได้มีรายละเอียด ยิ่งสื่อถึงความตั้งใจ ความใส่ใจ และความละเอียดอ่านของผู้ประกอบเป็นอย่างมาก ไม่ต่างจากงานศิลป์ วาดภาพ หรือปั้นดินเผาเลย
ขึ้นชื่อว่าเป็นงานศิลป์ ย่อมต้องมีงานประกวดด้วย แน่นอนว่ากันพลาเองก็มีงานประกวดเช่นกัน งานประกวดที่ใหญ่ที่สุดที่ทางค่าย Bandai จัดก็คือ Gunpla Builder World Cup ในแต่ละปีจะมีการนำสุดยอดผลงานกันพลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตัวแทนแต่ละประเทศ เอามาประกวดเพื่อค้นหาผลงานที่เป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งของประเทศไทยนั้นก็เคยส่งประกวดและได้รางวัลชนะเลิศเมื่อปี 2015 ด้วย ซึ่งคนไทยที่ไปคว้ารางวัลนั้นมีชื่อว่า คุณวิชยุตฆ์ เอี่ยมอ่อง หรือ "วิน มายาจิต" (คนเสื้อน้ำตาลใส่หมวก) นั่นเอง
กันพลาแบ่งออกเป็นหลายเกรดให้เลือกซื้อเลือกประกอบ ได้แก่
UPDATED : ตอนนี้กันดั้มที่โอไดบะถูกรื้อถอนออกแล้ว และกำลังจะเปลี่ยนเป็นหุ่นรุ่นใหม่ภายในปลายปี 2017 นี้
และแน่นอน เป็นแฟนกันดั้มทั้งที มาถึงที่ญี่ปุ่นแล้วไม่แวะไปเยี่ยมชมกันดั้มยักษ์ขนาด 1:1 ที่โอไดบะ ก็คงจะเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนคลับได้ไม่เต็มปากนัก ดังนั้นใครที่ยังไม่เคยไป แนะนำว่าควรหาเวลาสักวันแวะไปนะครับ
การเดินทางไปโอไดบะนั้นไม่ยากเลย วิธีที่ง่ายที่สุดคือ นั่งรถไฟ JR มาถึงสถานี Shimbashi แล้วเปลี่ยนขบวนไปนั่งสาย Yukikamome จากนั้นก็มาลงที่สถานี Odaibakaihinkoen เท่านี้ก็ถึงแล้ว
กันดั้มยักษ์จะตั้งอยู่บนชั้น 7 ของตึก DiverCity Tokyo Plaza (แผนที่พิกัดเส้นทาง คลิกที่นี่ ) นักท่วงเที่ยวสามารถเข้าชมและถ่ายรูปกันดั้มยักษ์ได้ฟรี แต่ถ้าจะเข้าไปข้างในโซน Gundam Front Tokyo เพื่อซื้อสินค้าลิขสิทธิ์ราคาเกี่ยวกับกันดั้ม และแวะพักจิบกาแฟที่ร้าน Gundam Cafe ต้องซื้อบัตรค่าผ่านประตูคนละ 1200 เยน โซนนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 - 20.00 น.
รายละเอียดอื่นๆ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ http://gundamfront-tokyo.com/
ก็พอหอมปากหอมคอกับเรื่องของกันดั้มไปแล้วนะครับ เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงจะเริ่มเข้าใจแฟนหนุ่มหรือเพื่อนผู้ชายบ้างแล้วว่าทำไมถึงชอบหุ่นยนต์พวกนี้กันจัง แถมบางคนชอบฝากให้หิ้วมาจากญี่ปุ่นด้วย (ผมก็คนหนึ่งเหมือนกัน ใครซื้อให้นี่รักตายเลย ฮา) ซึ่งกันดั้มที่ญี่ปุ่นเนี่ย ขายราคาถูกกว่าที่ขายในไทยอยู่นิดหน่อย เทียบเป็นเงินไทยแล้วก็ถูกกว่าไม่กี่ร้อยบาท อาจจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่นักถ้าจะรับหิ้วกลับมา เพราะนอกจากจะกล่องใหญ่แล้วยังมีสิทธิ์โดนเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มได้นะ (เผลอๆ จะแพงกว่าซื้อในไทยอีก)
ก็อยากให้ลองศึกษาและสำรวจดูก่อนนะครับ เพราะกันดั้มหลายตัวก็ไม่ได้หาซื้อยากในไทยสักเท่าไหร่ แต่ถ้าซื้อมาเพราะเผลอใจตอนไปเที่ยวโอไดบะ อดใจไม่ได้ที่อยู่ไทยแล้วไม่ได้ซื้อละก็....อันนี้ก็ตัวใครตัวมันครับ ฮา
บทความหน้า แน่นอนก็คงไม่พ้นเรื่องแวดวงการ์ตูนอยู่แล้วครับ แต่จะเป็นเรื่องอะไรต่อนั้น ไว้เจอกันอาทิตย์หน้า (ถ้าผมยังไม่จมไปกับกองงานก่อนนะ) สวัสดีครับ
ที่มาภาพประกอบและแหล่งข้อมูลอ้างอิง
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th