Alys H.เขียน:
คนญี่ปุ่นนี่แทบจะไม่ใช่สเป็คเราเลยค่ะ ได้ยินคำว่าผู้ชายญี่ปุ่นแล้วคงนึกถึงความเข้าใจยาก เย็นชา และความบ้างาน
แต่พอได้เจอกับแฟนคนนี้ ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่าเขาแตกต่างออกไปค่ะ
เราเจอกันครั้งแรกในเว็บแลกเปลี่ยนภาษา เขาส่งอีเมล์มาบอกว่าอยากเรียนภาษาไทยพร้อมกับแนบไลน์มา เราก็แอดไปจากนั้นคุยกันปกติ
เราเองก็ตั้งใจสอนภาษาไทยให้เต็มที่มาก แต่เขาดูไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เลยถามไปตรงๆว่าทำไมถึงอยากเรียน (?) จนเขามาสารภาพทีหลังว่ามันคือข้ออ้างที่เอาไว้จีบเราตั้งแต่แรกแล้ว (แหม่...ร้ายยยยยย~)
รู้แบบนั้นก็อึ้งสิคะ อึ้งหนักกว่าเดิมตอนที่เขาบอกว่าไม่เคยคุยกับผู้หญิงไหนแล้วเปิดใจได้ขนาดนี้ นั่นคือเหตุผลทำให้เขาชอบเรามากขึ้นค่ะ
หลังจากนั้นเขาก็คะยั้นคะยอขอเป็นแฟนตลอด พยายามพูดจาหวานๆ ไลน์มาหาบ่อยๆ และบินมาขอเจอโดยที่ไม่ถามเราสักคำ...
ส่วนตอนนั้นเรายังเด็กอยู่ค่ะ ทุกอย่างมันดูเร็วเกินไปและกลัวว่าจะโดนหลอก เพราะอีกฝ่ายก็อยู่ในวัยทำงานแล้ว
พอเขารู้ว่าเราไปเจอไม่ได้ ฮีงอนไปสักพักเลยค่ะ 555555 (แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะขอเราเป็นแฟนนะ >//<)
ผ่านมาหลายเดือนเขาทำแบบนี้กับเราบ่อยๆ จนเราเริ่มจะใจอ่อนเลยขอบินมาหาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาบอกว่าขอให้เราได้เจอกันก่อน จะตัดสินใจคบมั้ยก็อยู่ที่เรา ; _ ;
เราเลยนัดเจอกันที่บีทีเอสหลังเลิกพาร์ทไทม์ค่ะ กว่าจะได้เจอกันก็ 4 ทุ่มแล้ว ครั้งแรกที่เห็นนี่คือตกใจมาก! ทำไมตัวจริงดูดีกว่าในภาพเยอะ...ผอม...ขาว...สูง...(อร๊ายยยยยยยย~~~)
และด้วยความเขินมีมากกว่าความกล้า ทำให้เรายืนบิดตัวเงียบๆไม่กล้าเข้าไปทักก่อน...
ในใจก็คิดๆๆๆว่าสภาพเราดูโอเคหรือยัง หลังจากนี้จะคุยกันยังไง จะพาไปไหนดี...โอ๊ยยยยย คำถามล้านแปดผุดขึ้นมาในหัว
สักพักถึงรู้สึกตัวได้ว่ามีอะไรมาสะกิดที่ไหล่ เราเลยหันหลังควับ!...กรี๊ดดดดดดดดดด!!! มายืนอยู่ข้างหลังชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
เขาเห็นสภาพเราตกใจเหมือนเห็นผีก็หัวเราะลั่นเลยค่ะ บอกว่าเดินวนไปมารอบสถานีเผื่อจะเจอเราแอบอยู่ และก็ไม่คิดว่าจะเจอจริงๆ (ฮือออออ T-T )
'ตอนแรกผมนึกว่าจะไม่ได้เจอคุณแล้ว ผมดีใจนะที่คุณมา' ดูจากคำพูดและสีหน้าที่ยิ้มไม่หุบแล้ว เขาเองก็คงดีใจไม่น้อยเหมือนกัน
หลังจากนั้นเราก็พาไปร้านอาหารค่ะ ระหว่างรอ เขาก็พยายามถามเรื่องทั่วไป ส่วนเราก็ได้แต่อือออและนิ่งเพราะความเขิน
'คุณขี้อายกว่าที่ผมคิดนะ'
'...ไม่เหมือนที่คุยกันในไลน์เลยใช่มั้ยคะ?'
'ปกติผมพูดไม่ค่อยเก่งนะ แต่เห็นคุณเป็นแบบนี้แล้วก็อดแกล้งไม่ได้ ผมชอบเวลาที่คุณเขิน'
(แอร๊ยยยยยยยยย~ ไหนใครบอกหนุ่มยุ่นเข้าใจยากและไม่พูดอะไรตรงๆไง นี่อยากจะเถียงขาดใจจจจจ)
'เราเป็นแฟนกันนะครับ'
(เดี๋ยววววว! สติยังมาไม่ทันครบ เล่นถามตรงๆแบบนี้เลยเรอะ?! T-T)
'เรื่องระยะทางไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมสามารถมาหาคุณได้บ่อยๆอยู่แล้ว'
'อ่ะ...เอ่อ'
'เชื่อใจผมนะครับ'
คำพูดมาเร็วพร้อมกับความคิด เขาเอื้อมมือมาจับมือเรา ประหนึ่งว่ามัดมือชกให้เรายอมรับด้วยความเขิน เราเลยตอบตกลงคบไป...(ติดกับแล้วจ้าาาา)
ตั้งแต่วันนั้นเขาก็แสดงด้วยการกระทำมาตลอด ความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปตามสเต็ป จากที่ไม่เชื่อใจตอนนี้ก็เชื่อใจได้เต็มร้อย และความต่างของอายุกับวัฒนธรรมก็ไม่ใช่ปัญหาเลย ถึงจะมีน้อยใจบ้างที่เขาเงียบหายไปเพราะงานหนักจริงๆ แต่พอเคลียร์งานได้เขาก็จะทักและบินมาหาเราตลอด
มีรักทางไกลนอกจากความเชื่อใจกันแล้วยังต้องอดทนให้กับเวลาด้วยค่ะ พยายามไม่คิดมากและหาอะไรทำอยู่ตลอด คอยให้กำลังใจกันและกัน ทำทุกวันให้ดีที่สุดก็พอแล้วค่ะ
You will need to be logged in to be able to post a reply. Login using the form on the right or register an account if you are new here.
Register Here »