miharu mfp
miharu mfp
Offline
Resolved
1 votes
ตอนที่รู้จักแฟน ญป ครั้งแรก เจอกันที่ไหนหรอคะ

เช่น เจอที่ข้างโต๊ะทำงาน หรือเจอตอนต่อแถวซื้อข้าว

แบบว่าสถานที่ที่นำพาทั้งสองมาพบกัน

ใครชวนใครคุยก่อน แล้วใช้เวลานานเท่าไหร่ เขาถึงขอเป็นแฟนคะ

หรือใครที่คุยกันก่อนเจอหน้า แล้วค่อยมาคบกัน โมเม้นต่างกันไหมคะ

ของเราค่อนข้างคบกันเร็ว ตอนนี้ก็เลยเลิกไปแบบรวดเร็ว

มาไวไปไว เจอกันครั้งแรกที่งานมีตติ้งที่มีคน ญป เยอะๆ

เราแอบปิ๊งผช ญป อีกคนนึงนะ แต่คนนั้นเขาไม่ได้เข้ามาคุย

แต่แฟน(เก่า)เข้ามาคุยกับเรา เขาหน้าตาดีและเฟรนลี่

เราเลยไม่คิดอะไรมาก คบๆไป คือจริงๆก็ควรจะคิดให้มากกว่านี้ ฮ่าๆๆ

เพื่อนๆล่ะคะ ลองมาแชร์กันนะคะ

เล่ารายละเอียดอื่นเพิ่มได้นะคะ อยากอ่านเรื่องราวของเพื่อนๆ
Thursday, October 15 2015, 01:08 PM
Like
3
Share this post:
Responses (13)
  • Accepted Answer

    Thursday, October 15 2015, 01:42 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    เมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านเพิ่งโดนสารภาพรักกลางโต๊ะกาแฟสตาร์บัค แบบ งง
    คือคนนี้พบกันเพราะเราเข้าไปเล่นเวบ sawaddeekap ค่ะ เราก็แอดไปเรื่อยหาคนคุยภาษาญี่ปุ่นด้วย
    เค้าก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เราคุยกันน้อยมามาแต่แรกแล้วนะคะ
    เริ่มคุยกันเดือนเมษา ส่วนใหญ่เค้าจะทักเรามา ว่าวันนี้ไปทำอะไรมาบ้าง
    บางทีเค้าป่วยเค้าก็ยังไลน์มาบอกด้วยล่ะ หรือไม่เค้าเบื่องานก็ไลน์มาบอกเรา
    เราก็ให้กำลังใจไปนะคะ ก็ไม่ได้คิดไรนะนิ จน เข้าเดือน ก.ค. เค้าไลน์มาว่าจะมาเที่ยวไทย
    และอยากเจอเรา เราก็โอเคค่ะ ได้ต้อนรับเพื่อนใหม่ พอสิงหา เค้าก็ไลน์มาบอกว่า เค้ารู้สึกพิเศษกับเรา
    เราก็ได้แต่ขอบคุณเค้าไปค่ะ ด้วยความ งง ว่า คุยกันก็น้อย มารุ้สึกพิเศษอะไรยังไงเนี่ย
    พอกันยาก็ยำ้อีกว่า ตุลา ผมจะไปเจอคุณ เราก็ได้ คร่าาาา (รุ้แย้วว ย้ำทุกเดือน)
    จนถึงแพลนที่เค้ามานั้นแหละค่ะ ตอนแรกบอกจะไปเที่ยวเชียงใหม่ก่อน ปรากฏว่า
    เค้ามาหาเราที่พัทยาก่อน ตอนนั้นแบบ อะไรว้า!!! ไม่ได้เตรียมตัวเลย เราเลยนัดเจอกันตอนเลิกงาน
    บอกเลยนะคะว่า ในรุปนี่เค้าไม่หล่อเลยไม่สเปค 55 เราเลยไม่ได้รุ้สึกซัมติงกับเค้า จนมาเจอกันที่เซนทรัลพัทยานั้นแหละค่ะ
    ระหว่างเรานั่งรอเค้ามาหา อยากจะบอกว่า ห้างนี่ไปบ่อยนะคะ แต่เราหาเค้าไม่เจอ เลยบอกให้เค้ามาหาเราแทน แฮ่ๆ
    ระหว่างนั่งรอมีฝรั่งมาชวนคุยด้วย เราก็คุยได้ เค้าให้เราช่วยถ่ายรุปให้นะ และตอนนั้นเองเค้าก็มาพอดีเลยค่ะ เค้ามองหน้าฝรั่งใหญ่เลย
    เราก็โอะ แบบว่า "เห้ยยยยยยยยยยยยย ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปนะนิ" ในความรู้สึกเรานะ พอเจอกัน เราก็ทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นที่เราพอจะรุ้มา
    เค้าก็แบบทำหน้า ว้าว ด้วย และเค้าก็ วางท่ายืนตัวตรง เอามือทาบอกแล้วบอกว่า มาย เนม อิส จุนจิ ฮาจิเมะ มาชิเตะ อิอิ
    เค้าเฟรนลี่มากเลยค่ะ พาสาวไทยไปเดินเที่ยวในเมืองไทย 555 เราไม่ค่อยได้ไปไหหนในพัทยาเลยไม่ค่อยรุ้แหละ แต่เค้ามาแล้วสองครั้ง
    เค้าชวนเราไปเดินในวอคกิ้งสตรีท มันก็นะ....... เค้าเอาแต่ชมเราว่า น่ารรัก สวย ตลอดที่เดินเลย เรานี่แบบ คือ เราไม่ได้สวยเสียหน่อย น่ารักกะพอโอเค 555
    แต่ชมบ่อยไปมันเวอร์ง่ะ เราถามเค้าด้วยภาษาาญี่ปุ่นค่ะว่า วันนี้อยากทำอะไร เค้าทำหน้าจริงจังมาทันที บอกว่า อยากเดทกับคุณ แอร๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก HONTO!!!!
    ไม่คิดว่าจะพุดออกมานะคะ เรานี่แบบอึ้ง เดินไปไม่รุ้จะพุดไรเลยค่ะ เค้าก็ยิ้มหัวเราะแฮะๆๆ หลังจากเที่ยวในนั้นเสด เราก็เดินกันออกมา เค้าบอกว่า เราไปเดินเล่นชายทะเลกัน
    เราก็โอเคค่ะ เราก็เดนไปเม้ามอยกันไป มั่วๆ ภาษาญี่ปุ่นที่ไม่รุ้เรื่อง บวกกับภาษาอังกฤษนิดหน่อย แต่เรามีตัวช่วย เราก็ไลน์กันค่ะ 555 แปลภาษาแล้วส่งไปทางไลน์เอา
    จนมาถึงสตาร์บัคค่ะ เค้าชวนเราว่า ไปนั่งคุยกัน เราก็ไปค่ะ ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย จน เค้าพิมไลน์มา แล้วก็เปิดอ่านดู เค้าบอกว่า "เค้ารุ้สึกประทับใจเรามาก ดูเหมือนจะตกหลุมรักแล้ว"
    เรานี่ ไม่รุ้จะพุดอะไรเลยค่ะ ไม่ได้ปฏิเสธ ได้แต่อาริงาโตะ กับไปค่ะ พงกหัวกันไปมาทั้งคู่ >/////////< คือ เขินง่ะ รุ้สึกดี แต่ยังไม่ได้รุ้สึกว่าจะชอบนะคะ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ คือสับสนอยู่
    และก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปค่ะ >/////< ระหว่างที่กลับที่พักของเค้า เค้าก็คุยด้วยภาษาญี่ปุ่นที่เราไม่รุ้เรื่องกรีทๆ อะไรไม่รุ้แล้วชูมือห้านิ้วมาให้เราดู เราก็งงค่ะ เราก็เลยทำท่าตามเค้าประมาณว่า
    ชูห้านิ้ว นี่คืออะไรหรอ นันนิ๊ นันนิ๊ และทันใดน้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน เค้าเอามือเค้ามาประกบมือเราค่าาาาาาา แถมหัวเราะแฮ่ๆอีก เรานี่อึ้งไปเลยค่าาาาา =[]=!!!!!
    เค้าถามว่า โอเคไหม เรานี่อึ้ง ... พุดไรไม่ออกเลย คือ มันก็ไม่ได้ปฏิเสธด้วย ก็เลยเดินไปสภาพจูงมือไปแบบสมยอม TT 55555 ขำตัวเอง ง่ายแท้น้า แต่ก็ไม่นานค่ะ เพราะมันรุ้สึแปลกๆ
    เราเลยดึงมือออก ทำท่าหยิบบัตรที่จอดรถออกมา อิอิ และนั้นแหละค่ะ กลับที่พักกันไป เค้าก็ไลน์มา บอกความในใจเรายาวเหยียดเลย เราก็ได้แต่อาริงาโต๊ะ เหมือนเดิม
    และเมื่อวานค่ะ เค้าขอพบเราอีกครั้ง ก่อนกลับวันพรุ่งนี้ ระหว่างนี่เค้าก็ไปเที่ยวเชียงใหม่ ส่งรูปไปขึ้นดอย คอสเพลย์เป็นชาวเขามาให้เราดูค่ะ นี่หรือว่าเค้าคิดว่าเรารับตกลงเค้าไปแล้วคะเนี่ย
    แต่เราบอกแล้วค่ะว่า จะบอกว่ารักมันเร็วไป ขอเวลาหน่อยนะคะ เค้าก็โอเคนะคะ เค้าบอกว่ เค้าจะกลับมาหาเราอีก เค้าบอกว่า เค้าจะขึ้นไปชมวิวเมืองพัทยาพร้อมเราให้ได้ คือมะวาน
    จะขึ้นไปจุดชมวิว แต่คนเยอะเลยอด แล้วเค้าก็ต้องกลับกทม. เพื่อเตรียมตัวกลับญี่ปุ่น เราก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่า มาชอบอะไรเราขนาดนั้นนะคะ เพราะ เค้าเอาแต่บอวก่าชอบเรา ชอบเรา
    ตลอดขนาดนั้น 7 เดือนที่คุยกันแสนน้อย นางมาชอบเราตรงไหนเนี่ย 5555 งงง?
    Like
    1
    • ไอจัง
      more than a month ago
      อ่านแล้วฟิน /////▽////
      น่ารัก โรแมนติกมากกค่ะ เหมือนในการ์ตูนเลย
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Thursday, October 15 2015, 04:06 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    ถ้าถามว่าเจอกันครั้งแรกที่ไหน...

    เคขออุ๊ปส์เป็นความลับละกันคะ 555

    แต่ขอแชร์เป็นเดทครั้งแรกที่ไหนนะคะ อิอิ

    เดทกับคุณแฟนครั้งแรกที่โรงแรม

    Westin Grand Sukhumvit คะ นัดเจอกันที่

    โรงแรม Grand Centre Point Terminal21

    นางพักอยู่นี่ พอได้เจอกันแล้ว ก็รู้สึกช่วงเวลาที่เรา

    รอมานานก็มาถึงสักที ด้วยความที่อายเวลาเจอกัน

    เคเดินเข้าไปจับมือก่อนเลยจ้า แบบประกบนิ้วกัน

    เลย 555 ไม่งั้นทำตัวไม่ถูกอ่ะถ้าไม่เป็นกันเอง

    นางก็อายแบบยิ้มๆอ่ะนะ แล้วก็เดินจับมือกันไปเดท

    ที่ Westin สั่งเครื่องดื่มแค่คนละอย่างแล้วก็นั่งคุยกัน

    แล้วนางก็บอกว่าเรา sexy ถุยยยย!!!! 555555

    คือเราใส่เสื้อยืดกางเกงขายาวแต่รัดรูปนิดนึง

    บอกกับส้นสูงพอประมาณมั้งแค่นี้ แต่เรามองตัวเอง

    ธรรมดามาก คุยๆกันไปมองตากันไปเรื่อย 5555

    จับไม้จับมือกันตลอดเว ถ่ายรูปคู่เล่นกัน หัวเราะกัน

    เลยเป็นเดทแรกที่ประทับใจมากๆคะ^^
    Like
    1
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Thursday, October 15 2015, 11:43 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    เจอกันที่ผับในจ.หนึ่งในประเทศลาว เราต่างคนต่างเป็น solo backpackerทั้งคู่ เราเห็นเขาคุยกับน้องคนไทยอีกคนอยู่ เลยเดินเข้าไปทักน้อง เลยได้ say helloกัน เลยรู้ว่าเป็นคนญป.อายุเท่ากัน
    จากนั้นทั้งคืนในผับก็เจอกันแว้บๆ เดินสวนกันไปมา หยุดคุยกันบ้างบางที แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราก็คุยแบบนี้กับทุกคนที่เจอ
    พอเราเริ่มเบื่อเลยนั่งอยู่กับที่เฉยๆ เขาก็มาขอนั่งคุยด้วย ตอนนั้นแอบรำคาญ ตาคนนี้จะมาคุยอะไรนักหนา 555 แต่พอดีกำลังเบื่อเลยออกมานั่งคุยกันข้างนอก คุยๆไปผ่านไปเกือบ3ชั่วโมง ขุดทุกเรื่องมาคุยกันเท่าที่จะหาได้ (ด้วยภาษาอังกฤษ) เราบอกว่าจะอยู่เมืองนี้แค่พรุ่งนี้ อีกวันเราจะไปอีกเมือง เค้าก็โอเคงั้นพรุ่งนี้มานี่ แล้วเจอกัน โอยาสุมิ แล้วก็แลกเฟสกัน
    จากนั้นอีกวันก็เหมือนเดิมค่ะ เจอกันปกติ แต่เราไม่ได้คุยกับเขาเหมือนวันแรก เพราะเราบังเอิญเจอคนรู้จักก็เลยมัวคุยอยู่กับพี่เขา ไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่ พอผับจะปิดเราก็ไปลาเขาค่ะ บอกว่าพรุ่งนี้จะไปอีกเมืองแล้ว โชคดีน้า
    ปรากฏว่าเขาเดินทางมาเมืองเดียวกับเราค่ะ 5555 ทักแชทมาบอกว่ายังอยากรู้จักคุณ ถ้าคุณไม่รังเกียจผมขอเที่ยวกับคุณด้วยนะ ตอนนี้เราเริ่มเขินละค่ะ เริ่มแอบคิดว่าเขาต้องคิดอะไรกับเราแน่ๆ พักโรงแรมเดียวกันอีก เลยนัดกินข้าวรอบดึกด้วยกัน
    คืนถัดมาหลังจากกินข้าวรอบดึกที่ตลาดเขาบอกเราว่า อยากขึ้นไปดูดาวบนภูนั้น อ่านในเน็ตบอกว่าสวยมากอยากชวนขึ้นไปด้วยกัน เราก็โอเคได้ ไหนๆก็ไหนๆละถือโอกาศเดินย่อย ปรากฏว่าบันไดหกร้อยกว่าขั้นหืดขึ้นคอเลยค่ะ ไม่มีน้ำกิน เค้าถามยูโอเคไหมตลอดทาง เราก็โอเคๆ ขึ้นไปถึงก็หอบสิคะ ต่างคนต่างเงียบ ข้างบนไม่มีใครเลยค่ะ มืดมาก แต่เห็นดาวเต็มฟ้าและมองลงมาข้างล่างก็เห็นไฟจากบ้านคนสวยมากๆ สักพักเขาก็ชวนเรานั่งที่ม้าหินอ่อนข้างๆกัน ก็คุยโน้นนี่ไป แล้วก็กลับมาต่างคนต่างเงียบเหมือนเดิมค่ะ5555 ช่วงเวลานั้นมันเงียบจนแทบจะได้ยินหัวใจเต้นเลยทีเดียว สักพักเขาก็เริ่มเขยิบเข้ามาใกล้ๆแล้วก็เริ่มสารภาพออกมาแบบเขินๆค่ะ ว่าเขารู้สึกชอบเรา รู้สึกคุณเหมือนเป็นรักแรกพบ มาแบบเงียบๆแต่ทำให้ผมคิดถึงได้ตลอด พอคุยด้วยก็ประทับใจ ถ้าคุณยังไม่มีใคร คุณช่วยให้โอกาสผมได้ไหม บลา บลา เราก็เขินค่ะ เงียบนานมาก ก่อนจะตอบตกลง 55555 จากนั้นก็นั่งดูดาวกันอยู่ซักพักแล้วก็เดินจับมือกันตอนลงค่ะ ตอนนี้ก็ผ่านมาได้6เดือนแล้วค่ะ เราก็ศึกษานิสัยกันไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ^^
    Like
    1
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Friday, October 16 2015, 12:16 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    ของต้าเจอกันจากเน๊ตคะ ตอนที่เค้ามาวางแผนหนี (เรื่องยาว) 5555 :D อืมๆๆ มาแค่เสาร์ อาทิตย์ นัดเจอบ่ายๆอ้างว่ามีงานด่วนเข้า... นวด ญี่ปุ่นชอบนิ แล้วก็ให้ไปนั่งเรือข้ามคลองเล่นแนะนำไปไกลๆเลยละกัน เดี๋ยวก็หมดวันแระ โอเคคคคค.....ตามนี้!!! :D เรานี่ความคิด (เลวๆ) เยี่ยมเจงๆ:D

    แต่พอเจอตัวจริงแค่นั้นแหละ...สปาคคค!!เข้าอย่างแรง!! หลังจากที่ส่งไปโรงแรม รีบกลับมานอนคลุมโปง เปลี่ยนแผนๆๆๆ คิดๆๆ.... จะพาไปไหนดีเค้าจะได้ประทับใจ..คิดไปคิดมา....กรี๊ดดดดด..ด เมื่อไหร่จะเช้าาาาาาาาา...าาาาา..อยากเจออ...อออ......

    วันเสาร์นัดกันไปดูหนัง ทั้งๆที่นัดเจอกันตอน 11 โมงครึ่ง แต่ตื่นตั้งแต่ตี 5!! มามาค์หน้า ขัดผิว เลือกแต่งหน้าโทนสีอะไรดี ฮ่าๆๆๆ พอถึงเวลานัดแต่ยังไม่ถึงเวลาหนังที่จะฉาย ต่างคนต่างนั่งนิ่ง เราเองก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงได้แต่ยิ้ม เค้าเองก็ดูเขิลๆไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่.............."เงียบ"..............

    "ขอดูลายมือหน่อยได้มั้ย" แฟนเอ่ยปากก่อน....
    ห่ะ!!! ดูเป็นเหรอ? มือยื่นออกไปเร็วพอๆกับความคิด....แฟนก็จิ้มๆๆที่มือ อืมๆอืมๆ...จิ้มๆๆ........

    "คุณดูเป็นเหรอ??ลายมือชั้นเป็นไงมั่ง?" ทำหน้าอยากรู้....ชั้นนี่ขาประจำดูดวงเลย ฮ่าๆๆ
    "เปล่า...ดูไม่เป็นหรอก อยากดูมือเธอเฉยๆ" ยิ้มกรุ้มกริ่ม........อ้าววววววว!!!!

    ประเมินจากสถานการณ์แล้ว เค้าเองก็คงมีใจให้อยู่ไม่น้อย แต่คงไม่กล้าลุ่มล่าม....งั้นเราก็อ่อยเลยละกัน....เฮ้ยยย เปิดทางให้ละกัน......:D

    "ไหนขอดูมือคุณหน่อยซิเป็นไงมั่ง" จิ้มที่มือแฟน ไล่ขึ้นมาที่แขน ตามไปที่แผ่นอก ขึ้นมาบนหน้าเบาๆ หยุดที่ริมฝีปาก ช้อนตาขึ้นมอง ตาสบตา ยิ้มเขิลๆ จากนั้นก็ดึงมือกลับ....เค้ารีบดึงมือเราไปกุมไว้ ขยับมานั่งใกล้ๆๆ ....กรี๊ดดดดดดดด..ด สำเร็จ!!! (เชิดหน้า ยกมือป้องปาก โฮะ โฮ่ะๆ โฮ๊ะๆๆๆๆๆ)

    ระหว่างดูหนังก็จับมือกันตลอด หันมาสบตากันเป็นระยะๆๆ จากนั้นก็ตามด้วยทานข้าวและนวด

    "เหนื่อยมั้ย อยากพักมั้ย" แฟนหันมาถาม เราก็พยักหน้า ...........
    "งั้นกลับโรงแรมกัน"
    หือ....??? ทำหน้าเหมือน...นี่เธอจะล่อชั้นตั้งแต่เดทแรกเลยเหรอ!??
    แฟนรีบอธิบาย...."แค่พัก รีแลกซ์จริงๆ สัญญาจะไม่ทำอะไร จริงๆนะ".......ก็กลัวนะ กลัวไม่ได้ไป 55555 จริงๆรู้สึกไว้ใจ ถ้าไม่รู้สึกแบบนั้นคงไม่กล้าตามไปด้วย............:D :D

    พอไปถึงเค้าก็ทิ้งตัวลงที่เตียง นิ่งไปเลย......เอ่อ..ละ แล้วชั้นจะทำอะไรดีละ? ให้มานั่งดูคนนอนเหรอ?? เลยเปิดทีวีดูไปเรื่อยๆๆ สักพักพอเค้าหายร้อนก็เรียกไปนอนใกล้ๆ ตะ ตะ แต่เค้ากางมือออก...รู้ๆกัน :D ...สะดิ้งพอเป็นพิธี ทำลีลาพอให้ดูงาม ก่อนจะค่อยๆนอนลงไปบนแขนของเค้า......

    เค้าจับแขนเราไปกอดเค้าไว้ แล้วเค้าก็ขยับกอดเราไว้เหมือนกัน จากนั้นก็จับหน้าเชิดขึ้น ค่อยๆบรรจงจูบ.. .(>___<) ยะ ยะ หยุสสส......ส..

    "ไหนบอกจะไม่ทำอะไรไง" จริงๆต่อเลยก็ได้นะ ชั้นพูดไปงั้นแหละ....คริคริ....แล้วจะบอกให้เค้าหยุดทำไมฟร่ะ!!! ....อ้าววว เดี๋ยวเค้าหาว่าชั้นง่ายไง.......ความคิดด้านดีกับด้านชั่วเริ่มตีกัน

    จากนั้นเค้าก็หยุด จุ๊ฟแค่ที่หัวแล้วก็นอนลูบหัวไปเรื่อยๆเบาๆๆ....สบ๊ายย สบายย :D

    หลังจากวันนั้นก็สลับกันบินไปมาทุก 2 อาทิตย์ ความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปทีละสเต็ป ทุกวันนี้ความรู้สึกยังเหมือนวันแรกที่เจอกันอยู่เลย แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือความสนิทและความผูกพันธ์.....(^____^) (^____^) (^____^)
    Like
    2
    • ไอจัง
      more than a month ago
      น่ารักมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วฟินตาม ////▽///
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    natsuki-G
    natsuki-G
    Offline
    Saturday, October 17 2015, 03:53 AM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    เราเจอกันที่ร้านอาหารไทยที่ญี่ปุ่นคะ เราเป็นอะรุไบโตะ ส่วนเขาเป็นเทนโจร้านค่ะ

    คือเขาเป็นคนที่เย็นชามาก มากๆๆ ถึงมากที่สุดเลย

    ขอเกริ่นก่อนแล้วกันนะ!!!

    คือร้านอาหารที่เราทำงานอ้ะ มีอยู่ 7 สาขา เรากับเขาทำกันคนละสาขาเขาทำสาขา A เราทำสาขา B (ขออนุญาตใช้ชื่อสมมตินะคะ) แต่ก็มีการเวียนพนักงานบ้างถ้าคนไม่พอ

    เราก็เลยได้มีโอกาสได้ทำงานกับเขาบ้าง ซึ่งเขาคือคนญี่ปุ่นของแท้เลยก็ว่าได้นะ บ้างานสุดๆๆ ระเบียบเป้ะเว่อร์

    จนบางทีทำงานด้วยก็แอบโมโหบ้าง ถึงขั้นทะเลาะกันเลยก็มีนะ แต่เวลาทะเลาะนี่ หลุดภาษาไทยตลอด ก็แหม!! ญี่ปุ่นก็แค่ถูๆไถๆ

    ส่วนเขาอ้ะหรอ อย่าว่าแต่ภาษาไทยเลย ภาษาคนยังพูดไม่รู้เรื่องเลย 5555 อุ๊บส์!! แอบเม้ายาว

    เข้าเรื่องๆๆๆ

    วันแรกที่เจอกันเลยก็เมื่อปีที่แล้ว พอดีว่ากุ๊กที่สาขา A เขาทำเมนูอาหารใหม่ขึ้นมา เขาก็เลยอยากจะเอาเมนูนี้มาให้เจ้าของร้านชิมว่าผ่านหรือเปล่า

    ก็เลยนัดมาชิมอาหารที่สาขา B ที่เราทำงานอยู่เพราะสาขาฺ B ร้านจะใหญ่แล้วก็มีห้องแบ่งเป็นส่วนตัวเลยค่อนข้างที่สะดวกเรื่องคุยงาน

    (จะได้ไม่มีใครแอบฟังมั้ง เลยต้องการความเป็นส่วนตัว) แล้วด้วยความที่เราเองไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ไม่เคยรู้จัก ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาคือเทนโจคนใหม่จะมา

    ทำงานอีกสาขา A เราเห็นเขามาเดินป้วนเปี้ยนในครัว เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เราก็เม้ามอยหอยสังกับพวกพี่ๆที่ทำงานไป แต่พอเห็นเขายืนเฉยๆ หน้านิ่งๆ เลยชวนเขาคุย

    ประโยคแรกที่ถามเขาคือ "คุณๆ ฉันน่ารักมั้ย" แอบคิดอยู่นะว่านี่ตรูทำไรลงไปเนี่ย แต่ก็เนียนๆคุยต่อ "ตอบสิคุณ ฉันน่ารักมั้ย" เขาก็ยิ้มแล้วตอบกลับมาตามมารยาทว่า "น่ารัก"

    โอ้โห!!! ฟินสิ ผู้หญิงอ้ะเนอะ เวลาใครชมเรา แกล้งชมหรือชมจริง ก็ฟินบ้างเป็นเรื่องธรรมดา คือคุยแค่นั้น เพราะ ไม่กล้าคุยเยอะ ภาษาญี่ปุ่นก็ยังไม่แข็งแรง แต่ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรนะ

    เพราะตัวเราเองเป็นคนขี้เล่นอยู่แล้วและอีกอย่างเรามีแฟนเป็นคนไทยอยู่แล้วเลยไม่คิดอะไร นี่คือครั้งแรกที่เจอกันนะคะ หลังจากนั้นก็ห่างหายกันไปแบบไม่เจอกันประมาณ 3 เดือนได้

    พอผ่านมา 3 เดือน เหมือนมีมรสุม โดนแฟนคนไทยบอกเลิกค่า เศร้าสิค่ะนอยแ_กเลยค่า ถึงขนาดร้องไห้ขณะที่ทำงานอยู่ พี่ๆรวมถึงเทนโจสาขา B ก็พากันเห็นใจ ถึงขนาดจะหาแฟนใหม่ให้เรา

    ด้วยความรวดเร็ว เทนโจสาขา B ก็แนะนำว่า มีคนหนึ่งโสด ลองคุยกับเขาดูมั้ย เขาเป็นเทนโจร้านอาหารของเราเนี่ยแหละ แต่อยู่อีกสาขาหนึ่ง ณ.เวลานั้นประสาทสัมผัสแทบจะไม่ทำงาน เราก็ได้แต่

    เอายังไงก็เอา เทนโจBเลยนัดมาทานข้าวที่ร้านเลย แล้วเขาก็มาจริงๆ คือตกใจมาก ไอ้ที่เราไปเล่นด้วยเมื่อ 3 เดือนก่อน คือ เขา คืออายอ้ะ อายมาก อายที่ไม่รู้ว่าเขาคือเทนโจ ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ

    แต่เป็นคนที่ถูกแนะนำให้มาคุยกัน คือแบบ เห้ย !!! งง แต่ก็คุยนะ แต่ก็ไม่ได้คุยไรมากมาย คือทุกคนที่ร้านเชียร์เรากับเขามาก ถึงขนาดให้เข้างานด้วยกัน ให้หยุดตรงกันเลย แล้วก็เป็นอะไรที่เหมาะ

    เจาะมาก ร้านสาขา C คนขาด เราเลยได้ไปทำงานที่สาขา C แล้วเขาก็เป็นเทนโจที่คุมทั้งสาขา A และ C เอาสิ เลยได้ทำงานด้วยกันเลยคะ ด้วยความใกล้ชิด อีกคนอกหัก อีกคนโสด เป็นไงล่ะ เขา

    ดูแลเราดีมากเลยนะ วันไหนที่เข้างานด้วยกันนางก็จะซื้อขนมมาให้ทุกครั้ง หรือถ้าเลิกงานพร้อมกันนางก็จะขับรถไปส่งที่หอ หรือถ้าวันไหนมีเวลาตรงกันนางก็จะพาไปเที่ยวบ้าง ไปหาไรกินบ้าง แต่

    คือน้อยมากอ้ะ แล้วในที่สุด เขาบอกว่าเขาชอบเรา ไม่ได้โรแมนติกเลยนะ มาแบบ งงๆ เขาก็มาส่งเราที่หอปกติ อยู่ๆนางก็จับมือแล้วบอกว่า "ชอบเธอนะ"แค่นี้ เราก็ เอ๋อๆ คือ จริงหรอ

    เขาก็บอกว่าเขาชอบเราจริงๆ รู้แค่นี้แหละแล้วก็ไล่เราลงจากรถเลย คือ จะเย็นชาไปไหน ฮาร์ดคอร์มากเธอ!!! หลังจากนั้นเราก็คุยกันมากขึ้น เจอกันบ่อยกว่าเมื่อก่อน แต่เขาไม่ได้บอกว่าขอคบ

    ไม่ได้เป็นแฟนอ้ะ เป็นอะไรไม่รู้ ทุกวันนี้ก็ยัง งงๆอยู่ แต่เขาดีมากอ้ะเราก็เริ่มหวั่นไหวก็ชอบนั่นแหละ จนเมื่อเดือน กันยาที่ผ่านมา เราเรียนจบ เราต้องกลับไทย เขาก็เปลี่ยนไปเลยอ้ะ ไม่คุยเหมือนแต่

    ก่อน แต่ยังดีตรงที่เขายังตอบไลน์เรานะ แต่เป็นแบบถามคำตอบคำ เราก็พยายามจะเข้าใจว่าเขางานยุ่งมาก จนกระทั่งเรากลับไทยตอนสิ้นเดือนกันยา ก็เป็นแบบนี้ถามคำตอบคำ บางทีไม่ตอบเลย

    ไม่ทักด้วย เราก็เลย งง คะ เหมือนจะดีนะ แต่มันดันมาหักมุมตอนท้าย ฮ่าๆๆๆ แอบนอยนะ แต่ก็ช่างมันเถอะเนอะ แค่อยากมาแชร์ให้ได้อ่านกัน ว่าเราเจอความสัมพันธ์แบบ งงๆ ผู้ชายญี่ปุ่นนี่เข้าใจ

    ยากจริงๆเลย
    Like
    1
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    koiki
    koiki
    Offline
    Tuesday, October 20 2015, 10:44 PM - #Permalink
    Resolved
    1 votes
    ของก้อยเจอกันแบบงง เป็นเรื่องบังเอิญแบบ งง งง

    ตอนนั้น ภาษาญี่ปุ่นอ่อนแอมาก (ตอนนี้ก็ยังอ่อนแออยู่ 555)

    แต่ด้วยเคยทำงาน ร้าน izakaya ที่ไทย แล้วก็ออก เพื่อนคนนึงย้ายไปทำร้านอาหารญี่ปุ่น ที่เจ้าของเป็นคนญี่ปุ่น อยู่แถวนานา

    เราทำงาน อยู่แถวสยาม คืนนึง อยู่เพื่อนก็โทรมา เล่าไห้ฟังว่า เนี่ยตลกมาก ได้ไปเดทแบบ งง งง มา กับเด็กญี่ปุ่น 555

    คือ เพื่อนก้อยแจกใบปลิวอยู่ค่ะ ยืนอยู่กับ ผจก ร้านที่เป็นคนญี่ปุ่น คนนั้นเห็นเพื่อนเราพูดภาษาญี่ปุ่นเลยเดินมาถามเพื่อนเราว่า

    เนี่ยจะไปอยุธยาจะไปยังไง? แล้วก็บลาๆเป็นการผจญภัยของสองคนนั้นคืนนั้น แต่เรื่องของเรื่องคือผู้ชายคนนั้นจริงๆมากับเพื่อน

    เพื่อนก้อย ก็บอกว่า พรุ่งนี้ทำงานกี่โมง เดี๋ยวพาสองคนนี้ไปวัดแล้วไปสยาม จะแวะมาหา เราก็ไม่ได้คิดอะไร ชินแล้วกับคนญี่ปุ่น

    เลยบอกไห้มาสิ แล้วก็มากันจริงๆ ก็ดูเป็นเด็ก เนิร์ดๆ บื้อ ๆ กันทั้งสองคน 555 เราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่สองคนนั้นดูแบบตื่นเต้น มาก

    ไอ้คนที่เหมือนจะกิ๊กๆกับเพื่อนเรานี่ดูดีน่ะ แบบหน้าตาออกไปทางน่ารักๆ หน่อย แต่ไอ้อีกคนนี่ดิ(แฟนเราเองในปัจจุบัน) หน้าาแบบ อธิบายไม่ถูก 555

    เหมือนแบบได้พบปะคนไทยเลยตื่นเต้นกัน พยายามถามนู่นนี่ แปปเดียว เราก็บอกว่า ต้องกลับไปทำงานแล้ว เพื่อนก้อยก็เลยบอกว่า เออคืนนี้จะพาพวกนี้ไป ข้าวสาร เลิกงานแล้วตามมาน่ะ

    เราก็โอเค ชวนกิเหล้าก็ไปสิ รออะไร 5555

    พอใกล้ๆ เลิกงานก็เริ่มแปลกๆ เพราะ เพื่อนโทรจิก จริงๆเพื่อนคนนี้ไม่เคยโทรจิกเลย

    ครั้งแรกเราก็บอกแปปนึง ใกล้จะเลิกแล้ว

    แล้วฝนก็ตก อะไรๆเลยช้า

    ก็โทรมาอีก ครั้งที่ สอง เราก็ยังโอ้เอ้เบาๆ 555

    แล้วก็โทรมาอีกครั้งที่ สาม เราเลยถามเพื่อนว่า มีอะไรรึเปล่า ทำไม วันนี้ โทรจิกจัง (ก้อน่ะยังไงก็คือคนแปลกหน้าล่ะ เราก็เป็นห่วงเบาๆ)

    เพื่อนเลยบอกว่า จิงๆ ไม่ได้อยากจะตามจิกหรอก แต่ไอ้คนเนี่ย(หมายถึงเเฟนเรา) มันถามถึงอยู่นั่นเหละ

    แรกๆมันก็ถามโน่นนี่ทั่วไป แล้วก็ถามว่ายังไม่มาอีกหรอ

    สักพักก็ถามอีก แล้วก็เริ่มถามบ่อย จนผิดปกติ จนเพื่อนเราแอบรำคาน 5555 แล้วก็อยู่ด้วยกันมาทั้งวันเหมือนหมดเรื่องคุยแล้วด้วย

    บรรยากาศเลยเริ่มกร่อยๆ ส่วนเราเป็นคนแบบบ้าๆบอพูดมากอยู่แล้ว ถ้ามาคงจะสนุกเลยอยากไห้รีบมา

    พอไปถึงเพื่อนเรากับผู้ชายของนางก็นั่งด้วยกัน เราก็นั่งมานั่งข้างอินี่(ที่ตอนนี้เป็นแฟนในปัจจุบัน 555)

    ไปถึงก็ มีแต่ที่ว่างไม่มีเก้าอี้ ผู้ชายเค้าก็พยายามทำตัวแมนเต็มที่ลุกไปหาเก้าอี้ไห้ แต่พอดี สาวไทยแข็งแกร่งเกินไป 55

    เค้าเดินไปหาเก้าอี้ลากมาไห้เราแต่ในขณะเดียวกันเราไปยกเก้าอี้มาเองแล้ว ผู้ชายเลย งง งง ยืนอึ้งๆ แป็กๆ คนอื่นก็ขำกัน

    แล้วเราตกใจมาก เราะว่าเพราะแฟนเราเป็นคนขี้อายมั้งแบบว่า ชอบเสียงดังข่มความอาย 555

    แบบว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มาเรานั่งลงข้างๆ ปุ๊บ แบบ ตะโกนใส่หน้าเรา ว่า มาช้าาาาาา อ่ะ ทำไมมาช้าจังง

    เราก็ งง งง อะไรของมันว่ะ เรา ก็ไม่กลัวน่ะ ตะโกน กลับ ก็เลิกงานแล้วก็รีบมาเลยเนี่ยยยย!!!

    คืนนั้นก็ดื่มไปคุยกันไปตลกดี แฟนเราเป็นคนตลก 5555

    ก็แลกไลน์กันคุยกันไปเรื่อยๆ มีเรื่องเกี่ยวกับเค้าไห้แปลกใจหลายอย่าง จนพอใกล้ๆ วันเกิดเรา เราก็เลยใช้วันหยุดไปเที่ยวซะเลย ห้าวันเต็ม

    เป็นห้าที่แบบว่าฟินมาก การ์ตูนญี่ปุ่นและซี่รี่ย์ทุกเรื่องที่เคยผ่านมาอยู่รวมกันหมด

    วันแรกเค้าก็ทำกับข้าวไห้กิน เค้าไม่ค่อยสบายด้วย มีไข้เลยเหละ วันต่อมาจะเป็นวันเกิดเราเหมือนเค้าก็อยากพาไปข้างนอกเลยรีบนอน

    เค้าบอกว่าล้างหน้าไห้หน่อย เอาภาษาญี่ปุ่นไปแปลเป็นภาษาไทย แล้วส่งไลน์มา ทั้งๆที่อยู่ข้างๆ ตลกดี 555

    คืนนั้นก็นอน นางหลับเร็วมาคงเพราะไม่สบายด้วย พอสักประมาณใกล้ตีหนึ่ง นางก็ดึงเราไปหาแล้วกระซิบ ว่า Happy birthday

    (กรี๊ดด แปป ฟินน นึกถึงแล้วฟิน) แต่เรานี่ดิตกใจมาก เพราะแบบ นางตัวร้อนมาก ไข้ขึ้น (โถถ โถถ ยังมีหน้ามา birthday)

    เลยต้องกลายเป็นพยาบาลจำเป็นไป ก็แอบขำนิดๆ นี่เราบินมาเพื่อเป็นพยาบาลเลยใช่มั้ยเนี่ย 555

    พออีกวันนึง ก็พาเราไปข้างนอก เราก็บ้า shopping เห็นอะไรก็อยากซื้อไปฝากคนที่บริษัท

    เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเราแผนเค้าแตก จริงๆ แล้วเค้ารอไห้เราพูดว่า อุ้ย!!อันนี้น่ารักอยากได้ แต่ไม่มี เราเอาแต่แบบว่า อันนี้จะซื้อฝากคนนั้นนคนนี้ 5555

    คืนนั้นก็พาไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ ซื้อบัตรมาแล้วแต่เพิ่งเห็นว่าวันเกิดขึ้นฟรี ได้เล่นสองรอบด้วย 555

    อยู่บนชิงช้ากนั่งอี๋อ๋ออันตลอด หุหุ แล้วก็พาไปดูวิวบน tower (ไม่ใช่ที่โตเกียวนะ 555) ฟินมาก ถอดรองเท้าผ้าใบเดินเล่นบนชายหาดตอนกลางคืน

    มีเด็กๆมาเล่นดอกไม้ไฟกันเราก็นั่งดู ไม่สนุกแต่ฟินมาก 555 วันต่อมาเราบอกว่าอยากไปหาเพื่อนที่อยู่จังหวัดใกล้ๆ นางก็ขับรถพาไป

    เพิ่งรู้ว่า แอบจองเรียวกังไว้ แช่ออนเซ็น แบบไพรเวท ตกใจมาก แบบว่า เห้ยยย มันต้องแพงแน่ๆ จะจ่ายเงินไห้ อุตส่าขับรถพามา

    เค้าก็บอกว่า ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิด อุ่ยยยหย่ะ ฟินน อีกล่ะ 5555

    พาไปวัด แต่ไปช้าร้านค้าแถวหน้าวัดเตียมปิดกันหมดแล้ว เราบอกว่าเสียดายอยากกินวาราบิโมจิ เสียบไม้

    เค้าเลยเดินไปเคาะที่ร้านนึงที่กำลังเก็บของว่าขอซื้อไม้นึงได้มั้ย น่ารักดี 555

    แล้วก็พาไปโนนนี่ตลอด เป็นความทรงจำที่ดีมาก ^^ เวลาเราบอกว่าหนาวเค้าก็จะถึงมือไปซุกในกระเป๋าเสื้อฮูดตลอด ตอนนี้ก็ยังทำอยุ่

    แต่ช่วงนี้จะโดนดุมากว่า ว่าก็รู้ว่าหนางแล้วทำไมชอบแต่งตัวแบบไม่กลัวหนาว 555

    ตลอดเวลาที่ขับรถพาไปไหน ก็จับมือกันตลอดแหย่กันตลอดจนตอนนี้ก็ยังทำอยู่น่ะ แต่ไม่เยอะเท่าช่วงโปร 555

    อยู่กับคนนี้มีเรื่องราวไห้จำตลอด ^^




    Ps. ตอนเจอกิ๊กญี่ปุ่นคนแรกตลกเหมือนกันน่ะ ถ้ามีโอกาสจะเล่า 555
    Like
    1
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Neko mame
    Neko mame
    Offline
    Thursday, February 15 2018, 06:55 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    เจอกันครั้งแรกในแอ๊ปสอนภาษาคะ เราโพสไปว่าอยากได้เพื่อนคนญี่ปุ่น คุยด้วยเพื่อฝึกพูด
    เขาก็ทั้กเรามาคะ แลกไลน์กัน แล้วหลังจากนั้นก็ได้โทรคุยกัน ซึ่งก็คุยกันเรื่องทั่วไปนี้แหละคะ ไม่ได้จีบอะไรทั้งสิ้น ตอนนั้นก็ไม่ๆด้คุยกันทุกวันคะ มาๆหายๆ หายไปเป็นอาทิตย์ยังมี เพราะตอนนั้นก็คิดแค่เพื่อนคะ

    พอรู้จักกันได้ประมาณ 2 เดือน เขาก็ชวนเราเที่ยวคะ เพราะเขาจะมาไทย อยากเที่ยวเชียงใหม่ เราก็ตอบตกลงไปและอาสาพาเที่ยว

    หลังจากวันที่ได้เจอกัน จนวันที่กลับญี่ปุ่น เราก็ไปส่งเขาที่สนามบิน ก่อนไปอยู่ๆก็ดึงเราเข้าไปกอดเฉยคะ แบบไม่ทันตั้งตัว อารมณ์นางเอกในมังงะ 55555

    หลังจากวันนั้นเขาก็โทรมาหาทุกวัน ดึกแค่ไหนก็จะรอเราว่าง แล้วก็โทรคุยกัน จากนั้นมันก็เริ่มมีความรู้สึกพิเศษๆเกิดขึ้นมาคะ เราเลยถามเขาไปว่า ตอนนี้คิดยังไงกับเรา เขาบอกว่าชอบเรามาก คบกันได้มั้ย เราเลยตอบไปว่าได้ แล้วบอกว่าหลังจากนี้เราค่อยๆ ศึกษานิสัยกันไปนะ ขอบคุณนะ

    ตั้งแต่วันที่เจอกันและได้คบกันก็ผ่านมาได้ 2 เดือนแล้วคะ เรามีแพลนไปเดทกันที่ กทม.เดือน 5 นี้ คือเราทั้ง 2 ต่างมีความงอแง 5555 นับถอยหลังไม่ไหวแล้ว อยากเจอ อยากกอด อยากคุยด้วยใกล้ๆ โดยไม่ผ่านวิดีโอคอล คิดถึงมากๆ แต่ก็ทำได้แค่ มองหน้ากันผ่านวิดีโอคอล ส่งรูปของกิน ของแปลกๆ รูปตัวเอง บลาๆ

    เพื่อที่จะไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งหายไปจากการติดต่อ คือกลัวกันทั้งคู่ไงคะไกลกัน เราก็กลัวเขาจะไปถูกใจหญิงญี่ปุ่นคนอื่น เขาก็กลัวว่าเราจะมีชายอื่นมาจีบ 5555

    ตอนนี้ก็ใจหวั่นๆ กลัวจะคบกันไม่ยืด แต่เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องของอนาคต เราก็พยายามไม่คิดมาก ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทุกวันนี้คุยกันแล้วแฮปปี้ มีเสียงหัวเราะให้กันทุกวัน เท่านี้ก็พอแล้วคะ
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Alys  H.
    Alys H.
    Offline
    Tuesday, February 20 2018, 09:54 AM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    คนญี่ปุ่นนี่แทบจะไม่ใช่สเป็คเราเลยค่ะ ได้ยินคำว่าผู้ชายญี่ปุ่นแล้วคงนึกถึงความเข้าใจยาก เย็นชา และความบ้างาน
    แต่พอได้เจอกับแฟนคนนี้ ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่าเขาแตกต่างออกไปค่ะ

    เราเจอกันครั้งแรกในเว็บแลกเปลี่ยนภาษา เขาส่งอีเมล์มาบอกว่าอยากเรียนภาษาไทยพร้อมกับแนบไลน์มา เราก็แอดไปจากนั้นคุยกันปกติ
    เราเองก็ตั้งใจสอนภาษาไทยให้เต็มที่มาก แต่เขาดูไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เลยถามไปตรงๆว่าทำไมถึงอยากเรียน (?) จนเขามาสารภาพทีหลังว่ามันคือข้ออ้างที่เอาไว้จีบเราตั้งแต่แรกแล้ว (แหม่...ร้ายยยยยย~)
    รู้แบบนั้นก็อึ้งสิคะ อึ้งหนักกว่าเดิมตอนที่เขาบอกว่าไม่เคยคุยกับผู้หญิงไหนแล้วเปิดใจได้ขนาดนี้ นั่นคือเหตุผลทำให้เขาชอบเรามากขึ้นค่ะ :D

    หลังจากนั้นเขาก็คะยั้นคะยอขอเป็นแฟนตลอด พยายามพูดจาหวานๆ ไลน์มาหาบ่อยๆ และบินมาขอเจอโดยที่ไม่ถามเราสักคำ...
    ส่วนตอนนั้นเรายังเด็กอยู่ค่ะ ทุกอย่างมันดูเร็วเกินไปและกลัวว่าจะโดนหลอก เพราะอีกฝ่ายก็อยู่ในวัยทำงานแล้ว
    พอเขารู้ว่าเราไปเจอไม่ได้ ฮีงอนไปสักพักเลยค่ะ 555555 (แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะขอเราเป็นแฟนนะ >//<)

    ผ่านมาหลายเดือนเขาทำแบบนี้กับเราบ่อยๆ จนเราเริ่มจะใจอ่อนเลยขอบินมาหาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาบอกว่าขอให้เราได้เจอกันก่อน จะตัดสินใจคบมั้ยก็อยู่ที่เรา ; _ ;
    เราเลยนัดเจอกันที่บีทีเอสหลังเลิกพาร์ทไทม์ค่ะ กว่าจะได้เจอกันก็ 4 ทุ่มแล้ว ครั้งแรกที่เห็นนี่คือตกใจมาก! ทำไมตัวจริงดูดีกว่าในภาพเยอะ...ผอม...ขาว...สูง...(อร๊ายยยยยยยย~~~)
    และด้วยความเขินมีมากกว่าความกล้า ทำให้เรายืนบิดตัวเงียบๆไม่กล้าเข้าไปทักก่อน...
    ในใจก็คิดๆๆๆว่าสภาพเราดูโอเคหรือยัง หลังจากนี้จะคุยกันยังไง จะพาไปไหนดี...โอ๊ยยยยย คำถามล้านแปดผุดขึ้นมาในหัว

    สักพักถึงรู้สึกตัวได้ว่ามีอะไรมาสะกิดที่ไหล่ เราเลยหันหลังควับ!...กรี๊ดดดดดดดดดด!!! มายืนอยู่ข้างหลังชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
    เขาเห็นสภาพเราตกใจเหมือนเห็นผีก็หัวเราะลั่นเลยค่ะ บอกว่าเดินวนไปมารอบสถานีเผื่อจะเจอเราแอบอยู่ และก็ไม่คิดว่าจะเจอจริงๆ (ฮือออออ T-T )
    'ตอนแรกผมนึกว่าจะไม่ได้เจอคุณแล้ว ผมดีใจนะที่คุณมา' ดูจากคำพูดและสีหน้าที่ยิ้มไม่หุบแล้ว เขาเองก็คงดีใจไม่น้อยเหมือนกัน

    หลังจากนั้นเราก็พาไปร้านอาหารค่ะ ระหว่างรอ เขาก็พยายามถามเรื่องทั่วไป ส่วนเราก็ได้แต่อือออและนิ่งเพราะความเขิน
    'คุณขี้อายกว่าที่ผมคิดนะ'
    '...ไม่เหมือนที่คุยกันในไลน์เลยใช่มั้ยคะ?'
    'ปกติผมพูดไม่ค่อยเก่งนะ แต่เห็นคุณเป็นแบบนี้แล้วก็อดแกล้งไม่ได้ ผมชอบเวลาที่คุณเขิน'
    (แอร๊ยยยยยยยยย~ ไหนใครบอกหนุ่มยุ่นเข้าใจยากและไม่พูดอะไรตรงๆไง นี่อยากจะเถียงขาดใจจจจจ)
    'เราเป็นแฟนกันนะครับ'
    (เดี๋ยววววว! สติยังมาไม่ทันครบ เล่นถามตรงๆแบบนี้เลยเรอะ?! T-T)
    'เรื่องระยะทางไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมสามารถมาหาคุณได้บ่อยๆอยู่แล้ว'
    'อ่ะ...เอ่อ'
    'เชื่อใจผมนะครับ'
    คำพูดมาเร็วพร้อมกับความคิด เขาเอื้อมมือมาจับมือเรา ประหนึ่งว่ามัดมือชกให้เรายอมรับด้วยความเขิน เราเลยตอบตกลงคบไป...(ติดกับแล้วจ้าาาา)

    ตั้งแต่วันนั้นเขาก็แสดงด้วยการกระทำมาตลอด ความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปตามสเต็ป จากที่ไม่เชื่อใจตอนนี้ก็เชื่อใจได้เต็มร้อย และความต่างของอายุกับวัฒนธรรมก็ไม่ใช่ปัญหาเลย ถึงจะมีน้อยใจบ้างที่เขาเงียบหายไปเพราะงานหนักจริงๆ แต่พอเคลียร์งานได้เขาก็จะทักและบินมาหาเราตลอด
    มีรักทางไกลนอกจากความเชื่อใจกันแล้วยังต้องอดทนให้กับเวลาด้วยค่ะ พยายามไม่คิดมากและหาอะไรทำอยู่ตลอด คอยให้กำลังใจกันและกัน ทำทุกวันให้ดีที่สุดก็พอแล้วค่ะ
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Neko mame
    Neko mame
    Offline
    Tuesday, February 20 2018, 04:53 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    Alys H.เขียน:

    คนญี่ปุ่นนี่แทบจะไม่ใช่สเป็คเราเลยค่ะ ได้ยินคำว่าผู้ชายญี่ปุ่นแล้วคงนึกถึงความเข้าใจยาก เย็นชา และความบ้างาน
    แต่พอได้เจอกับแฟนคนนี้ ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่าเขาแตกต่างออกไปค่ะ

    เราเจอกันครั้งแรกในเว็บแลกเปลี่ยนภาษา เขาส่งอีเมล์มาบอกว่าอยากเรียนภาษาไทยพร้อมกับแนบไลน์มา เราก็แอดไปจากนั้นคุยกันปกติ
    เราเองก็ตั้งใจสอนภาษาไทยให้เต็มที่มาก แต่เขาดูไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เลยถามไปตรงๆว่าทำไมถึงอยากเรียน (?) จนเขามาสารภาพทีหลังว่ามันคือข้ออ้างที่เอาไว้จีบเราตั้งแต่แรกแล้ว (แหม่...ร้ายยยยยย~)
    รู้แบบนั้นก็อึ้งสิคะ อึ้งหนักกว่าเดิมตอนที่เขาบอกว่าไม่เคยคุยกับผู้หญิงไหนแล้วเปิดใจได้ขนาดนี้ นั่นคือเหตุผลทำให้เขาชอบเรามากขึ้นค่ะ :D

    หลังจากนั้นเขาก็คะยั้นคะยอขอเป็นแฟนตลอด พยายามพูดจาหวานๆ ไลน์มาหาบ่อยๆ และบินมาขอเจอโดยที่ไม่ถามเราสักคำ...
    ส่วนตอนนั้นเรายังเด็กอยู่ค่ะ ทุกอย่างมันดูเร็วเกินไปและกลัวว่าจะโดนหลอก เพราะอีกฝ่ายก็อยู่ในวัยทำงานแล้ว
    พอเขารู้ว่าเราไปเจอไม่ได้ ฮีงอนไปสักพักเลยค่ะ 555555 (แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะขอเราเป็นแฟนนะ >//<)

    ผ่านมาหลายเดือนเขาทำแบบนี้กับเราบ่อยๆ จนเราเริ่มจะใจอ่อนเลยขอบินมาหาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาบอกว่าขอให้เราได้เจอกันก่อน จะตัดสินใจคบมั้ยก็อยู่ที่เรา ; _ ;
    เราเลยนัดเจอกันที่บีทีเอสหลังเลิกพาร์ทไทม์ค่ะ กว่าจะได้เจอกันก็ 4 ทุ่มแล้ว ครั้งแรกที่เห็นนี่คือตกใจมาก! ทำไมตัวจริงดูดีกว่าในภาพเยอะ...ผอม...ขาว...สูง...(อร๊ายยยยยยยย~~~)
    และด้วยความเขินมีมากกว่าความกล้า ทำให้เรายืนบิดตัวเงียบๆไม่กล้าเข้าไปทักก่อน...
    ในใจก็คิดๆๆๆว่าสภาพเราดูโอเคหรือยัง หลังจากนี้จะคุยกันยังไง จะพาไปไหนดี...โอ๊ยยยยย คำถามล้านแปดผุดขึ้นมาในหัว

    สักพักถึงรู้สึกตัวได้ว่ามีอะไรมาสะกิดที่ไหล่ เราเลยหันหลังควับ!...กรี๊ดดดดดดดดดด!!! มายืนอยู่ข้างหลังชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
    เขาเห็นสภาพเราตกใจเหมือนเห็นผีก็หัวเราะลั่นเลยค่ะ บอกว่าเดินวนไปมารอบสถานีเผื่อจะเจอเราแอบอยู่ และก็ไม่คิดว่าจะเจอจริงๆ (ฮือออออ T-T )
    'ตอนแรกผมนึกว่าจะไม่ได้เจอคุณแล้ว ผมดีใจนะที่คุณมา' ดูจากคำพูดและสีหน้าที่ยิ้มไม่หุบแล้ว เขาเองก็คงดีใจไม่น้อยเหมือนกัน

    หลังจากนั้นเราก็พาไปร้านอาหารค่ะ ระหว่างรอ เขาก็พยายามถามเรื่องทั่วไป ส่วนเราก็ได้แต่อือออและนิ่งเพราะความเขิน
    'คุณขี้อายกว่าที่ผมคิดนะ'
    '...ไม่เหมือนที่คุยกันในไลน์เลยใช่มั้ยคะ?'
    'ปกติผมพูดไม่ค่อยเก่งนะ แต่เห็นคุณเป็นแบบนี้แล้วก็อดแกล้งไม่ได้ ผมชอบเวลาที่คุณเขิน'
    (แอร๊ยยยยยยยยย~ ไหนใครบอกหนุ่มยุ่นเข้าใจยากและไม่พูดอะไรตรงๆไง นี่อยากจะเถียงขาดใจจจจจ)
    'เราเป็นแฟนกันนะครับ'
    (เดี๋ยววววว! สติยังมาไม่ทันครบ เล่นถามตรงๆแบบนี้เลยเรอะ?! T-T)
    'เรื่องระยะทางไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมสามารถมาหาคุณได้บ่อยๆอยู่แล้ว'
    'อ่ะ...เอ่อ'
    'เชื่อใจผมนะครับ'
    คำพูดมาเร็วพร้อมกับความคิด เขาเอื้อมมือมาจับมือเรา ประหนึ่งว่ามัดมือชกให้เรายอมรับด้วยความเขิน เราเลยตอบตกลงคบไป...(ติดกับแล้วจ้าาาา)

    ตั้งแต่วันนั้นเขาก็แสดงด้วยการกระทำมาตลอด ความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปตามสเต็ป จากที่ไม่เชื่อใจตอนนี้ก็เชื่อใจได้เต็มร้อย และความต่างของอายุกับวัฒนธรรมก็ไม่ใช่ปัญหาเลย ถึงจะมีน้อยใจบ้างที่เขาเงียบหายไปเพราะงานหนักจริงๆ แต่พอเคลียร์งานได้เขาก็จะทักและบินมาหาเราตลอด
    มีรักทางไกลนอกจากความเชื่อใจกันแล้วยังต้องอดทนให้กับเวลาด้วยค่ะ พยายามไม่คิดมากและหาอะไรทำอยู่ตลอด คอยให้กำลังใจกันและกัน ทำทุกวันให้ดีที่สุดก็พอแล้วค่ะ


    คล้ายๆกันกะเราเลยคะ ของเรานี้วัยลุงเลยแหละ 55 ในรูปกับตัวจริงแตกต่างกันมาก เรียกได้ว่า
    รักแรกพบได้เลยแหละคะ
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Nanae K
    Nanae K
    Offline
    Wednesday, February 21 2018, 12:45 AM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    ของเราเจอกันในเนตค่ะ^^

    คุยกันมาหลายเดือนพอสมควร แต่ก็คุยแบบเป็นเพื่อนกัน
    ไม่ได้คุยกันทุกวัน แต่ก็ทักทายอยู่เรื่อยๆ และตัวเค้าเองก็ขออยากเจอตัวเป็นๆ ของเรา แต่เราก็บ่ายเบี่ยงอยู่นานเพราะคิดไปเองว่า แค่เค้าอยากเจอก็ต้องให้เจอกันง่ายๆ หน่ะหรอ 55555 ทำตัวเสมือนสวยเลือกได้

    จริงๆ แล้วไม่ได้คิดว่าเค้าจีบ หรือสนใจเราเป็นพิเศษ คิดไปว่าเค้าคงเหงาและอยากหาเพื่อนคุยภาษาอังกฤษด้วยก็เท่านั้น หลังจากเล่นตัวอยู่นาน วันนึงก็จู่โจมนัดเค้ามาเจอที่ร้านอาหารตรงแถวๆ พญาไท แล้วเค้าก็มา

    เจอกันครั้งแรก ก็รู้สึกเขินจัง เค้าน่ารักกว่าที่คิด เป็นผู้ชายที่สูง และหุ่นแบบนักกีฬา ร่าเริง แต่ก็ยิ้ม แบบเก็กๆ นั่นล่ะเค้า

    หลังจากทานข้าวด้วยกันครั้งแรก ก็นัดทานข้าวตอนเย็นกันหลายครั้ง เค้าก็เป็นสุภาพบุรุษสม่ำเสมอ ไม่ได้บริการหรือปฏิบัติอะไรกับเราเป็นพิเศษ เรียกว่า อาการนิ่งมากกก แต่ก็จะดูแลค่าอาหารให้ตลอด และไม่เคยให้เราออกค่าอะไรเลย (( เราเคยมีแฟนเป็นคนเกาหลี ซึ่งจะบริการเอาอกเอาใจ มุ้งมิ้ง ฟุ้งฟริ้ง ให้รู้สึกได้ว่าเราคือคนพิเศษ) เรียกได้ว่าความรักของเราเป็นไปแบบเนิบนาบมาก กว่าจะได้จับมือหรือกอดกัน เค้าก็จะไลน์ถามเราว่า เดทกันครั้งหน้าขอจับมือได้มั้ย เดทครั้งหน้าขอกอดได้มั้ย 5555 ก็ขำดีเรื่องแบบนี้ต้องขอกันด้วย

    แต่ถึงจะขออย่างนั้น พอเอาเข้าจริงๆ เค้าก็จะอายๆ ด้วยอาการทื่อๆ ก็น่ารักดีค่ะ

    แต่ที่ทำให้เราจดจำและยิ้มได้เสมอ คือ กอดครั้งแรก วันนั้นไปดูถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยญี่ปุ่นกันที่บาร์ ตอนนั้นเป็นตอนเผลอๆ ที่เรานั่งโซฟาด้านเดียวกับเค้าเพื่อดูจอโทรทัศน์ได้ถนัดๆ ตอนเผลอๆ เค้าก็กอดเราจากข้างหลัง เหมือนหยุดเวลาไว้สั้นๆ จากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 55555 จริงๆ แล้วก็อยากให้กอดนานๆกว่านี้นะเออ...

    กับจูบแรกที่เฮลแลนด์ ค่ะ ตอนนั้นนวดไทยกันเสร็จแล้ว เราก็ช่วยเค้าแกะเชือกผูกเสื้อ แบบชุดคนป่วยคงนึกกันออกนะค่ะ ที่ผูกตรงอก ตอนนั้นเค้าก้มมาจูบเรา 5555 ต้องใช้ว่าก้มค่ะ เพราะเค้าสูง180 แต่เรา 155 ต่ำเตี้ยเรียดินมาก


    ความรักของเราเข้าสู่ปีที่ 2 แล้วค่ะ
    รักกับ ผช ญป ไม่ง่ายเลย ต้องทำความเข้าใจและฝึกฝนความอดทนหลายอย่าง แต่ก็ผ่านมาได้เพื่อเจอบททดสอบใหม่ๆ


    สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนมีความรักดีๆ พบรักที่จริงใจ และมีความสุขในเดือนแห่งความรักค่ะ
    Like
    1
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Sunday, March 25 2018, 06:49 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    ยาวหน่อยนะคะ อิอิ
    เราเจอกันแบบบังเอิญค่ะ

    บังเอิญเจอกันครั้งแรก
    เราขับรถกำลังจะไปเรียน เจอเขากับเพื่อนน้ำมันหมดกลางทาง ก็เลยช่วยเขาไว้ค่ะ ไปหาน้ำมันมาให้เขา
    เขาขอบคุณ บอกว่าเราใจดีมาก คือแบบเราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ บอกเขาว่าไม่เป็นไรๆ เพื่อนเขาถามว่ามีแฟนยัง เราบอกว่าไม่มีค่ะ(ไม่มีจริงๆค่ะ555)
    เขาเลยขอไลน์ไว้ บอกว่าตอนเย็นไปดินเนอร์กันนะ

    คือตอนนั้นเรา มึนๆรีบๆเพราะจะถึงเวลาเรียนแล้วก็เลยบอกว่า โอเคๆ
    ไม่คิดว่าเขาจะทักมาว่า เรียน สู้ๆนะ

    ตกเย็น เขาก็ทักไลน์มาค่ะว่าไปดินเนอร์กัน แต่เราปฏิเสธไปค่ะ
    เขาก็โอเคไม่ได้อะไรต่อ

    วันต่อมา เขาโทรไลน์มาเลยค่ะ เราก็ปฏิเสธไปอีกค่ะ (เราไม่ว่างอะ555)

    วันถัดไป เขาโทรมาอีกค่ะ เราก็เลย เออไปก็ได้ โอเคๆ
    ก็ไปค่ะ แต่เราชวนเพื่อนไปด้วย เขามาสองคนเราก็ไม่กล้าไปคนเดียว
    พอถึงร้านอาหาร เขาก็ชวนคุยนุ้นนี้ เรื่อยๆ

    บังเอิญค่ะว่า เขาถามเราว่า เกิดวันอะไร เราก็บอกไป เขาตกใจค่ะ เขาบอกว่า " เราเกิดห่างกันวันเดียว เดือนเดียวกัน อายุเท่ากัน "
    ก็แอบตกใจอยู่เหมือนกันค่ะ อิอิ

    หลังจากกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกัน ก็คิดว่าคงไม่ได้คุยแล้วล่ะเขาคงขอบคุณตามมารยาท
    ปรากฎว่า เขาทักมาค่ะ เขาบอกว่าเขา happy นะ ขอบคุณมากครับ แล้วเขาก็ถามค่ะว่า คิดยังไงกับเพื่อนของเขา เราก็ตอบแบบถนอมน้ำใจไปค่ะว่า พี่ชาย
    เขาบอกว่าเพื่อนเขาอาจะมีแฟนแล้วนะ เราก็โอเค ไม่ได้อะไรกับเพื่อนเขาไง

    แต่อยู่ๆเขาก็บอกว่า
    " I like you because you are very kind.I'm happy "

    เราก็บอกขอบคุณไปค่ะ บอกว่า เขินนะ เขาก็บอกว่าเขาด้วย
    จากนั้นเราก็เริ่มคุยกันเรื่อยๆ

    พอถึงวันหยุด เขาทักมาว่า วันนี้ทำอะไร เขาว่าง มานวดให้ฉันได้มั้ย ( เราก็เอ๊ะ ชวนเข้าห้องหราา คิดไรป่าววะ ไม่แน่ใจ) เลยบอกเขาไปว่า เรากลัวนะ
    เขาก็ถามว่า เธอกลัวอะไร เราก็บอกว่า เธอเป็นผู้ชายนะ เขาตอบว่า ถ้าเธอกลัวก็ไม่ต้องมา เธอเลือกได้ เขาไม่ทำอะไรหรอก
    ตอนนั้นก็กลางวันไง ก็ไม่ได้อะไรหรอก ก็เออไปก็ได้

    พอถึงห้องเรียบร้อยมาก เขาท่าทางก็เขินๆมั้ง เราผลัดกันนวดให้ (นวดหลังนะคะ เขาเป็นนักกีฬา) แต่เหมือนเขาไม่กล้าแตะต้องตัวเราเลยค่ะ เขาค่อนข้างเบาๆ5555
    แล้วสลับกันสอนภาษาให้กัน เปิดเพลงดูเอมวีกัน เขาไม่ลุ่มล่ามเลยค่ะ ไม่แม้แต่จะจับมือถือแขน คือเขาสุภาพนะ รักษาระยะห่าง ไม่ใกล้มาก ไม่ไกลมาก
    จากนั้นเราก็ขอตัวกลับก่อนค่ะ มันเย็นแล้วไม่อยากอยู่นาน(เกรงใจค่ะ แอบกลัวบ้าง)
    หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้นัดเจอกันเลยค่ะ คุยไลน์บ้างไม่คุยบ้าง เพราะเขางานยุ่งมาก แต่เจอกันแบบบังเอิญ

    ครั้งที่สอง บังเอิญเจอแบบขับรถสวนกัน เอ้าาา ยู เขาก็เหลียวหลังกลับมามอง แต่ไม่ทันค่ะ ขับรถเร็ว555

    ครั้งที่สาม บังเอิญเจอตอนกินข้าวที่ร้านอาหารค่ะ
    คือเรานั่งอยู่ เขาเดินเข้ามากับเพื่อนสามคนค่ะ ตอนเขาเห็นเรา เขาหยุดกึก เอียงคอว่าใช่มั้ย (เห็นพอดี แลดูน่ารักมากเลยง่ะ) แต่เขาพยักหน้าให้นะ แล้วก็เดินแบบหลบๆอะ คือ???

    วันเกิดเขา
    เราทำของขวัญให้เขา เอาไปให้เขาแล้ว เขารีบเปิดดูแล้วก็ตกใจ คือเราวาดรูปเขาใส่กรอบรูปแล้วก็ให้ช็อกโกแลต เขาบอกว่าดีมากเลย ขอบคุณ ชอบกินช็อกโก้แลต
    เขารีบไป เลยได้คุยกันนิดหน่อย เขาชวนคุยนะคะ

    พอแยกกลับ
    เขาส่งข้อความมาว่าขอบคุณมาก มีความสุขมากเลย สติ๊กเกอร์ยิ้มอีกสามตัว

    เราก็แบบไม่รู้ว่าเขายังชอบเราอยู่เหมือนกันกับที่เขาบอกวันนั้นไหม ? ก็ได้แต่รอค่ะ ว่าจะเอายังไงต่อไปดี
    ช่วงนี้เข้าใจเขาค่ะว่าเหนื่อยกับงานมากๆ เลยไม่ค่อยได้คุยกัน แล้วก็ไม่ได้ทักไปเพราะไม่อยากรบกวนเขาค่ะ

    คิดว่าถ้าเขายังมีใจให้ ก็คงดีค่ะ ^^
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Kate .KK
    Kate .KK
    Offline
    Thursday, December 20 2018, 11:41 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    เรื่องของเรา เป็นหนุ่ม ญป รุ่นน้อง (ห่างกันตั้ง 6 ปี?)
    รู้จักกันผ่านคนรู้จักหลายทอดมาก 55++

    เริ่มจาก เค้ามีพี่ชายทำงานที่ไทย แล้วเค้าก็มาเที่ยว
    ตอนนั้นเราทำงานที่ชลบุรี ส่วนเค้าอยู่กรุงเทพฯ
    ตอนที่ต่างคนต่างมีไลน์ เค้าก็ไลน์มาถามทางไปพัทยา
    เราเองก็พยายามบอก แต่ก็ไม่ได้มาสักที จนกระทั่ง...
    เราต้องไปทำงานญี่ปุ่น 2 อาทิตย์ และวันที่เรากลับไทย
    เค้าต้องกลับญี่ปุ่น เพราะวีซ่าหมดพอดี

    แต่เราก็ยังติดต่อผ่านไลน์กันเรื่อยๆ คุยแบบเพื่อนสุดๆ
    ต่างคนต่างสอนภาษาให้กัน
    จนกระทั่ง เรามีโอกาสไปทำงานที่ ญป รอบที่สอง
    เค้าก็มาจากนาโกย่า ขับรถมาที่โอซาก้า (2-3 ชม)
    เพื่อมาเจอเรา และขอค้าง รร
    เพราะตอนเช้าจะไปเที่ยว USJ กัน
    ตอนเจอครั้งแรก โหหหหกห หล่อปิ๊งมาก สูง ผอม เพรียว ขาว คือ เด็กญี่ปุ่นแบบในการ์ตูนชัดๆ ชอบนะ แต่เก็บอาการ 55 แล้ววันนั้น อินี่คือใส่ชุดกีฬาลงไปรับข้างล่าง55
    หน้าก็ส๊ดสด ส่งแต่รูปแต่งหน้าไปให้ เค้าก็บอกว่าสวย
    ส่วนรูปเค้าที่ส่งมา ให้ใครดูก็บอกเหมือนแบดบอย 55
    แต่เจอตัวจริง คิ้วบอยฉบับหนุ่มญี่ปุ่นมากๆ??

    ไปเดทกันในช่วงวันหยุด เค้าขี้เก๊กมากกกกก
    ดูวางฟอร์มตลอดเวลา คุยยาก แต่ก็มีความใจดีอยู่

    หลังจากที่เดทกัน เรากลับไทย ก็ยังคุยกันเรื่อยๆแต่ถี่ขึ้น
    คุยกันนานอักครึ่งปี เราถึงได้มีโอกาสไปทำงาน ฃญป อีก
    คราวนี้ ไปถิ่นนางเลย เมืองโตโยต้า
    เลยมีโอกาสไปสวัสดีพ่อและแม่เค้า
    จากวันนั้น จนวันนี้ก็สองปีกว่าๆ
    ทะเลาะกันก็บ่อย แต่ก็ปรับๆกันไปค่ะ✌???
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Friday, December 21 2018, 10:36 AM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    สวัสดีค่ะ
    อยากจะมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัว แต่ว่าไม่ใช่แฟนนะคะ
    พอดีเราปฏิเสธเค้าไปค่ะ TT

    คือตอนนี้เราเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น
    แล้วมันจะมีเหมือน avenue สำหรับนักเรียน ให้นั่งเรียนหรือประชุม อะไรแบบนั้นค่ะ
    แล้วเราชอบไปนั่งที่นั่นคนเดียวบ่อยๆ

    แล้วก็รู้สึกได้ว่าเจอผช คนนึง บ่อยมากๆๆๆๆ
    แล้วเค้าชอบมองมาที่เราค่ะ แล้วก็ยิ้ม
    เจอกันประมาณสี่ห้าครั้งได้ค่ะ จนเราจำหน้าเค้าได้

    แล้วมีงานเทศกาลโรงเรียน แล้วเราไปช่วยงานบู๊ทคนไทยค่ะ

    ส่วนเค้า อยู่บู๊ทฝรั่งเศส เพราะน่าจะเอกฝรั่งเศสนะคะ
    แล้วบู๊ทดันอยู่ข้างกันพอดี

    ตอนที่เรานั่งอยู่ที่บู๊ท เค้าก็เดินมาขอไลน์เราค่ะ
    แบบเพื่อนน่าจะเชียร์มาสุดๆ
    จากนั้นก็คุยมาเรื่อยๆๆ
    เค้าก็มีชวนไปเที่ยวอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ

    ซึ่งส่วนตัวเราว่า คนญป กว่าเค้าจะเข้ามารุกเนี่ย คือเค้าต้องมั่นใจนิดนึงว่าเราก็น่าจะสนใจเหมือนกัน
    เพราะอีตานี่ จ้องเรามาหลายเดือนอยู่เหมือนกันค่ะ

    เพราะงั้น ถ้าสนใจคนญี่ปุ่น ลองเปิดโอกาสให้เค้ารู้ว่าชอบ
    จะยิ้ม หรือ ส่งสายตาก็ได้ค่ะ

    ซึ่งพอเค้ารู้สึกว่าเค้าชอบเนี่ย เค้าก็บุกมาจีบเลย
    ไม่ค่อยมาตีเนียนเป็นเพื่อนเท่าไหร่ค่ะ

    เจอประมาณนี้อยู่สองสามครั้ง
    เพราะงั้นถ้าใครอยากมีแฟนเป็นคนญี่ปุ่น
    ก็ลุยเลยค่ะ ไม่ต้องรอ!!
    ฝึกสกิลสู้สาวญี่ปุ่นให้ได้นะคะ
    สาวญี่ปุ่นเทพเรื่องนี้ค่อนข้างมากค่ะ ฮ่าๆ
    The reply is currently minimized Show
Your Reply