Resolved
0 votes
https://scontent.fbkk22-2.fna.fbcdn.net/v/t1.15752-9/90718101_661334078011679_2894620267433164800_n.jpg?_nc_cat=107&_nc_sid=b96e70&_nc_ohc=3pvchZyYLCAAX_GOvj-&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.fna&oh=6e53b0497a54d408ca0b1bfdf86bcc9d&oe=5E9F9430

กรุงเทพมหานครถือเป็นเมืองที่เติบโตและมีตำแหน่งงานรองรับอย่างหนาแน่นอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นสถานที่ที่มีการแข่งขันสูงเช่นกัน ทำให้ใครที่ต้องการจะสมัครงานในกทม. ก็จำเป็นจะต้องมีทักษะและความสามารถที่โดดเด่นเหนือคนอื่น

และด่านแรกในการสมัครงานกทม. ที่คุณต้องเจอก็คือ การส่งใบสมัครงานพร้อมกับส่งเรซูเม่ (Resumé) ไปให้ทางฝ่ายบุคคลหรือบริษัทจัดหางานได้อ่าน เพื่อที่จะทำการคัดกรองบุคคลที่มีความสามารถและทักษะตรงกับ job description และตำแหน่งงานที่บริษัทนั้นๆเปิดรับจริงๆ ก่อนที่จะผ่านเข้าไปสู่รอบสัมภาษณ์ในด่านถัดไป

ทำให้ถ้าหากคุณสามารถเขียนเรซูเม่ให้โดนใจผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบุคคล บริษัทจัดหางาน หรือเจ้านายในอนาคต ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณสามารถสมัครงานในกทม. ได้อย่างผ่านฉลุย

ในวันนี้ เราจึงมีเคล็ดลับในการเขียนเรซูเม่แบบที่ไม่ว่าคุณจะไปสมัครงานในกทม. ที่ไหน ก็จะเป็นที่ประทับใจของทุกคนที่ได้อ่าน และเพิ่มโอกาสในการเรียกตัวมาสัมภาษณ์ได้มากยิ่งขึ้น จะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

ไม่เขียนเรซูเม่ในเทมเพลตรายงาน

คุณคงเคยเห็นเรซูเม่ที่เป็นหน้ากระดาษขาวๆ แบบเรียบๆ ที่ลิสต์ประวัติการทำงานของคนๆนั้นเอาไว้อย่างละเอียด จริงๆแล้ว ถ้าให้คุณมานั่งอ่านเองก็คงจะรู้สึกน่าเบื่อใช่ไหมล่ะครับ เพราะคนส่วนใหญ่เวลาสมัครงานในกทม. ก็มักจะส่งเรซูเม่ในรูปแบบนี้กันทั้งนั้น

จึงดีกว่าถ้าคุณจะลองเสิร์ชและหาซื้อเทมเพลตสำหรับเรซูเม่ที่มีรูปแบบกราฟฟิกและการจัดวางที่น่าสนใจ ใช้สีสันที่โดดเด่นแต่ยังดูเป็นมืออาชีพ เข้ามาช่วยให้การบอกเล่าเรื่องราวและประวัติการทำงานของคุณดูน่าสนใจขึ้นได้ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้อ่านจะเลือกหยิบเรซูเม่ของคุณมาอ่านอย่างและให้ความสนใจกับมันมากยิ่งขึ้น ก็ทำให้คุณมีโอกาสผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ในการสมัครงานกทม.ได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ

ไม่ต้องเขียนทุกรายละเอียดลงไป

ในการเขียนเรซูเม่สำหรับสมัครงานกทม. คุณไม่จำเป็นต้องใส่รายละเอียดหรือประวัติการทำงานและประวัติการเรียนทุกอย่างลงไปก็ได้ เพราะถ้าหากคุณใส่รายละเอียดใดๆที่ไม่ได้จำเป็นนักลงไป ก็จะเบนความสนใจให้ผู้อ่านจับใจความหาทักษะหรือจุดเด่นที่สำคัญของคุณไม่เจอ อันจะลดความน่าสนใจของเรซูเม่ในการสมัครงานกทม. ของคุณ ไปมาก

รายละเอียดที่ไม่ได้สำคัญนักก็อย่างเช่น รายชื่อวิชาเรียนที่ไม่ได้จำเป็นกับงานที่ต้องการสมัครงานกทม. ทักษะงานที่ไม่จำเป็น หรือโปรเจกต์งานที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง รวมไปถึงถ้าหากคุณมีการเปลี่ยนสายงานแล้วตำแหน่งงานในอดีตไม่ได้เกี่ยวข้องกับตำแหน่งใหม่ที่ต้องการจะสมัครงานกทม. มากนัก คุณก็อาจจะใส่ข้อมูลส่วนั้นแค่เพียงคร่าวๆ ไม่ต้องลงรายละเอียดมากก็ได้ครับ

เน้นทักษะและตำแหน่งงานที่ตรงกับงานที่สมัคร
ส่วนรายละเอียดที่คุณควรเน้นย้ำในการเขียนเรซูเม่สำหรับสมัครงานกทม. ก็คือการเน้นถึงประวัติการทำงานและตำแหน่งงาน รวมไปถึงรายละเอียดหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่คุณกำลังจะสมัคร รวมไปถึงให้บอกทักษะต่างๆที่คุณสามารถทำได้และมีประโยชน์กับงานที่จะสมัครลงไปด้วยครับ

เราแนะนำให้คุณปรับเปลี่ยนเรซูเม่ให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการจะสมัครงานในกทม. โดยอิงจากประวัติการทำงานจริงทุกครั้ง เพื่อให้ผู้อ่านเห็นว่าคุณมีคุณสมบัติที่ตรงกับงานที่จะสมัครจริงๆนั่นเองครับ

ไม่ควรเขียนเรซูเม่เกิน 2 หน้า
แม้ว่าคุณจะมีประสบการณ์การทำงานที่มาก แต่คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องเขียนเรซูเม่ให้ยาวเพื่อแสดงถึงประสบการณ์การทำงานเหล่านั้นในการสมัครงานกทม. อีกทั้งในแต่ละวัน ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลและบริษัทที่เปิดรับสมัครงานต้องอ่านเรซูเม่ของผู้สมัครอีกวันละหลายสิบฉบับ ทำให้ถ้าหากคุณส่งเรซูเม่ที่ยาวจนเกินไปก็จะดูไม่น่าอ่าน และสร้างความไม่น่าประทับใจให้เกิดขึ้นได้

จึงดีกว่าถ้าหากคุณลองจับแค่เพียงประวัติการทำงานและทักษะที่สำคัญแล้วเน้นย้ำในส่วนนั้นๆ รวมถึงตัดทอนข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไปจนเหลือเรซูเม่ความยาวไม่เกิน 2 หน้า ก็จะทำให้ผู้อ่านจับใจความได้ง่ายและคุณก็มีโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ในการสมัครงานกทม.ได้มากขึ้นครับ

เซฟไฟล์ไว้หลายๆรูปแบบ

ในปัจจุบัน มีหลากหลายบริษัทที่ยอมให้คุณอัพโหลดเรซูเม่ผ่านระบบได้อย่างง่ายดาย แต่การที่คุณ เตรียมไฟล์สำหรับเรซูเม่เอาไว้หลากหลายรูปแบบก็อาจจะดีกว่า เพราะแต่ละเว็บไซต์และแต่ละบริษัทก็จะมีข้อกำหนดให้อัพโหลดไฟล์แต่ละประเภทแตกต่างกันไป

ทำให้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจส่งเรซูเม่ไปสมัครงานกทมในบริษัทต่างๆ ก็อย่าลืมเช็คด้วยว่าคุณได้เซฟเป็นประเภทไฟล์ที่บริษัทเหล่านั้นสามารถเปิดอ่านได้ง่ายหรือไม่ และมีการเซฟไฟล์สำรองไว้ในหลากหลายรูปแบบหรือไม่ ทั้งไฟล์แบบ .docx, .pdf, หรือไฟล์รูปภาพอย่าง .jpg รวมถึงถ้าหากคุณผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์งานในทุกครั้ง ก็อย่าลืมปริ๊นต์เรซูเม่ในรูปแบบเอกสารติดมือไปด้วยอย่างน้อย 2-3 ชุด ในกรณีที่ผู้สัมภาษณ์มีหลายคนครับ

เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถสมัครงานกทม. ด้วยเรซูเม่ที่ดูน่าสนใจและน่าประทับใจแก่ผู้อ่าน แล้วทำให้คุณสามารถผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะครับ อยากให้คุณลองทำตามดู และเราขอเป็นกำลังใจให้จากตรงนี้ด้วยนะครับ สำหรับใครที่ต้องการจะสมัครงานกทม. และหางานที่ตรงใจได้ง่ายยิ่งขึ้น คุณก็สามารถเข้ามาสมัครงานและค้นหาตำแหน่งงานที่ใช่ที่เว็บไซต์ของ RGF ได้เลยนะครับ
Wednesday, March 25 2020, 06:54 PM
Share this post:
Responses (1)
Your Reply