Resolved
0 votes
สวัสดีครับพี่มาย ผมแบงค์เองนะครับ ถามอีกแล้ว แหะๆ วันก่อนถามเกี่ยวกับความเป็นมากว่าจะเป็น I love Japan - TH แต่วันนี้ผมอยากถามเกี่ยวกับตัวพี่มายนิดนึงได้ไหมครับ ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท ผมเองสนใจในภาษาญี่ปุ่นมาก และความฝันผมตั้งแต่เด็กๆแล้วอยากเป็นล่ามกับ ไกด์ อยากครูสอนภาษาญ๊่ปุ่น อยากทำงานในญี่ปุ่น อยากอะไรก็ตามเกี่ยวกับญี่ปุ่นเท่าที่เด็กคนนึงพึงจะฝันถึง ผมอยากทราบประวติพี่มายคร่าวอะครับ เผื่อจะเป็นแนวทางในการศึกษาต่อในระับอุมศึกษา

ผมอยากทราบว่าพี่มายเรียนอะไรในระดับอุดมศึกษา แล้วทำอย่างไรพี่มายถึงไปญี่ปุ่นได้อะครับ ผมขอถามสั้นๆนะครับ กลัวจะเป็นการรบกวน T^T

Ps. รักและจะติดตามรายการตลอดไป ...
Sunday, December 28 2014, 02:25 PM
Share this post:
Responses (6)
  • Accepted Answer

    Sunday, December 28 2014, 06:01 PM - #Permalink
    Resolved
    1 votes
    สวัสดีค่ะ ^^
    ยินดี ตอบเลยค่ะ

    จะเริ่มยังไงดี55
    จริงๆตั้งแต่เด็ก สำหรับพี่การเรียนภาษาญี่ปุ่นไม่เคยอยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อย

    ตอนเด็กๆ พี่เคยเรียนภาษาจีน กับภาษาสเปน
    ภาษาญี่ปุ่นเพิ่งมาเรียนจริงๆก็คือตอนมาเรียนญี่ปุ่นครั้งแรก
    ตอนมาญี่ปุ่นครั้งแรก พี่เริ่มเรียน อะ อิ อุ เอะ โอะ เลย มาโดยที่พูดญี่ปุ่นได้แค่4-5ประโยค อย่างเช่น อะริกะโตะ โกเม็น ฯลฯ
    แต่มันกลับกลายเป็นว่า ดีกว่าถ้าพี่เรียนมาจากไทย
    เพราะว่าพี่เริ่มเรียนจากเจ้าของภาษาจริงๆ (ไม่งั้นคงติดสำเนียงไทยมา) และได้ใช้จริงๆ บอกกับการคิดแบบคนญี่ปุ่น
    เริ่มเรียนเหมือนเด็กทารกหัดพูด ไม่ได้เรียนโดยคิดไวยากรณ์ไปพูดไป คือเวลาพูด มันขึ้นมาเลยโดยที่ไม่ได้คิด
    ถ้าพี่เริ่มเรียนจากไทยมาก่อน พี่คงติดนิสัย คิดเป็นไทยก่อนค่อยแปลเป็นญี่ปุ่น

    กลับมาเข้าประเด็น555

    พี่เรียนประถมที่ ร.ร. วัฒนาวิทยาลัย
    มัธยม ร.ร. สาธิต มศว ประสานมิตร สายศิลป์-คณิต
    ตอนม.6 ไปแลกเปลี่ยนโครงการAFS ที่ปานามา 1ปี (ตอนนั้นได้ภาษาสเปนกลับมา)
    มหาวิทยาลัย มหิดล (อินเตอร์) คณะบริหารฯ เอกการตลาด
    ตอนปี3 ได้เป็นตัวแทนแลกเปลี่ยนระยะสั้นที่ ญี่ปุ่น3 อาทิตย์ 2 ครั้ง ภายใต้โครงการ Lions Club และ CISV
    ตอนไปใช้แต่ภาษาอังกฤษ ไม่ใช้ญี่ปุ่นเลย แต่ตอนนั้น ก็เริ่มประทับใจญี่ปุ่นแล้ว เพราะได้ไปอยู่host family ญี่ปุ่นเขาดีมาก
    เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ตอนนั้นพี่เริ่มคิดเรื่องอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นนิดๆ
    แต่ด้วยความที่อยู่ปี3 ยุ่งๆก็เลยไม่ได้ไปเรียน

    ที่ผ่านมา พี่คิดมาตลอดว่าอยากไปเรียนโทที่อเมริกา
    แต่จากการที่กลับจากญี่ปุ่นครั้งนั้น เปลี่ยนความคิดพี่
    พี่คิดว่า ภาษาอังกฤษเราก็พอพูดได้แล้ว ความรู้ด้านบริหารเราก็มี เราจะไปเรียนอเมริกาให้เหมือนกับคนอื่นๆเพื่ออะไร
    เพื่อวุฒิเหรอ? และเผอิญมีงานJob Fair ที่มหาลัย พี่เห็นบู๊ทต่างๆที่มาออก บริษัทใหญ่ อย่างExxon, Uniliver ฯลฯ
    ทุกที่เขียนเหมือนกันว่า ถ้าได้ภาษาญี่ปุ่น จะรับพิจารณาเป็นพิเศษ
    ตอนนั้น มันทำให้พี่แน่ใจเลยว่า
    เราต้องทำอะไรที่คนอื่นเขาไม่ทำ คนพูดภาษาอังกฤษได้ มีเยอะแยะแล้วในไทย
    ภาษาจีนก็เยอะ แตรญี่ปุ่นยังไม่ค่อยเยอะ
    แถมคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ โรงงานและบริษัทญี่ปุ่นในไทยก็มีเยอะมาก เกือบทุกอุตสาหกรรม
    ถึงตอนนั้น พี่เบนเข็มโค้งสุดท้าย ตัดสินใจว่าจะไปเรียนญี่ปุ่นทันที ถึงแม้จะไม่ใช่ป.โทก็เถอะ
    จปส พี่คือมาเรียนภาษา และmaster ในภาษานั้นๆ ไม่ใช่ไปเอาวุฒิ
    อันนี้พี่คิดว่าก็แล้วแต่จปส ของแต่ละคน บางคนอยากเอาวุฒิ แต่พี่ไม่ค่อยแคร์ครงนั้น

    วันสุดท้ายที่พี่สอบFinalเสร็จ วันรุ่งขึ้นพี่บินมาญี่ปุ่นเลยทันที ไม่ฟังผลเลยว่าตัวเองจะผ่านเหรอไม่555(ถ้าไม่ผ่านนี่ยุ่งเลย)
    ปริญญาก็ไม่ได้กลับไปรับ (มาคิดๆแล้วก็แอบเสียดายนิดนึง เพราะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต แถมรับกับพระเทพด้วย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อาจจะกลับไปรับ)
    เพราะตอนนั้นพี่มัวแต่ขมักเขม้นกับการเรียนภาษา
    มาญี่ปุ่น พี่โชคดีได้มาอยู่ชั่นล่างสุด ซึ่งไม่มีคนไทยเลย เพราะคนไทยที่มาส่วนใหญ่จะมีพื้นฐาน ได้ไปอยู่ระดับกลางๆหรือสูง
    แต่นี่กลับเป็นข้อดี เพราะมันทำให้พี่พูดแต่ภาษาญี่ปุ่น ไม่ได้อยู่กับคนไทย เลยไม่ได้พูดภาษาไทยเลย
    และเริ่มเรียนจาก0 ที่นี่ ทำให้พื้นฐานค่อนข้างแน่น
    พี่เริ่มทำงานพิเศษ หลังจากมาได้3เดือนที่ร้านโซบะ เป็นพนงเสริพ จากนั้นเดือนที่6 เริ่มเป็นครูสอนภาษาไทย
    ลืมบอก พี่เริ่มจากมาเรียนที่รรสอนภาษาจ้า

    จากนั้น ปีนึง พี่ได้ผันตัวเองเป้นล่ามครั้งแรก ด้วยความบังเอิญว่าเพื่อนคนฮ่องกงพี่ไปสมัครงาน แล้วพี่ตามไปเป็นเพื่อนด้วย
    เผอิญเขาหาล่ามด่วนวันรุ่งขึ้นพอดี พี่ก็เลยได้ไปทำงานล่าม
    ครั้งแรกกับเขา โดยเป็นล่ามให้กับ เจ้าของกระทิงแดง คุณเฉลิม อยู่วิทยา ตอนท่านมาญี่ปุ่น
    ตอนแรกไม่รู้ เพราะเขาไม่ได้บอกเราก่อน บอกแค่ว่าเป็นนักธุรกิจ
    พอเจอ พี่นี่อึ้งเลย ตื่นเต้นมาก แต่ก็โชคดีที่ผ่านไปด้วยดี (ปล ตอนนั้นยังไม่เคยสอบวัดระดับสักระดับ)
    จากนั้น ครั้งที่สอง ก็เป็นล่ามให้คุณ ตัน โออิชิ และก็เริ่มทำงานพิเศษล่ามไปต้นมาค่ะ

    จากนั้น พอจบ พี่ก็รู้สึกว่า ภาษาเรายังไม่พอ มันครึ่งๆกลางๆ ถามว่าพูดได้ไหม พูดได้ ไม่มีปัญหาในการสื่อสารเลย
    แต่ถามว่าเพียงพอกับการทำงานไหม พี่คิดว่า "ไม่เลย" เพราะรร สอนภาษาเราจะมีแต่เพื่อนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ระดับภาษาญี่ปุ่นเราก็จะพอๆกัน
    พี่ก็เลยตัดสินใจอยากเรียนต่อ แต่เรียนในที่ๆมีแต่คนญี่ปุ่น เพราะว่าอยากทำงานที่ญี่ปุ่น
    ศัพท์ที่พูด ก็จะเป็นศัพท์ง่ายๆเหมือนกัน ไม่มีการพัฒนา
    คือมาแรกๆ ตอนพูดไม่ได้มันจะพัฒนาไปเร็ว แต่พอมาถึงจุดนึง มันจะหยุดพัฒนา(หมายถึงจุดที่จะก้าวไปเท่ากับNative)
    ตอนนั้นแม่พี่จะให้พี่กลับแล้ว พี่ก็ดื้อ อธิบายเหตุผลยกใหญ่กว่าเขาจะยอม 555
    บอกว่าจะเรียนไปถึงไหน คนอื่นเขาทำงานกันแล้ว เรายังจะเรียนอีก แต่พี่คิดว่า
    ทำงานอ่ะ เรายังทำได้อีกตลอดชีวิต เสียเวลาอีกสัก2-3ปี มันไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก
    เพราะเวลาเราทำงานแล้ว จะกลับมาเรียนสมองมันก็ไม่ไป หรือ มันจะไม่อยู่อารมณ์ที่จะมานั่งเรียนแล้ว (สำหรับพี่นะ)

    พี่ก็เลยตัดสินใจเข้าเรียนต่อวิทยาลัยอีก2ปี ในที่ที่แทบไม่มีคนต่างชาติเลย และอยู่แต่กับคนญี่ปุ่น
    ตอนนั้น รู้สึกเลยว่า ภาษาเราแย่มาก(ตอนอยู่รรสอนภาษา เคยรู้สึกว่าเก่งมาตลอด555 )
    เพราะภาษาญี่ปุ่นที่เราใช้ในห้องเรียน กับใช้กับคนญี่ปุ่นจริงๆมันช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน
    ทั้งสปีดในการพูด แสลง ฯลฯ
    สองปี พี่ได้ภาษาเยอะมากโดยที่ไม่รู้ตัว จากการอยู่กับเพื่อนญี่ปุ่นตลอดเวลา ดูข่าว ทำรายงาน พรีเซ้นหน้าห้อง ฯลฯ

    พี่เคยสอบวัดระดับอยู่แค่2ขั้น คือ ระดับ2 กับ1
    ระดับสอง2 สอบตอนอยู่รร สอนภาษา จำได้ว่ายากมากกกกก สอบครั้งที่2ถึงจะผ่าน
    แต่พอไปเรียนที่วิทยาลัยกับคนญี่ปุ่น (คือเรียน สอบ ทำรายงานเหมือนเขาหมด)
    จำได้ว่า ตอนไปสอบN1 ไปสอบครั้งแรก ไม่ได้อ่านหนังสือเลย เพราะวุ่นกับรายงานที่มหาลัย
    แต่ตอนสอบ กลับรู้สึกว่ามันไม่ยากอย่างตอนที่เรารู้สึกเหมือนระดับ2
    Listening ง่ายมาก ฟังออกหมดเลย พี่ได้เกือบเต็ม (เพราะเพื่อนๆญี่ปุ่นพี่ พูดเร็วกว่าและฟังยากกว่าเยอะๆ 55)
    ปรากฏ สอบรอบเดียวผ่าน โดยที่แทบไม่ได้อ่านหนังสือเลย

    เพราะฉะนั้น พี่อยากแนะนำเลยค่ะ ถ้าน้องจะเรียนภาษา ต้องกล้าๆพูดๆ ถ้าจะมาเมืองนอก ก็อย่าพยายามจับกลุ่มแต่กับคนไทยมาก
    อุตส่าห์มาต่างประเทศแล้ว เสียงเงินและเวลามาตั้งแพง ควรฝึกภาษากับเจ้าของภาษาเยอะๆค่ะ


    จากนั้น พี่เรียนจบก็เข้าทำงานที่บริษัทในโตเกียว บริษัทNPC เป็นบริษัทขายเครื่องจักรผลิตแผงโซล่าเซล
    พี่เป็นเซล ระหว่างประเทศ ดูแลส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องเขาโรงงานบ่อยๆ และบินมาไทย มาเล สิงคโปร์ ไต้หวันบ่อยๆ
    จนสุขภาพทรุดโทรม พี่เลยลาออก

    ปัจจุบันพี่ทำงาน อยู่บริษัท คาลพิส สาขาใหญ่ที่โตเกียว บริษัทเครื่องดื่มนมเปรี้ยวผสมแล็คโตบัลซอลลัส (หรือที่ไทย เรียกว่า คาลพิส แล็คโตะ )เป็นMarketing Coordinator ค่ะ

    ประวัติพี่ประมาณนี้ค่ะ

    ว่าจะไม่เขียนยาว ก็เขียนซ่ะยาวเลย555
    Like
    10
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Sunday, December 28 2014, 07:05 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    ผมก็แอบหวังให้พี่พิมพ์ยาวๆ อยู่แล้วครับ ขอบคุณพี่นะครับ ที่ให้แนวทาง 555555 ซักวันผมต้องเก่งแบบพี่ ครัชชช
    Like
    2
    • ไอจัง
      more than a month ago
      สู้ๆค่ะ ^^
      เป็นกำลังใจให้
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Sunday, December 28 2014, 08:03 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    asombroso,usted sabe hablar español? :D :D :D
    Like
    1
    • ไอจัง
      more than a month ago
      jajaja puedo hablar un poco ^ ^
      ปล พูดได้ด้วยเหรอคะ 555
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Monday, December 29 2014, 01:56 AM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    ///แอบเข้ามาอ่านด้วย........
    รู้สึกเหมือนดูหนังจบไปเรื่องหใหญ่ๆเรื่องหนึ่ง .........
    ........ รู้สึกยิ่งใหญ่มากครับ :)
    Like
    2
    • ไอจัง
      more than a month ago
      5555 แอบเขียนยาวไปนิด ^^
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    RiRi AKR
    RiRi AKR
    Offline
    Monday, December 29 2014, 07:42 AM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    แอบมาอ่านประวัติครูมาย ที่บ้านถามเหมือนกันเลยค่ะ "จะเรียนไปถึงไหน เพื่อนทำงานกันหมดแล้ว"
    :D
    Like
    1
    • ไอจัง
      more than a month ago
      555 โดนเหมือนกันเหรอคะ
      แต่อย่ายอมแพ้นะคะ
      ใช่ว่าเรียนนานแล้วจะไม่ประสบความสำเร็จ
      ถึงเราจะช้ากว่าคนอื่นไป2-3ก้าว แต่ถ้าแลกกับอนาคตที่หาไม่ได้ง่าย ก็คุ้มค่ะ
      สุู้ๆนะคะ
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Shisotsun
    Shisotsun
    Offline
    Monday, December 29 2014, 01:23 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    พี่มายเรียนรู้ได้เร็วมากเลยค่ะ สุดยอดมาก
    ได้ยินมาว่า ที่ทำงานพิเศษเขาจะไม่ค่อยอยากรับนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือชาวต่างชาติทำงานเท่าไหร่ เพราะกลัวทำเสียมารยาทกับลูกค้า แต่พี่มายเรียนแค่ 3 เดือน เขายอมรับจนทำงานได้แล้ว เก่งมากเลยค่ะ

    ชีวิตตอนนี้รู้สึกท้อนิดหน่อย ไม่รู้ว่าจะเรียนทันตะพร้อมๆ กับเรียนญี่ปุ่นไหวหรือเปล่า ถึงตอนนี้จะเรียนญี่ปุ่นเอง อ่านเอาเอง มีเรื่องที่ไม่รู้เต็มไปหมด แต่ก็มีความสุขกับการแสวงหาความรู้ ดีใจที่รู้ว่าเราผิดพลาดตรงนี้ๆ เพื่อที่จะได้ปรับปรุง มีความสุขที่ได้เรียน แต่ก็กลัวว่าพอปีสูงจะไม่มีเวลาพอ...
    Like
    2
    • ไอจัง
      more than a month ago
      น้องเรียนทันตะ ก็เก่งมากแล้วค่ะ ^^ จริงๆนะ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าได้
      คนเรามีข้อดี และถนัดต่างกันออกไป

      ไม่ต้องไปกดดันตัวเองมากหรอกค่ะ เหนื่อยก็พักบ้าง อย่าดันทุรัง
      พี่เองก็เพิ่งมาเรียนญี่ปุ่นตอนจบมหาลัย
      ได้มีเวลามานั่งโฟกัสสิ่งๆนึง

      ถ้าพี่เรียนมหาลัยอยู่ที่ไทย แล้วเรียนไปด้วย ก็อาจจะเป็นแบบน้องก็ได้ค่ะ
      เพราะฉะนั้น อย่าคิดมากน้า
      เดินช้าไปบ้าง ไม่เป็นไร แต่อย่าเดินถอยหลังเท่านั้น พอ^^
    • ไอจัง
      more than a month ago
      น้องเรียนทันตะ ก็เก่งมากแล้วค่ะ ^^ จริงๆนะ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าได้
      คนเรามีข้อดี และถนัดต่างกันออกไป

      ไม่ต้องไปกดดันตัวเองมากหรอกค่ะ เหนื่อยก็พักบ้าง อย่าดันทุรัง
      พี่เองก็เพิ่งมาเรียนญี่ปุ่นตอนจบมหาลัย
      ได้มีเวลามานั่งโฟกัสสิ่งๆนึง

      ถ้าพี่เรียนมหาลัยอยู่ที่ไทย แล้วเรียนไปด้วย ก็อาจจะเป็นแบบน้องก็ได้ค่ะ
      เพราะฉะนั้น อย่าคิดมากน้า
      เดินช้าไปบ้าง ไม่เป็นไร แต่อย่าเดินถอยหลังเท่านั้น พอ^^
    The reply is currently minimized Show
Your Reply