สวัสดีฮะ
หายไปนานจนเกือบลืมไปแล้วว่ายังทำรีวิวไปญี่ปุ่นข้างอยู่
วันนี้เป็นรีวิวช่วงการเดินทางสุดท้ายในญี่ปุ่นแล้วนะฮะ
คราวนี้ในโตเกียวก่อนกลับกรุงเทพ
-------------------------------------------------------------
ก่อนอื่นขอต่อจากตอนที่แล้วหน่อยนะพอดีมันค้างอยู่นิดนึง
หลังจากนั้นรถชินคันเซนจากเกียวโตมาโตเกียวถึงราวๆสามทุ่ม
เพราะเดินทางโดยชินคันเซนมาโตเกียวใช้เวลา3ชั่วโมงอ่ะ
ดูในแผนทีมันดูใกล้ๆก็เถอะแต่ไม่ใกล้อย่างที่คิดเลย
จากนั้นเดินทางไปอาซากุซะต่อโดยรถใต้ดินของโตเกียวเมโทรประมาณ200เยน
มาถึงที่หมาย
เดินมาถึงประตูเรย์มงวัดอาซากุซะ
ยักษ์ผู้พิทักษ์ของประตูเรย์มง
ถึงด้านในตัววัดละ
ยักษ์ที่อยู่ประตูวัด
เดินมาจนถึงที่พักที่จะพักในคํ่าคืนนี้ราตรีสวัสดิ์
----------------------------------------------------
เข้าสู่วันที่6ของการญี่ปุ่น วันนี้จะแพลนกันไปศาลเจ้ายาซุคุนิ,ศาลเจ้าเมย์จิ,อากิฮาบาระ
และคราวนี้แต่งตัวพิเศษไปเที่ยวด้วย....รอดูละกันนะ
เดินมาถึงวัดอาซากุซะในฝั่งประตูตะวันตก
ที่นี่ยังคงมีงานวัดอยู่และวันนี้เป็นวันสุดท้าย
เจอกลุ่มลูกเสือเนตรนารีของญี่ปุ่นครั้งแรกเลยนะเนี้ย กำลังยืนขอรับบริจาคอยู่
จากนั้นนั่งรถใต้ดินไปศาลเจ้ายาซุกุนิ ศาลเจ้าของเหล่าทหารญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเมจิ
ยันถึงสมัยสงครามโลกครั้งที่2หนึ่งในศาลเจ้าที่มีปัญหากับคนจีนคนเกาหลี
จุดประสงค์การไปศาลเจ้านี้
คือผมเคยได้ยินปู่เล่ามาก่อนว่าแกเคยมีเพื่อนทหารญี่ปุ่นอยู่คนนึงสมัยสงครามโลก
แต่ผมจำไม่ได้ว่าชื่ออะไรก็เลยคิดว่าวิญญานของเพื่อนปู่คนนี้ต้องมาอยู่ที่นี่แน่ๆ
รูปปั้นสิงห์ประจำทางเข้า
รูปปั่นบุคคลสำคัญ โอมุระ มัสซึชิโร่
บิดาการทหารยุคใหม่ของญี่ปุ่น และเป็น1ในนักปฏิวัตรของโจชู
ประตูศาลเจ้าติดตราสัญลักษณ์ขององค์จักรพรรดิ
เดินมาถึงตัวศาลเจ้าแล้ว
ขอถ่ายรูปซักหน่อย
(จุ จุ อย่าบอกใคร)
มาถึงจุดทำบุญโยนเหรียญของวัด โยนไปหนึ่งเหรียญและตบแปะตามธรรมเนียมเค้า
อนุสาวรีย์น้องหมาแต่ไม่ใช่เจ้าฮาจินะ
ฃ
อนุสาวรีย์หญิงม้ายและลูกๆ แสดงถึงการจากลาของคนที่รักที่ไปทำสงครามและไม่กลับมา
ยุทโธปกรณ์สมัยสงครามโลกครั้งที่2ของญี่ปุ่น ที่ได้มาจากพม่า
เครื่องบินเซโร่อันสุดเท่!!!!! 1ในเครื่องที่หลงเหลือและไม่โดนอเมริกาสั่งบึ้ม
รถไฟไอนํ้าตั้งโชว์ในพิพิธภัณฑ์
จากนั้นมาถึงสถานีฮาราจุกุ คนเยอะเหลือเกินแต่ว่ายังไม่ไปฮาราจุกุหรอกนะ
เราจะไปกันที่ศาลเจ้าเมย์จิ
มาถึงด้านหน้าของศาลเจ้าเมย์จิละ จากนั้นเดินกันขาลากเลยทีเดียว
เข้ามาทีนี่จะพบว่าอีกาเยอะมาก ถ้าเป็นบ้านเราคงจะกลัวขวัญหนีไปละ
เดินตามทางมาเลื่อยๆจนถึงศาลเจ้าเมย์จิ
จากนั้นก็ออกจากศาลเจ้าเมย์จิจนถึงแถวถนนทาเคชิตะ,ฮาราจุกุ
จากนั้นไปอากิฮาบาระ ดินแดนทองของเหล่าโอตาคุทั้งหลาย!!!!
ในแถวๆนี้มีตั้งแต่เมดคาเฟ่,ร้านขายฟิคเกอร์,เครื่องใช้ไฟฟ้า และ ร้าน18+
น่าเสียดายไม่ได้ไปเมดคาเฟ่เลย.จากนั้นก็กลับที่พัก
---------------------------------------------------------
เช้าวันที่7 วันนี้ออกเช้ามากๆเพราะจะไปตลาดปลาซึกิจิกัน
ตลาดปลาแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าสวรรค์คนรักการกินปลาและอาหารทะเลจริงๆ
เพราะมันถูกมาก
ระหว่างทางไปขึ้นรถไฟสายToeiไปที่ตลาดปลา ถ่ายรูปเล่นที่เขตซึมิดะ
เดินทางมาที่ตลาดปลาซึกิจิ
ที่นี้อาหารทะเลมีทั้งสดๆจากทะเลและปรุงสุกใหม่ๆพร้อมรับประทานที่สำคัญถูกด้วยนะ
หลากหลายมากมายดูสิ เต็มไปหมดเลย
ใหญ่มากๆ/อร่อยมากๆ คำภาษาไทยที่พ่อค้าคนนี้สามารถพูดได้ชัดเจน
มาถึงร้านซูชิในตำนานของย่านนี้ Sushi Zanmai
ไปโตเกียวไม่ได้กินร้านนี้ก็มาไม่ถึงโตเกียวนะฮ๊า
ดูสิฮะ มันน่าซัดมากเลยล่ะนะ onion12
จากนั้นมาเขตใหม่ของโตเกียว โอไดบะ
สะพานพระรามแปด เอ้ย!สะพานสายรุ้งที่ตอนกลางวันไม่รุ้ง
มาถึงนิวยอร์คแล้ว!!!!!
ตึกฟูจิเทเลบิ ใครเคยดูดิจิม่อนภาคแรกก็จะนึกออกกับตึกนี้
พบแล้ว!!!!กันดั้มยักษ์
จากนั้นเดินทางไปวัดโซโจจิ ระหว่างทางพบกับโตเกียวทาวเวอร์อันสูงสง่า
ระหว่างทางเข้าวัด(ด้านหลัง)
รูปปั้นหินจิโซที่เต็มไปหมดเลย
ที่นี่สุสานของโชกุนรุ่นสองของโทคุงาว่าฮิเดทาดะและโอเอโยะมิไดของท่านฮิเดทาดะ
ตราประจำโทคุงาว่าตรงประตู
วัดโซโจจิ1ในเป้าหมายที่อยากไปตั้งแต่ปีที่แล้วเลยแหละนะ
เพราะซีรีย์NHK เหล่าองค์หญิงโกในยุคสงคราม(江姫たちの戦国)
และที่พึ่งรู้มาไม่นานมานี่คือ วัดนี้เคยถ่ายทำThe Wolverineด้วย
ประตูหน้าของวัดโซโจจิ
จากนั้นไปย่านอุเอโนะไปหาอะไรกินแถวอาเมะโยโกะและกลับไปพักผ่อน
----------------------------------------------------
วันที่8 วันสุดท้ายของการอยู่ญี่ปุ่น
วันนี้ออกประมาณ11โมงไปขึ้นรถไฟสายเคย์เซย์ไปสนามบินนาริตะ
ซึ่งต้องแยกกับเหล่าเพื่อนๆไปเพราะJRพาสผมหมดละ เลยนั่งอีกสายเคย์เซย์อีกสายนึงไปสนามบิน
ได้เปิดประสบการ์ณใหม่ด้วย หมดค่าเดินทางไป1200เยน
ระหว่างรอเครื่องออกก็นั่งเล่นนอนเล่นในสนามบินนาริตะ
จนถึงเวลา5โมงก็ต้องถึงเวลาจากกับญี่ปุ่นไปแล้ว
(เค้าไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ต่อ)
และถึงสุวรรณภูมิประมาณ5ทุ่มและก็กลับบ้านไปนอนในที่สุด
---------------------------------------------------------
ในการไปญี่ปุ่น8วันทำให้อั๊วได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างจากประเทศนี้และคนประเทศนี้เป็นอย่างมาก
และปีหน้ากลับไปญี่ปุ่นอีกแน่นอนครับ ไปเที่ยวคันไซยาวไปเลยและไปหานางฟ้านาโงย่าตามสัญญา
และถ้าได้แวะโตเกียวจะอุดหนุนทัวร์ของมายฮังแน่นอนฮะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันจนถึงรีวิวสุดท้ายนี้นะครับ