Passu
Passu
Offline
Resolved
1 votes
สวัสดีค่ะ อ่านบอร์ดนี้มานาน ตั้งแต่สมัยชอบ จีบ คุย จนได้คบ ได้ 8 เดือนกว่า จนตอนนี้เพิ่งโดนบอกเลิกได้ 2 วันแล้วค่ะ และเนื่องจากอ่านในนี้มานาน ระหว่างที่คบกัน จึงมั่นใจว่ารู้จักจักคนญี่ปุ่นดี ทำตามข้อควรระวังมาตลอด เอาใจใส่ ไม่งี่เง่า เป็นที่พึ่งที่ปรึกษา

แต่ก็เหนื่อยค่ะ เพราะเรื่อง ไลน์ไม่ค่อยได้คุย คุยประมาณวันละครั้ง บางวันไม่ตอบ ตอบข้ามอีกวัน ซึ่งเข้าใจได้ แต่บางวันอ่านแล้วหายไปเลย 3 วันพิมพ์มาพร้อมกับเรื่องอื่น เราเองก็หาไรอย่างอื่นทำ แต่ก็เฟลนิดๆว่า โอเค เวลาเราคุยเราต้องคิดว่าควรจะพิมพ์เรื่องที่เค้าจะตอบใช่มั้ย เพราะไม่ชอบที่ต้องลุ้นว่า จะตอบหรือไม่ตอบ

ปกติได้เจออาทิตย์ละครั้ง ก็โอเค ซึ่งก้โอเคเข้าใจได้ แต่ทีนี้พอเสาร์อาทิตย์นี้เค้าไม่ว่าง ก็จะเลื่อนไปอีกอาทิตย์ (แบบไม่ค่อยคุยไลน์เหมือนเดิม) เรารู้สึกว่ามันห่างไป

เคยคุยกับเค้าเรื่องนี้ ด้วยเหตุผลประมาณ 1-2 ครั้ง เค้าก้พยายามปรับสุดท้ายก็เหมือนเดิม เคยคุยแบบ เราดราม่าใส่เค้า 1 ครั้ง (ตอนนั้นน้อยใจจริงๆ) ลืมบอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยทะเลาะเลยยยยยย จนมาเมื่อก่อนสงกรานต์ เค้าไปเที่ยวตปท. เราไปส่งสนามบิน แล้วยืนเฝ้ากระเป๋าสะพายเค้าอยู่ เห็นเออ ตุงจัง ใส่อะไรไว้ เลยเปิดดู เท่านั้นแหละ เค้ามาเห็นโกรธมาก บอกว่าให้ความสำคัญกับ Privacy และเชื่อมโยงไปถึงเรื่องแฟนเช้คโทรศัพท์ ซึ่งเค้าเห็นคนไทยที่ออฟฟิศทำ ซึ่งเราไม่เคยเช็คหรือยุ่งเลย!!! กระเป๋าก็ไม่เคย เบอร์โทรศัพท์ยังไม่มี ไม่มีโซเชียลไรสักอย่าง เราไม่เคยเรียกร้องหรือขอ หรือยุ่งกับเรื่องส่วนตัวเค้า เราก็ขอโทษไปบอกไม่ตั้งใจ พร้อมกับงงในใจว่า แล้วเกี่ยวไรกับเรื่องเช็คโทรศัพท์วะ สุดท้ายเลิกกับเราส่วนนึงเพราะเหตุนี้! คือเข้าใจค่ะว่าคนญี่ปุ่นเป้นแบบนี้ แต่เราอธิบายแล้วว่า เห้ย เรากับเพื่อนคือเปิดกันได้ อันนี้เราไม่รุ้ไม่ได้ตั้งใจ แต่รุ้แล้ว ก้จะไม่ทำอีก ก็เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็เลิกอยุ่ดี เพราะว่าเค้าให้ความสำคัญกับ Independant กับ Privacy เราเลยโอเคค่ะ ในเมื่อเป็นความต้องการของเค้า คือช่วงนี้เหมือนหมดโปรแล้วด้วยค่ะ เค้าคงเบื่อ ไปเที่ยวก็เหมือนๆเดิม เราก็คิด แต่เราคิดว่า ทุกคู่มันก็ต้องมีช่วงนี้ แต่คิดว่ามันก็จะผ่านไป อย่างเรื่องนี้ คือทำไมไม่คุยกันก่อน ทำความเข้าใจกัน ไม่ใช่ไปคิดเองเออเอง มาถึงอยากเลิก เราอธิบายไรก็สรุปคือเค้าคิดไปคนละอย่างทั้งนั้น

เสียใจค่ะ รู้สึกว่าเราทำเพื่อเค้าและพยายามมาตลอด แต่รู้สึกว่าเค้าไม่เห็นค่าเราเลย ไม่ใส่ใจ แถมจะเลิกยังเลิกอย่างง่ายดาย ตั้งแต่เจอกันมาทุกครั้งแฮปปี้มาตลอด มีแค่ครั้งสุดท้ายที่อึนๆกัน (เราเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติของความสัมพันธ์ที่ต้องเบื่อกันบ้าง แต่สุดท้ายก็จะผ่านไป) อันนี้คือไม่คุยไม่ปรับความเข้าใจกันก่อนเลย น้อยใจด้วยค่ะว่า ไม่เชื่อใจกันเลยว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น

แต่เราก็มั่นใจว่าทำดีที่สุดแล้วค่ะ อยากระบายเฉยๆ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการ์ณนี้ เราเข้าใจว่าเราผิดค่ะ แต่ถ้าทุกคนรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ใครจะอยากทำคะ ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านค่ะ ฮือๆ
Friday, April 28 2017, 11:13 AM
Share this post:
Responses (9)
  • Accepted Answer

    Saturday, April 29 2017, 12:49 AM - #Permalink
    Resolved
    1 votes
    สวัสดีค่ะ ^^
    พิมพ์ไว้ตั้งยาวหายหมดเลย TT^TT ไม่เป็นไรพิมพ์ใหม่ ฮ่าๆๆๆ :D

    ต้าเองก็เคยผ่านจุดๆนี้มา จุดที่พยายามทำให้อีกฝ่ายสนใจ คุยในเรื่องที่เขาชอบ คุยในเรื่องที่เขาสนใจ การตอบกลับของเขาแต่ละที อารมณ์เหมือนได้โบนัสช่วงปลายปี ชุ่มชื่นหัวใจแต่แป๊ปๆก็หมดแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ (~^.^~)

    เราพยายามเอาอกเอาใจเค้า ทำในสิ่งที่เค้าชอบ แต่ลืมนึกว่าตัวเราเองก็ต้องการเช่นกัน สุดท้ายดีแค่ไหนก็ถูกเท และเกิดคำถามว่า "ฉันไม่ดีตรงไหน"

    เรื่องความเป็นส่วนตัวของคนญี่ปุ่น เข้าใจได้ว่าเขาค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงด้วย เช่น คนที่คบกันเป็นแฟนกัน เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เราจะมีเบอร์โทร รู้จักที่ทำงาน ที่พักอาศัย ถ้ามี Facebook ควรที่จะแอดหากันได้ อันนี้เป็นเรื่องปกติที่สามารถเปิดเผยกับแฟนได้ ไม่ว่าชาติไหนก็ตาม............

    เรื่องเปิดกระเป๋าแล้วถูกบอกเลิก นั่นหมายความว่าเรื่องอื่นๆถ้าเขาไม่อนุญาต เราก็ไม่มีสิทธิ์ เพราะถ้าเราทำ ก็จะทำให้เขาไม่พอใจได้ หรือการที่พูดและทำอะไรให้เขาไม่พอใจ ก็อาจถูกบอกเลิกได้ง่ายๆ
    ถ้าเป็นแบบนี้ คงหาความมั่นคงทางความรู้สึกไม่ได้........

    แต่ละคนให้ความสำคัญกับคำว่า "ความเป็นส่วนตัว" ไม่เท่ากัน ถ้าเปิดดูกระเป๋าแล้วทำให้เขาบอกเลิกเรา จริงๆแล้วเขาหาเรื่องที่จะเลิกตั้งแต่แรกแล้วหรือเปล่า?? อันนี้พูดตรงๆนะ เพราะจากที่ จขกท. เองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิด แต่อาจเพราะความเคยชินและไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาขนาดนี้ ต้าเองก็เป็น เปิดพลิกยันกางเกงที่ใส่ แอบซ่อนอะไรไว้มั้ยว่ะ ฮ่าๆๆๆ (~•,•~) จากนั้นก็ชักแม่น้ำทั้งห้ามาอ้าง บลา บลาๆๆๆ เพื่อให้การบอกเลิกในครั้งนี้ตัวเขาไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่ผิดที่ จขกท. มาแอบเปิดกระเป๋าเจมส์บรอนซ์ของเขาต่างหาก.......

    เพราะฉะนั้นเลิกโทษตัวเองได้แล้วว่า "ถ้าวันนั้นเราไม่เปิดกระเป๋าเขาก็คงไม่บอกเลิก ถ้าวันนั้น เราไม่ทำแบบนั้น แบบนี้ ก็คงไม่เป็นแบบนี้"

    คนจะเลิกต่อให้เราไม่ได้ทำอะไรเลย เขาก็หาเรื่องเลิกจนได้ ...อ่ะ เดินก้าวเท้าซ้ายออกก่อนทำไม ไม่ชอบ เลิกกันเถอะ เง้ออออออ.......

    การที่คน 2 เชื่อชาติรักกันและไปกันรอด
    คือการที่คนสองคนพยายามที่จะปรับเข้าหากัน ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่งทำอยู่ฝ่ายเดียว ไม่งั้นมันไปกันไม่รอด เพราะถ้าพยายามอยู่ฝ่ายเดียว ถึงจุดๆหนึ่ง เราจะบอกตัวเองว่า "พอเถอะ พยายามต่อไปก็ไม่มีความหมาย" ถ้าเขารักเรามากพอ เขาจะพยายามเช่นเดียวกับที่เราพยายามปรับเข้าหาเขานั่นเอง..........

    สุดท้ายต้าอยากบอกว่า ...จะรักใครก็ตาม รักเท่าที่อยากจะรักแต่ต้องรักตัวเองให้มากกว่าและมีแฟนแล้วต้องดีกว่าอยู่คนเดียว.......

    เป็นกำลังใจให้ค่ะ (^____^)
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Passu
    Passu
    Offline
    Saturday, April 29 2017, 01:31 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    ขอบคุณคุณต้ามากค่ะ ตอบทุกกระทู้เบยยยยยยย ? ยิ่งมาอ่านยิ่งรู้สึกว่าเราคิดถูกค่ะ ที่เราปล่อยเค้าไปเลย ไม่ยื้อ คุยกับคนรอบข้าง (ที่ไม่เข้าใจคนญี่ปุ่น) ทุกคนบอกไร้สาระมาก ส่วนนึงที่ปล่อยไปเพราะรู้ด้วยค่ะ ว่าเราทำดีสุดแล้ว เราเองก็เหนื่อย

    เรื่องเบอร์โทรศัพท์เอาจริงก็พอรับได้ เพราะเค้าใช้เครื่องบริษัท ส่วนเครื่องส่วนตัวเป็นซิมญป เปิด airplane mode ก็อาจจะเพราะเป็นเครื่องบริษัทที่เป็นเบอร์ไทยเลยอาจไม่อยากให้ยุ่ง เรื่องที่พักได้ไปบ่อยๆค่ะ ส่วนเรื่องที่ทำงานก็ทราบ แต่เค้าพูดดักคอตั้งแต่ต้นว่า อย่ามานะ (คิดในใจ จะไปทำไมวะ) ฮ่าๆๆๆๆๆๆ แต่ไม่สามารถรับได้เรื่องบอกเลิกเพราะเปิดกระเป๋า เห็นด้วยกับคุณต้าค่ะ อาจเป็นข้ออ้างหาเรื่องเลิก เราเชื่อว่าคนเราถ้ารักกันจริง ไม่เลิกง่ายๆ แบบนี้หรอกค่ะ

    ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
    Like
    1
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    noonette
    noonette
    Offline
    Friday, May 05 2017, 05:10 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    ผู้ชายคนนี้คล้ายแฟนเรามากในหลา่ยๆเรื่องเลยค่ะ คุยไลน์กันวันละนิดหน่อย น้อยมาก แต่ของเรายังดี ตอบทุกครั้ง ไม่ตอบช้า
    เมื่อก่อนเคยหายไป 1-2 วัน เราเลยเคลียร์เพราะว่าเราไม่โอเค ก็ดีขึ้นมาละ คือมีการคุยกันทุกวัน เราก็ไม่มีเบอร์โทรแฟนนะ ไม่มีเฟซบุคด้วย คุยแต่ไลน์ เจอกันอาทิตย์ละครั้งเหมือนกัน ตอนนี้ความสัมพันธ์เรียบเฉยมาก คบกันมา 6 เดือนแล้วค่ะ เคยคิดเหมือนกันว่าเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว พยายามเข้าใจเค้าให้มากๆ ไม่งอแง เอาแต่ใจ แต่ถ้าความสัมพันธ์จะไปไม่รอด ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว เราพยายามดีที่สุดแล้ว เป็นกำลังใจให้คุณ Passu เหมือนกันนะคะ
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Passu
    Passu
    Offline
    Friday, May 19 2017, 01:02 AM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    noonetteเขียน:

    ผู้ชายคนนี้คล้ายแฟนเรามากในหลา่ยๆเรื่องเลยค่ะ คุยไลน์กันวันละนิดหน่อย น้อยมาก แต่ของเรายังดี ตอบทุกครั้ง ไม่ตอบช้า
    เมื่อก่อนเคยหายไป 1-2 วัน เราเลยเคลียร์เพราะว่าเราไม่โอเค ก็ดีขึ้นมาละ คือมีการคุยกันทุกวัน เราก็ไม่มีเบอร์โทรแฟนนะ ไม่มีเฟซบุคด้วย คุยแต่ไลน์ เจอกันอาทิตย์ละครั้งเหมือนกัน ตอนนี้ความสัมพันธ์เรียบเฉยมาก คบกันมา 6 เดือนแล้วค่ะ เคยคิดเหมือนกันว่าเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว พยายามเข้าใจเค้าให้มากๆ ไม่งอแง เอาแต่ใจ แต่ถ้าความสัมพันธ์จะไปไม่รอด ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว เราพยายามดีที่สุดแล้ว เป็นกำลังใจให้คุณ Passu เหมือนกันนะคะ



    สู้ๆๆ เหมือนกันค่ะของเราคิดมาตลอดว่า ถ้าเค้าดีจริง และเป็นคนที่ใช่จริงๆ (ตั้งแต่ตอนเจอเราคิดมาตลอดว่าเค้าคือคนที่ใช่) เค้าคงกลับมา ถ้าคู่แล้วคงไม่แคล้วกัน แต่ถ้าไม่ใช่ก็ปล่อยเลยไป (แต่ถ้าให้กลับไปง้อก็ไม่เอาค่ะ ไม่ใช่ว่าทิฐิ แต่ที่ผ่านมามั่นใจว่าทุ่มเทและเสียสละมามากแล้ว ถ้าไม่เห็นค่า ก็ช่างเค้าค่ะ) เราคงไม่ใช่สำหรับเค้า
    Like
    1
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Friday, May 19 2017, 12:38 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    รักแบบสบาย รักให้เป็น
    1. ไม่คาดหวัง
    2. ไม่เร่งรัด
    3. ไม่พยายามเปลี่ยนอีกฝ่ายให้เป็นที่ต้องการของเรา

    ถ้าทำได้ ก็สบายใจค่ะ เพราะอะไรที่ดูฝืน ดุมากไป มันก็ไม่เวิร์ค มันไม่ธรรมชาติ
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Passu
    Passu
    Offline
    Thursday, July 20 2017, 09:48 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    อัพเดทและขอความคิดเห็นค่ะ

    หลังจากเวลาผ่านไป ครึ่งเดือน เราก็ส่งข้อความไปแฮปปี้เบริดเดย์และบอกขอโทษและความในใจไปทั้งหมด หลังจากนั้นอีก ครึ่งเดือน เค้าก็ส่งเมจเสจมาหา ถามว่า จะซื้อ Mac รุ่นไหนดี? (เดาว่าคงหาเรื่องทัก) และหลังจากนั้นเราก็เลยคุยโต้ตอบกันทางไลน์บ้างตามปกติ

    จนเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา เค้าขอนัดเจอเรา บอกว่า เพราะว่าหัวหน้าเลื่อนจะให้กลับญี่ปุ่นเร็วขึ้น เป็นก่อนตุลา (ตามสัญญากับบริษัทคือกลับประมาณกพ.) พร้อมกับบอกว่า ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิต ถ้าเราโอเค มาเจอกันแบบเพื่อนมั้ย อะไรแบบนี้ แต่เราคุยกันภาษาอังกฤษค่ะ เราก็เลยไปเจอค่ะ

    พอเจอแล้ว เค้าดีกับเรามาก ดีกว่าเดิม ดูเทคแคร์เอาใจใส่ จะสั่งอาหารเมนุที่เราชอบ และขอบคุณเรา เอากล้องถ่ายรูปมาถ่ายเรา ทุกอย่างดูเหมือนเดิมมาก คุยกันเรื่องเค้ากลับประเทศ เค้าบอกเราว่า I must come back

    หลังจากวันนั้น เราก็คุยไลน์กันอยุ่จนถึงทุกวันนี้ แต่ก็ไม่ได้เยอะมากค่ะ ล่าสุดเจอกันอีกครั้ง เราชวนเค้าไปงาน networking ตอนแรกเค้าบอกว่า น่าสนใจ แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาทันมั้ย เราเลยบอกเค้าไปว่า ไม่เป็นไร เข้าใจว่าช่วงนี้เค้ายุ่งมาก เดี๋ยวไว้มี event ไหนน่าสนใจอีก จะรีบมาบอก เค้าก็บอกว่า ใช่ๆ เหนื่อยมากนู้นนี่น แต่สุดท้ายเค้าก็มา ที่งานพอมาเจอกันก็รู้สึกว่า เค้าดูนิ่งหรือเฉยๆมากขึ้น อาจเพราะเวลาก็ผ่านมาระยะนึงแล้ว (หรือเพราะเหนื่อยไม่รู้เหมือนกัน)

    เราสงสัยมากว่าสรุปเค้าคิดยังไงกันแน่ ปกติผู้ชายญี่ปุ่น พอเลิกกับแฟนแล้ว เค้าจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้โดยไม่คิดอะไรเลยหรอคะ หรือว่าเค้าก็ยังมีใจ ลึกๆ แอบหวังว่าเค้าจะขอกลับมาคบเป็นแฟน แต่ว่าเดือนหน้าก็จะกลับญี่ปุ่นแล้ว เค้าก็มีงานมีฝันที่จะก้าวต่อไป เราเลยไม่อยากจะคาดหวัง

    อีกอย่างเค้าใกล้จะกลับแล้วด้วย ยังไม่เคยได้คุยหรือเคลียร์ถึงเรื่องเลิกวันนั้นอีกครั้งเลย เราเองก็ยังคาใจอยู่เลยค่ะ ยังมีความไม่เข้าใจ เราควรจะปล่อยผ่านไป เป็นฝ่ายรับ รอดูต่อไปเรื่อยๆ หรือลองพูดกับเค้าก่อนเค้ากลับเลยดีคะ
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Friday, July 21 2017, 12:50 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    มีความคาดหวังเกิดขึนนะคะ ส่วนตัวเราว่า ทำตัวให้เป็นธรรมชาติดีกว่า
    ถ้าจขกท. ใช่สำหรัเค้า เค้าจะเป็นฝ่ายเหนี่ยวรั้งเราเองค่ะ

    ขนาดเรากับแฟน แฟนยังพยายามกับเรามากเลย แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังนะคะ

    เพราะความสัมพันธ์ มันเกิดจากความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย

    เอางี้ก็ลองวางเฉยๆไปดีกว่าค่ะ แล้วดูว่าเค้ากระตือรือร้นที่จะสานสัมพันธ์กับเราไหม

    การพุดคุยยังไม่ใช่คำตอบเท่าไหร่ นอกจากการกระทำที่ทำให้เราค่ะ

    พอรุ้สึกโอเคแลวค่อยถาม ก็ได้ค่ะ
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Passu
    Passu
    Offline
    Friday, July 21 2017, 01:16 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    taeny_2312 S.taetaeเขียน:

    มีความคาดหวังเกิดขึนนะคะ ส่วนตัวเราว่า ทำตัวให้เป็นธรรมชาติดีกว่า
    ถ้าจขกท. ใช่สำหรัเค้า เค้าจะเป็นฝ่ายเหนี่ยวรั้งเราเองค่ะ

    ขนาดเรากับแฟน แฟนยังพยายามกับเรามากเลย แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังนะคะ

    เพราะความสัมพันธ์ มันเกิดจากความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย

    เอางี้ก็ลองวางเฉยๆไปดีกว่าค่ะ แล้วดูว่าเค้ากระตือรือร้นที่จะสานสัมพันธ์กับเราไหม

    การพุดคุยยังไม่ใช่คำตอบเท่าไหร่ นอกจากการกระทำที่ทำให้เราค่ะ

    พอรุ้สึกโอเคแลวค่อยถาม ก็ได้ค่ะ




    คิดอยู่เหมือนกันค่ะ ว่าถ้าเค้าชอบเราจริงๆ เค้าก็จะพยายามเอง เลยลังเล ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ
    The reply is currently minimized Show
  • Accepted Answer

    Passu
    Passu
    Offline
    Friday, March 15 2019, 07:48 PM - #Permalink
    Resolved
    0 votes
    เพิ่งเห็นว่ากระทู้ถูกแชร์ในเฟสด้วย เลยแวะเข้ามาอัพเดทค่ะ

    กลับมาคบกันนานแล้วค่ะ แฮปปี้ดีค่ะ ทุกอย่างดีกว่าเดิมค่ะ เข้าใจกันมากขึ้น ขอบคุณทุกคนค่าาาาาาาาา
    The reply is currently minimized Show
Your Reply