เราว่าเค้ายังรักคุณนะคะ แต่แค่ว่าคนญี่ปุ่นคิดมากเรื่อง การทำงาน การต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว เค้าจะคิดเสมอว่า ต้องพร้อมในทุกๆด้านก่อนถึงคิดเรื่องการแต่งงาน ไม่ใช่เค้าไม่อยากแต่งหรอกค่ะ
และการคุยเรื่องแต่งงานบ่อยๆ อาจทำให้ผู้ชายญี่ปุ่นยิ่งอึดอัดค่ะ
แฟนเก่าเรา อายุห่างจากเรา อ่อนกว่า 9 ปีเลย เรื่องอายุไม่ใช่ประเด็นสำหรับคนญี่ปุ่นค่ะ แต่ความเข้าใจมากกว่าที่ผู้ชายญี่ปุ่นอยากได้ค่ะ
ที่เค้าบอกตรงๆ นั้นหมายถึงเค้ายังรักคุณอยู่ค่ะ แค่ยังไม่พร้อม หรือต้องการเวลาค่ะ
เพราะ คนญี่ปุ่น จะไม่บอกเลิกตรงๆนะคะ ส่วนใหญ่ แค่จะ ค่อยๆหายไป แล้วไม่คุยกะคุณอีกเลยค่ะ
แต่ถ้าคุยกันได้ ถือว่ายังสามารถนานสัมพันธ์ก้นได้ค่ะ ลองถอยออกมาก้าวนึงค่ะ แต่ยังคงคุยกับเค้า ให้พื้นที่เค้าบ้าง อาจจะดีขึ้นได้ค่ะ. ขอให้สู้ๆนะคะ

ไว้จะมาแชร์เรื่องแฟนเก่า และแฟนญี่ปุ่นปัจจุบันบ้างค่ะ

คิดเหมือนกันค่ะกับทุกความเห็น
อย่างน้อยก็ยังดีที่เขาพูดตรงๆ
ผู้ชายญี่ปุ่นหลายคนกลัวการแต่งงาน
ไม่อยากมีพันธะ

ถ้ากลับไป ก็ต้องทะเลาะเรื่องแต่งงานอีก (เพราะเขาไม่อยาก)
คิดว่าเขาก็คงจะคิดเหมือนกัน
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณเมียมด้วยนะคะ

คุณ

Lost Princessเขียน:

ไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ตามที่ไปด้วยกันไม่ได้ ต้านับถือนะคะ ที่กล้าบอกตรงๆว่าคบต่อไปไม่ได้ เพราะเวลาส่วนใหญ่คนที่ต้องการเลิก ชอบจะเงียบให้เราคิดเองและห่างออกไป วิธีนี้ทำร้ายอีกฝ่ายที่ยังมีใจอยู่มากที่สุดเพราะมันทำให้ฟุ้งซ่าน ไม่รู้จะเอายังไง ไม่รู้อยู่ในสถานะไหน แต่สำหรับคุณเมียม เค้าชัดเจนดีค่ะ ถ้าใจคนไม่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะหาวิธีไหนก็ดึงเค้าไว้ไม่อยู่ค่ะ ต้องปล่อยเค้าไปตามทางของเค้า เค้าอาจจะสับสน ใจหนึ่งอาจเพราะยังผูกพันธ์ เคยโทรหา เคยคุย แต่อีกใจคงอยากอยู่แบบไร้พันธะ (วิเคราะห์จากที่เล่ามานะค่ะ)

ไม่ว่ายังไงขอให้ผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปได้เร็วๆนะค่ะ (^___^) (^___^)

ขอบคุณสำหรับการตอบนะคะ ^_^ เมื่อสองวันก่อนเขาเมาตลอดเลยค่ะ เขาบอกว่าเขาเจ็บปวด
พอคิดถึงอนาคต คิดถึงเมียม และคิดถึงหัวอกของครอบครัวเมียม
เขาบอกให้เมียมส่งรูปให้เขาทั้งในสไกป์และอีเมล จนเมียมเริ่มถอดใจแล้วค่ะ คิดว่าคงจะกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้
แต่เมื่อวานนี้คุยกัน เหมือนจะเริ่มดีขึ้น เพราะเมียมถามเขาว่า
คุณยังคงเป็นแฟนฉันใช่ไหม เขาบอกว่า "ครับ" แต่ก็อย่างที่คุณ Lost Princess ว่า เขาคงอยากอยู่แบบไร้พันธะ

คุณ

Pingเขียน:

คิดว่าเค้าคงยังรักและผูกพันธ์อยู่ แต่อย่างที่เค้าบอกไม่อยากให้คุณเมียมเสียเวลา เพราะเขาเองยังไม่อยากแต่ง (และไม่รู้เมื่อไหร่จะอยาก)
ไม่รู้จะแนะนำยังไงว่าทำยังไงจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้
แต่ถ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิมได้จริงๆ คุณเมียมคิดยังไงถ้าเขาก้อยังเป็นเหมือนเดิม
ปัญหาเดิมนี้จะเกิดอีกมั้ย ค่อนข้างเข้าใจคุณเมียมนะคะ ผู้หญิงทั่วไปโดยส่วนมากก้อคงคิดเหมือนคุณเมียม ถ้าเรามีคนที่รักและด้วยวัยที่เหมาะสมเราก้ออยากแต่งงานกับคนนั้น
ลองให้เวลาเค้า และก้อให้เวลาตัวเองคิดด้วยนะคะ ถ้ากลับไปเป็นแฟนเหมือนเดิมแล้วทุกอย่างก้อเหมือนเดิม คือต้องมามีปัญหากันด้วยเรื่องนี้อีกเหมือนเดิมคุณเมียมโอเคมั้ย

ยังไงก้อตามเป็นกำลังใจให้คุณเมียมนะคะ สู้ๆค่ะ

อยากให้เขาอยากแต่งเหมือนกัน ส่วนตัวเมียมจะแต่งรึไม่แต่ง ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ
ถ้าได้อยู่ด้วยกัน แต่เขาคิดมาก คิดถึงหัวอกของพ่อกับแม่ ของเมียมด้วย เขาบอกว่า "ถ้าพ่อแม่คุณรู้ว่าผมไม่อยากแต่งงาน
ครอบครัวคุณก็ต้องบอกให้เลิกกับผมอยู่ดี"

คิดว่าเค้าคงยังรักและผูกพันธ์อยู่ แต่อย่างที่เค้าบอกไม่อยากให้คุณเมียมเสียเวลา เพราะเขาเองยังไม่อยากแต่ง (และไม่รู้เมื่อไหร่จะอยาก)
ไม่รู้จะแนะนำยังไงว่าทำยังไงจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้
แต่ถ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิมได้จริงๆ คุณเมียมคิดยังไงถ้าเขาก้อยังเป็นเหมือนเดิม
ปัญหาเดิมนี้จะเกิดอีกมั้ย ค่อนข้างเข้าใจคุณเมียมนะคะ ผู้หญิงทั่วไปโดยส่วนมากก้อคงคิดเหมือนคุณเมียม ถ้าเรามีคนที่รักและด้วยวัยที่เหมาะสมเราก้ออยากแต่งงานกับคนนั้น
ลองให้เวลาเค้า และก้อให้เวลาตัวเองคิดด้วยนะคะ ถ้ากลับไปเป็นแฟนเหมือนเดิมแล้วทุกอย่างก้อเหมือนเดิม คือต้องมามีปัญหากันด้วยเรื่องนี้อีกเหมือนเดิมคุณเมียมโอเคมั้ย

ยังไงก้อตามเป็นกำลังใจให้คุณเมียมนะคะ สู้ๆค่ะ

ไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ตามที่ไปด้วยกันไม่ได้ ต้านับถือนะคะ ที่กล้าบอกตรงๆว่าคบต่อไปไม่ได้ เพราะเวลาส่วนใหญ่คนที่ต้องการเลิก ชอบจะเงียบให้เราคิดเองและห่างออกไป วิธีนี้ทำร้ายอีกฝ่ายที่ยังมีใจอยู่มากที่สุดเพราะมันทำให้ฟุ้งซ่าน ไม่รู้จะเอายังไง ไม่รู้อยู่ในสถานะไหน แต่สำหรับคุณเมียม เค้าชัดเจนดีค่ะ ถ้าใจคนไม่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะหาวิธีไหนก็ดึงเค้าไว้ไม่อยู่ค่ะ ต้องปล่อยเค้าไปตามทางของเค้า เค้าอาจจะสับสน ใจหนึ่งอาจเพราะยังผูกพันธ์ เคยโทรหา เคยคุย แต่อีกใจคงอยากอยู่แบบไร้พันธะ (วิเคราะห์จากที่เล่ามานะค่ะ)

ไม่ว่ายังไงขอให้ผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปได้เร็วๆนะค่ะ (^___^) (^___^)