e การศึกษา

5 เคล็ดลับ เรียนให้ได้เกรดสวยในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น

5 เคล็ดลับ เรียนให้ได้เกรดสวยในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น

By , Wednesday, 29 June 2016

เรียนเป็นภาษาไทยว่ายากแล้ว เรียนเป็นภาษาญี่ปุ่นนั้นยากกว่า(มาก!) เปิดหนังสือแต่ละที เจอแต่คันจิๆๆ ขนาดคนญี่ปุ่นบางคนยังเอาตัวไม่รอดกันเลยค่ะ แล้วเด็กต่างชาติอย่างเราจะเอาอะไรไปสู้ล่ะเนี้ย!

ขอบอกก่อนว่า ดิฉันไม่ได้เก่งภาษาญี่ปุ่นมาก ตอนเข้าป.ตรี ปี1ระดับความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นเกินN3 แต่ไม่ถึงN2 ซึ่งเทียบกับเพื่อนเกาหลีและจีนที่ผ่าน N1 ตั้งแต่ม.6 เกรดตอนปี1 เทอม1 ดิฉันอุบาทว์มากค่ะได้ 2.8 แต่หลังจากดิฉันค้นพบเคล็ดลับการเรียนตอนปี 2 เลยได้ 3.6 และ ปี3 ได้ 3.8! อย่าหาว่าดิฉันขี้โม้เลย แค่อยากจะให้เห็นพัฒนาการเป็นตัวเลขเท่านั้นเอง

เกรดก็มีขึ้นมีลงบ้างค่ะ แต่อยู่ในระดับที่ดิฉันพอใจมาก

ในเมื่อสู้ด้วยความสามารถทางด้านภาษาเมื่อเทียบเท่าเจ้าของภาษาไม่ได้ เราก็ต้องเอาเล่ห์กลเข้ามาใช้แล้วล่ะค่ะงานนี้ เพราะฉะนั้นเชิญชม 5 เคล็ดลับการเรียนให้ได้เกรดสวยในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นกันเลยค่ะ

1.เข้าเรียนบ่อยๆให้อาจารย์เห็นหน้า

เรียกง่ายๆว่า "เสนอหน้า" ค่ะ 555 ถึงแม้คาบเลกเชอร์จะเข้าไปจดตามบนกระดาน สมองกลวงไปวันๆ แต่ก็เข้าไปเถอะค่ะ วิธีการที่ทำให้อาจารย์เห็นหน้าชัดสุด คือ นั่งตรงกลางเยื้องไปด้านหน้าห้อง จะได้เป็นเป้าสายตามากที่สุด ยิ่งวิชาไหนที่เช็คชื่อด้วยแล้ว อาจารย์จะยิ่งจำชื่อยาวๆสไตล์คนไทย พร้อมหน้าหวานๆแบบสาวไทยได้แน่นอน (แต่ไม่ต้องสบตาแกบ่อยนะ เดี๋ยวโดนเรียกตอบล่ะยุ่งเลย)

เวลาเข้าเรียนก็มีผลค่ะ เรื่องนี้ดิฉันถามอาจารย์ที่ปรึกษามาว่า "ในสายตาอาจารย์ คิดว่าเด็กแบบไหนมีความรับผิดชอบ" อาจารย์ตอบมาว่า "ผมไม่สนเรื่องสอบหรือเกรดหรอกนะ แต่สนที่ความตรงต่อเวลา และจำนวนการเข้าเรียน คิดดูสิ ว่าถ้าไปสัมภาษณ์งาน แค่คุณมาช้าไป 5 นาที เขาก็ไม่อยากรับคุณแล้ว ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ตาม"

เพราะฉะนั้นควรเข้าห้องก่อนสัก 5-10 นาที ไม่ใช่เดินเข้ามาโต้งๆ ตอนเพื่อนนั่งเงียบกันทั้งห้องแล้ว แบบนั้นจะโดนมองว่า ไม่รักษาเวลา ไม่มีมารยาทค่ะ กลายเป็นว่าอาจารย์จะจำเราเป็นเด็กแบบนั้นไปค่ะ

2.ไม่เข้าใจอะไรก็ตาม ถามอาจารย์ดีที่สุด

ไม่ใช่ว่าเพื่อนพึ่งพาอะไรไม่ได้นะคะ แต่เพื่อนคนญี่ปุ่นซึ่งเป็นวัยรุ่นธรรมดาๆคนหนึ่ง การที่จะสื่อสารเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ถูกต้องและเข้าใจง่ายให้ต่างชาติฟังเป็นเรื่องยากมากถ้าไม่มีประสบการณ์มาก่อน เช่น สมมติว่าเรามีเพื่อนฝรั่ง แล้วเขามาถามว่า "คำว่า แปลกใจ หมายความว่าอะไร" อธิบายไทยเป็นไทยยังค่อนข้างยาก แต่ถ้าคนเป็นอาจารย์ จะอธิบายได้ทันที (เพราะคงเจอเด็กต่างชาติรุ่นก่อนๆถามแต่อะไรเดิมๆมาเหมือนกัน) แถมการถามอาจารย์โดยตรง ยังทำให้อาจารย์จำเราได้ และเห็นว่าเราเป็นคนใฝ่รู้ด้วยค่ะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวเลย

3.แบ่งเวลาเป็น

ไม่ว่าจะเรียนหรือทำอะไรก็ตาม เรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญ หากจัดสรรเวลาไม่เป็นก็จบเห่ค่ะ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ยึดหลัก "เรียนหนัก ทำงานพาร์ทไทม์หนัก และเที่ยวหนัก" มีช่วงหนึ่งที่คุณแม่เป็นห่วงมาก "บอกว่าทำพาร์ทไทม์หนักไปไหม ถ้าไม่มีเงินแม่ส่งให้นะ อย่าให้เสียการเรียน แม่ส่งมาเรียน ไม่ได้ส่งมาทำงาน"

ดิฉันบอกแม่ว่า ไม่เป็นไร ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองไม่ไหวจะเลิกเอง การจัดสรรเวลาในสไตล์ดิฉัน คือ ทุกครั้งที่นั่งรถไฟไปทำงาน จะมีกระดาษโน้ตคำศัพท์ หรือสรุปย่อเนื้อหาเลกเชอร์ ขึ้นมาอ่าน และหลังเลิกงานพาร์ทไทม์ก็จะกลับมาทำการบ้าน หรือจดโน้ตวิชาอื่นๆไปอ่านในรถไฟวันถัดๆไป แน่นอนว่าดิฉันได้นอนเต็มอิ่ม 8 ชั่วโมงทุกวัน เพราะพอเที่ยงคืน-ตีหนึ่งปุ๊บ โยนหนังสือเก็บเลยค่ะ เพราะหลังจากนี้สมองจะไม่ทำงานแล้ว 555

แค่แบ่งเวลาเป็น ทั้งเรื่องเรียน ทำงาน และเที่ยวก็ไม่เป็นปัญหาแล้วล่ะค่ะ

4.การเขียนแสดงความคิดเห็นส่งอาจารย์

พูดถึงเรื่องเรียนกันบ้างดีกว่า หลังจากเราใช้เล่ห์เลี่ยมและการใช้ชีวิตไปแล้ว ที่คณะดิฉันมักจะชอบให้เขียน comment sheet ท้ายคาบ ว่าวันนี้เรียนแล้วได้อะไรบ้าง รู้สึกอย่างไร เหมือนการเป็นเช็คเข้าเรียนที่มีคะแนนน่ะค่ะ ถ้าให้เขียนแบบนี้นะคะ สบายมาก เคล็ดลับ คือ โยงทุกเรื่องให้เกี่ยวกับประเทศไทยให้ได้

ไม่ว่าจะเอามาเปรียบเทียบกับประเทศไทย แนะนำว่าที่ไทยก็มีแบบนี้นะ หรือในสายตาคนไทยเรามองญี่ปุ่นแบบนี้นะ ใช่ว่าอาจารย์จะไม่ชอบนะ เขาชอบมากกกกก! ด้วยซ้ำไป อาจารย์บอกว่า อ่านแล้วสนุกดี ไม่เคยรู้มาก่อน และแน่นอน เกรดวิชานี้สวยแน่นอนค่ะ

5.การเขียนรายงาน หรือสอบข้อเขียน

ปัญหาของเด็กต่างชาติ แน่นอนว่า คือ เรื่องภาษา แต่ตอนเขียนรายงาน หรือเขียนสอบก็ต้องเขียนเป็น 1000-2000 ตัวเลยนิ! แต่ดิฉันก็ผ่านมันมาได้ ด้วยการใช้ไวยากรณ์ง่ายๆ ศัพท์ง่ายๆ แต่ถูกต้องและเราเข้าใจ เพราะถ้าเรายังไม่เข้าใจ อาจารย์ก็คงไม่เข้าใจหรอกค่ะ

ดิฉันคิดว่า ภาษาญี่ปุ่น ถ้าเลือกใช้คำช่วยถูก ทุกอย่างมันจะถูก เช่น ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร กับใคร ทุกอย่างแสดงด้วยคำช่วยทั้งนั้น ซึ่งหลายๆคนบอกว่าคำช่วยนั้นยากมาก อืม…มันก็ยากจริงๆอ่ะ (อ้าว) ถึงแม้ทุกวันนี้ดิฉันจะยังใช้ผิดบ้าง แต่วิธีง่ายๆ เลยคือ จำว่าคำช่วยตัวนั้นมีหน้าที่อะไรให้ได้ทั้งหมด แล้วใช้มันบ่อยๆ ซ้ำๆ แล้วมันจะเกิดความเคยชิน และจำได้ในที่สุดค่ะ

สุดท้ายนี้ หากใช้ทั้งเล่ห์ ทั้งความสามารถตัวเองไม่ได้แล้ว ขอให้เดินทางไปศาลเจ้าดังๆ สวดมนต์ไหว้พระบ้างอะไรบ้าง เพราะบางทีเรื่องโชคก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเนอะ อย่างเช่น ถ้าเราโดนสุ่มให้ทำรายงานคู่กับคนที่ไม่ช่วยทำ เราเหนื่อยไม่พอ คะแนนก็ไม่ดีด้วยค่ะ



ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น

YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/

Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/

Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH

Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/

TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth

ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com