e การศึกษา

ทำความรู้จักกับข้อสอบที่คนเรียนญี่ปุ่น(เกือบ)ทุกคนต้องสอบ!

ทำความรู้จักกับข้อสอบที่คนเรียนญี่ปุ่น(เกือบ)ทุกคนต้องสอบ!

By , Saturday, 27 August 2016

        เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้วสำหรับข้อสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น Japanese Language Proficiency Test หรือที่เรามักเรียกกันสั้นๆว่า JLPT'S TEST ข้อสอบนี้เป็นข้อสอบที่เรียกได้ว่าทุกคนที่ใฝ่ฝันอยากจะเอาดีด้านภาษาญี่ปุ่นนั้น ต้องสอบ! และก็เป็นธรรมดาเช่นเดียวกันกับการสอบทั่วๆไป ที่จะมีทั้งคนที่สอบผ่านและคนที่สอบตก แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ต้องผ่านเรื่องราวเหล่านั้นไปให้ได้อยู่ดี

      ก่อนอื่นเลยต้องมาทำความรู้จักกับข้อสอบกันก่อนนน

       JLPT test คือ ข้อสอบวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาญี่ปุ่น ที่มีขึ้นเพื่อทดสอบความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถทางด้านภาษาของชาวต่างชาติที่เรียนภาษาญี่ปุ่น โดยการสอบนี้ มีสอบทั้งในประเทศและนอกประเทศญี่ปุ่น ถ้าสอบภายในประเทศจะเป็นการสอบที่ดูแลโดยสมาคมสนับสนุนการศึกษานานาชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น (JEES) แต่ถ้าเป็นนอกประเทศจะควบคุมดูแลโดยมูลนิธิญี่ปุ่น หรือที่เราจะนิยมเรียกเป็นชื่อภาษาอังกฤษว่า Japan Foundation 

     ข้อสอบจะเเบ่งออกเป็น 5 ระดับ คือ N1-N5 โดยระดับN5 ก็คือ Beginner นั่นเอง ในข้อสอบสำหรับN1-N2 จะมีด้วยกัน 2 พาร์ท ก็คือ พาร์ทความรู้ทางด้านภาษาที่จะประกอบไปด้วย คำศัพท์ ไวยากรณ์ การอ่าน และพาร์ทการฟัง แต่ถ้าเป็นระดับ N3-N5 ข้อสอบจะมี 3 พาร์ท คือ พาร์ทคำศัพท์ ที่จะมีฮิรากานะ คาตาคานะ และคันจิ ที่สลับกันไปมาในพาร์ทนี้ และพาร์ทที่สองก็คือ พาร์ทไวยากรณ์และการอ่าน สำหรับพาร์ทสุดท้ายก็คือการฟัง ในการสอบแต่ละระดับก็จะมีเกณฑ์การสอบ และคะแนนขั้นต่ำมาให้เราได้ประเมินตัวเองในระหว่างรอผลสอบ ที่อาจจะกินเวลายาวนานถึง2เดือนเลยทีเดียว

​    เกณฑ์คะแนนในแต่ละระดับก็จะแตกต่างกันออกไปตามความยากง่าย โดยคนที่จะผ่านนั้นจะต้องผ่านทั้งคะแนนขั้นต่ำของแต่ละพาร์ท และคะแนนรวมเท่านั้น ถ้าหากผ่านเเค่อย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่ถือว่าผ่าน เช่น ในระดับ N5 ได้คะแนนรวม 120 คะแนน  ประกอบด้วยความรู้เรื่องภาษา 110 คะแนน และการฟัง 10 คะแนน ก็จะถือว่าตก เพราะคะแนนการฟังต่ำกว่า 19 คะแนน

   ทำไมต้องสอบ? เอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?

  เนื่องจากเป็นข้อสอบที่ใช้ในการวัดระดับความรู้ทางด้านภาษาญี่ปุ่น จึงสามารถนำผลสอบไปยื่นใช้ได้หลากหลายมาก เช่น 1.ใช้ประกอบการสมัครเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น (ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะใช้คะแนน EJU ที่เป็นข้อสอบวิชาการยื่นควบคู่กันไปด้วย)  2.ใช้ประกอบการยื่นสมัครงานในบริษัทต่างๆ หรือ ยื่นเพื่อขอเลื่อนตำแหน่งและปรับระดับเงินเดือน โดยส่วนมากสำหรับคนที่ได้ภาษาญี่ปุ่นจะได้เพิ่มอีกประมาณ 2-3 เท่าของเงินเดือนเดิมในกรณีของบริษัทเอกชน  แต่สำหรับหน่วยงานราชการ เงินเดือนจะไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ แต่จะมีผลกับการพิจารณาเลื่อนขั้นมากกว่า  3.ใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่า กรณีอยู่เกิน15วัน จะมีโอกาสได้วีซ่าง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากเราสามารถพูดภาษาเขาได้พอสมควร จึงค่อนข้างการันตีได้ว่าจะไม่ไปเป็นภาระให้กับคนในประเทศของเขา 


หลังจากที่ได้รู้จักกับข้อสอบกันแล้ว เราก็จะมาดูกันค่ะว่า เราควรจะสอบไหม ทุ่มเทมากแค่ไหน แล้วต้องทำยังไง

     ต้องขอให้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยให้ลองพิจารณาดูว่าตัวเองเข้าข่ายอยู่ในกลุ่มไหน แล้วลองอ่านดูนะคะ

1.คนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาญี่ปุ่น ไม่ได้เรียนทางด้านภาษาที่เลือกภาษาญี่ปุ่นเป็นวิชาเอก ไม่ได้คิดจะเอาดีทางด้านนี้แค่ชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่นเฉยๆ และอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาญี่ปุ่น  คนประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องสอบค่ะ รู้ไว้ก็ดี ประดับสมอง แต่ไม่จำเป็นต้องสอบก็ได้เพราะค่าสอบค่อนข้างแพง คือประมาณ600-800บาท และระดับที่นำไปใช้งานได้นั้นค่อนข้างสูง ถ้าจะสอบเพื่อเป็นแนวทางไว้สำหรับสมัครเรียนจะอยู่ที่ ประมาณ N4 ซึ่งก็คือ 600 บาทค่ะ แต่ถ้าจะใช้เผื่อสำหรับการทำงาน ขั้นต่ำที่พอจะเริ่มใช้งานได้คือ N3 ค่ะ ค่าใช้จ่ายในการสมัครก็คือ 800 บาท แล้วไม่ใช่ว่าสอบครั้งเดียวแล้วจะผ่านเลยนะคะ ยิ่งถ้าเราเป็นคนประเภทที่ไม่ค่อยได้ใช้งานก็จะยิ่งยากและยิ่งต้องใช้เวลาอีกค่ะ

2.คนที่เรียนมาทางสายนี้ คนที่ชอบอยากสอบจริงๆ หรือคนที่มีเป้าหมายที่จะเอาดีทางด้านนี้ คนเหล่านี้ควรสอบค่ะ แต่อย่างที่หลายๆคนเคยบอกว่า ภาษาเป็นเรื่องของการฝึกฝน ใครใช้บ่อยเจอบ่อยก็จะเก่งเร็ว ซึ่งก็มักจะเป็นคนที่มีความชื่นชอบอยู่แล้วเช่นคนประเภทนี้นั่นเองค่ะ  แต่ต่อให้ชอบยังไงรักมากแค่ไหน ก็ย่อมมีท้อเป็นธรรมดา เหมือนคนที่รักเขาข้างเดียว พยายามอย่างหนักแต่เป็นการพยายามอยู่ฝ่ายเดียว ให้รักมากขนาดไหนก็ต้องเลิกอยู่ดี ดังนั้นเราจึงต้องฉลาดทีี่จะผลักดันตัวเองค่ะ โดยอยากให้เริ่มสอบจากระดับง่ายๆให้ผ่านก่อน อย่ากระโดดข้ามขั้นถ้าไม่มั่นใจว่าเก่งจริง เพราะจะทำให้ท้อแท้ ถ้ามั่นใจมากจริงๆ ก็ให้ลองถามตัวเองดูนะคะว่า ถ้าสอบแล้วตกจะท้อไหม ถ้าแค่ครั้งสองครั้งก็อาจจะเฉยๆ แต่ลองเสอบตกแบบนี้สัก 10 ครั้งดูสิคะ แล้วถามตัวเองใหม่นะว่าท้อรึเปล่า ความมั่นใจที่เต็มเปี่ยมตั้งแต่ตอนแรกน่ะ มันเหลือแค่ไหนแล้ว ถ้าคำตอบคือท้อ คือไม่มั่นใจ ก็อย่าทำเลยค่ะ เพราะแรงผลักดันและความมั่นใจในตัวคนเราเป็นสิ่งที่ได้มายาก แต่ทำลายง่าย  แนะนำให้เอาแบบช้าแต่ชัวร์ดีกว่าค่ะ  ลำดับความยากของข้อสอบเป็นดังนี้ค่ะ N5>>N4>>>>>>N3>>>N2>>>>>>>>>N1 ถ้าใครไม่มั่นใจว่าตัวเองควรสอบระดับไหนก็สามารถทดลองทำข้อสอบได้ที่ www.jlpt.jp เลยนะคะ

       ลองเลือกกันดูดีดีนะคะ อีกไม่กี่วันก็จะปิดรับสมัครสอบแล้วนะคะ   http://school.ojsat.or.th/jlpt.php  สำหรับใครที่สมัครไม่ทันก็ไม่ต้องเสียใจ อ่านหนังสือ เตรียมตัวรอสมัครรอบหน้าได้เลยค่ะ  เพราะเขาเปิดให้สอบปีละ 2 ครั้งด้วยกัน ก็คือวันอาทิตย์แรกของเดือนกรกฎาคม และเดือนธันวาคม นั่นเองค่ะ ขอให้ทุกคนที่สมัครสอบ ผ่านการสอบทุกคนนะคะ


     " เครื่องจักรยังพังได้แล้วทำไมคนเราจะล้มไม่ได้ล่ะ ประเด็นสำคัญไม่ใช่ว่าเราล้มกี่ครั้งแต่อยู่ที่ว่า ทุกครั้งที่เราล้มนั้น เราจะลุกขึ้นมาเดินต่อได้รึเปล่า"

​...............................................................................

ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก

1.http://education.thaiembassy.jp/index.php/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99/41-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/52-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-jlpt.html

2.http://jojiina.blogspot.com/2016/02/jlpt-tactics.html

3.https://ishikawajet.wordpress.com/2015/09/11/japanese-language-proficiency-test-jlpt-december-2015/

4.http://school.ojsat.or.th/jlpt.php

5.http://www.jpf.go.jp/e/

6.http://buna.yorku.ca/jlpt/

7.http://ikaritotoro.blog.fc2.com/blog-category-9.html


ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น

YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/

Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/

Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH

Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/

TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth

ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com