fclt_ne-ysd_adtrm-01_25620318-063827_1

​โทได (Todai) ที่หลายๆคนเคยได้ยินจากการ์ตูนหลายๆเรื่องในญี่ปุ่นนั้น ย่อมาจาก Tokyo Daikaku (東京大学) หรือ The University of Tokyo (UTokyo) ในที่นี้ Daikaku (大学) แปลว่า มหาวิทยาลัย แปลเป็นภาษาไทยก็คือ มหาวิทยาลัยโตเกียวนั่นเองค่าา

ประวัติความเป็นมา 

มหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1877 แรกเริ่มของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยโตเกียวนั้น เกิดจากการรวมตัวกันของ Tokyo Kaisei School และ Tokyo Medical School โดยมีอยู่ 4 คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมวิทยา และคณะแพทยศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยเตรียมอุดมศึกษา โดยที่คณะนิติศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมวิทยา จะตั้งอยู่ที่วิทยาเขตคันดะ (Kanda area) ส่วนคณะแพทยศาสตร์ตั้งอยู่ที่วิทยาเขตฮงโกะ (Hongo area) หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยโตเกียวยังได้มีการรวมตัวกันของสถาบันอื่นๆอีก เช่น Imperial College of Engineering และ Tokyo School of Agriculture and Forestry เพื่อเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการวิจัย หลายปีที่ผ่านมามหาวิทยาลัยโตเกียวได้ผ่านการเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยอยู่หลายครั้ง จนปัจจุบันมีชื่อเต็มๆของมหาวิทยาลัยก็คือ National University Corporation, the University of Tokyo เนื่องจากเกิดจากการรวมตัวกันของมหาวิทยาลัยแห่งชาติหลายๆมหาวิทยาลัยรวมกัน ในปัจุบันมหาวิทยาลัยโตเกียวประกอบไปด้วย 10 คณะ 15 บัณฑิตศึกษา 11 สถาบันวิจัยในเครือ 13 ศูนย์รวมมหาวิทยาลัย 3 ห้องสมุดในสังกัด และ 2 สถาบันการศึกษาระดับสูง นอกจากนี้ยังมีคณะของบัณฑิตศึกษา และสถาบันวิจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย และหนึ่งในนั้นคือโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Toyko Hospital)

คณะในมหาวิทยาลัยโตเกียว

  1. คณะนิติศาสตร์
  2. คณะเศรษฐศาสตร์
  3. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมวิทยา
  4. คณะศึกษาศาสตร์
  5. คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
  6. คณะวิศวกรรมศาสตร์
  7. คณะวิทยาศาสตร์
  8. คณะเกษตรศาสตร์
  9. คณะเภสัชศาสตร์
  10. คณะแพทยศาสตร์

หรือจะเข้าไปดูลิงก์ของมหาวิทยาลัยได้ทางนี้ค่ะ >>คลิกได้ที่นี่<<

มหาวิทยาลัยโตเกียวมีกี่วิทยาเขตกันนะ?

มหาวิทยาลัยโตเกียวประกอบไปด้วย 3 วิทยาเขตหลัก และ 4 วิทยาเขตย่อย ได้แก่ 

วิทยาเขตหลัก 

  • วิทยาเขตฮงโกะ (Hongo campus) 
  • วิทยาเขตโคมาบะ (Komaba campus) 
  • และวิทยาเขตคาชิวะ (Kashiwa campus) 

ที่อยู่: Hongo 7-3-1, Bunkyo-ku, Tokyo, Japan 113-8654

วิทยาเขตย่อย 

  • วิทยาเขตยาโยอิ (Yayoi campus) เป็นวิทยาเขตที่อยู่ติดกับวิทยาเขตฮงโกะ 
  • วิทยาเขตนาคะโนะ (Nakano campus) 
  • วิทยาเขตชิโระคาเนได (Shirokanedai campus) 
  • วิทยาเขตคามิกาวะ (Kamigawa campus)
Cr. http://www.u-tokyo.ac.jp/en/about/access.html

​สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ 

ทางมหาวิทยาลัยยังมีส่ิงอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย ทั้งโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย ห้องสมุดที่แสนกว้างขวางที่มีหนังสือให้เลือกอ่านกว่า 9 ล้านเล่ม มี conference halls มีสวนพฤษศาสตร์ มีสถานที่ออกกำลังกาย และพิพิธภัณฑ์ >>คลิกดู facilities ที่นี่<<

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย
ห้องสมุด
Conference Halls
สวนพฤษาศาสตร์ (Botanical Gardens)
ศูนย์ออกกำลังกาย (Athletic Facilities)
พิพิธภัณฑ์

ค่าเทอมของมหาวิทยาลัยโตเกียว

ค่าเทอมที่ต้องจ่ายก่อนเข้าเรียนตามตารางด้านล่างนะคะ ในส่วนของเด็กที่ได้รับทุนจากแหล่งทุนต่างๆก็จะได้รับการยกเว้น อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงนอกจากค่าเทอมแล้วก็คือค่าครองในโตเกียวค่ะ โดยเฉพาะค่าหอพักถ้ายิ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยหรือใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวเท่าไหร่ราคาก็ยิ่งแพงขึ้นไปด้วย ถ้าจะประหยัดค่าหอพักแล้วอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยก็จะมีอีกทางหนึ่งคือการอยู่แบบแชร์ห้องกับเพื่อนค่ะ ราคาก็ขึ้นอยู่ที่เราเลือกโดยเฉลี่ยก็ประมาณคนละ 50,000 เยน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆก็อยู่ที่เราล้วนๆถ้าอยากประหยัดจริงๆก็ทำกับข้าวทานเองค่ะ

แหล่งข้อมูลจาก http://www.u-tokyo.ac.jp/en/prospective-students/tuition_fees.html

การจัดอันดับของมหาวิทยาลัยโตเกียว 

มหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น และจากการจัดอับดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกในปี 2017 พบว่ามหาวิทยาลัยโตเกียวอยู่อันดับที่ 39 ของทั้งหมด 981 มหาวิทยาลัย และอยู่อันดับที่ 7 ของเอเซีย ข้อมูลจากเว็บไซด์ https://www.timeshighereducation.com/ โห!! สุดยอดเลยใช่มั้ยล่ะ เห็นเค้าว่ากันว่าการสอบเข้าโทไดไม่ง่ายเลย เด็กคนไหนที่สามารถสอบผ่านเข้ามาได้ถือว่าเป็นคนที่ฉลาดมาก IQ นี้ไม่ต้องพูดถึง O..O!

Cr. https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/asia-university-rankings-2017-results-announced

เรื่องเล่าของสุนัขผู้ซื่อสัตย์กับศาสตราจารย์ในโทได

เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของสุนัขที่มีชื่อว่า ฮาจิโกะ จากภาพยนตร์เรื่อง "ฮาจิโกะ ยอดสุนัขผู้ซื่อสัตย์ " หนังที่สร้างจากเรื่องจริงของฮาจิโกะและศาสตรจารย์ที่โทได ฮาจิโกะเป็นสุนัขพันธุ์ อากิตะอินุ ที่เกือบสูญพันธุ์ในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่สอง สายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก จากเรื่องราวของ ฮาจิโกะ ที่โด่งดังไปทั่วโลก 

ฮาจิโกะ เป็นสุนัขของศาตราจารย์ฮิเดะซะบุโร อุเอะโนะ อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาตร์แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ในทุกๆเช้าฮาจิโกะจะเดินไปส่งศาตราจารย์อุเอะโนะไปทำงาน และนั่งรออาจารย์กลับจากมหาวิทยาลัยทุกวันที่สถานีชิบุยะ จนวันนึงศาตราจารย์อุเอะโนะเสียชีวิตอย่างกระหันทันด้วยภาวะเลือดออกในสมอง ทำให้ศาตราจารย์อุเอะโนะเดินทางกลับไปไม่ถึงที่สถานี ที่มีฮาจิโกะนั่งรออยู่ หลังจากนั้นฮาจิโกะก็เฝ้ารอคอยวันที่นายของเค้าเดินทางกลับมาวันแล้ววันเล่าที่สถานี ตลอดระยะเวลา 9 ปี แล้วฮาจิโกะก็สิ้นใจตายที่สถานีชิบุยะ เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงเห็นอนุสรณ์ของฮาจิโกะตั้งอยู่ที่สถานีชิบุยะ และที่มหาวิทยาลัยโตเกียวตรงฝั่งของวิทยาเขตยาโยอิ (วิทยาเขตยาโยอิเป็นวิทยาเขตของคณะเกษตรศาตร์ที่เป็นที่ทำงานของศาตราจารย์อุเอะโนะนั่นเอง)

ฮาจิโกะกับศาตราจารย์อุเอะโนะเจอกันแล้ว ^^ อนุสรณ์นี้ตั้งอยู่ที่วิทยาเขตยาโยอิ

โทได กับ ฤดูใบไม้ร่วง 

มาถึงไฮไลต์ของมหาลัยวิทยาลัยกันบ้าง นอกจากจะโดดเด่นด้านงานวิจัยแล้ว ยังมีอีกส่ิงหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) นั่นก็คือ สีเหลืองอร่ามของใบต้นกิงโกะรอบๆมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าตรงทางเดินเข้า Yosuda Auditorium ที่จะเต็มไปด้วยใบไม้สีเหลืองเป็นแนวยาวเลยสวยมากๆเลยค่ะ แนะนำว่าถ้าใครมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้องมา เพราะนอกจากบรรยากาศจะสวยแล้ว เราจะได้เห็นศิลปินวาดภาพที่วาดภาพได้สวยงามมากๆทั่วมหาวิทยาลัยเลยค่ะ 

​สำหรับเพื่อนๆหรือน้องๆคนไหนที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยโตเกียวสามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงก์ที่นะคะ >>http://www.u-tokyo.ac.jp/en/index.html หรือหากใครสนใจข้อมูลของการของทุนรัฐบาลญี่ปุ่นสามารถเข้าไปอ่านบทความก่อนหน้าของฟางที่นี่ค่า >> http://www.ilovejapan.co.th/education/entry/university-recommendation-mext-scholarship-japan 

แล้วพบกันวันพฤหัสบดีหน้า จะเป็นเรื่องอะไรติดตามกันได้ค่า

มาพูดคุยกันได้ที่ >> https://www.facebook.com/fofang.kraitavin

ติดตามงานเขียนอื่นๆของฟางได้ที่นี่ >> https://www.facebook.com/WaraSann/

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^

​ขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพประกอบสวยๆจาก

https://www.japantimes.co.jp/wp-content/uploads/2013/03/nn20130306d1a.jpg

https://www.facebook.com/UTokyo.News.en/?rf=112282255455122

https://www.s.u-tokyo.ac.jp/en/STEPS/images/topImage17.jpg

http://pokukaj.si/show/22163/Zgodba_o_Hachiku,_najbolj_zvestemu_psu_na_svetu,_vam_bo_zlomila_srce_na_majhne_delcke#14

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/c/c2/Yasuda_Hall%2C_Tokyo_Daigaku.jpg

https://asia.nikkei.com/var/site_cache/storage/images/node_43/node_51/2016/201609/0920n/0920n-univ-of-tokyo/5103383-1-eng-GB/0920N-Univ-of-Tokyo_article_main_image.jpg

http://fukutake.iii.u-tokyo.ac.jp/english/images/fclt_ne-ysd_adtrm-01b.png

หมายเหตุ รูปภาพที่ถ่ายโดยเจ้าของบล็อก ห้ามนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตนะคะ


ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น

YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/

Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/

Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH

Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/

TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth

ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com