drug

​วันนี้โอทารุจะมาเสนอบล็อกสั้นๆแต่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่ชอบเดินทางไปญี่ปุ่นอย่างแน่นอน ยิ่งช่วงนี้ศุลกากรก็เพ่งเล็งนักท่องเที่ยวชาวไทยมากเป็นพิเศษจากข่าวด้านลบที่มีอยู่เป็นระยะก็ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราต้องเตรียมตัวให้ดีจะได้เตรียมพร้อมตอบคำถามและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่ามาเที่ยวจริงๆครับ! โดยหัวข้อในวันนี้ก็คือ ยาต้องห้ามจำนวน 11 ชนิด ซึ่งศุลกากรญี่ปุ่นประกาศได้ห้ามนำเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นอย่างชัดเจนแล้ว 

​สำหรับยาทั้ง 11 ชนิดนั้น หากผู้ใดนำเข้าและถูกตรวจพบจะถูกดำเนินคดีและยาจะถูกยึดได้ แม้ว่าผู้นั้นจะอ้างว่านำเข้ามาเพื่อการรักษาตัวหรือใช้ในทางการแพทย์ก็ตาม เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นถือว่ายาเหล่านี้มีส่วนผสมต้องห้ามภายใต้กฎหมายยาของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง (รู้อย่างนี้ก็ไม่ควรติดตัวมาแล้วล่ะครับ) อ่ะ มาดูรายชื่อกันครับ

1.TYLENOL COLD

2.NYQUIL

3.NYQUIL LIQUICAPS

4.ACTIFED

5.SUDAFED

6.ADVIL COLD & SINUS

7.DRISTAN COLD "NO DROWSINESS"

8.DRISTAN SINUS

9.DRIXORAL SINUS

10.VICKS INHALER

11.LOMOTIL 

​สำหรับยาทั้ง 11 ชนิดนั้น ผมได้ไปสืบดูข้อมูลแล้ว พบว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า "...ยาที่ใช้บำบัด บรรเทารักษาอาการเจ็บป่วยใน 2 กลุ่มอาการ คือ กลุ่มยาบรรเทาอาการหวัด ด้แก่ยาที่มีชื่อการค้าตามรายการที่ 1 – 10 เป็นยาที่มีตัวยาสำคัญ ในการใช้แก้ปวด ลดไข้ บรรเทาอาการไอ คัดจมูก แพ้อากาศ ลดน้ำมูก เป็นต้น โดยยาหลายรายการมีสาร ซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) เป็นส่วนผสม ส่วนยาในลำดับที่ 11 ใช้สำหรับบรรเทาอาการท้องเสีย มีสารสำคัญที่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 ทั้งนี้ยาทั้ง 11 รายการ เป็นยาที่ไม่มีทะเบียนตำรับยา ในประเทศไทยแล้ว"

สรุปเป็นภาษาบ้านๆก็คือ ยาทั้ง 11 ชนิดด้านบน "ไม่มีขายในไทยแล้ว" แม้ยาบางตัวในบ้านเราจะเคยขายอย่าง ACTIFED ก็เลิกไปแล้วเพราะมันมีสารซูโดอีเฟดรีน ซึ่งสารประกอบในยานี้เราสามารถ "เอาไปทำสารตั้งต้นยาบ้าได้" มันถึงเลิกจำหน่ายนั่นล่ะครับ ส่วนยาพวก NYQUIL ที่สหรัฐอเมริกาอาจจะมี ใครที่ฝากเพื่อนซื้อหรือบินไปหอบมาก็ระวังอย่าเอาเข้าไปที่ญี่ปุ่นนะครับ ถ้าถูกจับก็ไม่รู้ละนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!

​สำหรับคำถามเรื่องยาประจำตัวของแต่ละคนว่าควรเตรียมตัวอย่างไร ผมก็ขอตอบแบบง่ายๆว่า 

1.ให้นำใบรับรองแพทย์ติดตัวไปด้วย --> ให้ออกเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นจะช่วยได้มาก

2.อย่าแกะยาออกจากแผงบรรจุยาที่มีชื่อยาระบุไว้ --> คือ อย่าแยกใส่ตามกล่องยาหรือตามซองเปล่านั่นแหละครับ

3.กะปริมาณของยาให้เหมาะสมสอดคล้องกับระยะเวลาที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นด้วย  

**กรณีที่เรารู้ว่ายาที่ใช้รักษาโรคของเรานั้นมีส่วนผสมของยาเสพติดให้โทษที่ใช้ทางการแพทย์ต้องมีมาตรการควบคุมเป็นกรณีพิเศษ เช่น ยาแก้ปวดที่มีส่วนประกอบเฟนทานิล (Fentanyl) เพทิดีน (Pethidine) เป็นต้น ต้องทำเรื่องขอและได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อใช้รักษาเฉพาะตัวก่อนออกเดินทาง แต่ยาอะไรก็ตามที่มีสารซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) ไม่สามารถนำเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ครับ

​ภาพปกจาก msn

ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

ภาพประกอบจาก medthai, tokyoreview, businessmirror


ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น

YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/

Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/

Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH

Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/

TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth

ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com