สวัสดีค่ะ วันนี้ฟ้าจังอยากจะมาพูดเรื่องมารยาทในการส่งดอกไม้ของชาวญี่ปุ่นค่ะ การส่งดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆนั้น ในประเทศญี่ปุ่นมีมากมายเหลือเกินค่ะ เช่น ส่งไปงานแต่งงาน งานฉลองวันเกิด งานฉลองเปิดกิจการหรือเปิดบริษัท/ธุรกิจต่างๆหรือแม้แต่ส่งไปเป็นการส่วนตัวก็ตาม ทว่าคุณจะเลือกดอกไม้ชนิดไหนในการส่งไปถึงผู้รับก็เป็นรื่องที่ต้องคิดก่อนค่ะ
หลายๆคนไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเลือกดอกไม้ให้ถูกกับกาลเทศะเลยต้องไปที่ร้านดอกไม้เพื่อให้เจ้าของร้านช่วยเลือกให้ ถ้าทำแบบนี้ ฟ้าจังไม่แนะนำค่ะ เพราะเจ้าของร้านไม่สามารถที่จะเข้าใจความรู้สึกและความผูกพันของผู้รับดอกไม้ได้ดีไปกว่าตัวของคุณเองซึ่งเป็นฝ่ายส่งดอกไม้ไปให้
อีกอย่างถ้าตัวคุณเองไม่เริ่มที่จะเรียนรู้การเลือกดอกไม้แล้วล่ะก็ อาจจะส่งดอกไม้ที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกกาลเทศะได้ค่ะ และไม่ใช่แค่วิธีการเลือกดอกไม้อย่างเดียวนะคะ ช่วงเวลาในการส่งก็สำคัญอีกด้วย ซึ่งคนญี่ปุ่นค่อนข้างจะเข้มงวดในเรื่องนี้มากๆค่ะ
วันนี้เราไปเรียนรู้กับบล็อก “แนะนําข้อควรระวังต่างๆในการส่งดอกให้คนญี่ปุ่น” กันเลยดีกว่าค่ะ
ตอนที่ส่งดอกไม้ไปให้คนญี่ปุ่นก่อนอื่นเลยคุณต้องค้นหาความหมายของดอกไม้ชนิดนั้นๆและต้องเป็นความหมายที่คนญี่ปุ่นเขาเชื่อกันด้วย ขอให้คุณตัดความหมายของคนไทยออกไปนะคะเพราะทั้งสองประเทศคิดไม่เหมือนกัน ถ้าคุณไม่ค้นหาความหมายของดอกไม้นั้นๆก่อนแล้วส่งดอกไม้เพียงแค่คุณชอบ ก็อาจจะกลายเป็นว่าคุณกำลังส่งสิ่งที่ไม่ดีไปให้เขาก็ได้ค่ะ
เช่น ดอก アジサイ「Ajisai」หรือดอกไฮเดรนเยีย คนญี่ปุ่นเขาหมายถึง “การเปลี่ยนใจ” (心変わり-Kokorogawari) ค่ะ ดังนั้นถ้าคุณส่งไปที่งานแต่งงานคงไม่เหมาะแน่ๆ
อีกอย่างไม่ใช่แค่ชนิดของดอกไม้อย่างเดียวที่คุณต้องใส่ใจสีของดอกไม้ก็มีความสำคัญเช่นกันค่ะควรระวังในการเลือกสีให้มากๆค่ะ
เช่น กุหลาบสีเหลือง ในความหมายของคนญี่ปุ่นคือ ความอิจฉา 嫉妬「Shitto」ถ้าคุณส่งกุหลาบสีเหลืองไปในงานอวยพรต่างๆจะทำให้ผู้รับผู้สึกสะพรึงกลัวไปเลยทีเดียว
อย่างที่ฟ้าจังเกริ่นนำไว้ตอนต้นค่ะ ห้ามคนไทยคิดในความหมายของคนไทย แต่ถ้าคุณทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแล้วได้รับมอบหมายให้ส่งดอกไม้ไปอวยพรให้บริษัทต่างชาติ ก็ให้ตัดความหมายของคนญี่ปุ่นออกไปให้คิดตามขนบธรรมเนียมประเพณีตามแบบประเทศของบริษัทที่เราจะส่งไปแทนค่ะ
เช่น ชาวยุโรปจะใช้ดอกลิลลี่สำหรับงานศพดังนั้นถ้าได้รับดอกลิลลี่สีขาวเขาเชื่อกันว่าจะเกิดลางไม่ดีค่ะแต่คนญี่ปุ่นไม่คิดแบบนี้
ส่วนชาวฝรั่งเศสจะใช้สีม่วงอ่อนสำหรับการไว้ทุกข์ค่ะ ดังนั้นถ้าจะส่งของขวัญหรือดอกไม้ก็ควรหลีกเลี่ยงสีม่วงอ่อน
ส่วนของประดับเพื่อความเป็นสิริมงคลที่ทำจากต้นสน 「縁起物~Engimono」ของทางญี่ปุ่น คนจีนเขาบอกว่ามันคือวัสดุไว้ใช้ทำโลงศพค่ะ ดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะส่งไปอวยพรบริษัทของคนจีน
การที่คุณคิดว่าถ้าส่งดอกไม้ไปอวยพรตามสถานที่นั้นๆจะทำให้เป็นการเติมความสดใสให้กับงาน ถ้าคิดตามหลักการทั่วไปก็ไม่ผิดอะไรค่ะ แต่คนญี่ปุ่นบอกว่าสถานที่ที่เดียวที่ไม่ควรส่งไปก็คือ งานจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้า เพราะจากเจตนาดีจะกลายเป็นเจตนาร้ายทันที
เพราะว่าการที่คุณส่งดอกไม้ไปเพื่อแสดงความยินดีตามงานจัดนิทรรศการนั้นจะทำให้เเย่งความโดดเด่นของผลงานต่างๆที่นำมาจัดแสดงค่ะ การทำแบบนี้ถือว่าเสียมารยาทมากๆ อีกอย่างในบางนิทรรศการจะมีการใช้สารเคมีทาไปที่ผลงาน(เช่น ของเก่า) เพื่อป้องกันแมลงและเกสรดอกไม้ ถ้าคุณนำดอกไม้เข้ามาปะปนในงานก็อาจจจะเป็นอันตรายต่อผลงานที่นำมาตั้งแสดงในงานค่ะ
ดังนั้นถ้าจะส่งไปก็ติดต่อเจ้าของจัดงานก่อนเลยจะดีที่สุด เช่น ถามว่าดอกไม้ชนิดไหนที่เด่นน้อยกว่าผลงานของท่าน เป็นต้นค่ะ
คนญี่ปุ่นบอกว่าไม่ใช่แค่ชนิดของดอกไม้เท่านั้นที่คุณควรระวัง แต่ยังมีจำนวนดอกไม้ในช่อด้วยค่ะที่คุณควรนับก่อนส่ง
คนญี่ปุ่นเชื่อว่า จำนวนดอกไม้ 4, 9, 13 ดอกเป็นจำนวนที่ไม่ดี ถือว่าเป็นลางร้าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงจำนวนดังกล่าวค่ะ
ถ้าไม่แน่ใจก็ถามทางร้านดอกไม้เลยค่ะว่าควรใส่ไปในช่อกี่ดอกดี และพยายามถ่ายทอดไอเดียของคุณให้เจ้าของร้านฟังด้วยนะคะ ทางร้านจะได้จัดดอกไม้ได้ถูกใจคุณค่ะ
ขนาดของช่อดอกไม้ก็มีความสำคัญเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะส่งไปตามบ้านหรือตามบริษัทห้างร้านและงานต่างๆ เพราะคุณต้องคำนึงถึงด้วยว่าค่าส่งดอกไม้ที่ทางฝ่ายรับดอกไม้จะนำกลับบ้านนั้นมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าคุณส่งช่อใหญ่ไปแน่นอนถือกลับไปไม่ไหวแน่ๆคงต้องจ้างไปรษณีย์หรือบริษัทส่งของนำไปส่งที่บ้านอีกต่อหนึ่ง แต่ถ้าส่งช่อเล็กเกินไปมันดูเหมือนกับว่า น่าสลด น่าสงสาร ดังนั้นควรใส่ใจกับขนาดช่อดอกไม้ด้วยนะคะ
เช่น ดอกไม้ราคาช่อละ 5,000 เยน แบบนี้ทางฝ่ายรับคงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก แถมดูหรูหราอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นใส่ถุงกระดาษถือกลับบ้านได้อย่างสบายๆ
อีกอย่างถ้าส่งมาทางไปรษณีย์แน่นอนจะต้องถูกส่งมาในกล่องลังขนาดใหญ่ผู้รับก็ต้องจ่ายค่ากำจัดขยะอีกค่ะ ถ้ามันสุดวิสัยจริงๆที่จะต้องส่งไป ณ วันเปิดงานจริงควรแนบซองสำหรับค่ากำจัดขยะไว้ที่ช่อดอกไม้ด้วยนะคะ
การส่งดอกไม้ไปให้ผู้รับที่ลาออกจากงานนั้น คนญี่ปุ่นบอกว่าขอให้ส่งไปตามเวลาสิ้นสุดการทำงานที่ทางบริษัทผู้รับทำงานอยู่ อย่าชักช้าเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้ขายหน้าได้
ตามปกติแล้วคนญี่ปุ่นถ้ายื่นใบลาออกและได้รับอนุมัติให้ลาออกแล้ว วันรุ่งขึ้นเขาจะอยู่ใบบริษัทแค่ช่วงเช้าค่ะและรีบกลับบ้านเลย ดังนั้นถ้าคุณส่งดอกไม้มาให้ช่วงบ่ายก็จะทำให้พลาดการส่งกับผู้รับ แบบนี้ก็อับอายขายหน้าค่ะ ดังนั้นก่อนส่งไปขอให้ตรวจสอบเวลาออกจากบริษัทของผู้รับให้แน่นอนดีกว่านะคะ
คนญี่เขามีมารยาทในการส่งดอกไม้ไปอวยพรวันเกิดด้วยนะคะ เขาบอกว่า การวางตู้ปลา ไอศกรีมและช่อดอกไม้ที่มีน้ำปะปนอยู่ไว้ที่หน้าประตูบ้านถือว่าเสียมารยาทมากๆค่ะ เพราะจากที่จะอวยพรวันเกิดอาจทำให้ความหมายเปลี่ยนไปทันที ใครมาเที่ยวเล่นที่บ้านเห็นแบบนี้งานกร่อยกันพอดี
ลองจินตนาการดูนะคะ สมมติมีอุบัติเหตุรถชนคนตายข้างถนน หลังจากนั้นญาติคนตายและคนที่อยู่อาศัยบริเวณนั้นนำช่อดอกไม้มาวางบนพื้นถนนไว้อาลัยคนตาย อารมณ์เดียวกันเลยค่ะ คนญี่ปุ่นเขาไม่ชอบ วิธีที่ดีที่สุดคือวางไว้ที่ห้องรับแขกค่ะ
สุดท้ายนี้การส่งดอกไม้อวยพรตามธรรมเนียมและมารยาทของคนญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่เป็นแค่การส่งความรู้สึกผ่านช่อดอกไม้ไปให้ผู้รับเท่านั้น ในทางกลับกันถ้าคุณทำให้ผู้รับต้องมานั่งรับผิดชอบดอกไม้ช่อนั้นๆคงจะน่าเสียดายน่าดูนะคะ ขอให้คนไทยทุกคนรักษามารยาทให้การส่งดอกไม้ไปให้คนญี่ปุ่นให้ถูกกาลเทศะด้วยนะคะ เพื่อที่ผู้รับที่เป็นคนญี่ปุ่นจะได้ปลาบปลื้มกับดอกไม้จากใจคุณยังไงล่ะ บายค่ะ
Facebook Fanpage https://www.facebook.com/FahChan.Page
Youtube https://www.youtube.com/c/FahChanChannel
อ่านบล็อกผลงานที่ผ่านมาของฟ้าจังย้อนหลัง http://www.ilovejapan.co.th/authore-1/blogger/fahchan
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th