ฮัลโหลวววว Mienค่ะ ( อ่านว่า มิ-เอ็น อย่าเอารวมกันนะ พลีสสส=.=) แต่ขอแทนตัวเองสั้นๆว่า "มี่" ละกานนน น่ารักฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งดี อิอิ เขียนบล็อกนี้เป็นบล็อกแรกเลยยย ตื่นเต้นมากๆ แบบ..ช้านมาอยู่จุดนี้ได้ยางง๊ายยยยย จากเดิมที่แค่เรียนภาษาเล่นๆอ่านนิตยสาร ดูการ์ตูนอะไร ไร้สาระไปวันๆ คุยกับเพื่อนญี่ปุ่นบ้างไรบ้าง กลายมาเป็นติ่งประเทศญี่ปุ่นแบบงงๆค่าาา ละพอมานั่งนึกก็พบว่า แหมม ชั้นนี่เล่น MVได้เลยนะ หุหุ อารมณ์แบบยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอไรงี้เลยยย มาถึงตอนนี้ก็ทำไรไม่ได้แล้ว รักหมดจายยเจรงๆ ยังไงก็ฝากบล็อกของมี่ไว้ในใจทุกคนด้วยน้าาา มีข้อติชมอาราย ก็เม้นโลดดดดด
หลังจากนอกประเด็นมานานก็กลับมาเม้าท์เรื่องเจ้าหมีอ้วนดำกันดีกว่าเนอะ อิอิ
คุมะมง? คุมาม่อน? เอ๊ะ ยังไง? ทำไม? คือกันไรกันนะ?!
มีใครเคยสงสัยไหมคะว่า เจ้าหมีดำแก้มแดงจอมทะเล้นนั้น เป็นใคร? หรือเกิดมาเพื่ออะไรกันแน่? แล้วทำไมนะ ทำไมต้องเป็นหมีสีดำด้วย? เป็นสีอื่นไม่ได้หรอ? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเจ้าหมีดำ แก้มแดง ตัวนี้ให้กระจ่างด้วยกันค่ะ
โดยจะขออนุญาติเริ่มจากบ้านเกิดของเจ้าคุมะมงหรือคุมาม่อนก่อนเลยนะคะ เจ้าคุมะมงหรือคุมาม่อน (Kumamon) เป็นตุ๊กตามาสคอตที่เป็นไอเดียของรัฐบาลท้องถิ่น จังหวัดคุมาโมะโตะ ประเทศญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ โดยเกิดจากแนวคิดที่ต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้เมืองคุมาโมะโตะกลายเป็นอีกหนึ่งเมืองที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง โดยเจ้าคุมะมงได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับการเปิดเส้นทางเดินรถไฟชิงกันเซ็งสายคิวชูในปีพ.ศ.2554 แล้วจากนั้นไม่นานเจ้าคุมะมงก็เป็นที่รู้จักและรักใคร่ของชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก จนกระทั่งได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดตุ๊กตาสัญลักษณ์ที่เรียกว่า Yuru Kyara Grand Prix 2011นั่นเองค่ะโดยในการประกวดครั้งนี้มีตุ๊กตาต่างๆมาเข้ารวมประกวดทั้งหมด จำนวน 350 ตัว แต่ละตัวล้วนเป็นตุ๊กตาที่รัฐบาลท้องถิ่นที่เมืองต่างๆส่งเข้าประกวด
แต่เสน่ห์ของเจ้าหมีดำแก้มแดงก็ไม่ได้มีแค่นี้นะคะ เพราะนอกจากความน่ารักน่าชังแล้ว เจ้าหมีตัวนี้ยังได้มอบความสุข และความช่วยเหลือต่างๆนานาให้แก่ชาวคุมาโมะโตะเป็นอย่างมากอีกด้วยค่ะ แต่เอ๋ เจ้าหมีที่เป็นแค่มาสคอตนี้จะทำได้ยังไงกันนะ ตามมาดูกันเลยค่ะ
ข้อแรก - คุมะมงเป็นหมีที่ร่าเริงและมีความสุข รวมทั้งยังซุ่มซ่ามแบบสุดๆไปเลยล่ะค่ะ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนรักและหลงเจ้าหมีตัวนี้มากๆเลยนะคะ เนื่องจากไม่ว่าใครก็ตามที่ได้อยู่ใกล้เจ้าหมีตัวนี้ก็จะมีแต่ความสุข และเสียงหัวเราะค่ะ จนอาจกล่าวได้ว่าเจ้าคุมะมงตัวนี้เป็นเหมือนสิ่งที่คอยเติมเต็มรอยยิ้มให้แก่ชาวคุมาโมะโตะก็ว่าได้ค่ะ
คุมะมงไม่ใช่มาสคอตธรรมดาๆที่ทำได้แค่ยืนโบกมือเฉยๆ แต่ยังสามารถทำได้ทุกอย่างตั้งแต่เต้นออกกำลังกายไปจนถึงขี่จักรยานเลยค่ะ เวลาคุยกับเด็กๆ คุมะมงก็จะย่อลงมาให้เท่ากันเพื่อที่เด็กๆจะได้ไม่กลัวและสามารถพูดคุยกันได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ ที่เป็นแบบนี้ได้ก็ต้องขอยกความดีความชอบให้คุณ Manabu Mizuno ผู้กำกับภาพยนต์และนักออกแบบชื่อดังชาวญี่ปุ่น ผู้ที่คิดและสร้างสรรค์เจ้าหมีคุมะมงตัวนี้ให้สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายดาย ทำได้ทุกท่าทางอย่างคล่องแคล่ว และก็คุณคนนี้นี่แหละค่ะที่เป็นผู้ให้สีสันแก่คุมะมง โดยให้เหตุผลในการออกแบบว่า
1.ให้คุมะมงมีลักษณะที่เรียบง่ายรายละเอียดไม่เยอะ ทำให้สามารถจดจำได้ง่าย
2.ให้มี Character ที่โดดเด่น เป็นที่น่าจดจำ (โดยคุมะมงจะเป็นมาสคอตหมีที่ทะลึ่งนิดๆ ติดตลกหน่อยๆ ชอบทำอะไรแปลกๆแบบที่มาสคอตตัวอื่นเขาไม่ทำกัน )
3.ให้มีสีดำเช่นเดียวกันกับปราสาทคุมาโมะโตะเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์แทนเมืองคุมาโมะโตะ
4.ให้มีแก้มสีแดงสดทั้งสองข้าง เพื่อแสดงถึงความสุขและเป็นมิตรของชาวคุมาโมะโตะ
5.ชื่อของคุมะมง มาจากคำว่า Kuma ที่แปลว่า หมี และยังคล้องกับคำว่า Kumamoto ส่วนคำว่า mon นั้น มาจากคำว่า mono ที่แปลว่า ผู้คน ค่ะ โดยชาวคุมาโมะโตะก็คือ Kumamoto-mono นั่นเองค่ะ
ปราสาทคุมาโมะโตะ เป็นปราสาทที่มีพื้นที่มากที่สุดและมีความสวยงามเป็นอย่างมากจนได้รับการขนานนามว่า เป็น 1ใน 3ของปราสาทที่ทรงเกียรติที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
ถึงแม้ว่าจะถูกไฟไหม้อย่างปริศนาไปเมื่อปี ค.ศ.1877 แต่ก็ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยเก็บรายละเอียดให้เหมือนกับปราสาทเดิมมากที่สุด มีทั้งหอสังเกตุการณ์ที่ได้กลายเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองคุมาโมะโตะ ห้องเก็บอาวุธ กำแพงคูเมือง รวมถึงทางเชื่อใต้ดินด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีการปลูกต้นซากุระรอบปราสาทอีกมากกว่า 800 ต้น จนได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ชมดอกซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียวล่ะค่ะ
ปราสาทคุมาโมะโตะแห่งนี้ถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญของเมืองคุมาโมะโตะเลยเชียวนะ ถ้าใครได้แวะไปที่จังหวัดนี้ก็อย่างลืมไปชมความยิ่งใหญ่ที่บรรพบุรุษชาวญี่ปุ่นได้ช่วยกันสร้างและรักษาไว้ให้พวกเรากันนะคะ
ข้อสอง - เจ้าคุมะมงและทีมงานมีความพยายามอย่างเต็มเปี่ยมในการสร้างสรรค์รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้แก่ชาวเมืองคุมาโมะโตะ ไม่ใช่มุ่งหวังเพียงแค่จะสร้างหรือกอบโกยรายได้เข้าเมืองนั้น แต่รัฐบาลท้องถิ่นของจังหวัดคุมาโมะโตะยังแสดงความเป็นห่วงเป็นใยสภาพความเป็นอยู่ รวมถึงความสุขของคนในเมืองก่อนเป็นอันดับแรก โดยใช้เจ้าคุมะมงเป็นเหมือนรถที่คอยแจกจ่ายความสุขให้แก่ชาวเมือง...
คุมะมงได้ไปเซอร์ไพรส์เด็กๆ ด้วยการมาเป็นคนนำออกกำลังกายด้วยค่ะ ทำเอาเด็กๆอึ้งไปเลย!!
เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อวัน 15 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ทั้งเส้นทางคมนาคม บ้านเรือน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ได้มีชาวไทยจำนวนมากที่วาดรูปเจ้าหมีคุมะมงขึ้นมาพร้อมกับเขียนข้อความว่า "Pray for Kumamoto" เพื่อเป็นการนำเงินบริจาคที่ได้ไปช่วยเหลือผู้คนที่ประสบกับเหตุแผ่นดินไหว
ในขณะเดียวกันนี้เจ้าคุมะมงก็ได้หายไปจากโซเชียล ทำให้มีแฟนๆมากมายต่างถามถึงเรื่องนี้ว่า คุมะมงยังโอเคอยู่ไหม เป็นอะไรรึเปล่า พวกเราเป็นห่วงคุมะมงนะ และอีกหลากหลายข้อความที่ล้วนแต่แสดงถึงความรักของผู้คนที่มีต่อคุมะมง ไม่นานนัก รัฐบาลท้องถิ่นก็ออกมาบอกในโซเชียลว่า "คุมะมงไม่ได้ไปไหนและปลอดภัยดี แต่จะต้องของดการอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับคุมะมงไปก่อน เนื่องจากในตอนนี้ความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของชาวเมืองต้องมาก่อน" จากเหตุการณ์นี้จะเห็นได้ชัดเลยว่า แม้จะอยู่ ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเพียงใด คุมะมงก็ยังคงเป็นสิ่งที่สื่อถึงชาวคุมาโมะโตะได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5 พฤษภาคม 2559) เป็นวันเด็กแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นค่ะ และในวันนั้นเอง คุมะมงก็กลับมาแล้วค่ะ!! คุมะมงได้กลับมาจากการลาพักงานชั่วคราว มาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากเด็กๆอีกเช่นเคยค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------
จบไปแล้วนะคะสำหรับ 2 ข้อแรกที่แสดงให้เราเห็นว่า ทำไมผู้คนถึงได้หลงรักเจ้าหมีดำ แก้มแดงตัวนี้มากมายนัก ในวันอาทิตย์หน้าเราจะมาดูเหตุผลข้อสุดท้ายที่เป็นไฮไลท์สำคัญของเจ้าคุมะมงกันนะคะ รับรองว่าทุกคนต้องทึ่งในตัวเจ้าหมีตัวนี้อย่างแน่นอนเลยค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ!!
----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเพื่อนชาวญี่ปุ่น คุณ NobuKana ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^
รูปภาพและข้อมูลจาก, Kapook, kumamon-official, Wikipedia, beta.tiewyeepoon, The Japan times และ Tanoshii Sky education
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th