l ชีวิตในญี่ปุ่น

เช่าอะพาร์ตเมนต์ในญี่ปุ่นอย่างไรไม่ให้เสียความรู้สึก

เช่าอะพาร์ตเมนต์ในญี่ปุ่นอย่างไรไม่ให้เสียความรู้สึก

By , Wednesday, 11 July 2018

จุ๊บุจุ๊บุ-โยดช่า​
じゅぶじゅぶ~よっしゃ


      สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สบายดีกันไหมเอ่ย ตอนนี้การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ของปีก็ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่สอบกันไปแล้วฟ้าจังก็ขอให้สอบผ่านกันทุกคนเลยนะคะ

     สำหรับนักเรียนไทยที่กำลังวางแผนจะเข้ามาศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อสอบเสร็จและทราบผลแล้วก็คงจะมีหลายๆ คนคิดจะสมัครหาที่เรียนต่อในประเทศญี่ปุ่นใช่ไหมล่ะ บางคนอาจจะมาเรียนต่อโดยสมัครผ่านนายหน้าแต่บางคนก็อาจจะมาหาที่เรียนเอง ในกรณีที่จะมาหาที่เรียนเอง ก็ต้องหาที่พักหรือหาเช่าอะพาร์ตเมนต์สินะ ดังนั้นบล็อกในครั้งนี้ ฟ้าจังจึงไปหาข้อมูลและวิธีการหาและเช่าอะพาร์ตเมนต์มาฝากเพื่อนๆ ค่ะ

     อีกอย่างหนึ่ง นอกจากจะเป็นข้อมูลสำหรับนักเรียนไทยในญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังเหมาะสำหรับคนไทยที่กำลังอาศัยในประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่กำลังจะหาห้องเช่าใหม่หรือคิดอยากจะย้ายอะพาร์ตเมนต์ใหม่ด้วยนะคะ เพื่อที่จะไม่ให้หลายๆคนเสียความรู้สึกในการเช่าอะพาร์ตเมนต์ ก็มีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นบางคนก็ยังไม่รู้ ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ



1. จู้จี้จุกจิกกับทำเลมากไป จนมองข้ามสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ อะพาร์ต​เมนต์​

​     โดยปกติเมื่อเพื่อนๆ เริ่มมองหาอะพาร์ตเมนต์ ก็จะพุ่งเป้าไปที่สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดของสถานที่พักนั้นๆ ใช่ไหมคะ หรือพูดง่ายๆ จะจู้จี้จุกจิกกับทำเลที่ตั้งของอะพาร์ตเมนต์เป็นส่วนใหญ่ แต่ผลสุดท้ายถึงแม้ว่าอะพาร์ตเมนต์ที่เพื่อนๆ เลือกไปนั้นมันจะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสักเพียงใด แต่พอเข้าไปอยู่ปุ๊บก็ดันเจอกับปัญหาที่ทำให้เสียความรู้สึกปั๊บ เช่น

     - ห้องเช่าติดกับถนนใหญ่ พอตกกลางคืนก็ต้องมานอนทนเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกขี้เมาค่ะ

     - ย่านนั้นเป็นย่านโรงเรียน มหาวิทยาลัย ตอนกลางคืนก็ยิ่งหนวกหูกับนักเรียนนักศึกษาที่มาพักในอะพาร์ตเมนต์เดียวกับคุณ

     - เพราะอยู่กลางเมือง ค่าเช่าเลยแพง

      เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ถ้าคุณมัวแต่ให้ความสนใจกับความสะดวกสบาย คุณก็จะมองข้ามสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอะพาร์ตเมนต์ หรือแม้แต่พื้นที่ใช้สอยส่วนรวมไปโดยไม่รู้ตัวเลยแหละ เช่น

     - ที่เก็บของภายในห้องเช่าแทบจะไม่มีเลย

     - ห้องเช่าของคุณไม่มีตู้รับจดหมาย ก็เลยไม่สามารถรับจดหมายหรือพัสดุใดๆ ได้เลย

     - คุณมีจักรยาน แต่อะพาร์ตเมนต์ของคุณไม่มีที่จอดจักรยาน

     ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการหาห้องเช่าของญี่ปุ่น 「部屋探しのプロ」แนะว่า การดูห้องเช่า คุณควรลองไปเดินดูตามถนนรอบๆ อะพาร์ตเมนต์ด้วยตัวเอง ลองตรวจดูซิว่าตอนกลางคืนมีสภาพเป็นอย่างไร ถ้าคุณทำได้แบบนี้แล้ว รับรองค่ะ คุณจะได้ห้องเช่าที่ดีสมดังใจที่คิดไว้เลยแหละ จากนั้นก็ลองจินตนาการถึงสไตล์ความเป็นอยู่ในแบบของคุณหลังย้ายเข้าไปอยู่แล้ว (สมมุติเฉยๆ ยังไม่ได้ย้ายไปจริงๆ นะคะ) แล้วจดรายการตึกรามบ้านช่องสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่จำเป็นเอาไว้ ถ้าในรายการนั้นมีสิ่งปลูกสร้างที่คุณไปเป็นประจำ สิ่งปลูกสร้างนั้นก็ควรอยู่ตามทางจากอะพาร์ตเมนต์คุณไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดค่ะ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าสะดวกสบายที่แท้จริง ว้าว สุดยอดไปเลยค่ะ ฟ้าจังก็นึกไม่ถึงว่าจะต้องคิดแบบนี้


คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการหาห้องเช่าของญี่ปุ่น

* ถ้าแถวอะพาร์ตเมนต์ของคุณมี ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านเช่าวิดีโอ ตึกประกอบการค้าต่างๆ โรงพยาบาล ห้องสมุดประชาชน หรือสิ่งปลูกสร้างสาธารณะส่วนรวม คุณจะอยู่ละแวกนั้นได้อย่างสะดวกสบายค่ะ ให้คุณจดรายการสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญๆ ต่อตัวคุณเอาไว้ แล้วออกไปสำรวจดูบริเวณอะพาร์ตเมนต์และสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดค่ะ ว่ามีสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นหรือไม่

* ถ้าคุณเป็นสุภาพสตรี ให้ตรวจดูให้แน่ใจว่าตามถนนจากสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดนั้นมืดหรือไม่ ตรวจสอบบรรยากาศตอนกลางคืนให้แน่ใจเพื่อความปลอดภัย

* ในกรณีที่คุณไม่สามารถไปตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง ให้ถามพนักงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่บริการหาห้องเช่าให้คุณค่ะ「不動産会社」แต่ถ้าจะให้ดีก็นี่เลย ไปตรวจดูในอินเตอร์เน็ตค่ะ ใช้แอพที่มีชื่อว่าสตรีทวิว「ストリートビュー」แค่นี้เพื่อนๆ ก็จะได้เห็นบรรยากาศรอบๆ อะพาร์ตเมนต์แบบสมจริงเหมือนได้ไปดูเองเลยแหละ

suumo.jp


2. ผลของการที่คุณให้ความสำคัญของความเป็นอยู่ที่ง่ายๆ สะดวกสบาย กลับกลายเป็นว่าคุณจะได้ทำเลที่ตั้งของอะพาร์ตเมนต์ที่ไม่ดีกลับมา


​     โดยปกติแล้วผลลัพธ์ของการที่คุณให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ง่ายๆ สะดวกสบาย คุณจะได้ความไม่พอใจและไม่สบอารมณ์ในทำเลที่ตั้งของอะพาร์ตเมนต์กลับมาค่ะ ถ้าคุณไม่ตรวจสอบทำเลที่ตั้งของอะพาร์ตเมนต์ให้ดี สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ

     - อะพาร์ตเมนต์ไกลจากสถานีรถไฟ

     - อะพาร์ตเมนต์ไกลจากที่ทำงาน

     - คุณเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแค่ 3 สถานี ทว่าแต่ละสถานีห่างกันเหลือเกิน

     - ในตอนเช้า รถเมล์ที่มาถึงสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดแทบจะไม่มาเลย (นานๆ จะมาสักคัน) จึงทำให้เหลือเวลาในการเดินทางไปโรงเรียนหรือเดินทางไปทำงานน้อยลง

     เพื่อนๆ เห็นไหมคะว่า เมื่อทำเลที่ตั้งของอะพาร์ตเมนต์ไม่ดี ผู้เช่าจำนวนมากมักจะไม่ค่อยต่อสัญญาเช่า และจะย้ายไปอยู่ที่ใหม่ซะเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าผู้เช่าบางรายจะบอกว่าทนได้ แต่พอเดินทางไปเรียนหรือไปทำงานทุกวันๆ ความเครียดก็เริ่มสะสมค่ะ แล้วสักพักมันก็จะเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจและไม่สบอารมณ์ในที่สุด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการหาห้องเช่าของญี่ปุ่นบอกว่า พนักงานบริษัทหรือนักเรียนคนใดก็ตามที่ไตร่ตรองพิจารณาเรื่องการเดินทางไปโรงเรียนหรือที่ทำงานที่ง่ายและสะดวกในตอนที่กำลังหาห้องเช่าหรืออะพาร์ตเมนต์ พวกเขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่ฉลาดเจ้าค่ะ

     อีกอย่างหนึ่งนอกจากความสะดวกในการเดินทางไปโรงเรียนหรือที่ทำงานที่ง่ายแล้ว ถ้าในเส้นทางการไปเรียนหรือทำงานนั้นมีสถานที่ที่คุณมักจะไปเดินเล่นบ่อยๆ ล่ะก็ ถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกค่ะ สำหรับใครก็ตามที่ทำงานกลับบ้านดึกๆ ขอให้ตรวจดูสภาพถนนหนทางกลับบ้านจากสถานีรถไฟ ณ ตอนรถไฟขบวนสุดท้ายให้ดีๆ นะคะ เพื่อความปลอดภัยเจ้าค่ะ

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการหาห้องเช่าของญี่ปุ่น

* หนึ่งในเหตุผลที่คุณพิจารณาย้ายอะพาร์ตเมนต์ไปที่ใหม่ก็คือทำเลไม่ดี คุณควรคิดถึงความสะดวกและความง่ายในการเดินทางไปโรงเรียนหรือที่ทำงาน

*  หากมีสถานีรถไฟฟ้าที่สามารถเดินทางได้เยอะ เท่ากับว่า มีความเป็นไปได้ที่แต่ละสถานีนั้นจะอยู่ไกลจากอะพาร์ตเมนต์ของคุณ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจด้วยแผนที่ไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุดค่ะ

* สำหรับสภาพเมืองและเวลา ณ ตอนรถไฟขบวนสุดท้าย ควรคำนึงถึงความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังพื้นที่ที่จะไปเดินเล่น ควรเลือกเส้นทางการไปสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด


suumo.jp

3. เมื่อคุณไตร่ตรองพิจารณาในจุดที่พึงพอใจ กลับกลายเป็นว่าหลังจากย้ายเข้าไปอยู่แล้ว คุณเพิ่งจะรู้ตัวถึงความลำบากในการใช้สอยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ


      เอาล่ะต่อมาก็คือ หลังจากที่คุณพึงพอใจในทุกๆ อย่างแล้วทำสัญญาเช่า พอย้ายเข้าไปอยู่ปุ๊บก็เกิดปัญหาความลำบากในการใช้สอยบางอย่าง จนคุณต้องมานั่งเสียใจภายหลัง เช่น

     - คุณถูกใจมากกับห้องนอนที่ทำไว้ที่ชั้นลอยใต้หลังคา ロフト แต่เนื่องจากคุณทำงานมาเหนื่อยๆ ก็นอนไปบนพรม ラグ ซะอย่างนั้นแหละ สรุปว่าคุณแทบจะไม่ได้ใช้ห้องนอนชั้นลอยเลย

     - มีการต่อก๊อกน้ำตกแต่งไว้เป็นอย่างดีในห้องครัว เหมาะสำหรับการทำกับข้าว แต่พื้นที่ของห้องเก็บของแคบมาก

     - ห้องกว้างมากก็จริง แต่ไม่โดนแดดเลยแถมยังมืดอีก

     - ประตูด้านหน้าเป็นแบบล็อกอัตโนมัติปลอดภัยก็จริงอยู่ แต่ห้องของคุณติดกับถนนสายหลักจึงทำให้หนวกหู

     วิธีแก้ป้องกันไม่ให้คุณเสียความรู้สึกแบบนี้ก็คือ

     1. จัดลำดับความสำคัญก่อนหลังในการดูห้องเช่าว่าอะไรต้องให้ความสำคัญก่อน อะไรต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับหลัง

     2. อย่างน้อยที่สุดควรมีการตกลงเงื่อนไขการประนีประนอมกันไว้กับเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ล่วงหน้า หากมีปัญหาเกิดขึ้นภายหลัง

     สิ่งที่คุณมักจะมองข้ามอยู่บ่อยๆ ณ ตอนที่ลองไปดูห้องก่อนทำสัญญาเช่า คือ

     - ห้องเก็บของแคบ

     - ห้องครัวแคบ

     - การเชื่อมต่อและวางท่อน้ำประปาทำให้คุณใช้งานลำบาก

     - เพดานสูงไป พอถึงหน้าหนาวก็จะหนาวกว่าปกติ (ถ้าเป็นเมืองไทยเพดานสูงคงไม่มีปัญหาอะไร)

     - อ่างอาบน้ำใช้ลำบาก ユニットバス เช่น ห้องแคบ แถมมีชักโครกและอ่างล้างหน้ารวมกันและเบียดกันจนแทบจะเดินกลับตัวไม่ได้เลย

     - การป้องกันความปลอดภัยของทางอะพาร์ตเมนต์แทบจะไม่มีเลย

     เพื่อนๆ คะ แต่ละคนก็จะให้ความสนใจแตกต่างกันไป ถ้ายังไงตอนที่ไปดูอะพาร์ตเมนต์ก็จัดเรียงความสำคัญให้เหมาะและเข้ากันกับสไตล์การดำเนินชีวิตของเพื่อนๆ นะคะ อีกอย่างหนึ่ง ระหว่างดูห้องเช่าอย่าลืมตรวจสอบว่าจะต้องวางเฟอร์นิเจอร์อย่างไร หรือวางเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ตรงไหนด้วยค่ะ

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการหาห้องเช่าของญี่ปุ่น

* วิธีประนีประนอมที่ดีที่สุดกับเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ก็คือ ให้คุณจดรายการเรื่องที่อยากจะต่อรองไว้ แล้วเรียงลำดับความสำคัญค่ะ

* ตอนที่ไปดูอะพาร์ตเมนต์ ให้นำสายวัดไปด้วยนะคะ เพื่อที่จะ กะ วัด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะต้องวางเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ตรงไหน


suumo.jp


4. เงื่อนไขทุกอย่างลงตัวหมดและทำสัญญาเช่าอะพาร์ตเมนต์ไปแล้ว แต่คุณต้องมานั่งรับภาระค่าเช่าที่สูงลิบลิ่ว


เงื่อนไขที่ลงตัวก็อย่างเช่น

     - เป็นอะพาร์ตเมนต์ที่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ๆ และใกล้สถานีรถไฟ

     - ห้องกว้างกำลังดี

     - ห้องน้ำที่มีชักโครกในตัว バストイレ เป็นส่วนตัวดี

     - อยู่ใกล้สถานีรถไฟ แถมประตูห้องยังเป็นแบบล็อกอัตโนมัติอีกด้วย

     แหม เมื่อเพื่อนๆ ได้เงื่อนไขที่ลงตัวตามข้างต้นแล้วก็คงไม่แคล้วตกลงทำสัญญาเช่าเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ว่าผลสุดท้ายมีผู้เช่าจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องมานั่งรับภาระค่าเช่าที่มักจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณต้องระวังในเรื่องนี้ให้ดี นั่นก็คือ ค่าเช่าจะสูงขึ้นตามรายได้ และทุกๆ เดือนต้องมานั่งรับภาระอันแสนโหด

     ผู้เชี่ยวชาญด้านการหาห้องเช่าชาวญี่ปุ่นบอกว่า ค่าเช่าอะพาร์ตเมนต์ที่เหมาะสมที่สุดของชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะอยู่ราวๆ 1 ใน 3 ของรายได้ค่ะ ถึงแม้ว่าคุณจะพอใจในสัญญาเช่าที่มีค่าเช่าเกินงบที่ตั้งเอาไว้ สุดท้ายก็ต้องมานั่งแบกภาระอันหนักอี้ง อีกอย่างหนึ่งมีอยู่หลายกรณีที่คุณไปทำสัญญาคนเดียวโดยไม่ปรึกษาใครเลย ทว่าหลังจากโทรไปบอกผู้ปกครองหรือบอกแฟน พวกเขาถึงกับบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ค่าเช่าแพงมาก วิธีที่จะทำให้ไม่เกิดปัญหาเช่นนี้ก็คือ ให้คุณชวนเพื่อนที่เรียนด้วยกันหรือเพื่อนร่วมงาน หรือลองชวนเพื่อนที่มีประสบการณ์เช่าห้องอยู่คนเดียว แล้วพากันเลือกห้องเช่าหรืออะพาร์ตเมนต์ดูนะคะ จะได้มีคนไว้คอยปรึกษาเจ้าค่ะ

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการหาห้องเช่าของญี่ปุ่น

* ค่าเช่าควรควบคุมให้อยู่ที่ 1 ใน 3 ของรายได้

* ถ้าอยู่คนเดียวจะมีโอกาสสูงมากที่คุณจะเลือกห้องเช่าราคาสูง ลองชวนผู้ปกครอง หรือเพื่อนที่เคยเช่าห้องอยู่คนเดียวไปช่วยเลือกอะพาร์ตเมนต์นะคะ คุณก็จะทำสัญญาเช่าได้อย่างราบรื่นค่ะ


suumo.jp

5. ดูแต่ค่าเช่าอย่างเดียว จนลืมดูค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดที่แพงจนน่าตกใจ


      มีหลายต่อหลายเคส ที่ผู้เช่าให้ความสนใจแค่ค่าเช่าเพียงอย่างเดียว แต่กลับลืมดูค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด เช่น เงินค้ำประกัน「敷金」 เงินกินเปล่า「礼金」 เงินประกัน「保険金」 และเงินธรรมเนียมค่านายหน้า「仲間手数料」เพื่อนๆ จำไว้นะคะว่า ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ในช่วงแรกไม่ว่าจะเป็น เช่าอะพาร์ตเมนต์ เช่าบ้าน เช่าร้านค้า คุณจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายพื้นฐานดังต่อไปนี้ด้วยค่ะ

     1. เงินค้ำประกัน「敷金」คิดราคาราวๆ 1-2 เดือนของค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์

     2. เงินกินเปล่า「礼金」คิดราคาราวๆ 1-2 เดือนของค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์

     3. เงินธรรมเนียมค่านายหน้า「仲間手数料」โดยทั่วไปคิดราคาราวๆ 1 เดือนของค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์

     4. ค่าบำรุงรักษา ค่าส่วนกลาง「管理費」จะแตกต่างกันไปแล้วแต่อสังหาริมทรัพย์ที่นั้นๆ ค่ะ

     5. เงินประกัน「保険金」ถ้าเผื่อว่าตอนนั้นมีค่าชดเชยความเสียหายของทรัพย์สินภายในอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ หรือถ้าเผื่อว่าตอนนั้นมีเงินค่าชดเชยความเสียหายที่ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ หรือถ้าเผื่อตอนนั้นมีเงินค่าชดเชยการซ่อมแซม

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการหาห้องเช่าของญี่ปุ่น

* นอกจากค่าเช่าแล้ว คุณอย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดด้วยนะคะ ขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระหว่างที่คุณกำลังหาอะพาร์ตเมนต์นะคะ 


suumo.jp


      สุดท้ายนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการหาห้องเช่าของญี่ปุ่นยังมีคำแนะนำอีกว่า

     ในประเทศญี่ปุ่น ราวเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนมีนาคมเป็นระยะเวลาที่เหมาะแก่การหาห้องเช่าค่ะ ซึ่งก็จะตรงกับฤดูใบไม้ผลิพอดี ถ้าเพื่อนๆ วางเเผนในอนาคตไว้ในฤดูนี้ ก็ขอให้รีบไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์แต่เนิ่นๆ นะคะ เหตุที่ฤดูใบไม้ผลิเหมาะกับการหาห้องเช่าและย้ายห้องก็คือ เป็นฤดูที่ท้องฟ้าจะโปร่งซะส่วนใหญ่ค่ะ ฝนแทบจะไม่ตกเลย ฤดูนี้คนญี่ปุ่นมันจะออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งกันเยอะค่ะ เช่น จัดงานกีฬาสี ปีนเขา ชมดอกซากุระบาน นี่แหละค่ะ จึงเป็นเหตุผลที่ควรจะย้ายห้องหรือหาอะพาร์ตเมนต์ในฤดูนี้

     หวังว่าบล็อกนี้คงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับชาวไทยทุกคนที่อาศัยหรือกำลังจะมาอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นนะเจ้าคะ อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ฟ้าจังด้วยนะคะ บายค่ะ

แปลและเรียบเรียงใหม่โดย ฟ้าจังกะเทยไทยในญี่ปุ่น

Facebook Fanpage https://www.facebook.com/FahChan.Page

Youtube https://www.youtube.com/c/FahChanChannel

อ่านบล็อกผลงานที่ผ่านมาของฟ้าจังย้อนหลัง http://www.ilovejapan.co.th/authore-1/blogger/fahchan