สวัสดีค่า ห่างหายกันไปนานเลย พอดีช่วงนี้ฟางงานเข้านิดหน่อย O.O! กับงานวิจัยของตัวเองนี่แหละ ฮุฮุ เผลอแป๊บๆฟางมาอยู่ที่ญี่ปุ่นครบหนึ่งปีแล้วนะนี่ แต่ญี่ปุ่นก็ยังคงมีวัฒนธรรมแปลกๆที่ทำให้ฟางต้องตกใจได้ทุกที ย้อนไปเมื่อสมัยสาวๆประมาณ 5 ปีก่อนฟางยังจำประสบการณ์ตอนมาที่นี่ครั้งแรกได้ดี ฟางมีโอกาสได้มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 เดือน สิ่งแรกที่ฟางเห็นและทึ่งเลยก็คือ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้คนและบ้านเมืองที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการต่อแถวขึ้นและลงรถบัส ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก โดยสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นเองได้ถูกสั่งสอน และปฏิบัติกันมาเป็นเวลานานแสนนาน ทำให้ทุกวันนี้ผู้คนและบ้านเมืองของเค้าก็ยังคงความเป็นระเบียบ สะอาด สะดวกและสบาย
สำหรับบล็อกนี้ฟางขอแนะนำวัฒนธรรมสุดแปลกในญี่ปุ่นที่มาแล้วจะต้องอึ้งและทึ่ง! อย่างแน่นอน
เคยสังเกตกันไหมคะว่า คนที่นี่เวลาซื้อของกินจากร้านสะดวกซื้อ หรือตามร้านค้าต่างๆ มักจะยืนกินอยู่บริเวณหน้าร้านหรือบริเวณข้างๆให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยเดินไปทำธุระอื่นๆต่อ เพื่อเป็นการป้องกันการทิ้งขยะไม่เป็นที่ และรักษความสะอาดของสถานที่นั้นๆ ด้วย เพราะเราอาจทำเศษอาหาร หรือขยะตกหล่นตกบริเวณนั้นๆได้ ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่ฟางไปเที่ยวที่ปราสาทโอซาก้า ฟางเดินไปซื้อไอศกรีมซอฟครีมมากิน แต่ฟางก็ยืนกินแถวๆร้านจนหมดก่อนเดินเข้าไปชมภายในปราสาทนะคะ เพราะของกินบางอย่างเป็นของเหลว อาจหกหล่น เลอะเทอะได้ ทำให้คนญี่ปุ่นไม่เดินไปกินไปนั่นเองค่า
เนื่องจากอาจเป็นการรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นๆได้ แต่ถ้าเป็นอาหารชิ้นเล็กๆ เช่น ขนม ลูกอม น้ำดื่ม ที่ไม่ส่งกลิ่นและไม่เสี่ยงต่อการหก ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะคะ สาเหตุหลักๆของการห้ามนำของกินขึ้นมากินเลยคือ เรื่องของการรักษาความสะอาดภายในรถไฟ และมารยาทต่อผู้โดยสารคนอื่นๆ
เพื่อเป็นการไม่ไปรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นๆ เราควรปิดเสียงโทรศัพท์ทุกครั้ง (ตั้งแต่ฟางมาอยู่ที่นี่ฟางก็ไม่เคยเปิดเสียงโทรศัทพ์อีกเลย ด้วยคนที่นี่เค้าก็ไม่ค่อยเปิดเสียงกันด้วยละค่ะ) ส่วนใหญ่ผู้โดยสารบนรถไฟจะมาจากหลากหลายที่ ทั้งเพิ่งกลับจากที่ทำงาน เพิ่งเลิกเรียน หรือเพิ่งกลับมาจากการท่องเที่ยวมาเหนื่อยๆ บาทีก็จะอาศัยจังหวะพักผ่อนบนรถไฟและแอบงีบบ้าง (ฟางทำประจำเวลาทำงานมาเหนื่อยๆ) หรือบางคนก็จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านบ้าง ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษามารยาทที่ดีของการโดยสารรถไฟเราควรงดใช้โทรศัพท์นะคะ จะได้ไม่ไปรบกวนคนอื่นๆเนอะ
โดยปกติเวลารอขึ้นรถไฟตรงประตูแต่ละโบกี้ จะต้องยืนรอฝั่งใดฝั่งหนึ่งของประตู บางสถานีจะมีช่องกับกำไว้ชัดเจนเลย แล้วเว้นช่องว่างตรงกลางประตูไว้สำหรับผู้โดยสารขาออก เพื่อป้องกันการกีดขว้างทางเดิน เพราะบางทีอย่างในชั่วโมงเร่งด่วน (ช่วงเวลา 7.30 - 9.00 น.) ในโตเกียวคนจะเยอะ และทุกคนก็จะรีบมากๆ ดังนั้นการต่อแถวจึงเป็นการรักษาความระเบียบเรียบร้อยได้ดีเลยทีเดียวค่า
ตู้เอทีเอ็มที่ญี่ปุ่นจะมีเวลาเปิดให้บริการดังนี้ ยกตัวอย่างเช่นตู้เอทีเอ็มของธนาคาร JP Bank ก็จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7.00 - 23.00 น. วันธรรมดา แต่ถ้าเป็น เสาร์ อาทิตย์ ก็จะเปิดอีกเวลาตามรูปด้านล่างจ้า ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนบ้านเรานะคะ ยกเว้นตู้เอทีเอ็มตามร้านสะดวกซื้อ เช่น Seven Lawson หรือ Familymart แต่ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมตามช่วงเวลาที่เรากด ถ้าเป็นวันธรรมดา เวลา 8.00-17.00 น. จะเสียค่าธรรมเนียม 108 เยน ส่วนนอกเวลาที่ฟางบอกไป รวมไปถึง เสาร์ อาทิตย์ ก็จะเสียค่าธรรมเนียม 216 เยน ต่อการกดหนึ่งครั้ง เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต้องพร้อมทั้งร่างกายและเงินในกระเป๋านะยู
สำหรับการกินซุปของคนญี่ปุ่นเค้าจะไม่ใช้ช้อนนะคะ แต่จะยกถ้วยซดกันเลย แบบซูดดังๆแปลว่า อร่อยเว้ยเฮ้ย! อะไรทำนองนี้ 55 คล้ายๆกับการซูดเส้นราเมง หรืออาหารจำพวกเส้นที่มักจะซูดกันดังยิ่งกว่าคนคุยกันอีก >.<~~ เค้าว่ากันว่ายิ่งซดเสียงดังๆแสดงว่าอร่อย ^^! แต่เอาจริงยกซดให้ความรู้สึกสดชื่นกว่าการใช้ช้อนค่อยๆตักจริงๆนะ
อันนี้ถ้าใครที่เพิ่งเคยมาอาจจะงง อ้าว! ไหนซอสมะเขือเทศ ไหนซอสพริก ไม่เห็นให้มาเลย นอกจากจะไม่มีให้แล้วยังไม่มีให้หยิบง่ายๆเหมือนที่ไทยด้วยนะคะ อย่างบ้านเราจะมีจุดบริการซอส ที่ให้เราบริการตัวเองได้สบายๆเลย อยากได้มากหรือน้อยก็กดได้ตามใจชอบเลย แต่ที่นี่พอเราได้รับสินค้าที่สั่งมาแล้ว เราจะต้องขอเจ้าหน้าที่เองนะคะ และที่สำคัญเลยคือมีแต่ซอสมะเขือเทศเท่านั้น ไม่มีซอสพริกนะเออ....^^
อันนี้เป็นเรื่องจริงที่โดนมากับตัว และไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วยนะ >.<~~ ยิ่งตอนที่ฝนตกถ้าเผลอวางร่มกับกระเป๋าทิ้งไว้รับรองว่า ร่มหาย!!ค่ะคุณณณ อย่างคราวที่แล้วฟางกับเพื่อนๆไปงานดูดอกไม้ไฟกัน แล้ววันนั้นฝนตกดั่งฟ้ารั่ว เราก็ไปจองที่โดยใช้ร่มวางไว้บนเสื่อค่ะ วางจองไว้กับถุงและกระเป๋าผ้า แล้วก็ออกไปหาอะไรกิน พอกลับมาร่มหายจ้าาาาา แต่ถุงกับกระเป๋าผ้าอยู่ครบ 555 หรือจะวางร่มไว้หน้าที่ร้านสะดวกซื้อ หน้าห้องสมุดก็โดนมาแล้ว อันนี้ไม่รู้เพราะอะไรจริงๆ ตอนนี้ฟางเลยตั้งกฏไว้เลยว่า รักร่มยิ่งชีพ 555
พอพูดถึงฝนก็มาว่ากันต่อ ในช่วงฝนตก ตามห้างร้านต่างๆของญี่ปุ่นจะมีเครื่องหน้าตาตามรูป(ด้านล่าง)ตั้งอยู่หน้าร้าน หรือไม่ก็เป็นถุงยาวๆตามรูปนะคะ ไม่ต้องตกใจ เป็นถุงที่เอาไว้ใส่ร่มเพื่อป้องกันน้ำหยดภายในห้าง ข้อดีคือ พื้นห้างจะได้ไม่เลอะเทอะ และไม่ลื่นด้วยค่า อื้ม..คนญี่ปุ่นเค้ามีความคิดสร้างสรรค์มากจริงๆอันนี้ยอม เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะเข้าไปในห้างอย่าลืมเอาร่มเก็บใส่ถุงให้เรียบร้อยนะคะ
ตอบเลยว่าสำคัญมากกกกก เนื่องจากคนญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดมากๆ ถ้าเกิดเมื่อไหร่ที่เริ่มมีอาการเจ็บป่วย ไอกระแอมเล็กๆน้อยๆก็จะต้องสวมหน้ากากอนามัยทันที หรือแม้กระทั่งอาการที่มาจากภูมิแพ้ต่างๆ โดยเฉพาะภูมิแพ้ละอองเกสรต้นสนญี่ปุ่น ที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเองเป็นคนรณรงณ์ปลูกเอง?? และการกระจายของละอองเกสรจะเริ่มฟุ้งกระจายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ ในช่วงนี้เราจะเห็นคนญี่ปุ่นสวมใส่หน้ากากอนามัยกันเกินครึ่งเลยค่ะ หลายๆคนอาจกำลังสงสัยใช่ไหมคะว่าอ้าวแล้วจะปลูกเพื่อ? ฟางเคยได้ยินมาว่าเนื่องจากประเทศญี่ปุ่นขาดเรื่องของทรัพยากรป่าไม้ไปมากหลังจากประสบภัยพิบัติเมื่อหลายปีก่อน ทำให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญ และต้องการฟื้นฟูป่าไม้ให้รวดเร็วที่สุด ดังนั้นก็ต้องเลือกต้นไม้ที่โตไว และยืนต้น ผลสรุปจึงออกมาเป็นต้นสนญี่ปุ่นนั้นแล แต่ใครจะรู้ละว่าต้นสนที่ปลูกในวันนั้นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนญี่ปุ่นเกิดอาการแพ้กันอย่างหนักหน่วงเช่นนี้ หรือแม้กระทั่งต่างชาติที่มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เองก็เถอะนะ ฟางเองก็แพ้ >.<~~ น้ำมูก น้ำตาไหลทั้งวัน ทรมานมากๆ
ดังนั้น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคไปสู่คนอื่นๆได้ ถ้าใครที่ไม่สวมใส่หน้ากากในขณะที่ตัวเองป่วย หรือไม่สบาย แล้วมีอาการไอจาม ก็อาจจะโดนมองได้นะคะ เรื่องนี้ต้องระวังค่าาาา
โดยปกติเรามักจะเห็นคนญี่ปุ่นวางรองเท้าหันหน้าออกทางประตู เนื่องจากเพื่อความสะดวกเวลาสวมใส่ออกไปข้างนอก อย่างเวลาเรารีบๆรองเท้าพร้อมออกเดินแล้วรอแค่เราสวมใส่เท่านั้นเอง ทุกวันนี้ฟางเองก็วางรองเท้าแบบนี้นะคะเพราะสะดวกดี
มาต่อกันที่อีกหนึ่ง Japanese style นั่นก็คือห้องน้ำ เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนที่ไม่เคยใช้มาก่อน ห้องน้ำที่นี่ก็จะมีสองแบบ คือ แบบดั้งเดิม กับแบบทันสมัย
แบบดั้งเดิมก็จะมีหน้าตาแบบรูปด้านล่าง วิธีการใช้ตามรูปเลยค่ะ ^^ มีเพื่อนของฟางคนหนึ่งเพิ่งเคยมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกพอเห็นห้องน้ำแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นเข้าไปถึงขั้นร้อง OMG!! เลย โชคดีที่ฟางเคยผ่านประสบการณ์การใช้มาแล้ว ^^ เลยอธิบายวิธีการใช้ให้เพื่อนฟางฟัง 55 คือเอาจริงๆตอนแรกฟางก็งงว่า ต้องหันหน้าเข้าหรือออกหว้าาา
มาที่แบบ Modern กันต่อ แบบนี้ก็ Advance ขึ้นไปเลย มีปุ่มให้เลือกใช้เยอะมาก และยังมีหลายแบบให้เลือกอีก ไม่ต้องงงนะคะ เราจะมาเรียนรู้ไปพร้อมกัน 555 ตามรูปด้านล่างนะคะห้องน้ำแบบ Modern หรือสมัยใหม่ก็จะมีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ มาพร้อมกับปุ่มกดให้เลือกใช้ ก็อธิบายตามภาพเลยจ้า
สำหรับคนที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่น และอยากออกกำลังกาย ที่นี่มียิมให้เลือกใช้บริการเยอะมากค่ะ บางทีก็เปิดตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการเข้าใช้บริการยิมของที่นี่ ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งของต่างๆมาเป็นอันดับหนึ่งนะคะ โดยที่แต่ละเครื่องออกกำลังกายจะมีผ้าห้อยอยู่ ทุกครั้งที่เราใช้เครื่องออกกำลังต่างๆเสร็จแล้ว เราต้องใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดทุกครั้ง
ไม่ว่าเราจะไปตามสถานี ร้านอาหาร หรือสถานที่สาธารณะต่างๆ จะมีพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่ ยกตัวอย่างเช่น ในมหาลัยฟางก็จะมีพื้นที่ไว้สำหรับสูบบุหรี่โดยเฉพาะเลยค่ะ เป็นจุดตามวิทยาเขต หรือบางร้านอาหารพนักงานก็จะถามเราก่อนเลยว่าต้องการสูบบุหรี่ไหม ถ้าต้องการเค้าก็จะพาเราไปนั่งตรงโซนที่สามารถสูบบุหรี่ได้ ยังไงก่อนจะสูบบุหรี่ลองมองหาพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่ดูก่อนนะคะ โดยเฉพาะตามสถานีและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆมีแน่นอนค่ะ
จริงๆยังมีวัฒนธรรมแปลกๆในญี่ปุ่นอีกเยอะแยะมากมายเลยนะคะ แต่ถ้าจะให้เขียนทั้งหมดนี่คงจะไม่จบในบล็อกเดียวแน่ ดังนั้นฟางเลยเลือกเฉพาะที่สำคัญๆ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ การได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ฟางก็ได้ซึมซับความมีระเบียบวินัยของคนที่นี่ไปมากอยู่พอสมควรเลย ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นนะ อันนี้สำหรับตัวฟางเองนะคะ ทุกๆการกระทำมักจะมีเหตุและผลของมันอยู่ เพราะงั้นเราก็เลือกเฉพาะสิ่งดีๆมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตของเราละกันเนอะ
แล้วเจอกันพฤหัสบดีหน้าค่า ใกล้วันฮาโลวีนแล้ว ที่ญี่ปุ่นมีอะไรพิเศษๆบ้างน้าาาาาา รอติดตามกันจ้ารับรองไม่ผิดหวัง
ติดตามอ่านบล็อกอื่นของฟางได้ที่เพจนี้จ้า >> https://www.facebook.com/WaraSann/
ขอบคุณภาพปกสวยๆจาก >> https://imgur.com/ac2KLPn
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก >> https://www.facebook.com/mrreturninjapan/
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th