เฮลโหลเอฟเวอรี่วัน กลับมาพบกับฟางอีกครั้งนะคะ หลังจากบล็อกที่แล้วฟางได้เขียนเล่าเรื่องของวัฒนธรรมแปลกๆในญี่ปุ่นที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยว ตามอ่านได้ที่นี่จ้า คลิกที่นี่ เพื่อเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ และเราจะได้ปฏิบัติตัวให้ถูกต้องเวลามาเที่ยวที่ญี่ปุ่นค่ะ สำหรับบล็อกนี้ฟางจะพามารู้จักกับวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นที่หลายๆคนเห็นแล้วอาจจะอึ้งเลยก็ได้ 55 เอาเป็นว่าเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ กับวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตในแบบญี่ปุ่นเราต้องรู้อะไรบ้าง?
เมื่อพูดถึงผู้หญิงญี่ปุ่นแล้วหลายๆคนอาจนึกถึงความน่ารัก เรียบร้อย คิคุ แต่เพื่อนๆรู้ไหมคะว่า การเป็นผู้หญิงญี่ปุ่นต้องมีความอดทนมากๆ ทั้งเรื่องความรัก เรื่องงาน และสังคม อย่างเรื่องของความรักนี่ก็นะ! ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายรุกก่อนนะคะ เพราะผู้ชายญี่ปุ่นขี้อายมาก กลัวการโดนปฏิเสธที่สุด ถ้าคนไหนแต่งงานมีครอบครัวมีลูกแล้วก็ต้องลาออกจากงานมาเลี้ยงดูลูก ดูแลสามี ไปจนถึงดูแลครอบครัวสามีเลยก็มี เนื่องจากคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวเดี่ยวค่ะ ดังนั้นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วมีหน้าที่หลักๆเลยคือดูแลลูกและสามี และทำงานบ้านทุกอย่าง ในส่วนสังคมการทำงานของผู้หญิงญี่ปุ่นเองก็ยังไม่ได้ถูกยกย่องมากนักหรือเรียกง่ายๆว่าไม่โตนั่นเองค่ะ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เช่น ตำแหน่งบางตำแหน่งต้องมีกินเลี้ยงสังสรรค์จนค่ำมืดกับลูกค้าบ้าง แน่นอนว่าผู้หญิงไม่เหมาะแน่ๆ และยิ่งถ้าคนไหนมีครอบครัวแล้วก็คงไม่สะดวกกับการออกมาสังสรรค์ข้างนอก เนื่องจากในสังคมญี่ปุ่นเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้มีการปลูกฝังเกี่ยวกับผู้หญิงญี่ปุ่นให้เป็นแม่ศรีบ้านศรีเรือน คอยปรนนิบัติสามีและลูก ในขณะที่ผู้ชายญี่ปุ่นมีหน้าที่ออกไปทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อครอบครัว
อีกลักษณะหนึ่งของผู้หญิงญี่ปุ่นคือการไม่พูดคำว่า "ไม่" !!! คือ จะตอบรับไว้ก่อนเสมอ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม อืมมมม...จริงๆไม่ใช่แค่เฉพาะผู้หญิงนะคะผู้ชายเองก็เป็น บางครั้งแค่จะปฏิเสธก็พูดอ้อมโลกจนงงก็มี
การเลี้ยงน้องหมาน้องแมวในญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาก นอกจากราคาของน้องๆแต่ละตัวที่ค่อนข้างแพงแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆอีก ยกตัวอย่างเช่น โดยปกติชีวิตของคนในโตเกียวส่วนใหญ่จะพักอาศัยอยู่ตามหอพักบ้าง คอนโดมิเนียมบ้าง ซึ่งก็มีข้อจำกัดในเรื่องของการห้ามเลี้ยงสัตว์ แต่สิ่งที่ฟางสังเกตเห็นอีกอย่างนึงคือ การพาน้องหมาออกมาเดินเล่นข้างนอก ซึ่งก็ดูจะไม่แปลกอะไรหนัก แต่ !! คนญี่ปุ่นเวลาที่เค้าพาน้องหมาออกมาเดินเล่น ส่ิงที่เค้าจะต้องพกติดตัวมาด้วยเลยก็คือ ขวดน้ำ กระดาษทิชชู และถุงพลาสติก ฮั่นแน่!!! สงสัยใช่ไหมคะว่าเค้าพกมาทำอะไร เพราะว่าเวลาที่เราพาน้องหมาออกมาเดินเล่น ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการปลดทุกข์ของเจ้าสี่ขาทั้งหนักและเบา ถ้าเกิดน้องหมาปล่อยแบบเบาก็ต้องฉีดน้ำเปล่าตามตัว ถ้าเกิดปล่อยหนักตัวเจ้าของเองก็ต้องเก็บใส่ถุงให้เรียบร้อยค่ะ อันนี้ถือว่าดีมากๆควรแก่การเอาเป็นแบบอย่าง
ถ้าพูดถึงเรื่องของความเป็นระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่นถือว่าสูงมากกกก โดยเฉพาะเรื่องของ "การต่อคิว" จะต่อคิวขึ้นรถไฟ รถบัส ซื้อของ ก็ต้องตามคิวนะคะ ห้ามแซงเด็ดขาด!!!! ฟางเคยเจอตอนไปต่อคิวซื้อขนมแล้วมีคุณป้าคนนึงเดินมาแทรกหน้าคุณลุงที่อยู่หน้าฟาง ไม่รู้ว่าคุณป้าแกไม่เห็นหรือเปล่านะคะ ทันทีที่คุณป้าแทรกฟึ่บ คุณลุงคนนั้นถึงกับสะกิดบอกป้าแล้วชี้ไปตรงแถว ว่ามีคนยืนต่อคิวอยู่เยอะนะป้า พอคุณป้าเห็นแกก็รีบขอโทษแล้วเดินไปต่อคิวท้ายแถวทันที
หลายๆคนอาจสงสัยเฮ้ย! มีข้อปฏิบัติขอการใช้จักรยานด้วยหรอ? มีค่ะ 555 มีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อหลัก ตามนี้เลย:
ข้อห้ามเหล่านี้นะคะถือเป็นกฎหมายของที่ญี่ปุ่นเลย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่างๆที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของเราเองก็ควรปฏิบัติตามกฏของเค้าดีกว่าเนอะ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ >>ที่นี่จ้า<<
สำหรับการทำงานในญี่ปุ่นมักจะมีงานกินเลี้ยงสังสรรค์หรือที่เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "โนมิไค" ซึ่งในการทำงานของคนญี่ปุ่นนั้นยังคงยึดระบบที่เรียกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องหรือ senoirity ดังนั้นถ้าใครที่อายุน้อยที่สุดในบริษัทจะต้องเป็นคนจัดการตั้งแต่เรื่องของการจองร้านอาหาร การสั่งอาหารและเครื่องดื่ม โดยเครื่องดื่มแรกที่ต้องสั่งเลยคือ "เบียร์" เพราะตามธรรมเนียมคนญี่ปุ่นแล้วก่อนจะทานอาหารจะต้องชนแก้วกันก่อน แล้วเบียร์เป็นเครื่องดื่มที่ทำง่ายที่สุดในบรรดาเครื่องดื่มทั้งหมด เพื่อไม่ให้เสียเวลาเบียร์จึงเป็นสิ่งแรกที่ต้องสั่งมาก่อน ในสังคมการทำงานของคนญี่ปุ่นจะเป็นอีกสังคมที่เข้มข้นกว่าการเรียนทั้งในเรื่องของวัฒนธรรมและความกดดันต่างๆ
อย่างที่หลายๆคนเคยได้ยินเกี่ยวกับการระบบการทำงานในประเทศญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับระบบ Seniority มากๆ ถ้าคนไหนที่มีอายุน้อยที่สุดต้องมีความเคารพ นอบน้อม และเชื่อฟังคนที่มีอายุและประสบการณ์ทำงานมากกว่า ยกตัวอย่างเช่นในกรณีขึ้นลิฟต์พร้อมกับรุ่นพี่หรือเจ้านาย เราจะต้องเข้าลิฟต์ก่อนแล้วลงเป็นคนสุดท้าย (ถ้าลงชั้นเดียวกัน) หรือ เวลามีงานเลี้ยงบริษัทคนที่อายุน้อยที่สุดจะต้องทำหน้าที่จองร้านอาหาร และนั่งตรงหัวมุมโต๊ะติดกับที่สั่งอาหารเพื่อคอยสั่งอาหารและเครื่องดื่มให้ทุกคน เป็นต้นค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่คิดจะมาทำงานที่ญี่ปุ่นแล้วละก็ต้องเข้าใจเรื่องของระบบ Seniority ของที่นี่ด้วยจะดีมากนะคะ เพื่อความอยู่รอดของเรา ^^
เนื่องจากฟางมีโอกาสได้ทำงาน part time ให้กับพี่คนไทยคนหนึ่งที่แต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่นี่ งานหลักๆของฟางคืองานทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ตากผ้า ล้างจาน ฯลฯ ก็งานทั่วๆไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฟางอยากจะแชร์เลยคือวิธีการตากผ้าแบบแม่บ้านญี่ปุ่น ตอนแรกฟางก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เฮ้ย! ตากผ้าต้องมีวิธีด้วยหรอ ถ้าอารมณ์แบบบ้านเราก็แค่สะบัดผ้าสองสามทีแล้วก็ตาก แต่สำหรับแม่บ้านญี่ปุ่นแล้วเค้ามีวิธีการตากผ้าค่ะ ซึ่งจะทำให้ผ้าคืนรูปโดยที่เราไม่ต้องสะบัดผ้าก่อน ขั้นตอนแรกคือ เราต้องพับผ้าก่อนค่ะ พับยังไงก็ได้ จากนั้นใช้มือตีผ้าให้พอทั่ว แล้วก็ใส่ไม้แขวนตาก วิธีแบบนี้จะทำให้ผ้าคืนรูปได้ดีกว่าการสะบัดผ้าค่ะ ใช้ได้ผลจริงๆ ลองไปทำตามดูกันนะคะ ^^
ข้อนี้อยากบอกไว้เลยนะคะว่าอย่าทิ้งกระดาษทิชชูลงถังขยะ! ให้ทิ้งลงชักโครกไปเลยค่า ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ท่อตันเลยค่ะ เนื่องจากกระดาษทิชชู่ที่ญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นเส้นใยสั้นๆ เปื่อยและยุ่ยได้ง่ายเมื่อเจอน้ำจ้าาาา แต่!! ห้ามทิ้งกระดาษเปียก กระดาษเช็ดหน้า ลงชักโครกนะคะอันนั้นทำให้ท่อตันแน่นอน เพราะใช้เส้นใยคนละแบบกับกระดาษทิชชู่ในห้องน้ำ
การเมาไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ แต่ถ้าเมาแล้วอ้วกผิดเต็มๆ โดยเฉพาะการอ้วกบนรถไฟ รถบัส หรือแม้กระทั่งบนรถแท็กซี่ในญี่ปุ่น ถูกปรับค่าเสียหายเป็นเงิน "หลายแสนเยน" นะคะ หรืออาจถึงขั้นจำคุกเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะเมาก็อย่าเมามากเกินไป หรือจะพกถุงพลาสติกติดตัวไว้ก็ได้นะคะ ฟางเคยเห็นคนญี่ปุ่นเองเมาขึ้นรถไฟมาเป็นกลุ่มแล้วพอมีเพื่อนจะอ้วกก็ให้อ้วกใส่ถุงเอาก็มีค่ะ
อันนี้คงต้องอาศับเดินเช็กราคาตามร้านค้าเอาละค่ะ 555 และสินค้าบางตัวก็ราคาจะต่างกันออกไปตามแต่ละร้านค้า อย่างขนมญี่ปุ่นราคาถูกๆหน่อยก็ตามร้านขายยา Matsumoto เลยถูกจริง เช่น kitkat นี่ต้องดูกันดีๆเลย บางร้านสามร้อยเยนนิดๆ บางร้านนี่ปาไปห้าร้อยเยน ทั้งๆที่จำนวนชิ้นเท่ากัน! หรือสั่งออนไลน์กลับถูกกว่าซื้อตามร้านค้าซะงั้น ยังไงลองเช็กราคาดูดีๆนะคะ ร้านบางร้านก็จะขายสินค้าบางอย่างถูก บางอย่างก็แพง
เวลาเราไปซื้อของตามร้านสะดวกซื้อต่างๆถ้าเราจ่ายแบงค์หมื่นเยนพนักงานจะนับเงินทอนสองรอบด้วยกันคือ นับครั้งแรกกับตัวเอง และนับครั้งที่สองกับคนซื้อ โดยที่จะโชว์เงินทอนให้เราดูแล้วนับไปพร้อมๆกัน เพื่อปกป้องการทอนเงินผิดนั่นเองค่า แต่ก็มีบางร้านที่จะต้องนับสามรอบ คือ นับกับทางผู้จัดการร้านด้วย
ในญี่ปุ่นมีรถเมล์ที่เรียกว่า Non-step bus สืบเนื่องมาจากประชากรผู้สูงวัยในญี่ปุ่นและผู้ใช้วีลแชร์มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทางรัฐบาลต้องออกกฏหมายรองรับ โดยใช้รถบัส Non-step bus รองรับบริการกลุ่มคนสูงวัยและผู้ใช้วีลแชร์ ซึ่งความพิเศษของรถบัสนี้คือ ตัวรถจะปรับระดับให้มีความสูงเท่ากับฟุตบาท จากนั้นคนขับรถบัสจะนำสะพานข้ามมาวาง และจะคอยช่วยเหลือผู้ใช้วีลแชร์ขึ้นรถค่ะ
อันนี้โดนมากับตัวเอง >< โดยปกติบนทางด่วนในญี่ปุ่นจะมีป้ายบอกจำกัดความเร็วเป็นระยะอยู่แล้ว แต่ถ้ามีฝนตกก็จะจำกัดความเร็วลดลงไปอีกอาจเป็น ห้ามขับเกิน 80 km/hr ถ้าเกิดเราขับเร็วเกินกำหนดตำรวจที่นี่จะมีอุปกรณ์ตรวจจับความเร็วติดอยู่บนรถ เมื่อไหร่ที่ตรวจจับได้ว่ามีรถขับเกินกำหนด (ความเร็วที่จะโดนกล้องถ่ายคือ 120 ขึ้นไป) ก็จะมีตำรวจนอกเครื่องแบบขับรถตรวจจับความเร็ววิ่งขึ้นทางด่วนมาสุ่มตรวจค่ะ โดยอาศัยการวิ่งตามถ้าเรารู้ตัวก่อนก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่!! ถ้ารถตำรวจจับได้เค้าจะเปิดสัญญาณแล้วประกาศเรียกให้เราจอดรถทันที
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขับขี่รถยนต์ในญี่ปุ่นได้จาก >> ที่นี่ค่ะ <<
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับชีวิตในญี่ปุ่นที่ต้องรู้ก่อนมาอยู่ ทุกๆที่ที่เราไปล้วนมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่แล้ว ดังนั้นทุกครั้งที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆยังไงลองศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมบ้านเมืองเค้าก่อนก็ดีนะคะ เราจะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกต้องเนอะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ แล้วพบกันพฤหัสบดีหน้า ฟางมีฮาโลวีนที่ชิบุย่ามาฝากจะเป็นยังไงต้องติดตามค่า
อ่านบล็กอื่นๆของฟางได้ที่นี่ >> https://www.facebook.com/WaraSann/
ขอบคุณรูปปกสวยๆจาก:
https://d3ieicw58ybon5.cloudfront.net/full/u/578ce6403eb443c7aed95a54159c4139.jpg
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th