หลังจากมายย้ายมาอยู่ที่โตเกียวได้ 10 เดือนเราก็ตัดสินใจที่จะย้ายบ้าน เพราะที่อยู่ปัจจุบันแคบมาก (ก.ไก่ล้านตัว) เป็นห้องแบบ 1Room สำหรับอยู่คนเดียว (เพราะตอนแรกอเล็กซ์กะย้ายมาทำงานที่ญี่ปุ่นไม่นานแล้วกลับไทย บวกกับเราคิดว่าจะบินมาอยู่ด้วยแค่ 3 เดือน เอาไปเอามา เปลี่ยนแพลนมาอยู่ยาว) เคยทำคลิปรีวิวไว้
ที่ผ่านมาย้ายบ้านเองมาตลอด แต่ครั้งนี้มีเอริคด้วยเลยตัดสินใจจ้างบริษัทขนย้ายน่าจะดีกว่า เลยติดต่อขอใบเสนอราคาไป 4 บริษัท ส่งอีเมลไปตอน 4 ทุ่มกว่า ส่งเมลไปไม่ถึง 5 นาที มีบริษัทนึงโทรกลับมาแล้ว (ฟิตมาก! ยังทำงานกันอยู่อีกเหรอ 4 ทุ่มละนะ!) ตอนรับสายเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า "ขอโทษที่โทรมาดึก สะดวกคุยมั้ยคะ?" และก็ขอนัดไปที่บ้านเพื่อประเมินราคา ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ถึงแม้จะไม่ใช้บริการก็ตาม เราเลยโอเค
หลังจากนั้นก็มีสายมาจากอีก 3 บริษัทติดต่อมาเช่นเดียวกัน เราก็นัดวันอะไรเรียบร้อยจนกระทั่งวันจริงที่เจ้าหน้าที่จะมาดูบ้าน เดี๋ยวจะมาเปรียบเทียบแต่ละบริษัทให้ฟังกันค่ะ ยาวนิดนึงแต่น่าจะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คน
- 1 วันล่วงหน้าก่อนวันนัด โทรมาคอนเฟิร์มอีกรอบว่าพรุ่งนี้สะดวกมั้ย
- ก่อนมาถึง 15 นาที โทรมาคอนเฟิร์มอีก
- มาตรงเวลามาก ถ้ามาสายก็จะโทรมาแจ้งก่อน ไม่ให้เรารอเก้อ
- พอมาถึงอันดับแรก แนะนำตัวพร้อมยื่นนามบัตรให้เราเลย
- สอบถามข้อมูลว่ามีอะไรที่ต้องการย้ายบ้าง พร้อมจดบันทึกเพื่อทำการประเมินราคา
- ทุกบริษีทมีกล่องและลังแพ็กของแถมมาให้ ฟรี
- ดูเสร็จ ทำราคาให้เดี๋ยวนั้นเลย ไม่มีการบอกว่าจะส่งราคาให้ทีหลัง
บริษัทที่ 1
- เป็นบริษัทใหญ่ มีหลายสาขา
- ตอนมาเยี่ยมบ้าน พนักงานขายใส่สูทดำ แต่งตัวเรียบร้อยมาก
- ตอนเข้ามาในบ้าน พกรองเท้าสลิปเปอร์ของตัวเองมาด้วย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นการรบกวนใส่ของเจ้าของบ้าน ไม่พอ ยังพกเบาะที่นั่ง (座布団) ของตัวเองมาอีก (อันนี้ประทับใจมาก ๆ)
- เอาข้าวสารมาฝาก (แอบงง ๆ แต่ก็โอเค ขอบคุณค่ะ)
- ตอนคิดราคา คำนวนในแลปท็อปที่พกมา จากนั้นเอาปรินต์เตอร์เครื่องเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋า และปรินต์ใบเสนอราคาให้เดี๋ยวนั้นเลย (สุดยอด กระเป๋าโดราเอมอนหรือเปล่า มีทุกอย่าง)
- บริการดี แต่!! ราคาแรงมาก!! 96,000 เยน สู้ไม่ไหว ตอนที่รู้ราคาแอบช็อก เพราะว่าบ้านเราแค่ 20 กว่า ตรม. มีแค่ห้องเดียว แคบมาก ของก็น้อยจักรยานก็ไม่มี ย้ายไปที่ใหม่ก็ใกล้มาก ระยะทางห่างกันแค่ไม่กี่สถานี ลิฟต์ก็มีเอาตรงไหนมาแพง!! อย่างเก่งก็น่าจะไม่เกิน 70,000 เยน คือไปต่อไม่ถูกเลย เลยบอกว่า ขอปรึกษาสามีก่อน
- ตบท้ายถามเราว่าจะให้คำตอบได้เมื่อไหร่ เราก็ตอบเลี่ยง ๆ ว่าภายใน 1 อาทิตย์ คนตัดสินใจคือสามี ไม่ใช่เราเขาก็เร่ง ๆ ว่าคิวเยอะมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะขออนุญาตโทรมาสอบถามใหม่
บริษัทที่ 2
- เป็นบริษัทเล็ก ๆ
- ตอนมาเยี่ยมบ้าน พนักงานไม่ได้ใส่สูท แต่ใส่แค่เสื้อเชิ้ต ชุดทำงานปกติ
- ตอนคิดราคา ใช้เครื่องคิดเลขคิด (ไม่ได้คำนวนจากคอมแบบเจ้าแรก)
- ใบเสนอราคา เขียนมือ ไม่ได้พิมพ์แบบเจ้าแรก
- ราคา 56,000 เยน ถูกกว่าเจ้าแรกมากในใจแอบโล่งใจเล็กน้อย ว่าอย่างน้อยยังมีตัวเลือกที่ถูกกว่า
- ไม่ได้ประทับใจอะไรพิเศษ เฉย ๆ
-พนักงานขายไม่เร่งเท่าไหร่ ก่อนกลับยังบอกอีกว่า เจ้าอื่นอาจจะเร่งให้ตัดสินใจ แต่ทางเราไม่เร่ง ภายใน 1 อาทิตย์ก็ได้ครับ ถ้าราคาไม่ได้ บอกเขาได้
บริษัทที่ 3
- เป็นบริษัทใหญ่ รีวิวดูดี บริษัทญี่ปุ่นใหญ่ ๆใช้เจ้านี้กันเยอะ ในใจแอบคิดว่าแพงแหง ๆ เลย
- ใส่สูท พกเบาะที่นั่งของตัวเองมาแบบเจ้าแรก
- เปิดแคตตาล็อกอธิบายให้ดูเลย ดูดีมาก มีบริการ ออฟชั่นเสริมเยอะมากเช่น บริการแพคของก่อนย้าย และเอาของที่แพ็กมาจัดให้เข้าที่หลังย้าย บริการทำความสะอาด ฯลฯ
- ประทับใจที่เขามีกล่องหลายประเภทสำหรับแพ็กของแถมมาให้
- พูดจาดี บริการดี ดูรู้ว่าเทรนมาดี
- ราคาที่เสนอมาตอนแรก คือ 54,000 เยน (ถูกกว่าที่คิด นึกว่าบริษัทใหญ่ ดูดีแบบนี้ต้องราคาแรงแน่ ๆ)
- ภายใน 1 ปี ถ้าอยากย้ายที่เฟอร์นิเจอร์ใหญ่ ๆ ภายในบ้าน สามารถเรียกใช้บริการฟรีได้ภายใน 1 ปี
- ถามว่าเราตัดสินใจได้เลยมั้ย เราบอกไม่ได้ ต้องรอปรึกษาสามีก่อนด้วย
- พนักงานถามว่ามีงบเท่าไหร่ เราตอบว่า 40,000 เยน เขานั่งหน้าขมวดอยู่แปบนึง หยิบคอมมาคำนวนและหันมาบอกว่าถ้าอย่างนั้น ถ้าคุณสามารถคำตอบได้ภายในวันนี้ ผมจะให้ราคาพิเศษคุณ 44,000 เยนเลย แต่กล่องแพ็กของที่แถมมาจะไม่ใช้กล่องใหม่ แต่เป็นกล่องรีไซเคิลอาจมีรอยนิดหน่อย แต่สภาพดี เราก็โอ เพราะกล่องแพ็กย้ายเสร็จก็ทิ้งแล้ว ไม่ต้องเอาที่ดูดีมากก็ได้ บวกกับต้องเป็นวันธรรมดา
- นอกจากนี้วันที่ย้ายบ้าน ถึงจองแล้วก็เลื่อนวันได้ภายใน 1 ปี โดยยังคงเรตเดิม ไม่เสียเงินเพิ่ม
- ถูกใจสุด คิดว่าน่าจะเอาที่นี่แล้วแหละ แต่ก็รอเจออีกเจ้านึงเผื่อไว้
- ชอบที่เขาบริการดี ไม่ตื๊อมากจนเกินไป
- ก่อนกลับให้โปสการ์ดเป็นแบบสอบถามบริการหลังการขาย ให้กรอกและส่งไปรษณีย์ฟรี หรือจะสแกน QR code ก็ได้
บริษัทที่ 4 (บริษัทสุดท้าย)
- เป็นบริษัทขนาดกลาง มีหลายสาขาเหมือนกัน
- มากัน 2 คน คนนึงเป็นหัวหน้า อีกคนเป็นลูกน้อง ไม่ได้ใส่สูท ใส่ชุดทำงานปกติ
- มาถึงก็เช็กรอบ ๆ บ้าน ถามเราว่ามีราคาในใจมั้ย?
ขณะที่เรากำลังจะเอ่ยปากบอกราคา หัวหน้าชิงพูดก่อนเลยว่า"คงไม่ใช่จะบอกว่า มีงบ 2-3 หมื่นเยนใช่มั้ยคับ 555" (พูดแกมหัวเราะ) ในใจเราคือพูดไม่ออก อยากจะบอกว่า 3 หมื่นกว่าเยน เพราะเจ้าที่แล้วให้ 4 หมื่น แถมถูกใจบริการมากถ้าเจ้านี้ไม่ถูกกว่าจริง ๆ คงไม่เอา แต่พอนางพูดแบบนี้มา เลยไม่กล้าพูดได้แต่บอกไปว่า 4 หมื่นเยน (มันเป็นกลยุทธพูดดัก)
นางก็หยิบเครื่องคิดเลขมาคำนวนราคา และบอกว่า 56,000 เยนเรานี่ คือ หา!ในใจ เจ้านี้บริษัทก็เล็กกว่า พูดจาก็ดูเหมือนจะกด ๆ เรา ราคายังแพงกว่าอีก เราเลยบอกไปว่าเจ้าที่แล้วให้ 44,000 เยน หัวหน้าทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ และถามเราว่าบริษัทไหน เราเลยบอกชื่อไป นางทำหน้าลำบากใจสักพัก บอกว่า "ถูกจัง เขาอาจจะตัดออปชันบางอย่างออกไป ไม่เหมือนของบริษัทเราก็ได้ ขอผมดูใบเสนอราคาหน่อยได้มั้ยครับ" (เหมือนจะไม่เชื่อ คิดว่าเราบลัฟ)
เราก็เลยให้ดู ทีนี้นางเหมือนจะยอมรับว่า ของนางแพงกว่าจริง ๆ นางเลยโทรไปหาเจ้านายนางอีกที เพื่อปรึกษาเรื่องราคาสรุป นางเคาะออกมา 35,000 เยน (ถูกกว่าอีกเจ้าเกือบหมื่นเยน) แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องตัดสินใจเซ็นสัญญากับนางเลย "ตอนนี้" เราสัญญากับอเล็กซ์แล้วว่าจะไม่ตัดสินใจโดยไม่ปรึกษากันก่อน เลยบอกหัวหน้าว่า "ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องรอปรึกษาสามีด้วยถ้าต้องให้คำตอบตอนนี้ งั้นคงไม่เป็นไร"
นางก็พยายามจะกดดันเรามาก ๆ บอกให้เราโทรหาสามีเลย (ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่น เวลาทำงานห้ามรับโทรศัพท์) เราก็บอกไปว่าไม่ได้ เวลาทำงานเขาไม่ให้รับโทรศัพท์ ยิ่งทำงานในธนาคารด้วย Security เขาเข้มงวดนางก็ตื้อ ๆ อยู่นั่นแหละ เราเลยบอกไปว่าขอให้คำตอบภายในคืนนี้ละกัน นางก็ไม่ยอมอีก บอกว่าที่ได้ราคานี้เพราะต้องตัดสินใจตอนนี้ จะได้ไม่มีค่าส่งกล่องแพ็กของ เพราะที่ลดให้ เพราะจะมอบกล่องแพ็กของให้วันนี้เลย (มัดมือชกสุดๆ)
เราเลยย้ำไปอีกว่า เวลางานโทรหาไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องฉุกเฉิน นางก็บอกว่านี่ก็เรื่องฉุกเฉินนะครับ 555 (เรานี่แบบปรี๊ดดด คือเข้าใจนะว่าอยากปิดการขายภายในครั้งแรกมาก ๆ แต่มาทำแบบนี้ไม่ชอบเลย รู้สึกเหมือนโดนบังคับ) นางเห็นว่าทำยังไงเราก็ไม่ยอมโทร นางเลยขอให้เราส่งเมสเสจไปหา (รู้สึกเหมือนโดนสั่ง แต่ก็เผลอทำตามอย่างเสียไม่ได้) เราก็เลยเออ ๆ ส่งก็ได้ ใจคือไม่อยากเอาเจ้านี้แล้ว รู้สึกกดดัน แต่ก็ส่งไปถามอเล็กซ์เพราะราคาถูกกว่า อยากรู้ว่าอเล็กซ์จะคิดยังไง
สรุปอเล็กซ์ยังไม่อ่าน ทั้ง 2 คนก็นั่งรอซักพัก เห็นทีท่าไม่มีวี่แววว่าอเล็กซ์จะตอบ นางเลยใช้ไม้สุดท้าย คือ บอกว่าไม่ต้องเซ็นสัญญาวันนี้ก็ได้ แต่! ขออนุญาตทิ้งกล่องแพ็กของไว้ที่นี่แทน ดู! นอกจากจะมัดมือชกแล้ว ไม่พอ! ยังจะทิ้งตัวประกันไว้ให้อีกถ้าไม่ได้คิดให้ดี รับไว้ เวลาจะปฏิเสธ คงจะยิ่งปฏิเสธยาก หรือหาเรื่องไม่เอากล่องก็ได้ (สมมุติสุดท้ายถ้าเราไม่เซ็นสัญญากะนางก็จะลำบากใจที่ต้องส่งกลับ) แค่คิดแค่นี้ก็อึดอัดละเราฟังแล้วไม่โอกับวิธีการแบบนี้เลย เลยบอกไปว่า "ちょっと..." (ไม่ได้ค่ะแบบสุภาพ) สุดท้ายนางจำใจยอมกลับไปโดยที่ยังให้ราคาเดิม (สุดท้ายก็บลัฟเรา) แต่ขอคำตอบภายในคืนนี้ โดยนางจะโทรมาใหม่
ตอน 2 ทุ่มนางโทรมา แต่อเล็กซ์ยังไม่กลับนางถามเราว่า "เอ๋... ยังไม่กลับอีกเหรอครับ ไหนบอกว่าสามีทำงานธนาคารไม่ใช่เหรอครับ (ทำไมยังไม่กลับอีก) มาถึงจุดนี้ คือ แอบฉุน คือ คิดว่าเราโกหกเหรอ? ทำไมต้องโกหกอเล็กซ์ทำงานธนาคารก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเลิกงานตามเวลาธนาคารปิดนะเหมือนจะจับผิดว่าเราโกหกรึเปล่านี่เราลูกค้านะ ไม่ใช่นักโทษ
สรุป ตอนอเล็กซ์กลับมาเราเล่าให้อเล็กซ์ฟัง อเล็กซ์บอกว่า เอาเจ้าที่ 3 นี่แหละไม่ต้องเอาเจ้าที่ 4 ขนาดยังไม่ย้าย ยังมากดดันเราเยอะขนาดนี้ถ้าตอนย้ายจริง เดี๋ยวเกิดมีปัญหา ปวดหัว ชาร์ตเพิ่มแน่ ๆ เรื่องนี้เลยสอนให้รู้ไว้เลยว่า การบริการก็สำคัญยุคที่มากดดันลูกค้าให้ให้คำตอบเร็ว ๆ ใช้กลยุทธเร่งให้รีบตัดสินใจโดยเอาราคามาล่อให้ปิดการขายไว ๆ แบบนี้ต้องระวังไม่ให้หลงกลมาก ๆ ถ้าใจไม่แข็งพอ คล้อยตามได้ง่ายมากแบบเอาราคาถูกไว้ก่อน ไม่มีเวลาเช็กให้ดี อาจมีอะไรแอบแฝงได้ถูกก็จริง แต่อาจมีอะไรที่เราคิดไม่ถึง เพราะเราไม่มีเวลาได้ไตร่ตรองเงื่อนไขให้ดีสุดท้ายก็อาจเสียใจภายหลังได้เพราะฉะนั้นต้องใจเย็น ๆ อย่าให้ใครมาเร่งให้เรารีบตัดสินใจได้ (ทำไมต้องเร่ง)
เจ้าที่ 4 เขามีวิธีการพูดอ้อม ๆ (ใช้ภาษาสุภาพ) ให้คนคล้อยตาม หรือทำตามแบบเนียน ๆ ซึ่งด้วยลักษณะนิสัยคนญี่ปุ่นที่ขี้เกรงใจ ไม่พูดตรง ๆ ต้องตีความ ก็จะคล้อยตามได้ง่ายเช่น ตอนขอดูใบเสนอราคาอีกเจ้า พูดเนียน ๆ ว่าจะช่วยเทียบดูให้ว่าต่างกันยังไง ราคาถึงถูกกว่าหรือตอนที่พูดว่า "งบคงจะไม่ใช่ 2-3 หมื่นเท่านั้นใช่มั้ยครับ 555" คนฟังก็จะรู้สึกอายที่จะพูดราคานั้นออกไป เป็นต้นแน่นอนว่า
สำหรับคนใจแข็ง อาจใช้ไม่ได้ผลแต่ก็มีหลายคนที่ใจอ่อนตามในมุมลูกค้าถึงลูกค้าจะมึน ๆ ซื้อไปแต่ตอนหลัง ถ้ามารู้สึกเสียใจภายหลัง ก็ไม่อยากกลับมาซื้อหรือใช้บริการอีกการทำธุรกิจแบบนี้ ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละไม่มีครั้งที่ 2 เอาจริง ๆ นะ ถ้าเจ้าที่ 4 พูดจาดี ๆ ไม่กดดันเราเราคงเอาเจ้าเขาละ ใครจะไม่อยากได้ ถูกกว่าตั้งเยอะแต่การที่เขามากดดันแบบนี้ ต่อให้ถูกกว่าเราเลยไม่เอาเลยแพงกว่าหน่อย พอจ่ายไหว เอาที่สบายใจดีกว่า
ป.ล. ตลาดของบริษัทย้ายบ้านที่ญี่ปุ่นการแข่งขันสูงมากเพราะคนญี่ปุ่นย้ายบ้าน ถูกย้ายสาขาเป็นประจำอยู่แล้วเพราะงั้น เรื่องการบริการที่ต้องดี และราคาต้องโอด้วย
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th