3 เรื่องที่แฟนญี่ปุ่นอยากให้คุณพูดตรงๆ
หลังจากที่หลายๆคู่ออกเดทและตกลงเป็นแฟนกับหนุ่มญี่ปุ่นเป็นที่กันเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นมาถึงการศึกษานิสัยใจคอ การปรับตัวเข้าหากัน ตรงนี้จะวัดว่า
คู่ของเราสองคนจะเข้ากันได้ไหม ไปกันรอดหรือเปล่า ถ้าความสัมพันธ์ไม่มีปัญหา
ในการปรับ Life style เข้าหากันได้ ระหว่างที่คบกัน เรียกว่า "ช่วงเวลาปรับตัว"
เพราะต่างคนต่างเกิดคนละประเทศ วัฒนธรรม ภาษา สังคมและการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันเกือบสิ้นเชิง
วันนี้ต้าเลยรวบรวม 3 สิ่งที่หนุ่มญี่ปุ่นอยากรู้เกี่ยวกับหวานใจสาวไทย
เพื่อจะได้ทำให้เข้าใจกันมากขึ้นและความสัมพันธ์ไม่สะดุดนั้นเอง
เข้าเรื่องเข้าประเด็นแบบไม่ต้องอ้อมโลกสไตล์คนญี่ปุ่น (-^.^-)
โดยเฉพาะเรื่องเหล่านี้ที่หนุ่มๆญี่ปุ่นเขาให้อยากเราพูดกับเขาออกมาตรงๆ
1. ตอนกำลังโกรธ
ผู้หญิงเราเป็นกันเกือบทุกคนทั่วโลกเวลาโกรธ หรือไม่พอใจแฟนหนุ่มบางเรื่อง
เรียกง่ายๆว่า "งอน" นั่นแหล่ะ พอผู้ชายเห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปเลยถามว่าเป็นอะไร
คำตอบที่ได้จากแฟนสาว "เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร" แต่สีหน้าและการกระทำช่างแตกต่างกัน
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร" สะบัดหน้าหนี ไม่คุย ไม่สน ทำตัวเงียบ บางคนอาจมีดราม่าร้องไห้เล็กน้อย
แหม…. หนุ่มญี่ปุ่นเขาเองก็ไม่ต่างจากผู้ชายชาติอื่น คือรู้ว่าโกรธและไม่พอใจเขา
แต่นึกหัวแทบแตกก็ไม่รู้ว่าไม่พอใจเรื่องอะไร นึกถึงพี่เดี่ยว ไมโครโฟน
"เขางอนแต่เราไม่รู้ แล้วเวลางอนไม่บอก ชอบเงียบ อ่ะ..ให้เดาไปสิ " นี่มันต้าชัดๆ ฮ่าๆๆๆๆ
การงอนมันจะครบองค์ประกอบเมื่อมีการง้อ ถามว่าเขาง้อไหม บางคนก็อาจจะง้อแต่บางคนก็ปล่อยให้หายเอง
เช่น คู่ของต้า เวลาโกรธไม่พอใจต้าชอบเงียบ ไม่คุย ทำน้ำเสียงแข็งๆ
แต่แฟนญี่ปุ่นต้ารู้ว่าโกรธเขาอยู่ แต่ถามว่าง้อไหม คำตอบคือ "ไม่" เขาให้เหตุผลว่า
"ใครจะไปรู้ว่าไม่พอใจเรื่องอะไร เห็นเงียบๆอาจอยากอยู่คนเดียวก็ได้"
ฮึ๊ยยย!!! โมโหหนักไปอีก TT^^TT สรุปโกรธเอง หายเองซะงั้น แพ้ค่ะ ( >.< ) ( >.< )
ฉะนั้นหนุ่มญี่ปุ่นเขาเลยอยากให้บอก โกรธอะไร ไม่พอใจอะไรให้บอก เขาจะได้ทำตัวถูก
หรือง้อถูก ถ้าแสดงออกด้วยการเงียบใส่ เขาจะเงียบมากกว่าเราอีก คริ คริ (-^.^-)
2. ชอบอะไรหรือของขวัญที่อยากได้
นี่เป็นอีกปัญหาสำหรับผู้ชายญี่ปุ่น พอถึงวันพิเศษที่ต้องให้ของขวัญแฟนสาว
"ไม่รู้จะให้อะไรเป็นของขวัญแฟนถึงจะประทับใจ"
แหม….คุณผู้ชายล่ะก็ เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ ผู้หญิงหาของขวัญให้ง่ายจะตาย
ก็พวกครีม เครื่องสำอาง กระเป๋า น้ำหอมตามเคาน์เตอร์แบรนด์เยอะแยะ
…นั่นสิ มันเยอะซะจนเลือกไม่ถูก ถ้าให้แล้วไม่ถูกใจหรือมีอยู่แล้ว มันก็วนขึ้นไปข้อหนึ่งใหม่....
"งอน ไม่ถูกใจ" แล้วหนุ่มยุ่นก็ไม่เข้าใจว่า "อยู่ๆก็ไม่พอใจเรื่องอะไรไม่รู้" TT^TT
แต่จะให้บอกไปโต้งๆ "ตัวเองใกล้ถึงวันเกิดเขาแล้ว เขาอยากได้น้ำหอมกลิ่นใหม่ของ Channel"
เลือกกลิ่น เลือกแบบไว้เรียบร้อย กลัวไม่รู้ เดี๋ยวเลือกผิด จูงมือพาไปดูที่ Shop อีกต่างหาก
มันก็ดูเยอะไปใช่ไหมล่ะ แลดู want เกินไป มันต้องมีเทคนิคกันเล็กน้อย
เช่น พอใกล้จะถึงวันเกิด เรารู้แน่ๆว่าเขาต้องให้ของขวัญแน่นอน
ก็อาจเปรยเล็กๆว่า "ไปดูรองเท้า Valentino สีชมพู Size 36 มา แต่เสียดายจัง
ทางร้านบอกว่าอีก 2 อาทิตย์ของจะเข้าร้าน" อันนี้แค่เปรยเบาๆนะจ๊ะ อย่าเปรยบ่อยๆ
พอถึงวันเกิดเรา อาจได้รองเท้า Valentino สีชมพู Size 36 มาเป็นของขวัญก็ได้
"ตัวเองรู้ได้ยังไงว่าเขาอยากได้รุ่นนี้พอดี รู้ใจเขาที่สุด" ทำตาใสๆเหมือนไม่เคยบอกมาก่อน คริ คริ
….รู้สึกถึงพลังด้าน Dark เบาๆ ฮ่าๆๆๆ (^0^) หรือถ้าใกล้วันครบรอบ Anniversary
อยากดินเนอร์พร้อมดูวิวพร้อมบรรยากาศโรแมนติก
อาจเกริ่นกับเขาว่า "ครบรอบปีนี้อยากไปฉลองที่ Red Sky จัง "
วันพิเศษแบบนี้เขาจะได้รู้และเตรียมตัวว่าเราอยากไปฉลองวันครบรอบที่นั่น
อยากได้อะไร ไปไหน ทำอะไร ขอแค่ให้บอกเขาเถอะ เขากลับชอบซะอีก
ถ้ามันไม่มากเกินไปในสิ่งที่อยากได้และไม่เหลือบ่ากว่าแรง หนุ่มญี่ปุ่นก็อาจทำให้ได้ตามกำลังทีมี
3. สิ่งที่คุณกังกลและแผนในอนาคต
เวลาที่เราทุกข์ใจหรือมีปัญหากลัดกลุ้มอยู่ข้างใน อย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์คนเดียว
คนรักของเราก็คงรู้สึกไม่ต่างจากเรา อย่าไปคิดแทนเขาว่า กลัวเขาจะไม่สบายตามไปด้วย
ผู้ชายญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นที่ปรึกษาที่ดี ให้คำแนะนำที่ดีได้ อย่างน้อยถึงบางปัญหา
เขาจะช่วยไม่ได้แต่คอยรับฟังปัญหาของเรา ได้ฟังที่เราระบาย ปลอบเราข้างๆ
นั้นก็ทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขเราก็ยังนึกถึงเขาเป็นคนแรก
มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน หรือแม้กระทั่งการวางแผนในอนาคต
ถ้าเรามีแพลน เช่น อยากอยู่ไทย ไม่อยากอยู่ญี่ปุ่น อยากมีลูกกี่คน อยากมีบ้านมีรถ
ก็ว่ากันไปและเราก็ต้องให้เขาได้มีโอกาสแบ่งปันในส่วนของเขาด้วย
เพื่อหาทางออกร่วมกัน อย่าลืมว่านี่เป็นการคบกันของคน 2 เชื้อชาติ
มันมีข้อจำกัดและเงื่อนไขหลายๆอย่าง ผู้ชายญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำ
ส่วนใหญ่เขามักวางแผนชีวิตล่วงหน้า คิดเยอะ คิดไกล บางทีไกลเกินไป
แต่นั่นก็เป็นการแบ่งปันความกังวลและแผนอนาคตของเขา
แฟนญี่ปุ่นต้า ต้าก็ไม่รู้หรอกว่าเขากังวลเรื่องอนาคตมากแค่ไหน จนเขาเล่าให้ฟัง
เพราะกังวลว่าเราจะปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรม สังคมของญี่ปุ่นไม่ได้
มีลูกครึ่งกลัวโดนแกล้งที่โรงเรียน อยากตายที่ญี่ปุ่นบ้านเกิดตัวเอง
แต่เราก็มีบ้านที่ไทย กลัวว่าแก่ไปเราจะอยากกลับประเทศไทย ไม่อยากอยู่ที่นั่น
วันหนึ่งเราแก่มากลัวว่าจะเป็นอัลไซเมอร์ลืมภาษาญี่ปุ่นไปหมด บลา บลาๆๆ
บางทีก็คิดนะว่า อืม….จะเยอะไปไหน แต่นั่นก็คือสิ่งที่เขากังวล
อย่างน้อยเราก็รับรู้แล้วกลับมาทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อนาคตรับรู้ละปล่อยมันไป
เพราะมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา..............................
การใช้ชีวิตคู่ของคน 2 ประเทศไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไป
มันมีรายละเอียดยิบย่อยเยอะ จริงๆยังมีอีกหลายหัวข้อที่หนุ่มญี่ปุ่นเขาอยากให้เราพูดกับเขาตรงๆ
ถ้ามีโอกาสต้าจะกลับมาเขียนหัวข้ออื่นๆไว้แบ่งปันคราวหน้า ท่องไว้ว่า มีอะไร ไม่พอใจ ชอบไม่ชอบ
"ให้หันหน้าคุยกันด้วยเหตุผล" ถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ ถึงคนญี่ปุ่นจะเดาใจเก่ง
แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องเสมอไป กลับกันการที่เราไม่พูดออกไป อาจเป็นการยอมรับว่าเราโอเค
กับเรื่องนั้นไปโดยปริยาย ต้าขอเป็นกำลังใจให้ทุกคู่ค่ะ
สำหรับวันนี้บั๊ย…บายย…ยยยยยยย………..(-^.^-) (=^.^=)
ปล. งอน น้อยใจ ภาษาญี่ปุ่นเขาพูดยังไงน้า.าาา….คำตอบอยู่ท้ายบล็อกแล้วค่ะ ^^
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th