5 วิธีรักษาอาการ 'อกหักจากผู้ชายญี่ปุ่น'

5 วิธี " รักษาอาการอกหักจากผู้ชายญี่ปุ่น "

การเลิกร้างลาจากคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรย่อมเจ็บปวดเสมอ ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง

โดยเฉพาะกับฝ่ายที่ยังรักและมีใจห่วงหาอาทรณ์ ยิ่งเพิ่มความเจ็บเป็นทวีคูณ

แต่จะทำอย่างไรเมื่อไม่รักคือก็ไม่รัก ระหว่างเลิกกันไปหรือทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเรา อันไหนเจ็บกว่ากัน?

มีสาวๆเข้ามาขอปรึกษากันเยอะ ทำอย่างไรถึงจะลืมผู้ชายญี่ปุ่นที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว

แต่เพราะอดีตที่เคยสวยงามนั้น ยังชวนให้คิดถึงและตัดใจจากหนุ่มแดนปลาดิบไม่ได้สักที

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลแทคแคร์ ที่สาวๆต่างยกให้พ่อหนุ่มแดนปลาดิบนั้นว่ายอดเยี่ยมกระเทียมดอง

หรือจะเหตุผลอีกร้อยแปดพันเก้าแสนดี (ในอดีต) แต่วันนี้จะไม่มีสิ่งเหล่านั้นให้ชื่นชมอีกแล้ว

วันนี้ต้าเลยมาบอกเล่าวิธีที่จะช่วยให้ใครที่กำลังอกหักอยู่ตอนนี้ กลับมารักษาใจตัวเองได้เร็วขึ้น

และเข้มแข็งมากขึ้นกว่าเดิม....เราจะ STRONG!! ไปด้วยกัน  (^___^)



คิดถึงเรื่องแย่ๆ

เพราะยิ่งถ้าเรานึกถึงแต่ข้อดีของเขาเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราอาลัยอาวรณ์กับอดีตและความสัมพันธ์ที่จบไปแล้ว

มา!! เรามานึกถึงข้อเสียแย่ๆกัน "ถ้าผู้ชายญี่ปุ่นคนนั้นชอบใช้อารมณ์ เอะ อะ...เหวี่ยง เอะอะ...ตะโกนด่า"

นี่เห็นเราเป็นห้องน้ำหรือที่ระบายอารมณ์หรืออย่างไร? ต้องมาระเบิดปลดปล่อยอารมณ์ใส่กันทุกครั้งไป

ผู้ชายญี่ปุ่นบางคน งานบ้านไม่ทำ พอมาถึงก็โยนเสื้อ โยนกางเกงไปทาง ถุงเท้าไปทาง

กางเกงในม้วนเป็นเลขแปด แหมมม.....!! ต้องคอยตามเก็บตามเช็ดให้

มีแฟนน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง แต่นี่ภาระกลับเพิ่มขึ้น ก็ไม่รู้จะเอามาทำสามีหรือเป็นลูกในอนาคต

คิดแล้วก็เพลีย...เฮ้ออออออ.....ขนาดเป็นแค่แฟนยังขนาดนี้ ถ้าแต่งไปอยู่ด้วยกันจะขนาดไหน

หรือถ้าใครที่เลิกกับผู้ชายญี่ปุ่นเพราะ "มีกิ๊ก มีเล็ก มีน้อย"  อันนี้หาเหตุผลให้ตัดใจได้เร็ว

แค่นี้ยังขนาดนี้ ต่อไปเราแก่ขึ้น ไม่เต่ง ไม่ตึง อะไรก็ไม่สวยงามเหมือนสมัยสาวๆ

ผู้หญิงทุกวันนี้ก็งามสะพรั่ง ไม่งามก็พึ่งมีดหมอ จะเอาให้สวยและ SEXY แค่ไหนก็สั่งได้ดั่งใจ

จับได้ยังแค่นี้ แล้วที่จับไม่ได้จะเยอะแค่ไหน? มั่วมากๆเอาโรคมาติด ซวยไปกันใหญ่

เราแค่เสียผู้ชายที่ไม่ได้รักจริงและซื่อสัตย์ต่อเราแค่นั้นเอง

เขาต่างหากที่ควรเสียใจที่เลือกจะไปจากคนที่รักและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อเขา จริงไหมที่รัก.....



อย่าโทรหาพ่อแม่หรือพี่น้องของอีกฝ่าย

ใครเคยทำข้อนี้บ้างหรือกำลังจะทำ? ยอมรับมาซะดี ๆ อิอิ (- ^.^-)

หลายคนอาจเข้าทางพ่อแม่หรือพี่น้องของแฟนญี่ปุ่นได้ดี 

พอมีปัญหาเลยขอให้ทางผู้ใหญ่ช่วยจัดการปัญหาหัวใจให้

ที่รัก....การทำแบบนี้ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่เข้าไปใหญ่และทำให้ผู้ชายญี่ปุ่นอยากห่างเรามากขึ้น

เพราะยังไงพ่อแม่เขาก็ต้องเข้าข้างลูกเขาอยู่ดี ไม่ว่าลูกเขาจะตัดสินใจอย่างไร

จะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด เวลาที่เรารักกัน เราก็เริ่มจากคน 2 คน ถ้ามันจะจบ ก็ให้จบแค่ 2 คนดีกว่า

อย่าพยายามไปดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเรายังอยากติดต่อและเป็นเพื่อนกับเขาอยู่ อย่าทำนะจ๊ะที่รัก

ผู้ชายญี่ปุ่นเขาไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้อย่างมากเพราะต่างถือว่าโตๆกันแล้ว

จะดึงคนอื่นเข้ามากี่ยวข้องทำไม โดยเฉพาะพ่อแม่หรือครอบครัวของเขา


ไม่โพสต์ประชดใน Social Media

การโพสต์ บ่นพร่ำพรรณนา นอกจากจะไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายญี่ปุ่นได้แล้ว

ยังทำให้รู้สึกรำคาญเสียด้วยซ้ำ คนหมดใจทำยังไงเขาก็ไม่กลับมาอยู่ดี ใช่ซี่....(เสียงสูง) คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด

บางคนอาจแอบส่อง Facebook หรือ Social บ่อยๆ แต่ผู้ชายญี่ปุ่นบางคนไม่ชอบอัพเดทชีวิตตัวเองสักเท่าไหร่

ข้อดีทำให้เราไม่ต้องไปเห็นอะไรทิ่มแทงตา ทิ่มแทงใจตัวเอง

ถึงเราจะบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ฉันเข้มแข็ง ฉันอยู่ได้ เรื่องแค่นี้ไม่กระทบหรอก

แต่เอาเข้าจริงๆอาการอกหักมันก็อาจทำให้เป๋ไปบ้าง เคว้งคว้งหรือเหงาไปบ้าง

เหมือนมีอะไรที่ขาดหายไปสักอย่าง เคยทักทาย โอฮะโย กันทุกเช้าและบอกฝันดี โอะยะสุมิ ก่อนนอนทุกคืน

แต่ต่อไปคงไม่มีช่วงเวลานั้นอีกแล้ว มันก็รู้สึกแปลกๆ ยังไม่ชินใช่ไหมล่ะ

ถ้าการร้องไห้หรือการกรีดร้องระบายความรู้สึกที่มันอัดอั้นออกมาได้ จงร้องมันออกมาเถอะ

มันช่วยได้จริงๆนะ ร้องซะให้พอแล้วบอกกับตัวเองว่า "เราต้องผ่านมันไปให้ได้"



รักตัวเองให้มากขึ้น

อย่ารีบบอกและบังคับตัวเองว่าให้รีบลืมหรือมีคนใหม่ให้ไว "แหมม...แค่ผู้ชายญี่ปุ่นจะหาใหม่สักกี่คนก็ได้"

บางสิ่งบางอย่างต้องใช้เวลา โดยเฉพาะเรื่องของความรักความผูกพัน เพราะถ้าเรารีบมีคนใหม่

ไม่ว่าจะเป็นเพราะอยากลืมคนเก่า เหงา หรือเหตุผลอื่นๆ เพราะอารมณ์พวกนี้มันจะทำให้

เรามองข้ามข้อเสีย มองข้ามความเป็นจริง สุดท้ายก็ลงท้ายอีหรอบเดิม "ผู้ชายญี่ปุ่นก็เหมือนๆกันทุกคน"

แผลเก่ายังไม่ทันตกสะเก็ด เจอแผลใหม่ซ้ำลงไปอีก อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยและล้ากับความรักและเรื่องราวบนโลก

จนอยากหนีไปบวชชีอาจเป็นได้ เพราะฉะนั้นใจเย็นๆค่ะ แต่ทั้งนี้ต้าก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องปิดใจตัวเอง

ไม่ยอมรับคนใหม่ ถ้ามีคนใหม่เข้ามาให้ค่อยๆพิจารณา ศึกษานิสัยใจคอกันไปเรื่อยๆ คบอย่างมีสติ

ให้เวลาพิสูจน์เขาคนนั้นและในเวลาเดียวกัน เวลาจะค่อยๆสมานแผลเก่าให้จางลงเรื่อยๆ



คนเราเกิดมาเพื่อเจอกันชั่วคราว (ใช้ธรรมมะสงบจิต)

จริงๆช่วงเวลาชีวิตคนเรามันสั้น สั้นมากเกินกว่าจะแบกรับความทุกข์ไว้ 

ทำให้นึกถึงความรักที่ผ่านมา เรื่องราวความรักที่ไม่สมหวัง ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

จนคิดว่ามันเหนื่อย เหนื่อยที่ต้องวิ่งไล่ตามความรัก ยึดติดกับความรักที่ไม่จีรัง

ยิ่งคิดยิ่งทุกข์ ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวด กับคนที่เคยบอกว่ารักกันมากมายแต่กลับทรยศหักหลัง

คิดไม่ซื่อสัตย์ ทำให้ต้องเสียอกเสียใจ วนเวียนอยู่แบบนี้ไม่จบไม่สิ้น

ไม่ว่าบทสรุปเรื่องราวความรักของคนสองคนจะลงท้าย Happy Ending

หรือต่างคนต่างไป สุดท้ายคนทุกคนก็ต้องจากกันไปอยู่ดี ไม่ช้าก็เร็วคือเรื่องจริงของชีวิต

เพราะเราทุกคนเกิดมาเพื่ออยู่บนโลกเพียงเพื่อเจอกันชั่วคราว

แล้วก็ต้องจากกันไปตามแต่วาระกรรมที่เคยได้สร้างกันมา

ถ้าเราอยากหลุดพ้นจากบ่วงกรรมความรักที่ทุกข์ทรมานหรือต้องกลับมาเจอกันอีก

ขออโหสิกรรมให้เราหมดเวรต่อกันในชาตินี้ ไม่ขอผูกใจเจ็บ

ไม่ว่าเขาจะเคยทำร้ายเราไว้มากแค่ไหน ขอให้มันจบเพียงเท่านี้

และไม่ว่าอีกกี่ภพกี่ชาติก็ขออย่าได้เจอกันอีกเลย.......

"....อธิษฐานจิตใจ หากเกิดชาติไหน ฐานันดรใดๆทุกสถาน

ดลให้เราได้พบเจอเป็นคู่กัน วอนสวรรค์ได้ไหม...."

ถ้าขอแบบนี้อาจได้กลับมาเจอกันเหมือนโกโบริและอังสุมาลินก็เป็นได้แต่ที่ทางช้างเผือกนะ  (^__^-)


ต้าเองก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้หลายครั้ง มันเป็นช่วงทดสอบจิตใจอย่างมาก

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปได้ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็งขึ้น

และหลังจากผ่านมันไปได้ "ฟ้าหลังฝนนั้นสวยงามเสมอ" มันคือเรื่องจริง (^___^)  (^___^)


ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น

YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/

Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/

Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH

Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/

TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth

ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com