ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสหนุ่มต่างชาติในไทยนี่มาแรงสุดๆ โดยเฉพาะสายญี่ปุ่น และสายเกาหลีอย่างโอปป้า ไหนใครอยู่ทีมไหนยกมือขึ้น! วันนี้เราเลยจะมาแชร์ และเมาท์มอยประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองที่เคยคบทั้งหนุ่มเกาหลี และหนุ่มญี่ปุ่นมาก่อน ซึ่งต้องบอกเลยว่าหนุ่ม 2 ชาตินี้นี่มีอะไรหลายๆ เรื่องที่ทั้งคล้าย และแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง! ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า นี่เป็นเพียงความคิดเห็นจากมุมมองของตัวเองที่เจอมา ไม่ได้หมายความคนทั้งประเทศจะเป็นแบบนี้ทุกคน ป็อปคอร์นพร้อมกันแล้วใช่มั้ยคะ เราไปดูกันเลย!
1. การตอบข้อความ
2. การแสดงความรู้สึก
สำหรับฝั่งเกาหลีนี่จะแอดวานซ์ไปอีกระดับ คือสกินชิพในที่สาธารณะบ่อยมากกก และทุกคนจะมองเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหากใครเคยไปเกาหลีคงนึกภาพออกกันใช่มั้ยคะ โอบไหล่ โอบเอว ยืนกอด จูบกันกลางถนนก็มี เรียกได้ว่าโรแมนติกไม่แคร์สื่อ สำหรับกุลสตรีไทยใจงามอย่างเราไม่ค่อยชินอะไรแบบนี้เท่าไหร่ ขอเทใจให้ฝั่งสกินชิพน่ารักๆ พองามอย่างญี่ปุ่นดีกว่าค่ะ เราเคยเจอวัยรุ่นญี่ปุ่นยืนจูบดูดดื่มกันกลางสถานี ก็มีสายตามองแรงจากคนญี่ปุ่นที่เดินผ่านไปผ่านมาเหมือนกัน
อีกเรื่องที่เห็นได้ชัดของทางฝั่งเกาหลีคือ วัฒนธรรมเสื้อคู่ค่ะ ที่เกาหลีถือเป็นเรื่องธรรมดามากที่คู่รักจะแต่งตัวเหมือนกัน เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นแฟนกัน แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นนี่หายากมากๆ เพราะคนญี่ปุ่นค่อนข้างขี้อาย และมองว่ามันดูเชยที่แต่งตัวเหมือนกัน ดังนั้น ทางฝั่งคู่รักญี่ปุ่นจะนิยมเป็นใส่เสื้อผ้าสีโทนเดียวกันมากกว่าค่ะ เก๋ไปอีกแบบ
3. การดูแลตัวเอง และห่วงภาพลักษณ์
4. การเทคแคร์เอาใจใส่
5. เวลาทะเลาะกัน
คนเกาหลีส่วนใหญ่มักมีอุปนิสัยเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง อีโก้ค่อนข้างสูง และที่สำคัญขี้งอนเก่งมากค่ะ เราตอบข้อความช้า หรือหายไปทำอะไรโดยไม่บอกเค้าก็จะงอนตุ๊บป่อง พาลทะเลาะกันก็มี เวลาทะเลาะกันทีไรก็จะค่อนข้างแรงกันทั้งคู่ เถียงกันไปเถียงกันมา แต่เรียกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์แบบโกรธง่ายหายเร็วค่ะ ถ้าเราเป็นฝ่ายผิด เราก็ควรขอโทษไปตรงๆ รอให้ทั้ง 2 ฝ่ายเย็นก่อนแล้วปรับความเข้าใจด้วยเหตุผล ไม่ควรปล่อยให้เงียบข้ามวันเด็ดขาด
ในทางตรงกันข้าม เรากับแฟนเก่าคนญี่ปุ่นเวลาทะเลาะกันทีไร เราจะใช้ภาษาญี่ปุ่นกากๆ นี่ล่ะค่ะเข้าสู้ ต่อให้ภาษาสู้เจ้าของไม่ได้ก็เถอะ 555 หรือถ้าเหลืออดจริงๆ เราด่าเป็นภาษาไทยนี่ล่ะ แต่สำหรับฝ่ายนี้ ถ้าทะเลาะกันเค้าจะชอบเล่นมุขหรือกวน Teen ใส่ให้เราหายโกรธ เพื่อไม่ให้เถียงกันยืดยาวค่ะ ยกตัวอย่าง เราเคยโกรธแฟนมากๆ เลยไลน์เป็นภาษาไทยตอบกลับไป ปรากฎว่าฮีเอาข้อความเราไปแปลใส่กูเกิ้ล แล้วแคปหน้าจอที่แปลส่งกลับมาพร้อมกับคำว่า "ごめん!" เจอแบบนี้อินี่อึ้งสิคะ จากโกรธๆ อยู่กลายเป็นฮาแตกหายโกรธไปเลย
6. ความตรงต่อเวลา
หนุ่มเกาหลีเป็นชาติที่ตรงต่อเวลาสุดๆ เลทอย่างมากไม่เกิน 10-15 นาที ใครที่อยากคบกับคนเกาหลีต้องเป็นคนรักษาเวลานิดนึงนะคะ เพราะถ้านัดกันแล้วไปสายโดยไม่แจ้งเค้าล่วงหน้า เค้าอาจชิ่งกลับเลยโดยไม่บอกเราก็มี ฉะนั้นสาวๆ คนไหนที่มีแฟนเป็นสายโอปป้าล่ะก็ไม่ต้องกลัวว่าจะแต่งตัวสวยไปรอแฟนเก้อเลยล่ะค่ะ
แต่ในทางกลับกัน! ชาติญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าตรงต่อเวลานี่ขอค้านสุดๆ ค่ะ โดยเฉพาะพวกวัยรุ่นญี่ปุ่นสมัยนี้ไม่ค่อยรักษาเวลาเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่นัดสำคัญเหมือนสัมภาษณ์งานจริงๆ เพราะคนรอบตัวเราไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือแฟนนี่สายตลอดดดด! นัดเวลานี้กว่าจะมาถึงเลทเกือบครึ่งชั่วโมงเป็นประจำ ดังนั้นเราจะแก้เผ็ดด้วยวิธีแบบคนไทยค่ะ คือนัดล่วงหน้าไปก่อนแล้วค่อยไปเลทบ้าง จะได้มาถึงเวลาพร้อมๆ กัน 5555
7. วัฒนธรรมการจีบ
วัฒนธรรมการจีบของ 2 ชาตินี้อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย สำหรับฝั่งเกาหลี อันนี้คงไม่ต้องพูดมากเพราะคาดว่าหลายๆ คนคงรู้กันอยู่แล้ว เป็นชาติที่ชัดเจนมากค่ะ พูดตรงๆ ชอบบอกชอบ จีบบอกจีบ ทำให้เราวางตัวถูก นับถือในความชัดเจนและตรงไปตรงมาของโอปป้าสุดๆ ความสัมพันธ์จึงค่อนข้างพัฒนาได้ไวกว่า
สำหรับสายญี่ปุ่นคือจะเป็นแนวน้ำซึมบ่อทราย ถ้าไม่รุกหรือถามไปตรงๆ ก็จะไม่รู้สถานะของตัวเอง และเราก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะที่เดทกับแฟนคนนี้มาตั้งหลายครั้ง แต่ก็ได้แต่ตั้งคำถามว่า "ระหว่างเราคืออะไร" ซึ่งช่วงจีบๆ กันนั่นล่ะชะนีไทยใจร้อน วัดดวงกับคำถามตรงๆ ต่อหน้าไปเลยว่า "นี่เรากำลังคุยๆ กันอยู่รึเปล่า" (ถ้าตอบไม่ใช่นี่หน้าแตกโพล๊ะบอกเลย 55555) แต่โชคดีที่อีกฝ่ายนิ่งไปซักพักก่อนจะพยักหน้าตอบกลับมา ความสัมพันธ์ถึงได้พัฒนาชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
8. Social Media
อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่าญี่ปุ่นเป็นชาติที่ค่อนข้างหวงเรื่องความเป็นส่วนตัวมากที่สุด จึงไม่แปลกใจเลยค่ะที่เค้าคบกับเรา แต่เค้าไม่ยอมอัพรูปเราในโซเชียล เพราะคนชาตินี้ส่วนใหญ่จะแคร์สายตาคนรอบข้างมาก ไม่อยากโดนหาว่าอวดแฟน และบางคนมองว่าการอัพรูปแฟนลงช่องทางโซเชียลของตัวเอง เช่น Facebook, Instagram ส่วนใหญ่ไม่เท่เลย และวัยรุ่นญี่ปุ่นบางคนที่ไม่เล่น Instagram, Facebook นี่ถือเป็นเรื่องปกติมากค่ะ ดังนั้น การที่เค้าไม่อวดเราในโลกออนไลน์ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะมีผู้หญิงคนอื่นนะคะ ใครที่คบกับหนุ่มญี่ปุ่นแล้วเจอปัญหานี้อยู่ขอให้สบายใจได้เลย
แต่สำหรับชาติเกาหลีที่ติดโซเชียลสุดๆ ไม่ต่างอะไรกับชาวไทย ส่วนใหญ่เค้าจะไม่อายที่จะโชว์แฟนตัวเองลงช่องทางโซเชียลของเค้าค่ะ โดยเฉพาะช่องทาง Instagram กลับกันฝั่งนี้มองว่าการมีรูปแฟนในโซเชียลเป็นเรื่องดีเสียอีก แสดงว่าหนุ่มคนนี้ไม่ได้ขี้เหร่ ขายออกค่ะ 5555 และข้อดีอีกอย่างคือ วัยรุ่นเกาหลีส่วนใหญ่จะถ่ายรูปสวยมากกกถ้าเทียบกับหนุ่มญี่ปุ่น เพราะส่วนใหญ่จะรู้มุม รู้องศา ถ่ายยังไงให้ตัวเองดูสูงขายาว หลอกดาวสุดๆ ใครที่อยากมีรูปสวยๆ พร้อมกับมีฟีลแบบซีรี่ส์เกาหลีก็ลองควงโอปป้ากันดูมั้ยล่ะคะ อิอิ
เป็นอย่างไรบ้างคะจากประสบการณ์ความแตกต่างของหนุ่มเกาหลี และหนุ่มญี่ปุ่นผ่านมุมมองของเรา คาดว่าสาวๆ หลายคนที่อ่านอยู่คงต้องคิดในใจ "เออ เหมือนกันเลย" อยู่ใช่มั้ยล่ะคะ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครก็มีข้อดีและข้อเสียกันทั้งนั้นค่ะ แน่นอนว่านิสัยก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล...แล้วหนุ่มๆ ของคุณล่ะคะ เป็นแนวไหนกันบ้างเอ่ย (^^)
ขอขอบคุณรูปภาพประกอบเพิ่มเติมจาก
- https://weheartit.com/entry/305989439
- https://in.pinterest.com/pin/814236807607893099/
- https://www.wsj.com/articles/maker-of-korean-chat-app-to-ignore-legal-demands-for-users-messages-1413202926
- https://koreanups.blogspot.com/2017/07/korean-couple-look.html
- https://www.cbc.ca/news/canada/british-columbia/sfu-flex-n-feel-gloves-long-distance-relationships-1.3981258
- https://www.elitedaily.com/dating/boyfriend-criticizes-me-breakup/2029587
- https://savvytokyo.com/is-japans-younger-generation-bound-to-change-the-nations-problem-with-adultery/young-japanese-couple-spending-time-together-in-tokyo-2/
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com