สวัสดีค่า ช่วงนี้อากาศบ้านเราเริ่มเข้าสู่หน้าฝนกันแล้วนะคะ แต่ที่ญี่ปุ่นตอนนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนค่ะ ซึ่งฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นจะเริ่มประมาณเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ลักษณะอากาศจะเป็นแบบร้อนชื้นเหมือนบ้านเรา โดยในเดือนมิถุนายนอุณหภูมิในช่วงกลางวันเฉลี่ยประมาณ 26 องศา และสูงสุดที่ประมาณ 32 องศาในเดือนสิงหาคม ส่วนช่วงกลางคืนอากาศจะเย็นลงเล็กน้อยอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาในเดือนมิถุนายน จนถึงประมาณ 24 องศาในเดือนสิงหาคม ซึ่งเดือนมิถุนายนเป็นช่วงที่มีฝนตกชุกที่สุดของญี่ปุ่น จึงถือเป็นฤดูในการทำนา ปลูกข้าวของเกษตรกรญี่ปุ่นอีกด้วย
คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะคิดว่า การเที่ยวญี่ปุ่นในหน้าร้อนไม่น่าเที่ยว เพราะอากาศร้อนเหมือนบ้านเรา แต่อิชั้นอยากจะบอกว่าการเที่ยวญี่ปุ่นในหน้าร้อนนั้นมีข้อดีคือ ค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักจะราคาถูกกว่าช่วงฤดูอื่นๆ! (ยกเว้นช่วงพีคดูลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโดนะ) ดังนั้น ใครอยากลองเที่ยวญี่ปุ่นในราคาสบายกระเป๋า ขอแนะนำให้มาช่วงนี้เลยจ้า แถมยังมีที่เที่ยวและกิจกรรมมากมายที่จัดขึ้นเฉพาะหน้าร้อนเท่านั้นนะ ขอคัดกิจกรรมที่คิดว่าเหมาะสำหรับวัยรุ่นแรก เอ๊ย วัยแรกรุ่นแบบอิชั้นมานำเสนอดังนี้จ้า
ช่วงต้นฤดูร้อนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม เป็นฤดูกาลชมหิ่งห้อยในญี่ปุ่นค่ะ ไม่ใช่แค่เดินชมหิ่งห้อยธรรมดานะคะ เค้าจัดกันเป็นเรื่องเป็นราวถึงขนาดมีเทศกาลและทัวร์พาชมหิ่งห้อยกันเลยทีเดียว! ถือเป็นหนึ่งในฤดูกาลโรแมนติกที่ทำร้ายจิตใจคนโสดมากค่ะ T_T
สถานที่ชมหิ่งห้อยที่มีชื่อเสียงที่อิชั้นคัดมาให้แล้วมีดังนี้ค่ะ
Shinshu Tatsuno Firefly Festival จังหวัดนากาโน่ (Nagano) สวนสาธารณะ Tatsuno Firefly ถือเป็นจุดชมหิ่งห้อยชั้นนำของญี่ปุ่น มีฝูงหิ่งห้อยมากถึง 1 ล้านตัว!! ซึ่งทำให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เพราะการชมหิ่งห้อยที่นี่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ในห้วงอวกาศกันเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเทศกาลหิ่งห้อยที่เรียกว่า Shinshu Tatsuno Firefly Festival ภายในงานจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย รวมทั้งร้านอาหารและการเต้นรำอีกด้วย
ช่วงระยะเวลาชม: ช่วงต้น - ปลายเดือนมิถุนายน
สถานที่: Tatsuno-cho, Kamiina-gun, Nagano Prefecture
การเดินทาง:
- จากโตเกียว/ นาโกย่า ใช้ทางหลวงหมายเลข 153 ประมาณ 10 นาทีโดยรถยนต์ จากทางด่วน Chuo Ikita IC
- จากนีงะตะ/ นากาโน่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 153 ประมาณ 20 นาทีโดยรถยนต์ จากทางด่วน Nagano Shiojiri IC
Hime Fireflies ที่ศาลเจ้า Uchio จังหวัด เฮียวโงะ (Hyogo) ที่นี่คุณจะสามารถชมหิ่งห้อยพันธุ์ "ฮิเมะ" ที่จะเปล่งประกายเรืองแสงราวกับอยู่ในความฝันบริเวณรอบๆ ของเสาโทริอิ ที่ศาลเจ้า Uchio ในเมือง Tamba จังหวัดเฮียวโงะได้ ในช่วงพีค นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการ "Hikami Dream Tour" ระยะเวลาประมาณ 40 นาทีเพื่อชมฝูงหิ่งห้อยพันธุ์ฮิเมะเต้นระบำกัน
ช่วงระยะเวลาชม: ตั้งแต่เดือนมิถุนายน - กรกฎาคม
สถานที่: Uchio Shrine, 13 Mihara, Hikami-cho, Tamba-shi, Hyogo Prefecture
การเดินทาง: ประมาณ 10 นาทีโดยรถยนต์จาก Hikami IC บนทางด่วน Kitakinki-Toyooka
การชมดอกไม้ไฟ ในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า ฮานาบิ (Hanabi 花火) ถือเป็นเทศกาลที่แสดงถึงความเป็นหน้าร้อนของญี่ปุ่นได้อย่างดีที่สุด อ๊ะอ๊ะ อย่าเพิ่งคิดว่าแค่งานแสดงดอกไม้ไฟจะมีอะไร ขอบอกว่างานดอกไม้ไฟที่ญี่ปุ่นนี่ไม่ธรรมดานะจ๊ะ เป็นงานที่ยิ่งใหญ่อลังการดาวล้านดวงมากๆ และเค้าไม่ใช่โชว์แต่ดอกไม้ไฟนะ ยังมีการแสดงดนตรีสดเพื่อเพิ่มสุนทรียะในการชมอีกด้วยนะ นอกจากนี้ก็มีร้านขายอาหารข้างทางและมีเกมส์ต่างๆให้เล่นมากมาย (อารมณ์เหมือนงานวัดบ้านเรา) แนะนำว่าให้คุณสวมชุดยูกาตะมาเดินชมดอกไม้ไฟกับคนรักนะ โอ๊ย รับรองว่าฟินสุดๆอ่ะ นี่ถือเป็นเทศกาลออกเดทของหนุ่มสาวญี่ปุ่นเลยนะ หรือถ้ามากับคนที่คุณแอบชอบ คุณก็ขอเค้าเป็นแฟนกันนะโมเมนต์นั้นได้เลยจ้า ดูดอกไม้ไฟ มองตากันไป รับรองว่าโรแมนติกสุดๆเลยล่ะ (>///<)
ที่ญี่ปุ่นเค้ามีการจัดแสดงดอกไม้ไฟทั่วทั้งประเทศเลยนะ แต่อิชั้นขอคัดมาเฉพาะที่เด็ดๆที่คุณไม่ควรพลาด ดังนี้
Sumida River Fireworks Festival กรุงโตเกียว เป็นงานแสดงดอกไม้ไฟที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น! จัดขึ้นที่ริมแม่น้ำสุมิดะ ย่านอาซากุสะที่มีวัดโคมแดงยอดฮิตของคนไทยนี่แหละ กำหนดจัดงานประมาณเสาร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีการจัดแสดงดอกไม้ไฟมากถึง 20,000 ชุด!! บนท้องฟ้ายามค่ำคืนของมหานครกรุงโตเกียว คุณจะได้เห็นถึงแสงสีตระการตาที่สวยงามบนท้องฟ้าอันมีทิวทัศน์ของแม่น้ำสุมิดะเป็นฉากหลัง ลองจินตนาการดูสิคะว่าจะเริ่ดหรูอลังการขนาดไหน
วันจัดงาน: 29 กรกฎาคม 2560 เวลา 19:05-20:30 น.
สถานที่: แบ่งสถานที่จัดงานออกเป็น 2 แห่ง
1. ตั้งแต่ท้ายสะพาน Sakura ไปจนถึงต้นสะพาน Kototoi
2. ตั้งแต่ท้ายสะพาน Komagata ไปจนถึงต้นสะพาน Umaya
การเดินทาง
สถานที่แรก: นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line จากสถานีโตเกียว ประมาณ 2 นาทีลงที่สถานี Kanda แล้วเปลี่ยนสายนั่ง Tokyo Metro Ginza Line ประมาณ 10 นาทีลงที่สถานี Asakusa แล้วเดินต่ออีก 15 นาที
สถานที่สอง: นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line จากสถานีโตเกียว ประมาณ 4 นาทีลงที่สถานี Shimbashi แล้วเปลี่ยนสายนั่ง Toei Asakusa Line ประมาณ 12 นาทีลงที่สถานี Asakusa แล้วเดินต่ออีก 15 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://sumidagawa-hanabi.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ในฤดูร้อน จะมีการจัดงานแสดงดนตรีกลางแจ้งทั่วทั้งญี่ปุ่น ให้คุณผู้มีดนตรีในหัวใจได้เลือกชมอย่างสนุกสนาน ซึ่งงานแสดงดนตรีฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่นก็คือ Fuji Rock Festival จัดที่ Naeba Ski Resort, Yuzawa จังหวัด นีงะตะ (Niigata) โดยจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ถือเป็นงานดนตรีในตำนานที่รวบรวมศิลปินนานาชาติจากทั่วโลกและแฟนเพลงกว่า 100,000 คน! ถ้าคุณชื่นชอบในดนตรีสุดๆ คุณสามารถซื้อบัตรนอนตั้งแคมป์บริเวณงาน 3 วันได้ด้วยนะเออ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมการก่อกองไฟยามค่ำคืน ย่างบาร์บีคิวทาน ตกปลา รำวงบงโอโดริ สวนสนุกขนาดย่อม ตบท้ายทุกคืนด้วยดอกไม้ไฟแสนงดงามตระการตาอีกด้วย
อ้อ! ถึงชื่อจะเป็น Rock แต่ก็มีการแสดงดนตรีหลากหลายรูปแบบนะจ๊ะ ทั้ง EDM (Electronic Dance Music), เจป็อบ, อะคูสติก, เรกเก้ เพราะฉะนั้นคนรักในเสียงเพลงห้ามพลาดงานนี้
วันจัดงาน: 28-30 กรกฎาคม 2560
สถานที่: Naeba Ski Resort, Yuzawa-cho, Niigata Prefecture
การเดินทาง:
- โดยรถยนต์ 33 กม. จากทางด่วน Kan-Etsu ใช้ทางออก Tsukiyono Exit ผ่านเส้นทาง Route 17
- โดยรถไฟ ลงที่สถานี JR East Echigo-Yuzawa Station แล้วต่อ Shuttle Bus (ค่าบริการไป-กลับ 500 เยน) ถึงหน้างานเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม
ไปเที่ยวชายหาดญี่ปุ่นกันเถอะ เนื่องจากญี่ปุ่นมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ จึงมีชายหาดเป็นจำนวนมาก คุณสาวๆ อย่าลืมเอาชุดว่ายน้ำทูพีชตัวโปรดใส่ไปอวดหนุ่มๆ ญี่ปุ่นกันค่ะ ให้มันรู้ซะมั่งว่าสาวไทยหุ่นดีไม่แพ้ชาติใดในโลก และเพิ่มความสนุกด้วยการเล่นเกมปิดตาตีแตงโม ซึ่งเป็นเกมยอดฮิตในฤดูร้อนของญี่ปุ่นเลยนะ ถ้าคุณดูซีรีย์ญี่ปุ่นบ่อยๆ รับรองว่าต้องมีฉากปิดตาตีแตงโมในหน้าร้อนให้เห็นแน่ๆ ลองจินตนาการตัวเองเป็นนางเอกในซีรีย์ญี่ปุ่นดูค่ะ ไม่แน่นะ คุณอาจได้พบรักกับหนุ่มญี่ปุ่นที่ชายหาดก็เป็นได้ ^_^ (เพ้อ)
ชายหาดที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น อาทิเช่น
Okinawa Main Island เกาะหลักโอกินาว่า มีชื่อเสียงมากในด้านหาดทรายสีขาว น้ำสีเทอร์ควอยซ์ และอากาศที่อบอุ่นเกือบตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวคือ ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ชายหาดนี้เหมาะกับการว่ายน้ำและอาบแดดที่สุด สาวๆ และหนุ่มๆ อย่าลืมฟิตหุ่นมาโชว์กันนะจ๊ะ
การเดินทาง: จากกรุงเทพ นั่งเครื่องบินมาลงที่เกาะโอกินาว่าใช้เวลาประมาณ 4.30 ชม. การเดินทางไปยังชายหาดต่างๆ แนะนำให้เช่ารถขับ เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด
เทศกาลทานาบาตะ (七夕) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เทศกาลแห่งดวงดาว จากเรื่องเล่าในนิทานซึ่งมีตำนานมาจากเมืองจีนว่า ครั้งหนึ่งมีเจ้าหญิงทอผ้าชื่อ โอริฮิเมะ (Orihime) หรือดาวเวก้า (Vega) ซึ่งเป็นดาวที่สดใสที่สุดในกลุ่มดาวพิณพบรักกับเจ้าชายคนเลี้ยงวัวชื่อ ฮิโกะโบชิ (Hikoboshi) หรือดาวอัลแตร์ (Altair) ซึ่งเป็นดาวที่สดใสที่สุดในกลุ่มดาวนกอินทรี ทั้งคู่อาศัยอยู่บนสวรรค์ หลังจากที่ทั้งสองพบรักกันก็มัวแต่หลงระเริงจนไม่ทำหน้าที่ของตนเองคือทอผ้าและเลี้ยงวัว เรื่องราวความลุ่มหลงในความรักจนลืมหน้าที่ของตนเองได้ไปถึงหูของกษัตริย์แห่งสวรรค์ผู้เป็นบิดาของเจ้าหญิงโอริฮิเมะซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนวันหนึ่งทำให้ผู้ป็นบิดาทรงกริ้วมากเลยจับทั้งคู่แยกกันโดยมีทางช้างเผือกกั้นไว้ และอนุญาตให้พวกเขาเจอกันปีละครั้งคือ วันที่เจ็ดเดือนเจ็ด
หมายเหตุ: การจัดงานเทศกาลทานาบาตะบางภูมิภาคมีการจัดงานเดือนสิงหาคมเนื่องจากยึดตามปฏิทินจันทรคติของจีน
กิจกรรมที่คนญี่ปุ่นนิยมทำกันในเทศกาลนี้คือ การเขียนคำอธิษฐานไว้บนกระดาษรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆที่มีสีสันสดใส เรียกว่า ทังซะขุ (Tanzaku) และนำไปแขวนไว้บนกิ่งไผ่ที่ประดับด้วยสิ่งประดับที่ทำจากกระดาษ โดยเชื่อว่าจะทำให้คำอธิษฐานนั้นเป็นจริง
ขอนำเสนอการจัดงานเทศกาลทานาบาตะที่จัดว่าเด็ดมาดังนี้ค่ะ
Sendai Tanabata Festival, Miyagi จัดขึ้นที่เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ ในเดือนสิงหาคมของทุกปี ถือเป็นงานทานาบาตะที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ Top 3 ของภูมิภาคโทโฮคุและญี่ปุ่น! ในช่วงเทศกาล เมืองทั้งเมืองเริ่มจากย่านใจกลางเมืองของเซนไดและแหล่งช็อปปิ้งโดยรอบจะถูกตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามด้วยกระดาษหลากสีสัน โดยไฮไลท์ของงานอยู่ที่การประดับไม้ไผ่ทานาบาตะที่ความสูงกว่า 10 เมตร! นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีสด, การเต้น และการแสดงต่างๆ บนเวที ตอนกลางคืนจะมีการประดับประดาไฟอย่างสวยงามที่ตัวทานาบาตะด้วย
วันจัดงาน: 6-8 สิงหาคม 2560
สถานที่จัดงาน: Ichibancho Shopping Arcade, Chuo Shopping Arcade, Shimin Hiroba Square and Kotodai Park at Sendai
การเดินทาง: จากสถานี Tokyo นั่ง JR Tohoku Shinkansen ถึง JR Sendai Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 40 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.sendaitanabata.com/en
ถ้าคุณชอบความท้าทาย รักการผจญภัย คุณจะต้องไม่พลาดการปีนภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น! (สูงถึง 3,776 เมตร) ช่วงเวลาที่สามารถเปิดให้ปีนเขาได้จะเริ่มประมาณต้นเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนกันยายน ซึ่งในปีนี้จะตรงกับวันที่ 10 กรกฎาคม - 10 กันยายน 2560 เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการปีนเขา เพราะบนภูเขาจะไม่มีหิมะตก อากาศดี เดินทางง่ายด้วยรถสาธารณะ และยังมีกระท่อมกลางภูเขาเปิดดำเนินการด้วย ในทุกๆปี จะมีนักปีนเขาจากทั่วโลกเดินทางมาปีนเขาที่ภูเขาไฟฟูจิแห่งนี้ เพื่อเก็บเป็นประสบการณ์ความทรงจำที่ดีครั้งหนึ่งของชีวิตกันเลยค่ะ
ช่วงเวลาที่พีคที่สุดในการปีนเขาคือ ช่วงปิดภาคเรียนของญี่ปุ่นประมาณวันที่ 20 กรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม แต่ช่วงที่พีคสุดๆเลยคือช่วงเทศกาลโอบ้ง (เช็งเม้งญี่ปุ่น) ประมาณกลางเดือนสิงหาคม แนะนำให้หลีกเลี่ยงช่วงนี้นะคะ เพราะไม่อย่างงั้นคุณอาจจะถึงขั้นต้องยืนรอคิวเพื่อปีนเขากันเลยทีเดียว!
สถานที่สำหรับปีนภูเขาไฟฟูจิมีหลายที่ค่ะ เช่น:-
Fuji Subaru Line 5th Station
การเดินทาง: โดยรถบัสจากสถานีชินจูกุ (โตเกียว)
ค่าเดินทาง 2,700 เยน/ เที่ยว ใช้เวลา 2.30 ชม.
มีรถไป-กลับ 6-10 รอบ/ วัน ในช่วงฤดูกาลปีนเขา
มีรถไป-กลับ 2 รอบ/ วัน ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ในช่วงนอกฤดูกาลปีนเขา
Gotemba 5th Station
การเดินทาง: โดยรถบัสจากสถานี Gotemba
ค่าเดินทาง 1,110 เยน/ เที่ยว หรือ 1,540 เยน (ไป-กลับ) ใช้เวลา 40 นาที
มีรถไป-กลับ 4-7 รอบ/ วัน ในช่วงฤดูกาลปีนเขาและเดือนกันยายน
มีรถไป-กลับ 3 รอบ/ วัน ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ในช่วงนอกฤดูกาลปีนเขา
สามารถติดตามข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการปีนภูเขาไฟฟูจิได้ตามลิ้งค์นี้ค่ะ
http://www.fujisan-climb.jp/en/
เทศกาลนี้เหมาะมากกับสาวฟรุ้งฟริ้ง รักในสายลม แสงแดด และดอกไม้ค่า จัดขึ้นที่เมืองนากะฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด ถือเป็นเทศกาลดอกลาเวนเดอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้ชนิดอื่นมีความสวยงามเป็นที่สุด ทั่วทั้งฟาร์มจะดูมีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน ซึ่งแน่นอนว่าไฮไลท์ของงานก็ต้องเป็นดอกลาเวนเดอร์สิคะ ดูกันจนตาแฉะให้ตาเป็นสีม่วงกันไปเลยค่ะ และห้ามพลาด! ไอศกรีมลาเวนเดอร์ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอกไกโดเลยนะ แนะนำว่าดูทุ่งลาเวนเดอร์ไป กินไอติมไป โอ๊ย! จะมีอะไรฟินไปกว่านี้เนี่ย แถมท้ายด้วยตอนกลางคืนจะมีการแสดงดอกไม้ไฟจำนวนกว่า 1,300 ดอก บนทุ่งลาเวนเดอร์ด้วยนะ ดีงามอ่ะ มางานเดียวได้ดูทั้งทุ่งดอกไม้และดอกไม้ไฟ คุ้มค่ามาก
หมายเหตุ: เฉพาะวันจัดงานจะมีการแสดงบันเทิงต่างๆ แต่หลังจากนั้นเราก็ยังสามารถมาชมทุ่งลาเวนเดอร์อย่างเดียวได้ค่ะ
ขอแนะนำทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองนี้เลย นั่นก็คือ ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ซึ่งประกอบด้วยทุ่งดอกไม้สายรุ้ง 7 สี ถือเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก เหมาะกับการมาเยือนครั้งหนึ่งในชีวิตเลยนะจ๊ะ
วันจัดงาน: 15 กรกฎาคม 2560 โดยงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่ 1: การแสดงด้านบันเทิงต่างๆ เริ่ม 11:00 เป็นต้นไป
ส่วนที่ 2: การแสดงดอกไม้ไฟเริ่ม 20:00 เป็นต้นไป
ที่อยู่: 1-41 Miyamachi, Naka Furano-cho, Sorachi-gun, Hokkaido
เบอร์โทรศัพท์: 0167-39-3033
การเดินทาง:
- โดยรถไฟ ขึ้นรถไฟสาย JR Furano Line ลงที่สถานี Lavender Field Station แล้วเดินอีก 7 นาที
*สถานี Lavender Field Station เป็นสถานีที่เปิดให้บริการเฉพาะในช่วงฤดูกาลลาเวนเดอร์เท่านั้น
- โดยรถยนต์หรือแท็กซี่ ใช้เวลา 5 นาที หรือเดิน 15 นาทีจากสถานี Naka Furano Station
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://nakafukanko.com/en/event
เทศกาลฤดูร้อนซัปโปโร จัดขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด เป็นเทศกาลที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่าล้านคนให้มาเยือนได้ ไฮไลท์ของงานอยู่ที่ เบียร์การ์เด้น ใช่แล้วค่ะ ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ งานเบียร์การ์เด้นที่ญี่ปุ่นจะจัดในหน้าร้อน เพราะหน้าหนาวจะหนาวมาก ไม่สามารถนั่งดื่มเบียร์กลางแจ้งได้เหมือนบ้านเรา ซึ่งเบียร์การ์เด้นที่สวนโอโดริถือเป็นหนึ่งในลานเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเลยนะ! มีทั้งเบียร์สดจากซัปโปโร คราฟท์เบียร์ และเบียร์อื่นๆ จากทั่วโลกมาให้ลิ้มลองกัน ลานเบียร์ใหญ่มากกก ครอบคลุมบริเวณตั้งแต่บล็อก 5 ไปจนถึงบล็อก 11 เลยทีเดียว คอเบียร์ห้ามพลาดเลยนะจ๊ะ ใครไม่ดื่มเบียร์ก็สามารถมานั่งทานอาหารชิวๆ (แอบเล็งหนุ่มๆ สาวๆ ภายในงานก็ได้นะ) มีอาหารขายหลายอย่างด้วย ลองมาสัมผัสบรรยากาศลานเบียร์ซัปโปโรกันดูนะคะ ^ ^
วันจัดงาน: 20 กรกฎาคม - 17 สิงหาคม 2560
สถานที่: Odori Park, Sapporo-shi, Hokkaido
การเดินทาง: เดิน 1 นาทีจากสถานี Odori Station
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://sapporo-natsu.com/english/
ญี่ปุ่นเค้าก็มีทุ่งทานตะวันเหมือนกันนะ แต่ทุ่งของเค้ากว้างใหญ่ไพศาลมากกก ลองจินตนาการถึงการชมทุ่งทานตะวันท่ามกลางท้องฟ้าสีฟ้าครามสดใสดูสิคะ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่คุณลืมไม่ลงเลยทีเดียวค่ะ
ขออนุญาตคัดทุ่งเด็ดๆมาให้ชมดังนี้ค่ะ
Akeno Sunflower Field เมืองโฮกุโตะ (Hokuto City) จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) พื้นที่ Akeno ที่เมืองโฮกุโตะ เป็นสถานที่ที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นที่ตั้งของทุ่งหญ้าที่มีดอกทานตะวันกว่า 600,000 ดอก นอกจากนี้ยังมีดอกคอสมอสรายล้อมอยู่บริเวณรอบๆ ทุ่งทานตะวัน และมีร้านค้าที่ขายสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกอีกด้วย
วันจัดงาน: 27 กรกฎาคม - 29 สิงหาคม 2560
เวลา 8:00-17:00 น.
ที่อยู่: 5664 Asao, Akeno-cho, Hokuto City
การเดินทาง:
- โดยรถยนต์ จากสถานี JR Nirasaki Station ใช้เวลา 20 นาที
- โดยรถบัส นั่งสาย Mizugaki Line bus อยู่ด้านนอกของสถานี JR Nirasaki Station ใช้เวลา 25 นาทีแล้วลงป้าย Heidi-no-Mura Kurara-kan stop และเดินต่ออีก 5 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.yamanashi-kankou.jp/foreign/english/english163.html
Hokuryu Sunflower Festival เมืองโฮกุริว จังหวัดฮอกไกโด เนินเขาฮิมาวาริ (Himawari-no-sato) ถือได้ว่าเป็นเนินที่มีทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งมีดอกทานตะวันมากถึง 1.5 ล้านดอก!! ครอบคลุมพื้นที่ถึง 23.1 เฮกเตอร์ โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เหมาะในการมาเยี่ยมชมคือ ช่วงต้นเดือนสิงหาคม ไม่ต้องกลัวว่าจะเดินชมไม่ไหวนะคะ เพราะเค้ามีบริการรถแทรกเตอร์นำเที่ยว หรือจะเช่าจักรยานขี่ชมวิวรอบทุ่งถ่ายรูปเก๋ๆ ก็ได้นะ นอกจากนี้ ภายในบริเวณงานจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว, หอคอยชมวิว, ฟาร์มเป็ด, ร้านอาหารท้องถิ่น ยังค่ะ ยังไม่หมดนะคะ ในช่วงเทศกาลก็มีการแสดงดอกไม้ไฟ, การร้องเพลง, การแสดงตีกลอง, การเต้นรำบงโอโดริ และการแสดงอื่นๆ อีกมากมาย แอบกระซิบว่าอย่าพลาดขึ้นไปบนหอคอยชมวิวแล้วมองดูทุ่งทานตะวันลงมาจากหอคอยนะ รับรองว่าวิวจะสวยอลังการคุ้มค่าในการมาเยือนแน่นอนค่ะ
วันจัดงาน: 16 กรกฎาคม - 21 สิงหาคม 2560
ที่อยู่: 143-2 Itaya, Hokuryu-cho, Uryu-gun, Hokkaido
การเดินทาง:
- จากสถานี Sapporo Station โดยสารรถบัส Chuo Bus สายที่มุ่งหน้าไปยัง Hokuryu ผ่านสถานี JR Takikawa Station (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) แล้วลงป้าย Hokuryu Chugakko Mae และเดินต่ออีก 3 นาที
- จาก Asahikawa นั่งรถไฟสายที่มุ่งหน้าไป Fukugawa แล้วเปลี่ยนขึ้นรถบัสสายที่ไปยัง Hokuryu (รถบัสออกจากหน้าโรงพยาบาล Fukugawa Hospital)
Tips: Chuo Bus มีบริการรถนำเที่ยว 1 วัน ไปยัง Hokuryu, Biei และ Farm Tomita ราคา 6,900 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 3,800 เยน สำหรับเด็ก โดยขาไปออกจากท่ารถบัสที่สถานี Sapporo Station เวลา 8:10 น. ขากลับเวลา 18:40 น.
หากสนใจสามารถจองล่วงหน้าได้ที่
http://teikan.chuo-bus.co.jp/en/course/4445
คาวาโดโกะ (Kawadoko) เป็นร้านอาหารสไตล์เกียวโตที่จะยกพื้นสูงอยู่บนแม่น้ำหรือริมแม่น้ำเพื่อต้อนรับลูกค้าในช่วงฤดูร้อน Kawadoko เป็นวิธีการกินแบบพิเศษตามฤดูกาลที่จะช่วยให้คุณรู้สึกเย็น โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กันยายน ที่เกียวโต แต่ช่วงกลางวันร้านอาหารจะเปิดให้บริการเฉพาะเดือนพฤษภาคมและกันยายนเท่านั้น เพื่อป้องกันอาหารบูดเน่าเสียจากอากาศที่ร้อนจัด (อนามัยมากอ่ะประเทศนี้ ถ้าบ้านเราทำบ้าง คงจะไม่มีข้าวกลางวันกินกันเลยทีเดียว T_T)
ขอนำเสนอสถานที่เด็ดๆ ซึ่งแต่ละที่ก็มีคาแรกเตอร์พิเศษแตกต่างกันดังนี้ค่ะ
1. Kamogawa เป็นเมืองที่มีการทานอาหารสไตล์ Kawadako ที่เก่าแก่ที่สุด ตั้งแต่สมัยเอโดะเลยนะ โดยที่เมืองนี้จะมีร้านอาหารหลากหลายชาติให้เลือกทานตั้งแต่ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไปจนถึงอาหารฝรั่งเศส, อิตาเลียน, จีน และอื่นๆ อีกมากมาย มีแม้กระทั่งบาร์สไตล์ Kawadako เลยค่า โอ๊ย! อะไรมันจะหลากหลายขนาดนั้น เพราะฉะนั้นเหมาะมากที่จะมาลองทานกันค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าคนที่ไปด้วยจะไม่ชอบ ผลัดกันเลือกกินวันละที่ก็ยังได้นะ ดีงาม (แอบกระซิบว่าถ้ามานั่งกินตอนเย็น ช่วงพระอาทิตย์ตกบรรยากาศจะยิ่งฟินค่ะ)
ที่อยู่: Sanjo, Higashiyama Ward, Kyoto
การเดินทาง: เดิน 2-3 นาทีจากสถานี Gion-Shijo หรือ Sanjo Station
2. Kibune เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่บนหุบเขาทางด้านทิศเหนือของเกียวโต การทานอาหารสไตล์ Kawadako ที่ดีที่สุดใน Kibune จะมีการยกพื้นสูงใกล้กับแม่น้ำ ดังนั้นคุณสามารถสัมผัสถึงความเย็นสบายของสายน้ำได้โดยตรง ซึ่งมีร้านอาหารประมาณ 20 ร้านในบริเวณนี้นำเสนออาหารที่หลากหลาย ถ้าได้มาทานอาหารที่เมืองนี้ รับรองว่าคุณจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางภูเขาและเสียงธารน้ำไหลไปพร้อมๆ กันเลยล่ะค่ะ ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ แค่คิดก็ฟินแล้วใช่มั้ยล่ะ
ที่อยู่: 50 Kuramakibunecho, Sakyo Ward, Kyoto, Kyoto
การเดินทาง: จาก Demachi-Yanagi Station นั่งรถไฟสาย Eizan Line ลงสถานี Kibune ใช้เวลา 30 นาที หลังจากนั้นต่อรถบัสหรือเดินประมาณ 20 นาที
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 กิจกรรมที่มาแนะนำกัน ใครชอบหรือสนใจอย่างไหนกันบ้าง? มาพูดคุยกันได้ในเพจ I Love Japan นะจ๊ะ เห็นมั้ยว่าหน้าร้อนญี่ปุ่นก็มีอะไรให้เที่ยวมากมาย ใครแพลนจะไปเที่ยวหน้าร้อนนี้ อย่าลืมใส่โปรแกรมที่แนะนำมาไว้ในลิสต์ด้วยน้าา
อ้อ! ถ้าใครสนใจอยากทำกิจกรรมไหน ต้องการผู้เชี่ยวชาญแนะนำ สามารถสอบถามได้ที่เพจ I Love Japan Tours ได้เลยค่ะ
สำหรับบล็อกหน้าจะมานำเสนอเรื่องอะไรนั้น ฝากติดตามรอชมกันเช่นเคยนะจ๊ะ ^ ^
ผลงานบล็อกอื่นๆ
ออนเซ็นแบบไหนที่เหมาะกับคุณ? มารู้จัก 10 ประเภทออนเซ็นของญี่ปุ่นกัน!
รีวิวชุดอาหารเช้าฟรี! สไตล์นาโกย่ากับ 3 ร้านคาเฟ่ชื่อดัง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://travel.rakuten.com/campaign/ranking/hotaru/
http://www.japan-talk.com/jt/new/japan-in-july
https://www.tsunagujapan.com/16-things-you-cannot-miss-during-summer-in-japan/
http://www.japan-guide.com/e/e2267.html
http://fujirock-eng.com/
http://www.japan-guide.com/e/e2461.html
http://travel.rakuten.com/campaign/ranking/tanabata/
http://www.mustlovejapan.com/subject/hiratsuka_tanabata/
http://anngle.org/th/j-culture/tanabata.html
http://www.japan-guide.com/e/e2283.html
http://www.japan-guide.com/e/e6901.html
https://www.kyuhoshi.com/japan-summer-festivals-calendar/
http://www.furanotourism.com/en/spot/spot_D.php?id=461
http://japan-magazine.jnto.go.jp/en/1506_himawari.html
https://www.kyuhoshi.com/2015/08/03/sunflower-field-in-hokuryu/
https://www.tsunagujapan.com/a-stylish-way-to-eat-during-the-japanese-summer-season-kawa-doko/
Wa' Japan Free Magazine Summer May-July 2017 Vol.1 Issue 01
ภาพหน้าปก
http://yusuke8ja.weebly.com/uploads/1/9/5/8/19587007/1367203051.jpg
ภาพกิจกรรมต่างๆ
http://img.travel.rakuten.co.jp/ranking/special/hotaru/images/shinsyu-tatsuno-hotaru-matsuri.jpg
http://img.travel.rakuten.co.jp/ranking/special/hotaru/images/uchinoojinja-no-himebotaru.jpg
https://fastjapan.com/en/wp-content/uploads/2017/04/pixta_23782973_M-min-1000x664.jpg
https://www.tsunagujapan.com/wp-content/uploads/2015/07/2328918336_75c47b4a09_z.jpg
http://en.okinawastory.jp/assets/uploads/2016/10/islands_image.jpg
http://en.okinawastory.jp/assets/uploads/2016/10/miyako_agarihennna_image.jpg
https://i0.wp.com/www.kyuhoshi.com/wp-content/uploads/2016/07/sendai_tanabata_festival.jpg?resize=678%2C509&ssl=1
http://www.japan-talk.com/images/jt/thumbnails/fuji-4520-183.jpg
http://ikidane-nippon.com/upload/report/86/17389.jpg
https://www.instagram.com/p/BIMHsJ9jK7e/media?size=l
http://japan-magazine.jnto.go.jp/jnto2wm/wp-content/uploads/1506_himawari_01.jpg
https://i0.wp.com/www.kyuhoshi.com/wp-content/uploads/2015/08/hokuryu_sunflower_field.jpg?resize=800%2C530&ssl=1
https://fastjapan.com/en/wp-content/uploads/2016/05/pixta_22218084_M-1000x667.jpg
https://www.instagram.com/p/BSjZaiclWOE/media/?size=l
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th