ต้องบอกว่าเป็นการเขียนบล็อกครั้งแรกในชีวิตของผมเลยนะครับ ดังนั้นขอออกตัวก่อนว่าสำนวนคงไม่สละสลวยหรือประดิษฐ์ประดอยมาก เอาแบบสไตล์ผมเนี่ยแหละ มาๆ อย่าช้าเลย เริ่มกันเลยดีกว่าครับ

ตั้งแต่ประเทศญี่ปุ่นออกมาตรการยกเว้นการขอวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวไทย(ประเภทระยะสั้น อยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน) ต้องบอกว่าคนไทย "ทะลัก" แห่ไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโตเกียว! ร้านรวงต่างๆขึ้นป้ายหรือมีแม้กระทั่งเมนูภาษาไทยกันเลยทีเดียว นี่แสดงว่าทางนั้นก็เตรียมต้อนรับเราไว้เหมือนกันนะครับ ซึ่งถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยได้เยอะ โดยเฉพาะผู้ที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงหรืออ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก...กระนั้น!!! เรื่องบางเรื่องก็กลายเป็น "Topic" ขึ้นมาซะงั้น แถมได้กระแส "แชร์โดยไม่ไตร่ตรอง" กันเยอะมากถึงขนาดสถานทูตญี่ปุ่นต้องออกมาแจ้งข้อมูลหน้าเว็บไซต์เลยทีเดียว

ครับ...เรื่องนั้นก็ผ่านไปแล้วล่ะ แต่วันนี้ผมก็อยากจะมาเขียนเรื่อง "มารยาท" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญนะ ยอมรับว่ามีคนเขียนเรื่องพวกนี้มาเป็นร้อยคนแล้วหละ แชร์กันไปอีกเป็นหมื่นแล้วด้วยซ้ำ กระนั้นผมก็ยังอยากย้ำอยู่ดี เพราะเชื่อว่ายังมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่หอบเอาความเคยชินในการใช้ชีวิตบ้านเราไปที่ญี่ปุ่นด้วย อันนี้ไม่ได้ "มโน" ไปเองนะครับ เพราะเจอมากับตัว!!!!! 

เวลาเจอคนแบบนี้ ผมยอมรับไม่อายเลยนะครับ "นาทีนั้น ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมมาจากที่เดียวกับคนพวกนั้น" ผู้อ่านท่านอื่นไม่ทราบจะคิดอย่างไรนะ แต่การที่นักท่องเที่ยวของเราได้ฉายาว่า "Little Chinese" น่ะ ผมเจ็บนะ มากด้วย แต่ถ้าถามว่าเจ็บแล้วไม่ทำอะไร มันจะดีเหรอ ดังนั้นผมจึงคิดว่าลองมาเขียนไว้ในนี้ให้คนอื่นเห็นบ้างก็ยังดี แม้มีคนฉุกคิดหรือนำไปปฏิบัติต่อสักหยิบมือก็ถือว่าเราได้ทำหน้าที่แล้วล่ะเนอะ อิิอิ ^__^

พูดถึงมารยาทหรือสิ่งที่ไม่ควรทำเนี่ย พูดแบบนี้มันกว้างมากเลยนะครับ เอาเป็นว่า ขอยกประสบการณ์จริงมาแชร์แยกเป็นข้อๆละกันนะ

1.การเข้าคิว

--เรื่องนี้มันยิ่งใหญ่มากระดับชาติสำหรับคนญี่ปุ่น ขณะที่บางชาติมองว่าชิวๆ ฉันจะทำ จะทำไม! ครับ...เวลาไปญี่ปุ่น การเข้าคิวซื้ออาหาร จ่ายเงินหรือทำอะไรก็แล้วแต่รวมไปถึงการเล่นเครื่องเล่นตามสวนสนุก สังเกตกันไหมครับว่า คนญี่ปุ่นเข้าคิวกันเรียบร้อย แต่!!! ถ้าเจอคนกรุ๊ปใหญ่ๆ มากับทัวร์ หรือเดอะแกงค์เนี่ย เห็นกับตาที่ Tokyo Disney Sea...แหม่ พี่เล่นส่งกองลาดตระเวนมายืนต่อคิวก่อนคนนึง แล้วที่เหลือเดินไปซื้อของกิน พอสักพักใหญ่ กองหน้าโบกมือแจ้งตำแหน่ง ทัพหลวงอีกสองคนนี่พุ่งมาจากไหนกันเหรอออออ!!!!!! แล้วรู้ได้ไงว่าไม่ใช่คนญี่ปุ่น ง่ายมากครับ ภาษาที่สื่อออกมา...มันไม่ใช่ เพราะผมพอจะฟังภาษาญี่ปุ่นได้น่ะสิ คนญี่ปุ่นได้แต่ยืนมองตาปริบๆ แล้วก็ซุบซิบๆกัน บางคนก็ส่งสายตาประนาม ทว่าสามสหายนั้นหาได้สนใจไม่...ก็หวังว่าชาวไทยผู้น่ารักและมีวัฒนธรรมที่ทำให้ชาวต่างชาติปลื้มปิติคงไม่กระทำเยี่ยงนี้นะครับ...

-->ดังนั้น จงต่่อคิวอย่างอดทน เดี๋ยวมันก็ถึงคิวของเรา ยืนเล่นมือถือรอไปไม่ก็ยืนเม้าท์กับเพื่อนนั่นแหละครับ อ้อ! อีกอย่าง เวลาไปต่อแถวร้านซูชิชื่อดังน่ะ ทำใจว่าคิวยาวด้วยนะครับ เคยได้ยินบ้างไหม ต่่อคิวไปพอนานก็บ่นไป ด่าคนข้างหน้าไป โดยที่ไม่รู้ว่าข้างหน้าก็คนชาติเดียวกับคุณนั่นแหละ "ถ้าอดทนไม่ได้ก็อย่าทานร้านนี้เลยครับ"

2.การยืนชิดซ้ายหรือขวาของบันไดเลื่อน

--ช่วงนี้คนไทยรณรงค์กันเยอะขึ้น โดยเฉพาะเวลาใช้บริการรถไฟฟ้า นี่เป็นสิ่งที่ดีครับ ขอชื่นชม กระนั้นก็อาจมีคนลืมหรือตั้งใจลืมหรือเกรียนอยู่บ้าง ก็ยังดีนะที่มีน้อย เอาล่ะ เรื่องของเรื่องคือ การยืนชิดบันไดเลื่อนในเขตโตเกียว กับคันไซไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะ

-->โตเกียว ยืนชิดซ้าย 

-->โอซาก้า ยืนชิดขวา

-->ถ้าท่านยืนตรงกลาง ท่านจะโดนสายตาประนาม (อีกแล้ว) + โดนชน +โดนแทรก แล้วโดนหันกลับมามองด้วยสีหน้าเหยียดหยามว่า "ขวางเองนะ" ถ้าท่านอยากลองก็ขอเชิญ แต่ผมไม่ลองดีกว่า  

-->อีกแบบเห็นกับตัวเหมือนกัน ไม่รู้จะติดไลน์อะไรนักหนา...ก้มหน้าตลอดแถมยืนผิดข้าง คนอื่นแทรก+ชนยังมีหน้าด่าเขาเป็นภาษาหลักที่ผมก็เข้าใจเพราะเราเกิดประเทศเดียวกันอีก...แบบนี้ก็ไม่ควรนะครับ คุณไปขวางทางเขาทำไม ไลน์น่ะ ไม่เล่นสิบวินาทีบนบันไดเลื่อนคงไม่เป็นไรม๊างงงง

3.บนรถไฟ

--อันนี้บ้านเรายังไม่มีการรณรงค์ คือ ขึ้นรถไฟแล้วใครมีเป้สะพายหลัง ช่วยเอามาไว้ข้างหน้าหรือพาดไว้บนตะแกรงเหล็กวางของเหนือหัวเลยครับ คนที่เข้ามาทีหลังจะได้มีที่ยืนอีกคน ทราบกันดีอยู่แล้วว่า Rush Hour คนแน่นมาก เรื่องนี้อาจยังไม่คุ้นเคยในบ้านเราแต่ก็เป็นการสร้างจิตสำนึกส่วนรวมด้วยนะครับ

--นี่ก็เจอมากับตัวอิีกแล้ว ตอนไปฮาโกเน่ เคสนี้อายสุดๆแล้วครับ คือ อยู่บนรถของ Tozan เพื่อไปสถานี Gora ก็นั่งตรงข้ามนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง พอยังไม่ทันได้นั่ง "ติ๊งติ่ง" ผ่านไปสองวินาที "ติ๊งติ่ง" อีกแล้ว พอผ่านไปห้าวินาที "ติ๊งติ่ง" อีกแล้ว  โว๊ะ!!!!!! ทำไมต้องโชว์ครับว่ามีไลน์ให้เล่น รู้ครับว่าจ่ายค่าเน็ตมา แล้วก็รู้ด้วยว่า เราเชื้อชาติเดียวกัน...ก็ผมใช้หนังสือเล่มเดียวกับพวกท่านนี่นา!! ว่าแต่ทำไมสาวญี่ปุ่นที่นั่งข้างๆผมก็เล่นไลน์แต่ไร้เสียง เขาก็หายใจได้จนลงจากรถไฟ เห็นทีฝั่งตรงข้ามผมคงจะขาดใจถ้าเขาปิดเสียงสินะ ที่น่าอายกว่านั้นคือ คนกลุ่มนั้นพูดเสียงดังมาก คุยเหมือนไม่ได้พบกันมาสิบปี ทำคุณลุงที่นอนอยู่สะดุ้งตื่นได้ละกัน...อารมณ์นั้น ย้อนขึ้นไปอ่านย่อหน้าสี่ละกันนะครับ...นักท่องเที่ยวที่ดีอย่าทำแบบนั้นเลยนะครับบบบบ

4.รถเมล์

--ความที่บ้านเรามีนักขับรถเมล์มืออาชีพ ถ้ามีการ casting ให้ไปขับรถใน Fast and Furious ผมคิดว่าคนไทยได้เข้าไปชิงแชมป์แน่นอน..หุหุ ครับ ความเร็วบางทีก็ทำให้รถเมล์จอดไม่ตรงป้ายหรือผ่านเราไปเลยก็มี ถ้าเราไม่โบกรถ จริงไหมครับ!? แต่ที่ญี่ปุ่น...อย่าโบกรถเมล์ นะครับ นี่มันมาจากหลังเขาชัดๆ

-->เราจะกลายเป็นตัวตลกทันที เพราะปกติรถเมล์ญี่ปุ่นจอดตรงป้าย บางทีไม่มีคนรอที่ป้ายนั้น คนขับก็จอดรอเพื่อรักษาเวลาให้สัมพันธ์กับตารางเดินรถครับ ดังนั้นเราจึงไม่ต้องโบกรถครับ และอย่าลืมเข้าคิวก่อนขึ่้น/ลงรถด้วยนะ

5.ออนเซ็น

--จริงๆแล้วการแก้ผ้าไปแช่น้ำในวิถีของคนไทยนี่ยังมีความเขินอายกันมากกกกกกกกก ลองถามสาวๆสิบคน มีเก้าคนที่ตอบว่าไม่กล้าอาบรวมกันเยอะๆ (แต่ก็อยากลอง) จึงแอบมาตอนดึกๆ แล้วก็จ๊ะเอ๋คนที่คิดเหมือนกันอยู่ดี สุดท้ายหลายคนก็อาย เลยไม่ได้ลงแช่ไปเลยก็มีนะ อิอิ

--ทีนี้ก็จะบอกว่าประสบการณ์ในการแช่น้ำถือว่าสนุกมากๆ เพราะแต่ละแห่งมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน ทั้งบ่อรวม บ่อแยก บ่อครอบครัว บ่อกลางแจ้ง โอ๊ย สารพัด ผมก็ชอบมากๆนะ แม้จะเขินอายตอนแรก แต่ที่ผมจะมาย้ำคือ บ่อไหนก็แล้วแต่ อย่าโวยวาย โหวกเหวก เลยครับ เกิดไปเห็นของรักของหวงเพื่อนก็ไม่ต้องไปกรี๊ดกร๊าดหัวเราะส่งเสียงดังหรอก คนญี่ปุ่นก็ตกใจนะคร้าบบบบ เคยเจอไหม พ่อลูกญี่ปุ่นแช่น้ำอยู่ดีๆ มีหนุ่มๆต่างชาติสี่ห้าคนเดินเข้ามา หัวเราะคิกคักเพราะเห็นของสุดหวงของเพื่อนเต็มตา ล้อกันลั่นห้องแถมเล่นสงกรานต์ในที่อาบน้ำจนคนอื่นลุกไปหมด บรรยากาศที่ผ่อนคลาย สงบเงียบกลายเป็นงานคาร์นิวัลอวดเจ้าหนูซะงั้น.....หมดกันครับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆอย่าทำนะครับ 

ที่กล่าวมานี้คือประสบการณ์ที่ตัวเองได้พบนะครับ ประสบการณ์ดีๆก็มี แต่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ก็เลยเอามาแชร์กันดู เผื่อผู้อ่านจะสนุกบ้าง (หรือจะโมโหผมที่ด่าก็เข้าใจ แต่มันคือความจริงที่เราควรยอมรับว่าคนประเภทนี้มันมีจริงๆ และทุกๆคนก็ควรแก้ไข) ที่กล่าวมา ไม่ใช่ว่าคนญี่ปุ่นพิเศษกว่าใคร แต่มันเป็นเรื่องของมารยาทที่พึงกระทำ การเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามอาจเป็นคำโบราณแต่ผมว่ามันยังใช้ได้เสมอ สังเกตดูสิ เวลาชาวต่างชาติหลายๆคนเวลามาเที่ยวบ้านเรา เขาก็มีการเตรียมการหลายๆอย่าง หนึ่งในนั้นคือ การไหว้ขอบคุณ แม้แต่นักท่องเที่ยวชาติที่คนไทยไม่ชอบก็มีคนที่ศึกษาแบบนี้แล้วก็ไม่ประพฤติตนแบบที่เราเห็นว่าไม่มีมารยาทเหมือนกัน ฉันใดก็ฉันนั้น เวลาเราไปบ้านเมืองต่างๆ ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่น เราก็ควรศึกษามารยาทที่ดีงามไว้ด้วยนะครับ เพราะอย่าลืมว่านักท่องเที่ยวก็เหมือนทูตของประเทศนั้นแหละครับ ใครเขาเห็นว่าเราทำดีก็ชื่นชม ทำไม่ดีก็โดนเอาไปพูดลับหลังนินทานั่นแล......

พบกันใหม่บล็อกหน้า ท่านผู้อ่านท่านใดอ่านแล้วถูกใจ จะกด Follow ผม ก็ยินดีและขอขอบคุณมากนะครับ สำหรับวันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อน สวัสดีครับ

ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น

YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/

Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/

Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH

Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/

TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth

ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com