t ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

นั่งรถคนลาก เฮฮากับหนุ่มลากรถ ณ อาซากุสะ

นั่งรถคนลาก เฮฮากับหนุ่มลากรถ ณ อาซากุสะ

By , Wednesday, 24 August 2016


สวัสดีค่า เวลาท่านผู้อ่านมาเที่ยวญี่ปุ่นตามย่านเก่าแก่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเกียวโต คามาคุระ หรืออาซากุสะ ทุกคนคงจะเคยเห็นรถคนลากสีดำๆ มีหนุ่มแข็งแรงบึกบึนมายืนเรียกให้ใช้บริการรถของตนกันใช่ไหมคะ บล็อกนี้ดิฉันจะมาเขียนรีวิวประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้นั่งรถคนลากที่อาซากุสะ ให้เสมือนท่านผู้อ่านได้มานั่งเองกับก้นเลยค่ะ!


บริเวณด้านหน้าสถานีอาซากุสะ ยาวไปจนถึงKaminarimon หรือที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูปกับโคมแดงๆใหญ่ๆหน้าวัดเซนโซจิ จะมีรถลากจอดอยู่เพียบ! ทุกคนอาจจะคิดว่าทั้งหมดนั่นเป็นบริษัทเดียวกันใช่ไหมคะ…ผิดค่ะ! จริงๆแล้วมีอยู่มากกว่า 12 บริษัทขึ้นไปเลยทีเดียว ซึ่งดิฉันไม่สามารถบอกได้ว่าของบริษัทไหนดีสุดนะคะ เพราะต่างก็มีบริการที่ดี ราคาค่าคอร์สที่แตกต่างกันไป แต่วันนี้จะมาเล่าของบริษัท EBISUYA ค่ะ


*หมายเหตุ : ดิฉันไม่ได้ค่าตอบแทนจาก EBISUYA ในการเขียนบล็อกครั้งนี้นะคะ แต่ที่ต้องระบุชื่อบริษัท เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าราคาคอร์สต่อไปนี้ เป็นราคาของบริษัทนี้เท่านั้นนะจ้ะ


ทั้งๆที่ดิฉันก็อยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี แต่กลับไม่เคยนั่งรถคนลากเลยค่ะ แต่พอเพื่อนสาวสุดสวย ที่เพิ่งเคยมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกมาเยี่ยมช่วงโกเด้นวีคที่ผ่านมา เพื่อนบอกอยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่นให้มากที่สุด ดิฉันเลยพามาย่านอาซากุสะค่ะ พอขึ้นจากใต้ดินมาปุ๊บ ก็โดนหนุ่มหล่อเรียกให้ขึ้นรถลากเลย ด้วยความที่เป็นคนใจง่าย เลยยืนมองราคา และสถานที่ที่เขาจะพาเราไป ขอแนะนำตามตารางและรูปด้านล่างเลยนะคะ



โดยคอร์ส 30 นาที คนจะนิยมมากที่สุด และคอร์ส 1 ชั่วโมงเป็นคอร์สที่ทางบริษัทแนะนำว่า "เยี่ยม!"

ส่วนจะไปที่ไหนบ้างนั้น ดูตามภาพเลยค่ะ เส้นประสีฟ้าจะเป็นทางที่รถลากจะพาเราไปปปป ฮิ้ววว

คอร์สบริเวณ 1 บล็อก
คอร์ส 30 นาที
คอร์ส 1 ชั่วโมง
คอร์ส 2 ชั่วโมง


ใครดูรูปไม่ชัด หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เชิญกดในลิ้งค์นี้ค่ะ >> http://ebisuya.com/en/


สรุปว่า...พวกเราก็ตัดสินใจนั่ง 30 นาที 2 คน รวม 9,000 เยน ที่เขาบอกว่าส่วนมากคนนั่งคอร์สนี้กัน เอาน่ะ! คนละ 4,500 เยน (ค่อนข้างแพงสำหรับดิฉัน) แต่ไหนๆก็มาแล้ว ถือเป็นประสบการณ์แหละ! เพื่อนดิฉันไม่รู้ญี่ปุ่น เลยบอกคุณพี่ผู้ชายไปว่า ขอคนแนะนำเป็นภาษาอังกฤษได้ พี่เขาเลยจัดมาให้ค่ะ!


เฮลโหลวววว นี่พี่คาซุกิค่ะ แต่ดิฉันกับเพื่อนเรียก "พี่สุชาติ" ภาษาอังกฤษพี่เขาก็สื่อสารได้นะ แต่เนื่องจากดิฉันโง่ภาษาอังกฤษมาก เลยบอกให้เค้าแนะนำเป็นอังกฤษให้เพื่อน และญี่ปุ่นให้ดิฉัน (สงสารพี่เขาจังเลยค่ะ) แต่ไปๆมาๆบางทีดิฉันก็ฟังญี่ปุ่นเสร็จก็แปลให้เพื่อนเป็นไทยบ้าง

พี่สุชาติ : แวร์ อาร์ ยู ฟอร์ม?

ดิฉันและเพื่อน : ไทยแลนด์!!

พี่สุชาติ : โอ้ ไทยแลนด์ "สวัสดีกั๊บบบบ ขอบคุณกั๊บบบบ" ผมเพิ่งไปไทยมาเอง กินต้มยำกุ้งด้วยนะ สาวไทยสวยๆ ผมจะเรียกพวกคุณว่า "โอโจ้ซัง (คุณหนู)นะ"

พี่เขาน่ารักมากๆค่ะ เฟรนลี่สุดๆ ชวนคุยได้ทุกเรื่อง ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ ยิ้มตลอดเลยด้วย

ออกเดินทางจากหน้า Kaminarimon ไปเลยค่ะพี่สุชาติ Go Go!


บางคนอาจจะนั่งรถลากแบบนี้แล้วกลัวรถยนต์จะชนเอา ขอบอกเลยว่า "ไม่ต้องกลัววว" ลากชิดซ้ายตลอดค่ะ แถมรถแถวอาซากุสะก็ไม่เยอะอยู่แล้วด้วย ดูจากภาพสิคะ ถนนโล่งจนอยากลงไปนอนกลิ้ง ส่วนวิวรอบข้างก็ดีมากค่ะ เวลาเข้าซอยเล็กๆอาจจะมีคนเยอะบ้างจนกลัวจะไปชนคน แต่คนก็หลบให้นะ เพราะเหมือนเขารู้อยู่แล้วว่ามักจะมีรถลากมาวิ่งเส้นนี้ ระหว่างนั่งมักจะมีคนเล็งกล้องมาทางพวกเราค่ะ โดยเฉพาะต่างชาติ อยากนั่งก็ขึ้นมาเลยค่ะ คัมมอน!

ดิฉัน : พี่คะ ถามอะไรหน่อย ตอบมาตรงๆนะ… "พวกหนูตัวหนักไหม"

พี่สุชาติ : โน้ โน้ สบายมากครับ เบาจนไม่รู้สึกเลยครับ

ดิฉัน : ก็เว่อร์ไป นี่ 2 คนรวมกัน 85 กิโลกว่าๆเลยนะคะ

พี่สุชาติ : นั่นถือว่า "เบา" แล้วครับ ผมเคยลากคนหนักกว่านี้อีก

ดิฉัน : เคยลากหนักสุดกี่กิโลคะ

พี่สุชาติ : คุณซูโม่ 2 คน รวม 250 กิโล ครับ

ดิฉัน : ห้ะ!! (เพื่อนดิฉันงง เลยต้องแปลเป็นไทยให้จะได้ร่วมกันตกใจ)

พี่สุชาติ : แล้วก็นะ คุณซูโม่ตัวใหญ่ๆใช่ไหมล่ะ คนนึงก็นั่งเกือบเต็มที่นั่งละ อีกคนเลยนั่งแค่ครึ่งก้น

ดิฉัน : ทำไมไม่นั่งคนละคันเนี้ย สงสารคนลากจัง


ระหว่างคุย พี่สุชาติก็พาเรามาตามสถานที่ต่างๆ และเล่าประวัติให้ฟังเล็กน้อย ทุกครั้งที่เขาจะถ่ายรูปให้เรา เขาจะต้องวางรถลากลง และเปิดที่บังแดดให้ เขาก็จะพูดประมาณว่า "จะวางแล้วนะครับบบ ช่วยเอนพิงพนักหน่อยครับ" คงกลัวพวกเราหน้าคว่ำลงมาสินะ 55 แล้วรูปที่พี่แกถ่ายไม่ใช่เล่นๆนะคะ ถือว่ามีมุมที่ดี น่าจะผ่านการเทรนมาแล้ว

Nitenmon ใช้ไอโฟน 5 ที่ใกล้พังถ่าย โดยไม่ได้ปรับรูปอะไรเลย
รูปนี้พี่สุชาติปรับโหมดในไอโฟนได้ฟิลยุคโบราณภาพเหลืองๆให้โดยไม่ได้ขอ ที่ Denboin st.
Tokyo skytree view point ค่ะ


ทุกคนอย่าเพิ่งเบื่อหน้าดิฉันกับเพื่อนค่ะ ทั้ง 3 ภาพด้านบน คือจุดที่ในคอร์ส 30 นาทีจะมีบริการถ่ายรูปให้ฟรี ยื่นกล้องโปร กล้องมือถือให้พี่เขาถ่ายรูปให้ได้ แต่เขาไม่มีบริการใช้กล้องเขาแล้วอัดใส่กรอบขายนะเพราะงั้นไม่ต้องกลัวโดนขายรูปเลยค่ะ ส่วนสถานที่อื่นๆถ้าผ่านก็ถ่ายรูปกันเอง แต่ห้ามใช้ไม้เซลฟี่นะคะ ดิฉันเผลอใช้ พี่เขาเลยเตือนค่ะ ตอนเตือนก็น่ารักมากๆ บอกว่า "ขอโทษครับ แต่ห้ามใช้ไม้เซลฟี่นะ ต้องขอโทษคุณหนูจริงๆ" (กรี้ดดด ปากหวานอะไรเบอร์นี้ หนูยอมแล้วค่ะ หนูจะเชื่อฟังพี่) 

Kaminarimon มุมมหาชนคนเยอะมากๆค่ะ


พอหมดคอร์สแล้วเราก็จะวนกลับมาหน้า Kaminarimon เช่นเดิม แต่ต้องรอข้ามถนน เลยคุยกันต่อ

ดิฉัน : พี่ช่วยแนะนำร้านอาหารอร่อยๆ ถูกๆแถวนี้ให้หน่อยได้ไหมคะ

พี่สุชาติ : ได้เลยครับ ปกติผมจะไปร้านกิวคัตสึ (เนื้อวัวชุบแป้งทอด) แถวมุมโน้นครับ ตรงข้าม Kaminarimon น่ะ เวรี่กู๊ด ดีลิเชียสสุดๆครับ


แต่สุดท้ายดิฉันกับเพื่อนก็ไม่ได้ไปทานนะคะ ไว้คราวหน้าไปจะมารีวิวให้อ่านกันอีก พอถึงที่จอดรถลาก พวกเราก็ลงมาจ่ายเงินค่ะ พี่เขาก็จะให้ของที่ระลึกด้วย นั่นก็คือ! สติกเกอร์รถคนลากสุดน่ารัก 1 ลาย ,โปสการ์ดสีไม้ย่านอาซะกุสะทั้ง 4 แบบ ,บัตรลดราคาที่ใช้ได้ภายใน 3 ปีนับจากวันนี้เป็นต้นไป และแบบสอบถามให้ประเมินคอร์สในครั้งนี้ โดยเขียนเสร็จก็หย่อนตู้ไปรษณีย์ส่งไปบริษัทค่ะ (ดิฉันเขียนคอมเม้นท์ไปว่า พี่คาซุกิน่ารักมาก เฟรนลี่สุดๆ)

ลายโปสการ์ดในภาพกับของจริงไม่ได้แบบนี้นะคะ พอดีดิฉันเขียนส่งเพื่อนไปหมดแล้ว เลยนำมาถ่ายรูปไม่ได้จริงๆ
ก่อนจากกันก็ไม่ลืมถ่ายรูปคู่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่!


สิ่งที่ประทับใจจากการนั่งชมย่านอาซากุสะด้วยรถคนลากในครั้งนี้ คือ การบริการของพี่สุชาติค่ะ ทั้งสุภาพ อ่อนน้อม ปากหวาน ถึงแม้จะเหนื่อย ร้อน หนักยังไง พี่แกก็ยิ้มตลอดจริงๆค่ะ นอกจากจะแนะนำประวัติย่านอาซากุสะให้แล้ว ยังแนะนำร้านอาหารได้อีกแหน่ะ! ดิฉันต้องปรบมือดังๆให้กับการบริการด้วยใจแบบนี้ค่ะ!! 


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพบางส่วนจาก http://ebisuya.com/en/ 

ส่วนรูปภาพที่มีหน้าดิฉันและเพื่อน ถ้าจะนำไปใช้กรุณาให้เครดิต gorailovejapanese ถือว่าให้เกียรติหน้าดิฉันและเพื่อนด้วยค่ะ!


สนใจทัวร์ญี่ปุ่นแบบส่วนตัว คลิ๊กที่นี่ htttp://www.ilovejapantours.com/th

บทความล่าสุด