​ฮัลโหล~!! กลับมาอีกครั้งกับตอนที่ 2 ที่จะยังคงพูดถึงเรื่องสวนสนุกฟูจิคิวเช่นเคยค่ะ หากใครที่พลาดตอนที่ 1 สามารถย้อนอ่านได้จาก Link นี้ http://www.ilovejapan.co.th/travel/entry/fujiqhighlandpartone ซึ่งวิธีการเดินทาง และสายรถไฟได้เขียนไว้หมดแล้ว แต่อาจจะยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ ดังนั้นวันนี้จึงจะมาเพิ่มเติมข้อมูลวิธีเดินทางจาก สถานีชินจูกุ (新宿) ไปยังสวนสนุกโดยรถบัสกันค่ะ (^O^) 

เมื่อเรามาถึงสวนสนุกแล้ว สิ่งที่ไม่ควรลืมคือ Guide Map ค่ะ!! สามารถหยิบได้จากทางเข้า หรือถ้าหาไม่เจอก็ลองขอจากสต็าฟได้ค่ะ ใครว่าแผ่นพับไม่สำคัญ ขอบอกว่าพกติดตัวไว้เถอะ มันช่วยประหยัดเวลามากเยอะเลยนะแก๊~~ เพราะถ้าเรามีแผนที่เราสามารถวางแผนได้ถูกและไม่หลงทางเวลาเดินหาเครื่องเล่น เผื่อใครไม่ชอบพกกระดาษ สามารถเข้าไปเซฟรูปได้จากที่นี่ http://www.fujiq.jp/en/map/map1.pdf (รับรองไฟล์ใหญ่สะใจ) 

นอกจากนี้ยังมี Guide Map อีกแบบนึงซึ่งเป็นส่วนของดินแดน Thomas Land ค่ะ หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อว่าโทมัสแลนด์คืออะไร? โทมัสแลนด์คือดินแดนสวนสนุกสำหรับเด็กน้อยใสๆ เป็นโซนที่สร้างขึ้นอยู่ภายในสวนสนุกฟูจิคิว ซึ่งเครื่องเล่นแต่ละอย่างจะไม่ผาดโผน เปรียบเสมือนเป็นดินแดนแห่งความฝันของหนูน้อย (ก็ว่าไปความจริงก็ยังไม่เคยเข้านะ 5555) ซึ่งสามารถดูแผนที่ได้จาก http://www.fujiq.jp/en/map/map2.pdf

โซนนี้เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่พาเด็กๆ มาแต่คุณลูกไม่สามารถเล่นเครื่องเล่นสายโหดได้ อ้าว! แล้วถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากเล่นเครื่องเล่นสายโหดล่ะทำยังไงดี? ง่ายมากค่ะ! คุณผู้ปกครองสามารถแก้ปัญหาได้โดยการทิ้งลูกไว้ที่โทมัสแลนด์ ส่วนตัวเองก็วิ่งไปเล่นอย่างอื่น เอ๊ยไม่ใช่! ล้อเล่นนะคะ (-,.-) ต่อให้เป็นประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย แต่ก็อย่าได้ประมาทเชียว อย่างที่ว่ากันว่าไม่ควรปล่อยให้บุตรหลานวิ่งเล่นตามลำพังโดยเด็ดขาดค่ะ

ในแต่ละโซนเครื่องเล่นจะมีล็อกเกอร์สำหรับฝากของค่ะ ถ้าเป็นพวกเครื่องเล่นแนวผาดโผน เช่น Eejanaika, Takabisha, Dodonpa จะมีที่ฝากของให้ก่อนขึ้นเครื่องเล่นทุกครั้ง (ล็อกเกอร์จะอยู่ข้างเครื่องเล่นเลยค่ะ เราสามารถฝากของได้ก็ต่อเมื่อถึงคิวขึ้นเครื่องเล่นเท่านั้น) ไม่ต้องกลัวว่าของจะหายเพราะทุกล็อกเกอร์จะมีกุญแจให้ เมื่อเอาสัมภาระไปเก็บแล้วเราสามารถเอากุญแจล็อกเกอร์มาสวมไว้กับข้อมือได้เลย 

ตรงส่วนเครื่องประดับ และอุปกรณ์เสริม เช่น แว่นตา หมวก ต่างหูที่เป็นแบบห้อยแนะนำว่าควรถอดค่ะ เพราะบางเครื่องเล่นค่อนข้างเร็วและแรงมาก อาจทำให้เกิดอันตรายได้ ตามที่เคยกล่าวมาในตอนที่ 1 ว่าเพื่อนของเกดเคยเล่น Dodonpa แล้วเครื่องพุ่งแรงมากจนยางผูกผมปลิว แต่บางเครื่องเล่นก็ไม่มีล็อกเกอร์ให้ค่ะ พวกโซนเครื่องเล่นที่ไม่มีล็อกเกอร์ให้จะเป็นพวกเครื่องเล่นแนวน่ารักๆ ตอนที่เข้าบ้านผีสิงก็ไม่มีล็อกเกอร์ให้ค่ะ กระเป๋าหนักไม่พอยังต้องวิ่งหนีผีอีก (-_-) 

เอาล่ะ!! หลังจากที่เวิ่นเว้อกันมานาน ขอกลับเข้ามาสู่ประเด็นหลักกันต่อดีกว่า วันนี้เราจะมารีวิวเครื่องเล่นเด็ดที่เหลือที่มาถึงแล้วควรเล่นสักครั้ง! (ใครมาแล้วไม่เล่นถือว่าพลาดนะค้าาา หุหุ) เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาต่อกันเลยยยยย~

* ขอย้ำอีกครั้ง! รีวิวนี้มาจากความรู้สึกและความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน

(คำเตือน!! รีวิวเครื่องเล่นอาจมีการสปอยค่อนข้างหนัก อาจไม่เหมาะกับใครที่ไม่อยากรู้ว่าแต่ละเครื่องเล่นเป็นอย่างไร)

​1. Great ZABOON (クール・ジャッパーン)

ใครที่อยากเปียก แนะนำเครื่องเล่นนี้ค่ะรับรองเปียกสมใจ ถ้ามาเล่นช่วงที่แดดเปรี้ยงๆ แถวจะค่อนข้างยาวนิดนึง สำหรับใครที่ไม่ได้พกเสื้อกันฝนมาไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะบริเวณหน้าเครื่องเล่นจะมีตู้อัตโนมัติขายเสื้อกันฝนแบบใช้แล้วทิ้งอยู่ ราคา 100 เยน โดยเครื่องเล่นนี้ความสูงอยู่ที่ 30 เมตร ส่วนเรื่องระดับความหวาดเสียว...เราคิดว่าที่ Universal เสียวกว่าเพราะที่นู่นดิ่งลงมาแทบจะตั้งฉากเลย (ถ้าไปนั่งเครื่องเล่นตัวท็อปแล้วมานั่งเครื่องนี้จะรู้สึกชิลล์มาก) แต่ถ้าร้อนๆ อยู่ก็แนะนำค่ะเพราะเย็นสบาย 5555 หรือบางคนไม่อยากนั่งก็สามารถไปยืนรอรับน้ำตรงสะพานด้านหน้าจุดปล่อยเรือก็เปียก (โคตรๆ) เช่นเดียวกันค่ะ

ระดับความประทับใจ : ★ ★ ✰ ✰ ✰

​2. Nagashimasuka (ナガシマスカ)

เครื่องเล่นนี้ก็เป็นอีกเครื่องที่โซนเปียกค่ะ ควรมีเสื้อกันฝนอีกเช่นเคย (ถ้าไม่มีหน้าเครื่องเล่นมีขายค่ะ หรือพกเสื้อกันฝนที่ซื้อมาจากเครื่อง Great ZABOON มาใช้ตรงนี้ก็ได้นะ ไม่ต้องซื้อซ้ำให้เปลืองเงิน) ด้านทางเข้าจะดูยิ่งใหญ่มากเพราะมีแมวนางกวักสีทองตัวใหญ่อยู่ บริเวณด้านหน้านางแมวกวักจะมีโซนให้ยืนถ่ายรูปสวยๆ หรือสามารถโยนเหรียญขอพรตามความเชื่อได้อีกด้วย 

เครื่องเล่นชนิดนี้เป็นแนวล่องแก่งค่ะไม่ค่อยมีจุดหวาดเสียวเท่าไหร่ เหมาะสำหรับเด็กและช่วงเวลาร้อนมากๆ 

​3. Takabisha (高飛車)

กลับมาที่เครื่องเล่นพีคกันอีกครั้งค่ะ ตัวท็อปของฟูจิคิว!! มาที่นี่ไม่พูดถึงสิ่งนี้ไม่ได้ เครื่องเล่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่มาแล้วต้องนั่ง ย้ำว่าต้องนั่ง! เพราะจุดพีคที่สุดของเครื่องเล่นนี้คือจุดหักที่ทำมุมถึง 121 องศา!!

ทันทีที่เครื่องปล่อยตัวออกจากจุดสตาร์ท ขณะที่ทุกอย่างอยู่ในความมืด ขอเตือนว่าอย่าได้วางใจไป ตอนที่เรานั่งครั้งแรกนึกว่าจะไม่มีอะไรเพราะเพิ่งเริ่มออกตัวคงจะเบาๆ ก่อน แต่ที่ไหนได้…จากแล่นไปช้าๆ จู่ๆ พี่แกปล่อยดิ่งลงด้านล่างเฉยท่ามกลางความมืด ซึ่งมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น!! (อารมณ์เหมือนนั่งเฉยๆ แล้วจู่ๆ ตกตึกน่ะค่ะ) ความรู้สึกตอนนั้นแบบ "เหยดดดเขร้ #$%^&*#$%" ยัง! ยังไม่พอ ยังมีหน้ามาตีลังกาต่ออีกประมาณ 2-3 ตลบ ก่อนที่เครื่องจะหยุดให้คุณได้หายใจชั่วครู่ แล้วค่อยๆ พาคุณขึ้นสู่จุดพีคสูงสุดซึ่งก็คือจุดหัก 121 องศา (ตอนนั้นได้แต่ตะโกนว่าใครก็ได้ปล่อยตรูไปทีเท้อออ TOT)

จังหวะที่ค่อยๆ ขึ้นนี่ล่ะ ร่างของเราตั้งฉาก 90 องศา (ตามรูปที่ถ่ายมาด้านเลยเลยค่ะ) ก่อนจะค่อยๆ ไหลหน้าทิ่มลงช้าๆ ถ้าเปรียบให้เห็นภาพคือพอถึงจุดที่หักทำมุม 121 องศานี้ หน้าของคุณจะทิ่มลงแต่มองไม่เห็นรางด้านล่าง ก่อนจะถูกปล่อยด้วยความเร็วและตีลังกาต่ออีกในขณะที่คุณไม่ทันตั้งตัว ในจังหวะที่ติดอยู่ตรงจุดพีคนั้นเครื่องจะค้างหัวทิ่มอยู่อย่างนั้นสักพัก เพราะจะมีการถ่ายรูปด้วยค่ะ (ถ้าอยากได้รูปสวยๆ แนะนำว่าให้ลืมตาและฉีกยิ้มแบบนางงามให้กล้องที่ติดอยู่ด้านข้างนะคะ) รับรองว่าสนุกและหวาดเสียวสมใจแน่ๆ อ้อ! จุดนี้เป็นจุดที่เห็นภูเขาไฟฟูจิชัดมากค่ะ ลืมตาขึ้นแล้วลองมองไปดูจะพบว่ามันสวยมาก...ถ้าท้องฟ้าเปิด

จากบางคนที่แมนๆ โอปป้าๆ พอขึ้นเครื่องนี้เท่านั้นแหละ…เสียงกรี๊ดดังกว่าผู้หญิงอีก เล่นเสร็จถึงกับเจ็บคอกันเลยทีเดียว

ระดับความประทับใจ : ★ ★ ★ ★ ★

​4. Eejanaika (ええじゃないか)

มาสวนสนุกฟูจิคิวไม่พูดถึงสิ่งนี้ไม่ได้ คือเครื่องเล่น "เอ๋จะไนก๋า" เรียกได้ว่าเป็น TOP 1 เลยก็ว่าได้ เครื่องเล่นนี้ถ้าเทียบกับเครื่องเล่นอื่นๆ เราว่าเป็นเครื่องเล่นที่อลังการที่สุดค่ะ (อลังการแค่ไหนดูได้จากรางตามรูปด้านบน) แถมต่อแถวนานสุดๆ อีกด้วย ตอนที่เรามารอบแรกไม่ได้เล่นเพราะต้องรอคิวนานถึง 3 ชั่วโมง!

เอ๋จะไนก๋าเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของที่นี่ว่าถ้ามาแล้วต้องลองได้นั่งซักครั้ง เพราะเครื่องนี้ไม่ได้แค่ให้คุณนั่งเฉยๆ เหมือนทั่วไป เพราะนอกจากจะห้อยขาต่องแต่งแล้วแต่ละที่นั่งของคุณจะหมุนไปในตัวขณะที่ตีลังกาอยู่ด้วย เรียกได้ว่าหมุนครบทุกทิศ แถมไม่เข้าใจว่าจะทำรางสูงแล้วตีลังกาโหดสุดๆ ไปเพื่ออะไร เครื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับคนขี้กลัวอย่างแรงเพราะบางจุดเดี๋ยวเหวี่ยงเดี๋ยวตีลังกา เรียกว่าปรับอารมณ์กันไม่ทันเลยทีเดียว เล่นเสร็จต้องขอยาดมด่วนเพราะเข่าทรุด 55555 (ไม่ได้เวอร์นะเนี่ย) ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเครื่องซักผ้าที่กำลังหมุนแล้วเหวี่ยงคุณแรงๆ อยากกราบคนคิดเครื่องเล่นนี้มาก เอ็งคิดได้ยังไงห้าาา!! พูดแล้วจะหาว่าโม้ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ 

ระดับความประทับใจ : ★ ★ ★ ★ ★

​5. Super Scary Labyrinth of Fear (絶凶・戦慄迷宮)

หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อว่ามันคืออะไร ที่นี่คือ "บ้านผีสิง" ที่ใครๆ ต่างว่ากันว่าน่ากลัวที่สุดในสวนสนุกญี่ปุ่นนั่นเอง โดยถ้าจะเข้าไปต้องเสียค่าเข้าเพิ่มอีก 500 เยนค่ะ นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางกันผีที่เรียกว่า "โอะมาโมะริ" จำหน่ายด้วย 500 เยน (บัตรค่าเข้าและเครื่องรางสามารถกดได้ที่ตู้อัตโนมัติ) แต่ไม่แนะนำให้ซื้อเครื่องรางเพราะเปลืองตังค์เปล่าๆ จะพกหรือไม่พกก็โดนผีหลอกอยู่ดี (-_-;)

จุดเด่นของที่นี่คือใช้โรงพยาบาลร้างของจริง เน้นว่าของจริง!! ทำค่ะ บรรยากาศและความหลอนเราให้สิบกระโหลกเลยเพราะทำออกมาเหมือนจริงมากๆ โดยที่นี่ไม่ใช่บ้านผีสิงกระจอกๆ แบบแป๊ปเดียวจบนะ เพราะรอบนึงใช้เวลาถึง 30 นาทีขึ้นไปแถมมีหลายชั้น ซึ่งคนที่สนใจควรรีบไปต่อแถวแต่เนิ่นๆ เพราะบ้านผีสิงที่นี่ปิดเร็วมากค่ะ ประมาณบ่าย 3-4 โมงก็ปิดแล้ว (ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องรีบปิดขนาดนี้) รอบแรกเรามาก็ไม่ทันค่ะปิดเสียก่อน

โดยผู้เล่นจะต้องเข้าไปชมวิดีโอเรื่องราวของโรงพยาบาลร้างก่อน (กลุ่มนึงสามารถเข้าพร้อมกันได้ถึง 6-7 คนเลยค่ะ) ซึ่งเรื่องราวคือหญิงสาวถูกฆาตรกรรมอย่างเหี้ยมโหดภายในโรงพยาบาลแห่งนี้ เมื่อดูจบจากนั้นคุณพยาบาลสาวจะพาไปอีกห้องหนึ่งซึ่งมีการถ่ายรูปเป็นที่ระทึกก่อนเข้าไปผจญภัย โดยมีอาวุธเพียงไฟฉายกากๆ ติดๆ ดับๆ เพียงหนึ่งอัน ซึ่งอย่าโล่งใจไปเพราะคุณจะถือไฟฉายได้เพียงครึ่งทางเท่านั้นค่ะ!! ครึ่งทางหลังคุณจะโดนยึดไฟฉายไปและต้องเดินตัวเปล่า! สำหรับใครที่ไม่ไหวสามารถยกมือขอยอมแพ้ก่อนได้ค่ะ (แต่แนะนำว่าอย่ายอมแพ้เลย เล่นให้จบเถอะเสียดายตังค์ 5555)

6. Sound Horror (血に飢えた病棟)

สำหรับเครื่องเล่นนี้จะเป็นการฟังเรื่องสยองขวัญค่ะ อารมณ์เดียวกับฟัง The Shock บ้านเรา แต่ที่นี่จะพิเศษหน่อยตรงที่ว่าพอใส่หูฟังปุ๊ป คุณจะได้ยินระบบเสียงและซาวด์เอฟเฟ็กต์ที่สมจริง ราวกับได้ยิน 360 องศาเหมือนมีคนมากระซิบอยู่ข้างหู (เห็นเค้าว่าอย่างนี้นะ) สำหรับเครื่องเล่นนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นค่ะ เพราะเนื้อเรื่องเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ไอ้เรานี่ก็งูๆ ปลาๆ ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่เราว่าไม่มีอะไรมากแค่นั่งฟังอย่างเดียว เพราะไม่ได้เข้าใจภาษาลึกซึ้งเลยไม่อินเท่าไหร่ แต่ถามว่าน่ากลัวมั้ยก็น่ากลัวระดับนึงค่ะ

ระดับความประทับใจ : ★ ★ ★ ✰ ✰

เป็นอย่างไรบ้างคะกับเครื่องเล่นต่างๆ ในสวนสนุกฟูจิคิว น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ อีกมากมายให้ได้ไปลองกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นล่องแก่ง เครื่องเล่น 4D เช่น จำลองนั่งเครื่องบินชมภูเขาไฟฟูจิ หรือสำหรับใครที่ชอบเครื่องเล่นน่ารักๆ ก็มีชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รถไฟแบบที่ต้องใช้ขาปั่นถึงจะไปข้างหน้า (ขอบอกว่าเหนื่อยมากกก...ใครอยากออกกำลังกายระหว่างรอบุตรหลาน ขอแนะนำค่ะ! ปั่นวนไปจนกว่าจะถึง) Tea Cups (เหมือนจะใสนะ แต่เวียนหัวสุดๆ) และอื่นๆ อีกมากมาย

ที่นี่ไม่ได้เหมาะสำหรับเหล่าคู่รักที่มาเดทกันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังเป็นที่ที่เหมาะสำหรับมากันเป็นแก๊งค์หรือครอบครัวอีกด้วย ใครที่พอมีเวลาหรือยังหาที่เที่ยวในญี่ปุ่นไม่ได้ ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราคิดว่าถ้ามาญี่ปุ่นแล้วควรลองแวะไปสักครั้งนะคะ...ไม่แน่ คุณผู้อ่านอาจจะติดใจจนต้องอยากกลับมาอีกครั้งก็ได้นะ (^^) 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : www.fujiq.jp

รูปภาพบรรยากาศและเครื่องเล่นถ่ายเองโดยเกด (ผู้เขียนบล็อกนี้) ห้ามนำออกไปใช้ต่อก่อนได้รับอนุญาตค่ะ

ผูัอ่านที่สนใจทัวร์ส่วนตัวเที่ยวญี่ปุ่น ขอแนะนำบริษัท ilovejapantours นะคะ เป็นบริษัทที่บริการทัวร์ส่วนตัวเที่ยวญี่ปุ่นพร้อมไกด์/รถตู้และลูกค้าสามารถเพิ่ม/ลดโปรแกรมทัวร์ตามต้องการได้ด้วยนะคะ คลิ๊กเลย http://www.ilovejapantours.com/th