こんにちは คนนิจิวะ สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ
はじめまして、私はエクです。ฮะจิเมะมะชิเตะ วะตะชิวะ "เอะคุ" เดส ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อเอกครับ
どうぞよろしくお願いします。โดโซะโยะโระชิคุ โอะเนะไงชิมัส ขอฝากตัวด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านบทความแรกของผม ผมเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งมีสอนในบทเรียนแรกๆ ของตำรา "มินนะโนะนิฮงโกะ" ^^
บางทีพวกเราอาจจะถูกถามว่า "ทำไมท่านถึงหลงรักญี่ปุ่น เจแปน นิฮง"
ทุกท่านชอบแดนอาทิตย์อุทัยด้วยเหตุผลต่างๆ นานา สำหรับผม มีหลายสาเหตุครับ ไว้จะเล่าสู่กันฟัง แต่ๆ สาเหตุหลักที่ทำให้ผมได้เป็นบล็อกเกอร์ที่นี่ 555 ก็คือ
ก่อนที่คุณจะว่าเห็นด้วยหรือไม่ เชิญชมภาพข้างล่างก่อนครับ ^^
ญี่ปุ่นมี 47 จังหวัด แต่ละจังหวัดมีความแตกต่างกัน ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อาหาร แลนด์มาร์ค ฯลฯ
ญี่ปุ่นมี 4 ฤดู ผมเคยไปเก็บภาพช่วงสงกรานต์ (ฤดูใบไม้ผลิ-ซากุระ) และปีใหม่ (ฤดูหนาว-หิมะ) ยังไม่เคยไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (ฤดูใบไม้ผลิ) คุณผู้อ่านอาจจะตัดฤดูร้อนอันเป็นฤดูประจำชาติไทยออกไปก็ได้ครับ ^^
ท่านลองคิดเลขเล่นๆ ตามผม 47 คูณ 3 เท่ากับเท่าไหร่ครับ! มองบน
ผมอยากจะสื่อว่า ในฐานะช่างภาพ ญี่ปุ่นมีมุมถ่ายรูปเยอะแยะตาแป๊ะไก่จริงๆ จะถ่ายภาพสายแลนด์ (ทิวทัศน์) ก็ได้ ฟู้ดก็ดี Potrait (ภาพบุคคล-ที่สาวๆ ชื่นชอบ) เซลฟี่อีก โอ๊ยๆ
บรรยากาศในแต่ละฤดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ท่านผู้อ่านลองนึกภาพตามผมนะครับ ฤดูใบไม้ผลิธีมสีชมพู ฤดูหนาวธีมสีขาว ฤดูใบไม้ร่วงธีมสีเหลือง สีแดง และฤดูร้อนธีมสีเขียว ^^ โดยส่วนตัว ผมชอบอากาศของ 3 ฤดูแรกที่ไม่มีในประเทศไทยครับ แม้บางท่านจะบ่นว่าหนาว แต่ผมไม่ได้ไปบ่อย ศรี เอ๊ย ผมทนได้ 555
หลังจากท่านนึกภาพตามผมแล้ว อยากจะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเลยใช่ไหมครับ ^^
ก่อนที่ผมจะผ่านการเป็นบล็อกเกอร์ของที่นี่ ประมาณ 2 ปีก่อน ผมได้ค้นพบว่า รูปถ่ายที่เราถ่ายไว้เป็นที่ระทึก เอ๊ย ระลึกของเราที่พักผ่อนอยู่ในฮาร์ดดิสค์ เราสามารถขุดมาปัดฝุ่นแล้วสามารถเอาขึ้นไปวางขายออนไลน์ได้
หลังจากผมมาเป็นบล็อกเกอร์ให้ที่นี่สมใจอยาก ตอนนี้ผมกำลังเน้นขุดภาพที่เก็บกลับมาจากการเดินทางไปญี่ปุ่นทั้ง 5 ครั้งของผม เมื่อยหลังมาก มีเพื่อนร่วมวงการคนนึงแซวผมว่า ขุดภาพได้ แต่ระวังหลังหักนะ 555555
ผมขอให้สัญญาว่า ท่านผู้อ่านจะได้เสพภาพปลากรอบที่มีคุณภาพจากบล็อกผม ถ้าเสพติดแล้วอย่าว่ากันนะครัช 555เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งเป็นผู้มีพระคุณมาก เขาต้อนรับผมเข้าสู่ธุรกิจด้วยการเซ้งกล้องมิร์เรอร์เลส (Mirrorless) และเลนส์ 2 ตัว สังกัดค่าย "หมี" ให้
เขาเล่าให้ผมฟังว่า เข้าสู่วงการสร้างภาพเพราะว่าตอนนั้นเขาได้ไปชมโรงงานเครื่องจักรแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น (แน่นอนว่าประเทศนี้ก็มีชื่อเสียงในด้านเครื่องจักร ^^) เอ็มดีบริษัทนี่ すごい ซึโก้ย จริงๆ เฮียแกป้ายยาเพื่อนผมด้วยการให้เข้าพักที่รีสอร์ทพร้อมออนเซ็นของบริษัท ซึ่งผมได้ยินมาจากเซลส์และลูกค้าท่านอื่นของบริษัทนี้ว่า รีสอร์ทแห่งนี้บริษัทซื้อไว้เพื่อรับรองลูกค้าโดยเฉพาะ
ทีนี้ จุดที่น่าสนใจมากๆ คือ มันอยู่ใกล้สาวพันปีนามว่า 富士山ฟูจิซัง เสียงสูง!!! 555
สรุปว่า เป็นแลนด์มาร์คตัวพ่อของแดนปลาดิบนั่นเองที่ทำให้เขาเกิดความสนใจในการถ่ายภาพ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สวยงามทุกซอกทุกมุม เป็นสวรรค์ของช่างภาพจีจี
ผู้อ่านบางท่านอาจจะมีคำถามว่า ผม/ฉัน/หนู มีโอกาสได้ประเทศญี่ปุ่น อยากได้ภาพสวยๆ ควรใช้กล้อง เลนส์ สัญชาติอะไรดีครับ/คะ
ผมในฐานะช่างภาพกึ่งอาชีพ คนหนึ่งขอบอกว่า มีกล้องสัญชาติเยอรมัน แต่เราๆ ท่านๆ คงต้องปล่อยผ่าน เพราะสนนราคาด้วยเลข 6 หลัก!!!
งั้น ญี่ปุ่นมีกล้องถ่ายรูปหรือไม่ มีใครจะถามคำถามนี้ไหมครับ 5555
มีสิครัช ผมคิดว่า บิ๊กโฟร์ของบริษัทกล้อง ได้แก่ นิค หนอน โอลี่ และ หมี
แหม่ กล้องของญี่ปุ่น ไปซื้อกล้องที่ญี่ปุ่น แถมไปถ่ายรูปที่ญี่ปุ่นอีก เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน อิๆเกือบ 2 ปีที่แล้วที่ผมเริ่มเปิดร้านขายภาพ ภาพส่วนใหญ่ของผมถ่ายจากญี่ปุ่นและไทย เพราะว่าหลังจากเปิดร้าน ประเทศที่ผมไปเยือนมีแค่ญี่ปุ่นจริงๆ แค่ 2 ครั้ง 2 ฤดู ^^ ผมประมาณเอาว่า งานที่ผมขายได้เป็นสัดส่วน 50:50 สลับกันออก โฆษณาแฝงตลอดเลยนะแก ฮา
จากประสบการณ์ที่ผมเดินทางไปต่างประเทศบ่อย (ในช่วงเทศกาล) ผมสนับสนุนให้ท่านผู้อ่านเดินทางไปต่างประเทศ (แต่ขอออกตัวก่อนว่า ไม่สนับสนุนเรื่องเงินครับ 555) อย่างถ้าคุณผู้อ่านเดินทางไปญี่ปุ่น ผมรับประกันว่าคุณจะได้เห็นบางสิ่งที่คุณไม่เคยเห็นในประเทศไทย ซึ่งบางสิ่งนี้อาจจะดลใจให้คุณกลายเป็นศิลปินหรือเจ้าของธุรกิจได้ครับ ผมก็เช่นกัน ผมเชื่อว่าประเทศนี้มีวัตถุดิบในการสร้างรูปถ่ายที่ดีมากๆ และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะประสบความสำเร็จในการเปิดร้านขายภาพออนไลน์ครับ ^^
ตอนที่ผมตัดสินใจรับเซ้งกล้องจากเพื่อน ก็จำได้ว่าจ่ายเงินค่าตั๋วไปกลับ BKK-KIX กับมัน เอ๊ย คุณเพื่อนแล้วนี่นา 555 ดังนั้น ญี่ปุ่นจึงเป็นทริปต่างประเทศแรกที่ผมได้ "ฉวยโอกาส" นอกจากได้เดินทางไปชาร์จแบต-ประเทศนี้ชาร์จไม่เคยเต็มสักที 5555 แล้ว ผมได้นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นมาวางโชว์ในร้านของผมด้วยครับ (ดังที่ท่านได้ชมภาพประกอบ) ^^
ก่อนจากกัน ในฐานะบล็อกเกอร์หน้าใหม่ก็ขอฝากบ้านหลังที่สองไว้ให้ผู้อ่านได้รู้จัก เผื่อจะมีใครสนใจมาเที่ยวญี่ปุ่นแบบVIP ก็สามารถเข้าไปชมที่ www.ilovejapantours.com/th ได้เลยนะครับ ที่บ้านหลังนี้เขามีบริการจัดทัวร์ส่วนตัวแล้วก็มีไกด์คนไทยพร้อมรถตู้ให้บริการเฉพาะกรุ๊ปของท่านผู้อ่านเลยล่ะครับ! แล้วพบกันใหม่ครับ!
I LOVE JAPAN GROUP CO.,LTD
Park Ploenchit
61/7 Sukhumvit 1 Road Khongtoey Nua
Wattana Bangkok, Thailand, 10110
info@ilovejapan.co.th