t ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

เตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นในฐานะคนรักการถ่ายภาพ

เตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นในฐานะคนรักการถ่ายภาพ

By , Wednesday, 21 September 2016

​สวัสดีครับ ขอเสียงช่างภาพหน่อย


ทำไมวันนี้ผมถึงมาแบบนักร้องหรือครับ เพราะผมสังเกตว่าคุณเพื่อนบล็อกเกอร์แต่ละท่านจะมี "ท่าไม้ตาย" หรือหัวข้อถนัดต่างๆ ซึ่งผมคิดว่าท่าไม้ตายของผมก็คือ "การถ่ายรูป" จึงอยากสำรวจฐานเสียงของแฟนคลับ เผื่อได้ออกคอนเสิร์ตล้านตลับบ้าง 555


เอาล่ะครับ สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ หาว่าคุณจะไปถึงจุดหมายหรือแลนด์มาร์คที่คุณต้องการได้อย่างไร โดยส่วนตัว ผมตื่นเต้นเสมอเมื่อรู้ตัวว่าจะได้เดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ท่านผู้อ่านก็รู้สึกเหมือนผมเช่นกันใช่ไหมครับ ^^


ตรวจหนังสือเดินทาง พิมพ์ตั๋วเครื่องบินและใบจองห้องในโรงแรมให้ดี บางท่านอาจจะเตรียมตัวเช่ารถ ผมยังไม่เคยเช่ารถขับในญี่ปุ่น แต่มีแผนอยู่ เมื่อผมทำแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังครับ


ขอให้ท่านผู้อ่านเช็คน้ำหนักกระเป๋าให้ดี ว่าสามารถซื้อของกลับมาได้ประมาณกี่กิโล ผมเชื่อว่าหลายท่านเคยประสบกับปัญหา "กระเป๋าออกลูก" ป้องกันไว้ดีกว่าครับ


เมื่อพูดถึงสัมภารกแล้ว ช่างภาพทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นต้องทำใจหน่อยครับ เพราะเราจะมีเป้หรือกระเป๋าสะพายแบบเมสเซนเจอร์ขึ้นมาอีก 1 ใบ เพื่อนร่วมทริปบางคนอาจจะถามเราด้วยความห่วงใยว่า "ตัวเอง ไม่หนักแย่เหรอ"

ริอ่านจะเป็นช่างภาพต้องทนได้ ส่วนช่างภาพสุภาพสตรี ผมว่าคงสามารถใช้บริการของคุณแฟนได้ 555


และในบล็อกนี้ผมจะแนะนำเพื่อนช่างภาพว่า ควรต้องทำอะไรเมื่อเดินทางไปถ่ายรูปในญี่ปุ่นครับ

กฎข้อที่ 1 พกอุปกรณ์ถ่ายภาพติดตัวตลอดเวลา

เราต้องสะพายกระเป๋ากล้อง (และเลนส์) ขึ้นเครื่อง ผมคิดว่าคงไม่มีใครโหลดกล้องใต้ท้องเครื่องแน่ๆ 


การเดินทางไปญี่ปุ่นไม่มีปัญหาครับ ในการเดินทางไปญี่ปุ่น 2 เที่ยวล่าสุดของผม ผมลากกระเป๋า 1 ใบ สะพายเป้กล้อง 1 ใบและขาตั้งขึ้นเครื่องได้ เรียกว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว ^^


ถ้าคุณทำกล้องหายระหว่างการเดินทาง คุณจะไม่สามารถถ่ายอะไรได้เลย แถมอารมณ์เสียอีก ผมชอบญี่ปุ่นเพราะมีความปลอดภัยสูง และมั่นใจในระดับหนึ่งว่าจะหาคนวิ่งราวกล้องได้ยากมากๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราอยู่ต่างบ้านต่างบ้านเมืองที่ไม่ใช้ภาษาของเรา ระวังกล้องของคุณด้วยนะครับ ใช้กระเป๋าหรือเป้ที่ไม่สะดุดตายิ่งดี!


ส่วนที่ผมบอกว่าให้คุณพกอุปกรณ์ถ่ายภาพติดตัวตลอดเวลา เพราะจากประสบการณ์ของผม จังหวะของเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น ถ้าคุณอยากถ่ายภาพนกกระเรียนแล้ว คุณมะหงุมมะงาหรามัวแต่เอากล้องออกมาและเปิดฝาเลนส์ นกมันคงไม่ยอมโพสต์ท่าที่เราต้องการให้ใหม่แน่ๆ ใช่ไหมครับ ส่วนผมน่ะ เอากล้องมาคล้องคอประมาณว่าตั้งแต่ออกจากห้องเลย ^^

นี่คือภาพแรกในฮอกไกโดของผม ผมเห็นเพื่อนร่วมทริปยกไอโฟนขึ้นมาเล็ง ผมนี่ก็หยิบกล้องขึ้นมาด้วย ตอนนั้นผมใช้กล้องรุ่น Nex 5 ครับ

2. จงเตรียมแบตเตอรี่ให้พร้อม

ผมขออนุญาตเล่าประสบการณ์งเรื่องแบตเตอรี่ เพื่อไม่ให้ท่านผู้อ่านเจอเหตุการณ์ที่เซ็งจิตอย่างผมครับ


ในงานวันรับปริญญาของผมเมื่อ 10 กว่าปีก่อน (กรุณาอย่าเดาอายุผม!) ตอนนั้นผมถือกล้องไซเบอร์ช็อท แบตก้อนเดียว เม็มก็อันเดียว แม้ว่าผมจะตั้งค่ารูปที่ 680 X 480 พิกเซล แต่ประมาณบ่าย เจ้าไซเบอร์ช็อตก็ตอกบัตรออก (หยุดทำงาน) เอาดื้อๆ! และนั่น... ทำให้ผมเสียใจและเสียดายมากที่ไม่ได้ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ หลายคนมาจนถึงบัดนี้


ท่านที่ใช้มือถือถ่ายรูป จากประสบการณ์ที่ผมเคยใช้ไอโฟน 5 ซึ่งแบตหมดเร็วเว่อร์ แนะนำให้เตรียมพาวเวอร์แบงค์หรือหัวปลั๊กกับสายชาร์จให้พร้อม คุณอาจหาปลั๊กข้างนอกได้ แต่ถ้าหาปลั๊กไม่เจอก็ต้องชาร์จกับพาวเวอร์แบงค์ครับ


สำหรับท่านที่ใช้กล้องถ่ายรูป กรุณาระวัง ถ้าคุณไม่ได้ถ่ายภาพเป็นประจำ แบตจะค่อยๆ ลดลงจนหมดครับ โดยคืนก่อนวันเดินทาง ผมจะก๊อปรูปในเม็มลงโน้ตบุ๊คและ External ฟอร์แมทอีกครั้ง เปลี่ยนแบตเตอรี่ ชาร์จแบตก้อนที่ใส่ในกล้อง


อย่างไรก็ตามการไปถ่ายรูปที่ญี่ปุ่นยังมีตัวช่วยที่เด็ดดวงอยู่ นั่นก็คือ ถ้าคุณขาดตกอะไร เช่น ถ่ายรูปเยอะจนเม็มไม่พอ คุณสามารถไปที่ "ห้างกล้อง" เช่น บิ๊กคาเมร่าและโยโดบาชิสาขาใกล้ที่พักได้ทันทีครับ (เชื่อผมเถอะ หลายประเทศไม่ได้มีห้างกล้างให้เข้าเป็นว่าเล่นยังงี้หรอก)


และอีกประการหนึ่งที่ผมทำเป็นประจำเมื่อกลับเข้าห้องพักคือ ชาร์จมือถือและแบตกล้องที่ใช้ในวันนั้น แม้ว่าผมจะมีแบตกล้องสำรองอีกก้อน และแบตก้อนนึงจะสามารถให้ภาพได้เป็นร้อยภาพ แต่จากประสบการณ์ของผม บอกได้เลยว่าถ้าอากาศหนาว แบตจะหมดเร็วกว่าปกติประมาณ 30% และเพื่อที่คุณผู้อ่านไม่ต้องเซ็งเหมือนกับที่ผมเคยเป็น ก็อยากแนะนำให้ปฏิบัติตามผมเถอะครับ!!!

นี่คือรูปของ "ห้างกล้อง" ที่ผมพูดถึง คุณผู้อ่านสามารถหาซื้อเม็มหรือแบตสำรองได้ แต่ถ้าคุณซื้อกล้องหรือเลนส์ อย่าลืมขอคืนภาษีนะครับ

​3. ทำเลของที่พัก

คุณต้องแน่ใจว่าที่พักของคุณอยู่ในจุดศูนย์กลางของทุกที่ที่คุณต้องการไป ดังนั้น กรุณาขยัน "ทำการบ้าน" ผมหมายถึง ศึกษาสถานที่ที่คุณอยากจะไปชักภาพน่ะครับ ซึ่งปัจจุบันสามารถหาข้อมูลได้สะดวกโยธิน อย่างในเว็บ Ilovejapan ก็มีบล็อกสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และเขียนโดยบล็อกเกอร์หน้าตาดีและโสด (เป็นบางท่าน) อะแฮ่ม!!!


สำหรับการคมนาคมในญี่ปุ่นก็แสนจะสะดวกมากๆ แม้ว่าคุณจะต้องเปลี่ยนโรงแรม เพราะไปเที่ยวต่างภูมิภาค ญี่ปุ่นก็ยังมีบริการส่งกระเป๋า Takkyubin โดย "แมวดำ" หรือ บริษัท ยามาโตะ อุนยู ตั้งแต่ขาไปยันขากลับ ซึ่งผมก็เคยใช้บริการส่งกระเป๋าไปที่โรงแรมหน้าสถานีเกียวโต ให้ไปถึงบ่าย 2 ของวันรุ่งขึ้น เรานั่งชินคันเซ็นไปถึงเกียวโตเกือบ 11 โมง เข้าไปเช็คอินที่โรงแรม อ้าวเฮ้ย! กระเป๋ามาก่อนตัวนี่หว่า บริการรวดเร็วและประทับใจจริงๆ ครับ


ล่าสุดผมได้ข่าวว่าบริษัท ยามาโตะ กำลังจะขยายกิจการในประเทศไทย รอดูกันต่อไป แล้วผมจะรีวิวครับ


คำแนะนำพิเศษสำหรับผู้อ่าน คือ ดูว่าในเมืองนี้ช่างภาพท่านอื่นๆ ถ่ายภาพที่ไหน หรือหนัง ละคร ไปถ่ายทำที่ไหน เพราะ...ถ้ามีอะไรที่โดนใจ เราก็สามารถตามรอยไงครับ (แต่กรุณาหาพิกัดให้เรียบร้อยด้วยล่ะ)


ผมมีตัวอย่าง ตามผมมาเลยครับ ^^

ตอนนั้น ผมยังไม่เคยไปคันไซ แต่เมื่อเห็นฉากนี้ในหนัง มันทำให้ผมสงสัยว่ามันคือที่ไหน และอยากไปถ่ายรูปเลยครับ เครดิต https://tokyofox.wordpress.com/2011/05/19/kansai-trip-2011-pt-ii-memoirs-of-a-geisha-filming-locations/
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมกับเพื่อนดูแล้วฟิน ถึงขั้นต้องซื้อหนังสือเพื่อเตรียมตามรอยถ่ายรูป รายได้ในไทย 150 ล้าน และได้ฉายทั่วอาเซียน "แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว" เครดิต http://movie.sanook.com/gallery/gallery/62181/386029/


เมื่อคุณมีจุดหมายในใจสัก 2-3 แห่งแล้ว ลองศึกษาดูว่าการเดินทางไปจุดหมายดังกล่าวจากที่พักของคุณใช้เวลานานแค่ไหน ซึ่งในที่นี้ ผมขออนุญาตแนะนำ "ตัวช่วย" คือ เว็บไซต์ Hyperdia และ Google Map จะช่วยคุณวางแผนการเดินทาง ขอเพียงคุณอย่าลืมเปิด Roaming หรือเช่า Pocket Wifi ไปครับ ^^


4. อาหาร

คุณทานากะ (นายหน้าค้าเครื่องจักรที่ผมรู้จักมักจี่) เคยบอกผมว่า ร้านอาหารใดๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านราเม็ง ยากิโทริริมทาง ทุกร้านต้องมีใบอนุญาต ดังนั้น ท่านผู้อ่านสบายใจเรื่องอาหารได้ ว่ามันจะไม่มีวันทำให้คุณต้องมัวแต่หาห้องน้ำเพื่อ "ขับถ่าย" แทนที่จะได้ "ถ่ายรูป" ทว่าหากท่านดวงตกสุดๆ จำเป็นต้องเข้าห้องน้ำ ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยเพราะห้องน้ที่ญี่ปุ่น(เกือบ)ทุกแห่งสะอาดมากถึงมากที่สุด ผมยกให้เป็นแชมป์โลกเลย เย้!


ผมเชื่อว่าหลายท่านชื่นชอบอาหารและขนมญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หารีวิวร้านที่คุณสนใจ อย่าลืมถ่ายภาพอาหารคาวหวานแล้วอัพขึ้นโลกโซเชียลนะครับ คุณจะได้ยอดไลค์กระจาย เชื่อหัวไอ้เรืองสิ!

ในวงการถ่ายภาพก็มีภาพแนวอาหาร (Food Photography) ผมคิดว่ารูปอาหารญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจในบ้านเรามากๆ จึงถ่ายควบคู่กับภาพแลนด์หรือทิวทัศน์กลับมาเสมอ เช่นตัวอย่างในรูปข้างล่างครับ 

ข้าวหน้าปลาไหลจากร้านแฟรนไชส์กึ่งฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ใบ้ให้ว่ามีสาขาที่ประเทศไทยด้วยครับ
"คะนิ" แปลว่า "ปู" ผมได้ภาพนี้มาเนื่องจากผู้ใหญ่ในทริปต้องการไปตลาดเช้าในซัปโปโร ที่นี่คือ "ตลาดนิโจ" นะครับ
ว่ากันว่าซูชิขั้นเทพอยู่ที่เมืองโอตารุ และถ้าผมมีโมเมนต์แบบนี้บ้างก็คงจะไม่อยากตื่นเลยทีเดียวครับ ^^ เครดิต http://www.daradaily.com/news/55597/read/?fb_comment_id=1353327424697438_1361298560566991#f30819ea54cf554

5. อย่าลืมเช็คสภาพดินฟ้าอากาศ

ญี่ปุ่นมีฤดูร้อนแค่ 3 เดือนเท่านั้น ฤดูใบไม้ร่วงกับไม้ผลิอากาศเย็น เรียกได้ว่าเป็นประเทศ "หนาว 9 เดือน" สำหรับคนไทย ดังนั้น เลือกเสื้อผ้าที่คุณใส่แล้วสบายและปลอดภัย เช่น เสื้อแขนยาว รองเท้าบูท หรือรองเท้าปีนเขา ครับ และก็ไม่ควรลืมเตรียมยาสามัญประจำบ้าน เช่น พลาสเตอร์ และอื่นๆ ไปด้วย เพราะผมคิดว่ายาที่ญี่ปุ่นแตกต่างจากบ้านเรา และที่แน่ๆ มีแต่ภาษาญี่ปุ่นเต็มไปหมด!


6. ปกป้องตัวคุณและอุปกรณ์ของคุณ

ช่วงที่ร่างบล็อกนี้ มีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งกำลังจะเดินทางไปญี่ปุ่นถามผมว่า "ควรทำประกันการเดินทางไหม" ปรากฏว่าสุดท้ายก็ไม่ได้ทำ แล้วพอกลับไทยแล้วพี่สาวเขามาเล่าให้ผมฟังว่า เพื่อนหัวแตกที่ญี่ปุ่น... หมดค่ารักษาไปประมาณ 30,000 บาท ดังนั้น ตัวผมจึงคิดว่าถ้าเป็นไปได้ ทำประกันการเดินทาง เถอะครับ เผื่อคุณประสบอุบัติเหตุความจำเสื่อม 1 วันแบบ "คุณนุ้ย" จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าหมอที่สูง แค่เซ็นชื่อก็ออกจากโรงพยาบาลได้ ^^

เอาล่ะครับ กว่าบล็อกนี้จะถูกเผยแพร่ก็ประมาณช่วงปลายฝนต้นหนาว ผมคิดว่าตอนต่อไปจะตามรอยหนังดังทั้ง 2 เรื่องที่ผมยกตัวอย่างด้วยภาพ เนื่องจากผมไปเที่ยวมาในช่วงฤดูหนาวทั้งคู่ แต่ผู้อ่านบางท่านคงจะเดาได้แล้วล่ะผมจะตามรอยหนังเรื่องไหนก่อน อิๆ


รักษาสุขภาพนะครับ พบกันใหม่ในบล็อกต่อไป สวัสดีครับ


ขอขอบคุณ

https://tokyofox.wordpress.com/2011/05/19/kansai-trip-2011-pt-ii-memoirs-of-a-geisha-filming-locations/

http://movie.sanook.com/gallery/gallery/62181/386029/

http://www.daradaily.com/news/55597/read/?fb_comment_id=1353327424697438_1361298560566991#f30819ea54cf554

บทความล่าสุด