ปฏิเสธไม่ได้เลยใช่มั้ยคะว่าเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นคือ "การแช่ออนเซน" หรือ "บ่อน้ำร้อน" ยิ่งช่วงฤดูหนาวได้แช่ออนเซนท่ามกลางหิมะ ช่วงฤดูใบไม้ผลิได้ชมดอกซากุระหรือช่วงใบไม้ร่วงก็ได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบนี้ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหน ออนเซนก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ขาดไม่ได้ และแน่นอนว่าก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำคัญสำหรับชาวต่างชาติว่าหากได้ไปเยือนญี่ปุ่นแล้ว ต้องลองแช่ออนเซนสักครั้งในชีวิต และในวันนี้เราจะมาแนะนำออนเซนที่น่าสนใจในประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ มีที่ไหนบ้างเราไปดูกันเลยดีกว่า
1. ยูฟุอินออนเซน (Yufuin Onsen) และเบปปุออนเซน (Beppu Onsen)
เราไปเริ่มกันที่ทางภาคใต้ของญี่ปุ่นกันก่อนเลยดีกว่าค่ะกับภูมิภาคคิวชู "ยูฟุอินออนเซน" นั้นตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขายูฟุดาเกะ (Mount Yufudake) ในจังหวัดโออิตะ เท่านั้นยังไม่พอค่ะ นอกจากยูฟุอินออนเซนแล้วก็ยังมีแหล่งออนเซนอีกแห่งที่มีชื่อเสียงในจังหวัดโออิตะไม่แพ้กันก็คือ "เบปปุออนเซน" เพื่อนๆ รู้มั้ยคะว่าโออิตะนั้นเป็นเมืองได้ชื่อว่าเป็น "เมืองออนเซนแห่งภูมิภาคคิวชู" ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยนะคะ เนื่องจากตัวเมืองมีแหล่งออนเซนที่คุณสามารถเดินเที่ยวชมได้มากถึง 8 บ่อกันเลยทีเดียว (แต่ 8 บ่อที่ว่านี้ลงแช่ไม่ได้นะคะ ได้เฉพาะลวกไข่หรือลองดื่มเท่านั้น) ใครที่แวะเวียนมารับรองจะต้องถูกใจอย่างแน่นอนเลยค่ะ
การเดินทาง
- ไปยูฟุอินออนเซน : นั่งรถไฟ JR ไปลงที่ Yufuin Station
- ไปเบปปุออนเซน : นั่งรถไฟ JR ไปลงที่ Beppu Staion และต่อรถบัสท้องถิ่น
2. คุซัตสึออนเซน (Kusatsu Onsen)
คุซัตสึออนเซนเป็นเมืองออนเซนเล็กๆ ที่เราไปมาแล้วประทับใจมากค่ะ ด้วยบรรยากาศเมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับการมาเที่ยวไม่ว่าจะกับครอบครัว คนรักหรือเพื่อนฝูง คุซัตสึออนเซนนั้นตั้งอยู่ในจังหวัดกุนมะ นับว่าเป็นแหล่งออนเซนคุณภาพชั้นยอดที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น นอกจากที่พักสไตล์เรียวกังแล้วยังมีทั้งแนวบ้านพักตากอากาศ (Pension) หรือโรงแรมทั่วไปให้ได้เลือกสรรอีกเพียบ ยิ่งตกกลางคืนจะยิ่งโรแมนติกมากๆ เลยค่ะ เพราะจะมีนักท่องเที่ยวใส่ยูกาตะออกมาเดินเที่ยวชมแสงสีไฟประดับในยามค่ำคืนแถวยูบาทาเกะ(Yubatake) ซึ่งเป็นเขตน้ำพุร้อนที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ใจกลางเมืองแห่งนี้ก็ว่าได้
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปลงที่ Kustsu Onsen Station แล้วต่อรถบัสท้องถิ่น
3. ทาคารากาวะออนเซน (Takaragawa Onsen)
เราจะยังอยู่กันที่จังหวัดกุนมะนะคะ สำหรับทาคารากาวะออนเซนนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยหลายคนค่อนข้างรู้จักกันดีอยู่แล้ว โดยออนเซนที่ว่าอยู่ในย่านเรียวกังออนเซนคาคุ (Osenkaku) เป็นออนเซนแบบกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีลักษณะแบบเปิดโล่งติดริมแม่น้ำ ฤดูกาลที่แนะนำมากที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึงฤดูหนาวค่ะ ขึ้นอยู่ว่าคุณอยากจะแช่น้ำท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีหรือท่ามกลางหิมะ ปัจจุบันเป็นออนเซนที่เป็นที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ใครที่อยากลองแวะไปดูต้องรีบจองที่พักล่วงหน้ากันด่วนเลยนะคะ
การเดินทาง : นั่งชิงคันเซ็น Joetsu Shinkansen ลงที่ Jomokogen Station แล้วต่อรถบัสหรือแท็กซี่/เช่ารถก็ได้ค่ะ
4. กินซังออนเซน (Ginzan Onsen)
กินซังออนเซนนั้นเป็นอีกหนึ่งออนเซนที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยสุดๆ ไปเลยค่ะ ด้วยพลังโซเชียลมีเดียของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลาย โดยกินซังออนเซนเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่เงียบสงบในภูเขาจังหวัดยามากาตะ ทิวทัศน์ทั้งสองขนาบข้างด้วยเรียวกังซึ่งถ้าหากเป็นช่วงเวลากลางคืนจะเป็นมุมที่เหมาะกับการถ่ายรูปสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Yamagata Shinkansen ลงที่ Oishida Station จากนั้นนั่งรถบัสประจำทางสาย Ginzan Hanagasa
5. โนโบริเบทสึออนเซน (Noboribetsu Onsen)
เราไปขึ้นเหนือกันบ้างดีกว่าค่ะกับ "โนโบริเบทสึออนเซน" ที่นี่เป็นย่านบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของฮอกไกโดเลยค่ะ ที่นี่ตั้งอยู่ที่ทางใต้ของเกาะฮอกไกโด มีแหล่งออนเซนมากถึง 11 ชนิดด้วยกัน แถมยังได้รับการยอมรับว่าเป็นน้ำพุร้อนที่ดีและมีประสิทธิดีเยี่ยมมากที่สุดของญี่ปุ่นด้วยนะคะ ใครที่อยากชมวิวปุยหิมะอันขาวโพลนพร้อมกับแช่ออนเซนร้อนๆ สรุปคือที่นี่เป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาดเลย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟ JR Sapporo Station ไปลงที่ JR Noboribetsu Station จากนั้นต่อรถบัสท้องถิ่น
6. ฮาโกเน่ออนเซน (Hakone Onsen)
งานนี้เราจะมองข้ามแหล่งออนเซนที่ฮอตที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวคนไทยได้ยังไงใช่มั้ยล่ะ ฮาโกเน่ออนเซนตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดคานากาว่าและจังหวัดชิสึโอกะสามารถเดินทางได้ง่ายจากโตเกียวโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นค่ะ จุดเด่นของฮาโกเน่ออนเซนเลยคือคุณสามารถชมความงามของภูเขาไฟฟูจิพร้อมกับแช่ออนเซนได้ ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเพียบที่ไม่ใช่แค่ออนเซนหรือภูเขาไฟฟูจินะคะ ใครที่มีเวลาไม่มากแต่อยากลองไปเที่ยวออนเซนดีๆก็ขอแนะนำฮาโกเน่เลยค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถบัสจาก Odawara Station หรือรถไฟ JR Line/Odakyu Line ประมาณ 20 นาที
7. นิวโตะออนเซน (Nyuto Onsen)
ใครอยากลองมีประสบการณ์อาบน้ำแร่แช่น้ำนมต้องมาที่นี่เลยค่ะกับ "นิวโตะออนเซน" โดยออนเซนแห่งนี้อยู่บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai ในภูเขาฝั่งทิศตะวันออกของจังหวัดอากิตะ จุดเด่นของน้ำพุร้อนที่นี่เลยคือมีสีค่อนข้างขุ่นคล้ายน้ำนม ที่สำคัญยังมีฤทธิ์กรดอ่อนๆ ซึ่งช่วยบำรุงให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น เนื่องด้วยตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ คุณจึงสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบ Tazawako ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดของประเทศญี่ปุ่นด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟชินคันเซนมาลงที่สถานี Tazawako แล้วนั่งรถบัสท้องถิ่น
นี่เป็นเพียงบางส่วนของออนเซนในญี่ปุ่นที่เรานำมาแนะนำเท่านั้นค่ะ ที่ญี่ปุ่นยังมีแหล่งออนเซนอีกมากมายที่น่าสนใจ การแช่ออนเซนนั้นนอกจากจะช่วยบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจของคุณผ่อนคลายอีกด้วย หากใครได้ไปเยือนญี่ปุ่นต้องไปลองให้ได้เลยนะคะ ไปญี่ปุ่นแล้วไม่แช่ออนเซนถือว่าไปไม่ถึงนะ!
หากใครมีคำถามข้อสงสัย หรืออยากอ่านบล็อกเก่า ๆ ที่เราเคยเขียน สามารถแวะเข้าไปดูได้ที่เพจของเรา ไว้เจอกันใหม่บล็อกหน้าค่า ~
PAGE : https://www.facebook.com/rumraisinblogger/
- https://thegate12.com/spot/1034
- https://www.welcomekyushu.com/gallery/?mode=detail&id=5668
- https://no1japantravel.com/en/index.php?route=product/product&product_id=183
- https://www.visitgunma.jp/en/sp/sightseeing/detail.php?sightseeing_id=8
- https://travelswithnano.com/2018/02/19/takaragawa-onsen-gunma-japan-trip/
- https://blogs.adobe.com/creative/stock-content-call-welcoming-autumn/noboribetsu-onsen-in-autumn-hokkaido-japan-2/
- https://www.tripadvisor.jp/Hotel_Review-g298171-d12965114-Reviews-Hakone_Airu-Hakone_machi_Ashigarashimo_gun_Kanagawa_Prefecture_Kanto.html
- https://www.hacarangoods.com/index.php?main_page=product_info&products_id=324656
ติดตามรับข่าวสารเกี่ยวกับญี่ปุ่น
YouTube: www.youtube.com/ilovejapanth/
Facebook: www.facebook.com/ILoveJapan.th/
Twitter: https://twitter.com/ILOVEJAPANTH
Instagram: www.instagram.com/ilovejapanth/
TikTok: https://www.tiktok.com/@ilovejapanth
ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี 3 วันได้ที่ www.ilovejapanschool.com