t ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

4 สิ่งห้ามลืมเมื่อไปชมดอกไม้ไฟ!!! -การแต่งกาย

4 สิ่งห้ามลืมเมื่อไปชมดอกไม้ไฟ!!! -การแต่งกาย

By , Sunday, 31 July 2016

​     กลับมาแล้วค่าาาาา หลังจากหายไปกบดานเตรียมสอบมาราธอนมา 1 สัปดาห์เต็มๆ สัปดาห์นี้มี่ก็ได้ทำคลอดบล็อกน้องเล็กของครอบครัวดอกไม้ไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่าา

     สำหรับบล็อกนี้มี่จะพาทุกคนมาดูกันค่ะว่าหากเราต้องการจะไปชมดอกไม้ไฟแบบชาวญี่ปุ่นแท้ๆนั้น ต้องห้ามลืมอะไรบ้าง  ซึ่งในสิ่งเหล่านี้ถ้าลืมแม้แต่อย่างเดียวก็อาจจะทำให้การไปชมดอกไม้ไฟที่สุดแสนจะโรแมนติกของหลายๆคนนั้น ไม่สมบูรณ์ซะทีเดียวเลยล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นกับผองเพื่อนคนรักเจเเปนแบบพวกเรานั้น มี่ก็ได้ทำการรวบรวมมาให้เป็นที่เรียบร้อยเเล้วล่ะค่ะ มาดูกันเลยดีกว่านะคะว่าจะมีอะไรบ้าง

​   อันแรกสุดเลยก็คือออออ การแต่งกายค่ะ

จะไปดูดอกไม้ไฟที่ญี่ปุ่นสักที เสื้อผ้าหน้าผมก็ควรจะแต่งให้เลิศ ให้กลมกลืน สมกับการเป็นหนุ่มสาวแดนปลาดิบกันหน่อยนะคะ โดยมาเริ่มจากชุดกันเลยดีกว่าค่ะ

    สำหรับผู้หญิงนั้นจะนิยมใส่ชุดยูกาตะ (Yukata) กันค่ะ  คำว่า yukata นั้น มาจากคำว่า "yu" ที่แปลว่าการอาบน้ำ และคำว่า "katabira" ซึ่งแปลว่าเสื้อผ้าที่ใส่ไว้ข้างใน โดยจะมีลักษณะเป็นผ้าเนื้อบางเบา และนิยมใส่ชั้นเดียว โดยเมื่อดูจากภาษาอังกฤษที่เรียกชุดยูกาตะว่า japanese summer kimono ก็จะสามารถพูดได้ว่าชุดยูกาตะนั้นถือเป็นชุดประจำฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ ชุดยูกาตะนี้มีมาหลายพันปีแล้วล่ะค่ะ โดยเริ่มจากกษัตริย์และขุนนางชั้นสูงของญี่ปุ่นที่นิยมใส่ชุดที่มีลักษณะคล้ายเสื้อคลุมอาบน้ำหลวมๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ไม่นานนักเมื่อการอาบน้ำในที่สาธารณะเริ่มเป็นที่นิยม ชุดแบบนี้ก็ถูกนำมาใส่กันอย่างแพร่หลายและด้วยเนื้อผ้าที่บางสบายจึงถูกนำมาดัดแปลงให้มีสีสันและลวดลายที่สวยงามเพื่อนำมาสวมใส่ในฤดูร้อนนี่แหละค่ะ 

​   จริงๆแล้วชุดยูกาตะเนี่ยสามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายนะคะ ตามธรรมเนียมเดิมนั้นชุดยูกาตะจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม หรือว่าสีกรมท่า แต่ในปัจจุบันที่มีการออกแบบให้มีสีสันและลวดลายที่สวยงามมากขึ้น ชุดยูกาตะจะใช้คู่กับอุปกรณ์ต่าง ๆเช่น สายคาดเอว (obi) , เชือกรัดเอว (koshi-himo) , ถุงเท้าแบบญี่ปุ่น (tabi) และรองเท้าไม้แบบญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าเกี๊ยะ (geta) นั่นเองค่ะ 

​    เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมรวบผมขึ้นเก็บให้เรียบร้อยด้วยนะคะ เพราะสำหรับญี่ปุ่นแล้วถ้าใครที่ใส่ชุดยูกาตะ แต่งหน้าแต่งตาสวยๆ แต่ดันมีผมยาวรุงรังปิดหน้าปิดตานั้น ก็คงจะให้อิมเมจแบบผีญี่ปุ่นแน่นอนเลยล่ะค่ะ 

    และสำหรับใครที่คิดว่าการสวมใส่ยูกาตะนั้นเป็นเรื่องยาก จึงไม่กล้าที่จะลองแปลงโฉมตัวเองดูนั้น ขอบอกว่าลืมความคิดนั้นไปได้เลยล่ะค่ะ เพราะวันนี้มี่ก็มีวิดีโอสั้นๆที่จะทำให้ทุกคนสามารถสวมใส่ยูกาตะได้อย่างเป็นธรรมชาติมาให้ชมกันค่ะ

​https://www.youtube.com/watch?v=d-I_tIBEkjM

​     ถัดจากเสื้อผ้าลงมาก็คงจะเป็นรองเท้านี่แหละค่ะ ที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่พลาดไม่ได้เลยนะคะ ลองนึกภาพว่าเราอุตส่าห์แต่งหน้าทำผมซะหรูเลิศ บวกกับสวมชุดยูกาตะที่สุดแสนจะน่ารักแล้ว แต่ดันใส่รองเท้าแตะหูคีบ หรือรองเท้าพละดูสิคะ คงจะเป็นภาพที่ไม่น่ามองเป็นแน่เลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นก็ควรจะสวมใส่รองเท้าไม้แบบญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันอย่างคุ้นปากว่า เกี๊ยะ นั่นเองค่ะ

​  เกี๊ยะ หรือ เกะตะ เนี่ยจะทำมาจากไม้ที่เจาะรู และจะใช้ผ้าฝ้าย ผ้าไหม หรือหนัง ผูกเป็นเงื่อนให้สวมเท้าเข้าไปได้ เป็นแบบคีบ การใส่เกะตะแบบไม่ใส่ถุงเท้าแบบนี้ จะใช้กับงานที่ไม่เป็นทางการเท่านั้น ถ้าใส่ในงานที่เป็นทางการจะต้องใส่กับถุงเท้าแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า ทะบิ (Tabi)  

​ส่วนประกอบของรองเท้าเกะตะนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนด้วยกัน
1.แผ่นเนื้อไม้ที่วางเท้า เรียกว่า "Dai" (台) มีหลายขนาดให้เลือกทั้งสีสันและรูปแบบ ทั้งทรงสี่เหลี่ยม ทรงวงรี ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ได้มีการออกแบบให้มีความเก๋ไก๋มากขึ้นอีกนะคะ

​2.ผ้า หรือ เชือกที่ใช้ผูกเป็นเงื่อน ร้อยเข้ากับตรงกลางของแผ่นไม้ (Dai) เรียกว่า "Hanao" (鼻緒) วัสดุที่จะนำมาผูกนั้นมีให้เลือหลากหลายเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย ผ้าไหม แผ่นหนังนุ่มๆ หรือแม้แต่การนำเอาลำต้นของพืชพื้นบ้านมาตากแห้งและมามัดแทนผ้า ซึ่งแบบหลังสุดเนี่ย จะเป็นแบบที่ชาวบ้านในสมัยก่อนนิยมทำหันเนื่องจากมีราคาถูก สามารถทำได้เอง และก็ยังแข็งแรงทนทานอีกด้วยค่ะ สำหรับในปัจจุบันนี้นะคะ ก็จะนิยมใช้ผ้าไหม หรือผ้าฝ้ายที่พิมลวดลายแบบญี่ปุ่นแทนค่ะ

​3.พื้นไม้ที่อยู่ใต้รองเท้า นั้นเรียกว่า "Ha" (歯) มีหลายแบบและหลายระดับความสูงเช่นกันค่ะ โดยจะแตกต่างกันไปตามผู้ใช้ เช่น ถ้าเป็นเกอิชาก็จะเลือกใช้เกะตะที่สูง เพื่อป้องกันไม่ให้กิโมโนลากพื้นสกปรก เวลาเดินก็จะได้สามารถเดินได้อย่างสง่างาม และมีเสียงเดินเป็นจังหวะ หรือ เกะตะขาเดียวเรียกว่า เทนงูเกะตะ ซึ่งมีขาเดียวและสูง จะเป็นเกะตะที่สูงส่ง แสดงถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพเจ้าแห่งขุนเขา ผู้มีนามว่า เทนงู ค่ะ

​   เป็นไงกันบ้างคะสำหรับการแต่งกาย ให้เป็นชาวญี่ปุ่น ไม่อยากอย่างที่คิดใช่ไหมละคะ เอ๋? คนญี่ปุ่นเค้าเอาของไว้ที่ไหนนะ ชุดยูกะตะจะมีกระเป๋าข้างแบบกระโปรงนักเรียนหรอ? หรือว่าจะใช้เหน็บกับสายเอบิกันแน่นะ? แล้วของชิ้นใหญ่ๆล่ะจะทำยังไง? เหน็บมากๆจะไม่ดูอ้วนหรอ? สิ่งต้องห้ามอย่างถัดไปจะเป็นอะไรนั้นต้องตามดูค่ะ รับรองว่ามีเรื่องให้แปลกใจอีกเยอะเลยล่ะค่ะ 

​.............................................

ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก

1.http://travel.rakuten.co.th/campaign/ranking/yukata/

2.https://www.facebook.com/wajapan.th/posts/1027777437306477:0

3.https://sites.google.com/site/blldraw/prawati-chud-yu-ka-ta

4.http://japantourlist.com/th/yukata-summer-trend-2015

5.http://www.marumura.com/culture/?id=2883

สนใจทัวร์ส่วนตัวเที่ยวประเทศญี่ปุ่น หรืออยากไปลองใส่ยูกาตะพร้อมเที่ยวในญี่ปุ่นก็เข้าไปชมที่ www.ilovejapantours.com/th กันได้นะคะ

บทความล่าสุด