t ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

4สิ่งห้ามพลาดเมื่อไปชมดอกไม้ไฟ!!!-รางวัลสุดพิเศษ

4สิ่งห้ามพลาดเมื่อไปชมดอกไม้ไฟ!!!-รางวัลสุดพิเศษ

By , Sunday, 14 August 2016

           "งานเทศกาลคงมิอาจเป็นงานเทศกาลได้หากขาดสิ่งเหล่านี้"

     ข้อความนี้มี่ได้ไปเจอมาจาก Facebook ของเพื่อนที่ไปเเลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากเม้าท์มอยกันเป็นที่เรียบร้อยก็ถึงเวลาหาข้อมูลค่ะ อิอิ เพื่อนคนนี้เขาบอกว่างานเทศกาลของญี่ปุ่น 99.99% จะต้องมีสิ่งนี้ สิ่งสุดท้ายที่ลืมไม่ได้เมื่อไปงานเทศกาลที่ญี่ปุ่น ใครก็ตามที่ไปแล้วไม่ได้ทำ หรือเผลอละเลยไป จะถือว่าไปไม่ถึงงานกันเลยทีเดียวล่ะค่ะ                                                                                                                                                                                                                           

      สืบเนื่องจากบล็อกที่แล้วๆมา มี่ได้เขียนในเรื่องของการแต่งกายแบบชาวญี่ปุ่นแท้ๆเพื่อไปเดินชมงานเทศกาลอย่างถึงพริกถึงขิง http://www.ilovejapan.co.th/travel/entry/unforgettable-things-1 ตามด้วยเรื่องราวที่กล่าวถึงอุปกรณ์เสริมหน้าตาบ้านๆที่จะทำให้การไปเดินทอดน่องในงานเทศกาลแห่งนี้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้นค่ะ http://www.ilovejapan.co.th/travel/entry/unforgettable-things2   สำหรับคราวนี้มี่จะขอนำเสนอถึงสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ให้ชมกันค่ะ                                                                                                                                                                                                                     หลังจากลำบากตรากตรำดั้นด้นเดินทางมาจนถึงงานเทศกาลแล้ว สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็จะได้รับของรางวัลสุดพิเศษเช่นเดียวกันกับเหล่าวีรบุรุษในตำนาน ที่จะได้รับรางวัลจากการเดินทางอันแสนยาวไกล และเต็มไปด้วยอุปสรรคนานาชนิด                                   

      นั่นก็คือ...ร้านแผงลอย...ค่ะ!! และสิ่งนี้เราสามารถพบเจอได้ในงานเทศกาลทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นเลยค่าา  อาหารเลิศรส ดอกไม้ไฟ กีฬาและนันทนาการ ได้อยู่ในสถานที่ที่มีอาหารมากเกินกว่าจะกินหมด  ที่ที่เต็มไปด้วยความรื่นเริง จุดกำเนิดของสิ่งสุดท้ายของเราค่าา หลังจากเกริ่นมายาวก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะคะ สิ่งที่มี่อยากให้ทุกคนได้ทำเมื่อมีโอกาสไปถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็คือการไปเดินชมงานเทศกาลค่ะ ไม่ใช่เเค่ดูเฉยๆนะคะ แต่อยากให้ได้เพลิดเพลินไปกับอาหารอันโอชะและของเล่นแปลกๆอีกมากมาย รับรองว่างานนี้เดินกันเพลินแน่ๆค่ะ ว่าแล้วก็มาทำความรู้จักกับคิงและควีนของงานกันเลยดีกว่าค่ะ                                                                                                                                                                  

          รูปภาพที่เห็นอยู่ด้านบนนี้นะคะ ถือว่าเป็นคิงของงานเลย เรามักจะเรียกมันว่า "ลูกโป่งโยโย่" ค่ะ ลูกโป่งโยโย่นี้นะคะก็ไม่ได้ต่างจากลูกโป่งบ้านเราที่เด็กๆมักจะเอามาใส่น้ำเล่นเป็นลูกบอลเลยค่ะ เพราะลูกโป่งโยโย่ก็คือลูกโป่งสีสันสดใสที่ใส่น้ำเข้าไปเล็กน้อยแล้วเอามาลอยในอ่างน้ำ เพื่อให้เด็กๆได้ทดลองฝึกสมาธิในการตกลูกโป่งด้วยด้ายและตะขอที่ทำจากคลิปหนีบกระดาษค่ะ สำหรับใครที่ตกได้ก็จะได้ลูกโป่งสวยๆกลับไปเล่นที่บ้านเลยล่ะค่ะ เกมนี้ก็เป็นอีกเกมนะคะ ที่เวลาเดินผ่านเนี่ยจะเห็นมีผู้ใหญ่ยืนอยู่เต็มหน้าร้านเลยค่ะ บางคนก็ยืนสอนเด็กๆ บางคนก็ยืนรอ (เพราะเป็นเกมที่ค่อนข้างใช้เวลา) หรือแม้แต่เล่นเองก็มีนะคะ

         เมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่าถ้ามางานวัดที่ไทยจะต้องมาช้อนปลา แต่ถ้าเป็นตอนนี้คงต้องยอมรับแล้วละค่ะ ว่าไม่ใช่แค่คนไทยที่ชอบเกมกีฬาการช้อนปลาทองนะคะ เพราะเกมนี้ก็เป็นเกมที่ญี่ปุ่นชื่นชอบเช่นเดียวกันค่ะ กติกาก็เหมือนกันเลยนะคะนั่นก็คือ ผู้เล่นต้องพยายามจับปลาตัวเป็นๆขึ้นมาจากน้ำ โดยใช้ไม้ช้อนซึ่งทำจากกระดาษบางๆ ผู้เล่นจะสามารถช้อนปลาได้เรื่อยๆแบบไม่จำกัดเวลาจนกว่ากระดาษจะขาดหมดและไม่สามารถช้อนปลาได้อีก เกมนี้เป็นที่น่าสนใจเช่นเดียวกันกับลูกโป่งโยโย่ แต่จะมีผู้ใหญ่ลงมาร่วมเล่นมากกว่า เพราะนอกจากจะต้องใช้สมาธิสูงแล้วยังต้องใช้ทักษะเฉพาะที่ต้องผ่านการฝึกฝนอีกด้วย สำหรับเกมนี้สามารถแบ่งตอนจบได้เป็น 2 ทางค่ะ คือจะนับปลาที่จับแล้วกลับไป หรือว่าจะนำไปเเลกของรางวัลอื่นๆ โดยนำปลาที่ได้ไปให้เจ้าของร้านนับ จากนั้นเขาก็จะนำของมาให้โดยของจะแตกต่างกันตามจำนวนปลาที่เราจับได้ค่ะ พูดง่ายๆก็คือ ถ้าจับปลาได้เยอะ ก็จะได้รางวัลใหญ่นั่นเองค่ะ

          ต่อจากคิงก็ถึงเวลามาทำความรู้จักกับควีนของงานนี้แล้วค่ะ ซึ่งเขาก็คืออาหารนานาชนิด นั่นเองค่ะ

           ภาพนี้นะคะเป็นสิ่งที่เรียกว่าควีนของงานเทศกาลเลยละค่ะ เป็นลูกอมผลไม้ที่มีลักษณะเป็นผลไม้ชนิดต่างๆ นำมาเคลือบน้ำตาล แล้วอาจจะแช่เย็นในบางร้าน ซึ่งเมื่อกินเข้าไปแล้วจะให้รสชาติที่หอมหวาน เรียกได้ว่า รวมรสชาติของฤดูร้อนมาไว้ที่นี่เลยก็ว่าได้ค่ะ ลูกอมผลไม้นี้นะคะมีที่มาจากขนมพื้นๆอย่างแอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาล ที่เป็นขนมดั้งเดิม เรียกได้ว่าในงานเทศกาลทุกงานจะต้องมีเจ้าสิ่งนี้ค่ะ แอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาลจะมีราคาอยู่ที่ประมาณลูกละ 200-400 เยนขึ้นอยู่กับชนิดของแอปเปิ้ล ขนาดของแอปเปิ้ล ขนาดของงานเทศกาล และตำแหน่งที่ตั้งของร้านค่ะ และถ้าหากว่าเป็นแอปเปิ้ลที่เพิ่ม chocolate หรือว่า topping อื่นๆด้วยแล้ว ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นค่ะ

         ของหวานผ่านไป ของคาวก็มาค่ะ อาหารคาวที่จะขาดไม่ได้เลยในงานเทศกาลของญี่ปุ่นนั้นก็คือ ยากิโซบะ(Yakisoba) พิซซ่าญี่ปุ่น(okonomiyaki) และทาโกะยะกิ(takoyaki) ค่ะ เมนูอาหารเหล่านี้ก็ล้วนแต่เป็นเมนูที่พบเห็นได้ทั่วไปในบ้านเรานะคะ แต่มี่จะพามาดูในมุมที่แตกต่างค่ะ เพราะสิ่งที่มี่จะนำเสนอนั้นไม่ใช่อาหารหรูๆ จานเล็กๆน่ารักๆ แบบที่เรามักได้เห็นเวลาไปกินอาหารตามร้านอาหารญี่ปุ่น แต่จะเป็นแบบเยอะจุใจเหมือนงานวัดบ้านเราค่ะ

    และนี่ก็คือออออ ยากิโซบะค่ะ เป็นไงบ้างคะ ตกใจกันไหมคะ ถึงแม้อิมเมจจะค่อนข้างแตกต่างจากยากิโซะบะสุดหรูในหัวเรานั้น แต่นี่คือความเป็นจริงค่ะ ร้านยากิโซบะที่ญี่ปุ่นนี่ให้อารมณ์เหมือนร้านผัดไทหอยทอดตามงานวัดแถวบ้านเลยค่ะ 

         ร้านทาโกะยากิที่สุดแสนจะอลังการรรร ดูปริมาณวัตถุดิบซะก่อน ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าขายดีขนาดไหน สำหรับขนมที่ไม่รู้จะบอกว่าเป็นคาวหรือของหวานดี ดูเผินๆอาจจะเหมือนขนมนะแต่จริงๆแล้วสามารถกินแทนข้าวได้เลย เพราะมีทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ ครบ 5 หมู่เลยจ้าา แถมยังอิ่มท้องสุดๆไปเลยด้วย

           
    ภาพที่เห็นนี้ไม่ใช่ร้านขายผักขายไข่นะคะ เป็นร้านขายพิซซ่าญี่ปุ่นจ้าาา เห็นแค่ภาพก็น่าจะเดาได้แล้วว่าพิซซ่าญี่ปุ่นเป็นอาหารยอดนิยมขนาดไหน ทำกับขนาดที่ว่าผักหมดสวน ไข่หมดฟาร์มกันเลยทีเดียววว
     เป็นไงกันบ้างคะ กับสิ่งที่ห้ามพลาดอย่างสุดท้าย พลาดไม่ได้จริงใช่ไหมล่ะ ในงานเทศกาลจริงๆไม่ได้มีแค่นี่นะคะ ที่มี่นำมาให้ดูนั้นเป็นแค่เศษเสี้ยวเล็กๆของงานเทศกาลที่สุดแสนจะอลังการนี้เท่านั้นนะ สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวงานเทศกาลแบบนี้ก็อย่างลืมไปลิ้มลองดูนะคะ รับรองว่ามีเรื่องให้ต้องแปลกใจอีกเยอะแน่ๆค่ะ

​...................................................................

ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆ และข้อมูลดีดีจาก

1.http://travel.fanthai.com/?p=3878

2.http://www.dannychoo.com/en/post/27226/Japan+Matsuri.html

3.http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tao-yiipun&month=16-01-2007&group=2&gblog=2

4.http://www.japan-tour.jp/th

5.http://tourist-note.com/kr/sightseeing/20150419123314/

6.http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/08/E6906934/E6906934.html

7.http://toeinoi.blogspot.com/2013/02/blog-post_9.html

8.http://ilovemagichp.blogspot.com/2014/11/7-arashiyama.html

9.http://www.scratchdaworld.com/?p=389

บทความล่าสุด